PRIGHWAN Sea 💙
Chom_Chom เจ้เกลียดคนสวย!
Biwww สวยครับพริกหวาน 😍
WAYU ❤️
“...หึ!”
“ไงมึง นั่งทำหน้าไร้อารมณ์อะไรนักหนาวะ” ผมกดล็อกหน้าจอตอนที่ไอ้วายุเดินมาหาพร้อมกับถือแก้วเบียร์มายื่นให้
“ขอบใจ” ผมไม่ตอบอะไรไปมากกว่าเอ่ยขอบคุณมันแล้วยื่นมือไปรับแก้วเบียร์จากมันมาดื่ม
“มึงเป็นไรไอ้ฟาร์ กูว่ามึงดูอารมณ์ไม่ค่อยดี” ไอ้วายุมองหน้าผมแล้วก็นั่งลงฝั่งตรงข้ามก่อนจะถามออกมา
“ปกติ” ผมตอบมันแล้วก็ไม่สนใจอะไรต่อ เป็นจังหวะพอดีกับที่มีเสียงเรียกมันไอ้วายุก็เลยไม่ได้สนใจที่จะถามอะไรผมต่อ
“พี่วาคะพริกว่าปูตัวนี้มันน่าจะได้ที่แล้วนะคะ” เธอเรียกมันไม่ได้ดังเท่าไหร่ ระหว่างเรียกก็กำลังจ้องอยู่ที่เตาบาร์บีคิว
“ไหนครับ พี่ช่วยดู” ไอ้วายุรีบถลาไปตามเสียงเรียกทันที หึ! อีกไม่นานมันคงกินคนย่างแทนปูตัวนั้นแน่นอน
ผมนั่งเบื่ออยู่ที่เดิม มันเป็นทริปที่โคตรน่าเบื่อ ความจริงหลังเสร็จโปรเจคสุดท้ายของการศึกษาผมน่าจะนอนพักผ่อนอยู่ที่บ้านแล้วค่อยแวะไปหาใครสักคนเพื่อปลดปล่อยความเหนื่อย แต่ผมดันตามไอ้คูเปอร์กับไอ้วายุมาทำซากอะไรก็ไม่รู้
ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้มา พอมาถึงก็ต้องมานั่งเบื่อสลับกับหงุดหงิดบ้างในหลายๆ ครั้ง
“ไงมึง นั่งเซ็งอะไรอยู่” ไอ้คูเปอร์ที่เพิ่งพาแฟนมันตามลงมาสมทบที่ปาร์ตี้บาร์บีคิวริมหาดคืนนี้เดินมานั่งตรงข้ามผมแล้วก็ถาม ส่วนแป้งหอมแฟนของมันก็เดินไปหาสองคนนั้นที่กำลังย่างอาหารกันอยู่
“เรื่อยๆ ว่ะ แล้วมึงล่ะ?” ผมตอบมันพร้อมกับส่งสายตารู้ทันไปให้
“หึๆๆ มีความสุขสิวะ แต่มึงไม่เข้าใจหรอกเพราะมึงไม่เคยนอนกอดคนที่มึงรัก” ไอ้คูเปอร์ตอบกลับมาแต่แล้วไงในเมื่อผมไม่ได้สนใจที่จะนอนกอดใครอยู่แล้ว
“กูก็ไม่เคยอยากเข้าใจ” ผมตอบมันพร้อมกับยิ้มมุมปากนิดหน่อย ผมไม่ได้หน้าตายขนาดนั้นหรอกครับ กับพวกมันผมก็ยิ้มบ้างเหมือนกัน
“หึๆๆ มึงพลาดความรู้สึกดีๆ ไอ้ฟาร์”
“ถ้างั้นก็ไปบอกไอ้วาด้วยไม่ใช่แค่กู” ผมตอบไอ้คูเปอร์จบก็ยกเบียร์ขึ้นมากระดกจนหมดแก้ว ส่วนไอ้คูเปอร์ก็หันไปมองไอ้วายุที่วันนี้เสือกอยากจะทำหน้าที่เป็นพ่อครัวทั้งที่ปกตินั่งแดกแต่แอลกอฮอล์
“อาจจะอีกไม่นานนะกูว่า มึงว่าไงล่ะ” ไอ้คูเปอร์คงมองไอ้วายุกับเพื่อนของแฟนมันอยู่ถึงได้หันมาขอความคิดเห็นจากผมด้วยรอยยิ้ม
“ก็ถามมันดู” ผมตอบแค่นั้นเพราะไอ้วายุเดินมาโน่นแล้ว
“ไงมึง วันนี้เป็นห่าอะไรขยันเชียว” พอไอ้วายุเดินมาถึงโต๊ะไอ้คูเปอร์ก็ถาม
“ขยัน? อ่อ ไม่ขยันได้ไงจะให้กูปล่อยน้องทำคนเดียว?” ไอ้วายุตอบไอ้คูเปอร์แล้วก็มองหน้าผม
“ไอ้ห่านี่ก็ไม่ช่วย” มันมองหน้าผมแล้วพยักพเยิดหน้มาทางผมเพื่อตอบไอ้คูเปอร์
“กูไม่ได้คิดปาร์ตี้นี้” ผมตอบกลับมันไป ผมไม่ได้อยากมีปาร์ตี้หวานๆ เลี่ยนๆ แบบนี้ ทั้งหมดเป็นไอเดียของไอ้วายุกับว่าที่เด็กใหม่ของมันต่างหาก
“กูว่าโทรเรียกเด็กมึงมาไหมไอ้ฟาร์ เผื่อหน้ามึงจะดีขึ้น ไอ้ห่าทำหน้าเหมือนคนปวดไข่ทั้งวี่ทั้งวัน” ไอ้วายุเหน็บผมแต่ถามว่าผมสนใจไหม ไม่เลยสักนิด
“ไม่ต้องเสือกเรื่องหน้ากู” ผมตอกกลับไอ้วายุที่เหน็บผมเรื่องหน้านิ่ง ทั้งที่ผมก็เป็นแบบนี้ปกติอยู่ทุกวัน แต่มาทริปนี้มันเหน็บผมบ่อย สงสัยคงจะกลัวว่าที่เด็กใหม่มันจะไม่สนุกเพราะหน้าผม
“กูหวังดีไอ้ห่า หรือจะให้หาเด็กมาให้ดีวะ?” ไอ้วายุถามด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
“หึ! กูไม่กินของไม่สะอาด” ผมแค่นเสียงตอบออกไป ผมจะกินเฉพาะที่ผมมั่นใจว่าสะอาดเท่านั้น
“หึๆๆ กินอิ่มแล้วก็ยื่นมาทางกูบ้างนะครับ มีเด็กมึงที่กูสนใจอยู่ รออยู่นะครับพี่ฟาร์ครับ” ไอ้วายุยิ้มมุมปากแล้วพูดออกมาด้วยเสียงที่ค่อนข้างเบาเพื่อให้มีแค่พวกผมเท่านั้นที่ได้ยิน
“หากินเอง” ผมตอบไปเท่านั้น รำคาญก็เลยชวนไอ้คูเปอร์กับมันคุยเรื่องอื่น แล้วก็ตามนั้นนั่นล่ะครับ ปาร์ตี้บาร์บีคิวเล็กๆ พูดคุยกันสนุกสนาน หมายถึงคนอื่นนะที่สนุกไม่ใช่ผม เพราะผมรู้สึกว่าทริปนี้เป็นทริปที่น่าเบื่อแล้วก็น่ารำคาญว่ะ ขัดหูขัดตาไปหมด...
-วันต่อมา-
“แดด~ แดดแรงมาก~” ระหว่างที่ผมกำลังนอนรับลมทะเลอยู่ริมสระว่ายน้ำของโรงแรมก็ได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งบ่นพึมพำอยู่ข้างๆ ไม่ต้องเดาหรอกว่าใครเพราะผมจำเสียงเธอได้ แต่เธอคงไม่รู้ว่าคนที่นอนอยู่ที่เตียงริมสระข้างเธอจะเป็นผมเพราะผมเอาผ้าคลุมหน้าเอาไว้
“อ่าส์~ ฉันไม่เหมาะกับทะเลจริงๆ” เธอคุยกับใครวะ?
“แต่ฉันก็ชอบทะเลอยู่ดีถึงแม้ว่าลมทะเลจะทำให้ฉันเหนียวตัวและแดดก็แรงจนผิวฉันเกรียมมาก~” ...?
“ฮ้าว~ นอนไหมพริกหวาน นอนหรือเล่นน้ำดี”
“นอนไหม แต่ตอนนี้ไม่ค่อยมีคน ถ้าเล่นตอนนี้ก็ดีนะ รอไม่มีแดดคนได้แห่มาเยอะแน่” เธอคุยคนเดียวใช่ไหมวะ ผมไม่ได้ยินเสียงคู่สนทนาของเธอ ผมได้ยินแต่เสียงพึมพำของเธอคนเดียว
หึๆๆ ไม่อยากจะขำแล้วก็ไม่อยากจะว่าเธอบ้าหรอกนะครับ เพราะคนเราก็คุยกับตัวเองกันทั้งนั้น แต่คนปกติเขาคุยในใจ อาจจะเป็นเพราะเธอมองเห็นผมใส่หูฟังก็ได้ ผ้าปิดหน้าก็จริงแต่มันก็เห็นสายของหูฟังได้ชัดเจน คงคิดว่าผมกำลังนอนฟังเพลงแล้วจะไม่ได้ยินอะไร แต่ความจริงแล้วผมไม่ได้ฟัง ผมแค่เอามาเสียบหูไปงั้นล่ะ
“นอนไหม นอนดีกว่า งีบสักนิด” หึๆๆ ตลกว่ะ คุยกับตัวเองเป็นตุเป็นตะ โคตรบ้า
ผมได้แต่แอบขำนิดหน่อยแล้วก็นอนฟังว่าเธอจะคุยกับตัวเองว่ายังไงต่อแต่เวลาผ่านไปเกือบ 5 นาทีก็ไม่มีเสียงของเธอดังขึ้นมาอีก ผมก็เลยดึงผ้าที่คลุมหน้าออกเพื่อมองเพราะคิดว่าเธออาจจะเดินออกไปแล้วก็ได้
“...หึๆ” ผมเอาผ้าที่ใช้คลุมหน้าออกแล้วหันไปมอง นึกว่าที่เงียบเพราะเดินไปทางอื่นแล้วแต่ที่ไหนได้ จากที่นั่งคุยกับตัวเองเป็นตุเป็นตะเวลาผ่านไปแค่ 5 นาทีเธอก็หลับไปเรียบร้อย
แต่...กล้ามานอนหลับทั้งที่ตัวเองลงมาข้างล่างในชุดคลุมแบบนี้ได้ยังไงกันวะ
ผมโคตรเบื่อ แล้วผมก็ไม่รู้ว่าตัวผมเองจะเกิดมาเป็นคนดีอะไรตอนนี้ เวลา 2 ชั่วโมงผ่านไปที่ผมยังนอนอยู่ที่เดิม ผู้คนริมสระน้ำเริ่มมากขึ้น มีคนหลายคนสลับสับเปลี่ยนกันมาว่ายน้ำ คนเก่าไปคนใหม่มา จะมีแค่ผมกับผู้หญิงที่นอนหลับเป็นตายอยู่ข้างๆ แค่ 2 คนที่ไม่ไปไหนมาไหนกับใครเขาเลย
อ่าส์! ให้มันได้อย่างนี้สิวะ ทั้งที่มีคนเดินไปเดินมา เสียงคนคุยกัน บางครั้งก็ตะโกนคุยและหยอกล้อกันในสระด้วยซ้ำแต่เธอก็ไม่แม้แต่จะสะดุ้งหรือรู้สึกตัวสักนิดเดียว
คิดไม่ผิดจริงๆ ที่ผมตัดสินใจไม่กลับห้อง นอนหลับขนาดนี้แถมเป็นผู้หญิงมาคนเดียวมันก็อันตรายเหมือนกัน ถึงจะกลางวันแสกๆ และอยู่ในโรงแรมหรูก็ตาม
แต่ผมแม่งก็ไม่คิดว่าเธอจะนอนเหมือนซ้อมตายได้ขนาดนี้ แล้วก็ไม่รู้ว่าไอ้วายุมันหายหัวไปไหน ทั้งที่เมื่อวานมันกับเธอตัวติดกันแทบจะตลอดเวลา
หรือว่ามันได้กินแล้วถึงได้ยอมปล่อยให้อยู่คนเดียว แต่ก็ไม่น่าจะใช่หรอกครับเพราะไอ้วายุถ้ามันอยากกินใครสักคนผู้หญิงคนนั้นต้องสวยมีเสน่ห์ และมันก็จะกินซ้ำแน่นอน ไม่มีทางที่มันจะปล่อยทันทีที่ได้กิน
ผมพยายามมองสำรวจร่างกายของเธอว่ามีจุดไหนที่บ่งบอกว่าเพิ่งนอนกับใครมารึเปล่า แต่เพราะเธอปล่อยผมยาวสยายคลุมต้นคอเอาไว้ แถมยังใส่ชุดคลุมเอาไว้อีกมันก็เลยมองไม่สะดวกสักนิด
ผมมองไม่เห็นร่างกายของเธอเลยไม่สามารถฟันธงกับตัวเองได้ แต่สิ่งที่มองได้ชัดเจนก็คือใบหน้าของเธอ
เธอไม่ได้แต่งหน้า แต่หน้าสดก็ไม่ได้แย่ เรียกว่าไม่มีจุดที่แย่เลยดีกว่า ไม่มีจุดแย่และไม่มีที่ติ โดยเฉพาะริมฝีปากอวบอิ่มสีชมพูระเรื่อที่เผยอออกจากกันนิดหน่อย ผมไม่รู้ว่าเธอเป็นคนยังไง มีบุคลิกแบบไหน นิสัยดีหรือว่าไม่ดี แต่ที่ผมมองเห็นตอนนี้คือผู้หญิงที่หน้าสวยใสมาก แล้วก็...
ถ้าให้ผมคอมเม้นท์ว่าผู้หญิงตรงหน้าเป็นยังไงผมก็คงต้องบอกว่า
...อยากรู้เหมือนกันว่าพริกหวานเม็ดนี้จะเผ็ดแซบหรือหวานละมุนลิ้นกันแน่