ณ บริษัทเทพสุริยะกรุ๊ป
“ท่านรองคะ ท่านรอง ” วารีเอ่ยเรียกเจ้านายหนุ่มออกไป เมื่อเห็นว่าเจ้านายหนุ่มกำลังเดินเข้าห้องทำงานไป
“มีอะไรหรือครับ คุณวารี” รอมหยุดเดินแล้วหันกลับมาถามเลขาสาวทันที
“คือวันนี้ ปานดาวเขาโทร. มาลางานนะคะ”
“เขาไม่สบายหรือ”
“เอ่อ...คือ”
“มีอะไรหรือคุณวารี”
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะท่านรอง...เอ่อ ท่านรองคะ”
“มีอะไรอีก” รอมหันมาจ้องหน้าเลขาสาวทันที วันนี้เธอเป็นอะไรไป ทำไมทำหน้าแบบนั้น
“คือว่าคุณคิมเธอนะคะ” วารีเอ่ยออกมาด้วยความสงสัย
“เจ้าคิมทำไมหรือคุณวารี” รอมถามออกไปด้วยความแปลกใจในตัวเลขาสาว
“ก็คุณคิมเธอเป็นคนโทรมาลางานให้ปานดาว แล้วดิฉันยังได้ยินเสียงคุณคิมกับปานดาวทะเลาะกันด้วยนะคะ”
“อะไรนะ! ปานดาวอยู่กับเจ้าคิม” รอมเอ่ยออกมาอย่างตกใจ สองคนนั้นรู้จักกันได้ยังไง
“นั่นสิคะ ดิฉันยังแปลกใจเลยค่ะว่า คุณคิมเธอรู้จักกับปานดาวได้ยังไง ก็ในเมื่อบริษัทเราเพิ่งรับปานดาวเข้ามาทำงานได้ไม่กี่เดือนเองนะคะท่านรอง” วารีตอบเจ้านายหนุ่มออกไปด้วยความแปลกใจเหมือนกัน สงสัยกลับมาต้องถามเสียหน่อย เพราะใครๆ ก็รู้ว่าน้องชายคนเล็กของตระกูลเทพสุริยะการณ์ นั้นเจ้าชู้แค่ไหน แล้วปานดาวก็เกลียดคนเจ้าชู้ขนาดนั้นไปรู้จักชายหนุ่มได้ยังไง
“แล้วปานดาวทำงานเป็นไงบ้าง”
“ตอนนี้ดิฉันก็สอนงานปานดาวได้เกือบครบแล้วละคะ อีกอย่างปานดาวเขาเรียนรู้งานได้เร็ว”
“แล้วคุณใกล้จะคลอดหรือยัง” รอมเอ่ยถามเลขาสาวออกไปด้วยความเป็นห่วง
“อีกประมาณเดือนหนึ่งค่ะ” วารีตอบกลับเจ้านายหนุ่มด้วยความซาบซึ้งใจในความเป็นห่วงเป็นใยของเจ้านายหนุ่ม
“งั้นอาทิตย์หน้าผมให้คุณลาหยุดได้ แล้วให้ปานดาวมาทำงานเป็นเลขาชั่วคราวผมก่อนก็แล้วกัน”
“ขอบคุณค่ะท่านรองประธาน” วารีเอ่ยตอบรับออกมาด้วยความดีใจ
รอมถอนหายใจ ก่อนนึกไปถึงผู้ช่วยเลขาคนใหม่กับน้องชายคนเล็กของเขา เกิดอะไรขึ้นกันแน่ เหตุใดหนุ่มสาวคู่นี้ถึงไปอยู่ด้วยกันได้ เรื่องนี้เขาจำเป็นต้องปรึกษากับพี่ชายเสียก่อน เพราะถ้าน้องชายกับผู้ช่วยเลขาคนใหม่ของเขามีปากเสียงกัน มันคงไม่ใช่เรื่องธรรมดาเสียแล้ว
เขาจึงตัดสินใจล้วงโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดหาพี่ชายทันที และเมื่อปลายสายกดรับ เขาก็ถามออกไปทันที
“ตอนนี้พี่คิงส์อยู่ที่ไหนครับ”
(ฉันกำลังจะเข้าบริษัท มีอะไรหรือรอม) เวคินทร์เอ่ยถามน้องชายคนรองออกไป
“ก็เจ้าคิมสิครับ พาผู้ช่วยเลขาผมหายไปไหนก็ไม่รู้”
(ผู้ช่วยเลขาแกนะเหรอรอม)
“ครับ พี่คิงส์”
(งั้นเดี๋ยวค่อยคุยกัน อีกยี่สิบนาทีฉันคงถึงบริษัท)
“ครับ พี่คิงส์”
(อย่าลืมโทรหาเจ้าคิมมันด้วยล่ะ ฉันอยากรู้เหมือนกัน ช่วงนี้มันชอบทำอะไรแปลกๆ อยู่เรื่อย)
“ได้ครับ เดี๋ยวผมจะลองโทรหามันดู”
(โอเค งั้นแค่นี้ก่อน เดี๋ยวค่อยคุยกัน)
“ครับ” รอมก็ตัดสายจากพี่ใหญ่ของบ้านก่อนจะกดเบอร์อันคุ้นเคยโทรหาน้องชายคนเล็กทันที ‘ทำไมมันไม่รับสายสักทีวะ มัวทำบ้าอะไรอยู่’ เขาคิดอย่างหัวเสีย กดเบอร์โทรหาน้องชายตัวดีกี่ครั้งก็ไม่รับสายสักที ก่อนตัดสินใจโทรหาเลขาสาว
“คุณวารีเข้ามาหาผมหน่อย”
(ค่ะ ท่านรอง)
////////////
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
“เข้ามา” สิ้นเสียงตอบรับของบุคคลในห้อง หญิงสาวก็เปิดประตูเดินเข้ามาพร้อมกับถามเจ้านายหนุ่ม
“มีอะไรหรือคะคุณรอม” วารีถามเจ้านายหนุ่มออกไปด้วยความแปลกใจ
“คุณบอกว่าเจ้าคิมมันอยู่กับปานดาวใช่ไหม”
“ค่ะ” วารีรับคำ แล้วมองเจ้านายหนุ่มอย่างสงสัย
“ผมขอเบอร์มือถือของปานดาวหน่อยสิ” รอมตัดสินใจขอเบอร์ของผู้ช่วยเลขาสาวจากเลขาสาวของตัวเองทันที
“มีเรื่องอะไรกันหรือคะคุณรอม” วารีถามออกไปอย่างตกใจ
“ไม่มีอะไรหรอก คือว่าผมติดต่อเจ้าคิมไม่ได้” รอมเอ่ยออกไปเพื่อไม่ให้เลขาสาวคิดมากและสงสัย
“ได้ค่ะงั้นเดี๋ยวคุณรอมรอสักครู่นะคะ เดี๋ยวดิฉันต้องไปดูก่อน”
“ไม่เป็นไร ผมรอได้” รอมตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ มองเลขาสาวเดินกลับออกไปด้วยความเครียด ’เจ้าคิมมันไปรู้จักกับผู้ช่วยเลขาเขาตอนไหน แล้วทำไมเจ้าคิมเป็นคนโทรมาลางานให้เธอด้วย’ เขารู้สึกเป็นห่วงผู้ช่วยเลขาทันที การที่เธอมีปากเสียงกับน้องชายของเขา มันไม่ใช่เรื่องที่ดีเลย
///////////
เวคินทร์เปิดประตูเข้ามา สายตามองไปยังน้องชายคนรองด้วยความสงสัย เพราะสีหน้าและท่าทางดูกังวลแล้วก็เคร่งเครียดเกินเหตุ หรือว่าน้องชายคนเล็กของเขาไปก่อเรื่องร้ายแรงอะไรเอาไว้อีก จึงถามน้องชายคนรองทันที “นายมีปัญหาอะไรที่ต้องคุยกับฉันหรือนายรอม” เพราะตัวเขาก็สงสัยอยู่ไม่น้อย ไม่บ่อยนักหรอกที่น้องชายคนรอง แสดงความวิตกกังวลทั้งใบหน้าและดวงตาแบบนี้
“ก็เจ้าคิมสิครับ พาผู้ช่วยเลขาผมไป เห็นคุณวารีบอกผมว่า เจ้าคิมเป็นคนโทร. มาลางานให้นะครับ” รอมตอบคำถามพี่ชายด้วยความแปลกใจในพฤติกรรมของน้องชายคนเล็ก
“มันแปลกตรงไหนเจ้ารอม”
“พี่คิงส์เคยเห็นเจ้าคิมเข้าบริษัทหรือครับ”
“ไม่เคย...เอ่อ...ต้องพูดว่านานๆ ถึงจะเข้าบริษัทมากกว่า” เวคินทร์ตอบคำถามของน้องชาย
“ก็นั่นแหละครับ เพราะนานๆ ถึงจะเข้าบริษัทสักครั้ง อีกอย่างปานดาวก็เพิ่งเข้ามาทำงานในบริษัทของพวกเรา แล้วนายคิมมันรู้จักผู้ช่วยเลขาผมได้ไง”
“อืมม์...ใช่ แปลกจริงด้วย” เวคินทร์เห็นด้วยกับคำพูดของน้องชายคนรองแล้วยังเจ้าน้องชายคนเล็กของเขาอีก ก่อนหันกลับมามองหน้าน้องชายคนรองทันที “แล้วแกโทรหาเจ้าคิมหรือยัง” หวังว่าน้องชายคนเล็กจะไม่สร้างปัญหาใหญ่อีกนะ
“ผมโทรเป็นสิบสายแล้วครับแต่เจ้าคิมมันไม่รับสาย” รอมตอบพี่ชายอย่างหัวเสีย
“ไม่รับสาย” เวคินทร์เอ่ยถามออกมาอย่างแปลกใจ แต่ยังไม่ทันที่เขาได้ถามข้อมูลจากน้องชายคนรองเพิ่ม ประตูห้องทำงานก็ถูกเคาะเสียก่อน
///////////
...โปรดติดตามตอนต่อไป...