EP : 5

1811 Words
“ฮ้าว~” ฉันงีบไปกี่นาทีกันนะ? ฉันค่อยๆ ลืมตาสลับกับหลับตาลงเพื่อปรับแสง พอสานตาปรับโฟกัสได้ก็บิดขี้เกียจนิดหน่อยพอให้ร่างกายสบาย แต่ถ้าอยู่ในพื้นที่ส่วนตัวคงบิดขี้เกียจเหมือนนักกายกรรมแน่นอน “ฮ้าว~” ฉันยังคงหาวต่ออีกรอบ สบายตัวเลยค่ะ ไม่รู้งีบไปนานแค่ไหนแต่ตื่นขึ้นมาแล้วรู้สึกสมองปลอดโปร่งมาก~ “...หือ?” ฉันตั้งสติจากการตื่นนอนเสร็จก็มองไปรอบๆ ตามปกติ แล้วก็เผลอลากเสียงออกมาด้วยความแปลกใจพร้อมกับร่างกายที่ขยับตัวให้นั่งตรงโดยอัตโนมัติ ไม่คิดว่าจะเจอใครบางคนอยู่ตรงนี้ แถมนอนอยู่ที่เตียงริมสระว่ายน้ำข้างฉัน เขาเองก็หันมามองฉันตอนที่ฉันเผลอส่งเสียงที่แฝงไปด้วยความสงสัยออกมาจากลำคอเช่นกัน “...” นี่คือฉันเองค่ะ “...” และนั่นก็คือเขาเองค่ะ ใช่ค่ะเราต่างฝ่ายต่างมองหน้ากันและเงียบ แต่แตกต่างตรงที่ฉันทำหน้างงคาดไม่ถึงส่วนเขาทำหน้า...ไร้อารมณ์ -_-! มันช่างเป็นเรื่องแย่ในตอนบ่ายวันหยุดสุดหรรษาของพริกหวานที่น่าจะตื่นมาแล้วกระโดดลงน้ำเย็นๆ ในสระตรงหน้าให้ชื่นใจมากกว่าการมองเห็นตุ๊กตายางหน้าตายก่อนเป็นอันดับแรกอย่างนี้ “...มีอะไรรึเปล่า” อ่าส์~ พี่ฟาโรห์ถามฉันค่ะ หน้าตายเสียงนิ่ง บ่งบอกว่าหยิ่งหรือจะหาเรื่องต่อยฉันกันแน่นะ? “เปล่าค่ะ” ฉันส่ายหน้าตอบปฏิเสธทันที ตอบเสร็จก็หันหน้ากลับมา หันกลับมาให้พ้นการสบตากัน เริ่มรู้สึกหวาดหวั่นค่ะ พี่เขาไม่เคยแสดงอาการพิศวาสใส่ฉันไงคะ อย่าว่าแต่พิศวาสเลยความเป็นมิตรยังแทบไม่มี แล้วทีนี้จะไม่ให้กลัวได้ยังไง กลัวค่ะ กลัวโดนต่อย -_- กลัวจะโดนต่อยถ้าเผลอไปทำอะไรขวางหูขวางตาเขาเข้า กล้ามยิ่งอลังการกว่าปู 5 กิโลกรัมที่พริกหวานเพิ่งทำการประชุมเพลิงพวกมันเมื่อคืนซะอีก -__- “เอ่อ...” แต่สุดท้ายก็เก็บความสงสัยไม่ไหวอยู่ดี ก็ตอนนี้ที่ฉันตื่นมาผู้คนบริเวณสระน้ำแทบจะไม่มี มีแค่คู่รักฝั่งตรงข้าม 1 คู่ กับฝั่งเดียวกันกับฉันและเขาที่อยู่ห่างออกไปเป็น 10 เมตร แตกต่างจากตอนที่ฉันเดินหาที่นั่งที่มันเหลือแค่ตัวนี้ตัวเดียว เพราะฉะนั้นมีเหตุผลอะไรทำไมพี่ฟาโรห์ไม่ไปนั่งที่อื่น ไม่ได้คิดเข้าข้างตัวเองนะคะ ไม่เลยสักนิดเดียว ก็บอกแล้วไงว่าที่กลัวเขาอยู่ตอนนี้ก็เพราะไม่เคยเห็นแววตาพิศวาสหรือเป็นมิตรจากเขา ถึงได้สงสัยนี่ไงว่ามานั่งตรงนี้ที่มันอยู่ติดฉันเพื่ออะไรกัน “มีอะไรครับ?” เขาได้ยินฉันเอ่ยคำว่าเอ่อออกมาสั้นๆ เบาๆ ก็ค่อยๆ หันกลับมามองฉันแล้วก็ถามขึ้น เอาแล้ว~ ถ้าบอกว่าไม่มีอะไรจะเป็นไรไหมนะ แต่ไม่กล้าบอกเลยค่ะ เอาแล้ว~ ถ้าบอกว่าไม่มีอะไรจะเป็นไรไหมนะ แต่ไม่กล้าบอกแบบนั้ยหรอกค่ะเพราะท่าทางฉันแสดงออกชัดเจนว่ามีอะไรแน่นอน “พี่ฟาโรห์...นั่งตรงนี้นานรึยังคะ” ฉันรวบรวมความกล้าถามออกไป ไหนๆ ก็ไหนๆ ถามไปเลยให้จบดีกว่า “นานแล้ว” เขาตอบออกมาสั้นๆ ประหยัดคำดีจัง คอแห้งรึเปล่านะ? “อ้อ ค่ะ” ฉันพยักหน้ารับ จะถามต่อว่านานแล้วคือนานแค่ไหนก็คงเสียมารยาท ช่างเขาเถอะเนอะ ตอนที่ฉันหลับอยู่เขาลงมาอาจจะเป็นตอนที่มันมีที่ว่างตรงนี้อยู่พอดีก็ได้ เพราะไม่อย่างงั้นพี่ฟาโรห์ที่ดูจะไม่เข้าพวกกับสังคมเท่าไหร่คงจะเลือกไม่นั่งใกล้ใครเลย ว่าแต่...ฉันหลับไปนานเท่าไหร่กัน ตอนนี้กี่โมงแล้วก็ไม่รู้ โทรศัพท์ก็ไม่ได้เอาลงมาเพราะตั้งใจลงมาว่ายน้ำคนเดียวกลัวของจะหาย “...” ฉันหันกลับไปมองพี่ฟาโรห์ด้วยความชั่งใจอีกครั้ง แต่...พี่เขาเอาผ้ามาปิดหน้าเอาไว้เหมือนคนจะนอน คิดว่าจะขอถามเวลาสักหน่อยน่ะค่ะ พอเห็นพี่เขาเอาผ้าปิดหน้าแบบนี้ก็ไม่คงไม่ถามแล้วล่ะ ไม่กล้ารบกวน แต่ว่า...ทำไมมันคุ้นๆ จังเลยวะ ท่านี้ คนรูปร่างแบบนี้ แล้วก็ลักษณะการนอนที่เอาผ้าคลุมหน้าแบบนี้ “...มีอะไรอีกรึเปล่า?” พี่เขาดึงผ้าออกจากหน้าตัวเองพอดิบพอดีกับฉันที่กำลังนั่งจ้องเขาเพื่อพิจารณาความคุ้นตาเป๊ะ! แล้วเขาก็หันมาเห็นพอดีก็เลยขมวดคิ้วนิดหน่อยพร้อมกับถามฉัน “เอ่อ...เปล่าค่ะ ไม่มีอะไรค่ะ” ฉันรีบส่ายหน้าปฏิเสธแล้วก็หันหน้ากลับไปมองที่สระด้วยความอายบวกกับทำตัวไม่ถูก บ้าจริง! หวังว่าพี่เขาคงไม่คิดว่าฉันแอบนั่งจ้องรูปร่างของเขาตอนที่เขาเผลอหรอกนะคะ ฉันเห็นจากหางตาว่าเขาขยับตัวหยุกหยิกนิดหน่อยแล้วก็เอาผ้าคลุมหน้าไว้อีกรอบ ฉันปล่อยให้เวลาผ่านไปสักพักก็ค่อยๆ หันกลับไปมองพี่ฟาโรห์อีกครั้ง โอ้โห~ ชัดเลย ไม่ใช่แค่คุ้นแต่จำได้ชัดเจน ผู้ชายขาวๆ ใส่หูฟัง หุ่นล่ำกล้ามโต นอนใส่กางเกงขาสั้นกับเสื้อเชิ๊ตสีขาวปลดกระดุม 3 เม็ดโชว์แผงอกน่าซบ แต่มีผ้าขนหนูสีขาวผืนเล็กคลุมหน้าเอาไว้ไม่ให้มองเห็นหน้าตา ชัด! เจน! ว่าเป็นคนเดียวกันกับคนที่นอนอยู่ก่อนหน้าที่ฉันจะมานั่งตรงนี้ และเป็นคนเดียวกันกับคนที่ฉันแอบมองหุ่นแล้วอยากเห็นหน้าว่าหน้าตาจะหล่อเหมาะสมกับหุ่นเพอร์เฟ็คมากแค่ไหน -///- เรื่องที่สงสัยว่าพี่เขามานั่งข้างฉันได้ยังไงถูกลบออกไปในทันที เพราะฉันเป็นคนที่มานั่งข้างเขาเอง -__-! เอาล่ะค่ะ ในเมื่อความสงสัยมันหายไปแล้ว และพี่ฟาโรห์เขาคงไม่ได้สนใจแต่แรกว่ามีฉันนอนอยู่ข้างๆ เขาก็เลยไม่สนใจจะย้ายไปนั่งที่ๆ มันจะเป็นส่วนตัวกว่านี้หลังจากที่ผู้คนบริเวณสระว่ายน้ำซาไปแล้วมั้งคะ ช่างมันเถอะตอนนี้ดูท่าทางพี่เขาคงจะนอนต่ออีกรอบเพราะฉะนั้นฉันก็อยู่ส่วนฉันเถอะ ไปลงสระแล้วว่ายน้ำให้ชื่นใจดีกว่า >///< #PRIGHWAN END #PHARAOH TALK ผมไม่ได้หลับแต่ที่ผมเอาผ้ามาคลุมหน้าเพราะผมเพลีย 2 ชั่วโมงที่ผมนั่งมองไปรอบๆ อยู่กับที่ไม่ได้ไปไหนมันทำให้ผมโคตรเหนื่อย ผมรู้สึกเหนื่อยทั้งที่ไม่ได้ทำอะไร จนแอบคิดว่าถ้าผมป่วยแล้วต้องนอนอยู่บนเตียงสักหนึ่งวันโดยที่ขยับไปไหนไม่ได้ผมคงหงุดหงิดจนถึงขั้นพังโรงพยาบาลได้ เธอเองก็เหมือนกัน ตื่นมาก็มองหน้าผมเหมือนสงสัยอะไรมากมาย ผมไม่ชอบตอบคำถามครับ โดยเฉพาะคำถามจากผู้หญิง ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงคนไหนผมก็ไม่ชอบให้มาถามอะไรผมมากมาย ยิ่งกับคนที่ผมมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งด้วย ห้ามมีคำถามเกี่ยวเรื่องส่วนตัวของผมเด็ดขาดเพราะผมไม่ได้นอนด้วยฟรีๆ ตื๊ดดดดด ตื๊ดดดด ติ๊ด! “อืม” ผมไม่รู้หรอกว่าใครโทรมา แต่ก็กดรับสายจากปุ่มที่หูฟังเพราะขี้เกียจดึงผ้าที่ปิดหน้าออก แล้วก็ขี้เกียจยกโทรศัพท์มาดูชื่อคนโทรมาด้วย “พี่ฟาร์คะ” เสียงหวานของใครบางคนดังขึ้นจากปลายสาย และเป็นเสียงที่ผมจำได้ เพราะผมแวะนอนกับเธอแทบทุกวัน น้ำเสียงหวานเรียกชื่อผมด้วยความเกรงใจ ความจริงก็เกรงใจแบบนี้กันทุกคนนั่นล่ะครับ ไม่ค่อยมีใครกล้าโทรมาหาผมหรอกถ้าไม่มีธุระจำเป็น “อืม มีอะไรครับ” ผมไม่ได้เย็นชาจนถึงขั้นพูดจาร้ายใส่ผู้หญิงทุกคนหรอกนะ พูดจาดีๆ ผมก็พูดเป็น พูดเป็นปกติด้วยแค่มันฟังดูไม่หวานไม่สุภาพเหมือนผู้ชายคนอื่น แต่มันก็คือการพูดดีในความเป็นผม “คือพอดีแพรเห็นพี่ฟาร์ลืมซองเอกสารไว้ที่คอนโดค่ะ ไม่แน่ใจว่าพี่ฟาร์จะต้องใช้รึเปล่าคะ” แพรไหมถามผมด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูก็รู้ว่าเกรงใจที่โทรมา แต่... “แล้วพี่ถามหารึเปล่า” ผมไม่ตอบถึงความสำคัญของเอกสาร แต่ถามกลับไปแทน ถามเพื่อให้เธอคิดตาม “...เปล่าค่ะ” แพรไหมนิ่งไปนิดหน่อยก่อนจะตอบกลับมาเสียงเบา และไม่ค่อยเต็มเสียงเท่าไหร่ “อืม ถ้าไม่ถามหาแสดงว่าไม่สำคัญ” ผมตอบกลับไปเพื่อขยายความให้เธอรู้ ไม่ได้อยากพูดอะไรต่อเพราะไม่ใช่นิสัยของผม แต่ที่พูดก็เพื่อเป็นการบอกเธอกลายๆ ให้เข้าใจสิ่งที่ผมกำลังจะสื่อ “ค่ะพี่ฟาร์ ถ้าไม่สำคัญแพรก็โล่งใจค่ะ พอดีแพรกลัวว่าพี่ฟาร์จะต้องใช้แล้วหาไม่เจอ” แพรไหมรีบบอกผมพร้อมกับปั้นเสียงให้ดีขึ้น “ครับ” “ถ้างั้นแพรไม่กวนพี่ฟาร์แล้วนะคะ” “แพรไหม” พอเธอบอกจะวางผมก็เลยเรียกชื่อเธอ “...คะ” แพรไหมเงียบไปนิดหน่อยก่อนจะเอ่ยคำขานรับที่ค่อนข้างเบา “เธอทำตัวดีมาตลอด และพี่หวังว่าเธอจะทำตัวเสมอต้นเสมอปลายเหมือนที่เคยทำ” ผมบอกเธอด้วยเสียงที่ราบเรียบ “...ค่ะพี่ฟาร์” ติ๊ด! ทันทีที่เธอตอบออกมาผมก็กดวางสายทันที ผมวางสายจากแพรไหมด้วยความรู้สึกหงุดหงิดที่ก่อตัวขึ้นมานิดหน่อยภายในใจ แพรไหมไม่เคยงี่เง่าวุ่นวายครับ เธอไม่เคยล้ำเส้นหรือก้าวก่ายผม แต่ขึ้นชื่อว่าผู้หญิง นานๆ ไปอะไรที่เคยเป็นอยู่มันก็จะเริ่มเปลี่ยน ความต้องการอะไรต่างๆ จะเพิ่มขึ้น เพราะฉะนั้นผมถึงต้องรีบเบรกเธอในครั้งแรกที่เธอกำลังเริ่มทำมัน ผมจัดการได้เพราะแพรไหมไม่ได้ทำแบบนี้เป็นคนแรก มีมาหลายคนแล้วที่ทำ แต่ผมเจอทีไรก็ยังหงุดหงิดอยู่ดี ...ผมหงุดหงิดและคิดว่าควรขึ้นไปบนห้องเพื่อพักผ่อนแบบจริงจังสักที พอดึงผ้าที่คลุมหน้าออกและสายตาก็บังเอิญมองไปที่ขอบสระทำให้ผมเห็นผู้หญิงที่คุ้นหน้ากำลังขึ้นจากสระช้าๆ ผมก็เปลี่ยนใจในทันที
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD