ตึก
ตึก
เสียงสองเท้าเล็กของร่างบางเจ้าของใบหน้ากลมใสชวนมองเดินตรงเข้าไปนั่งยังบริเวณที่นั่งป้ายรอรถประจำทางพลางก้มลงมองเวลาที่กำลังเดินอยู่ในตอนนี้
“ถ้ารอรถเมล์จะทันไหมนะ” ริมฝีปากสีหวานพึมพำ ก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นโบกเรียกแท็กซี่คันหนึ่งที่กำลังขับผ่าน โดยสภาพรถนั้นบ่งบอกได้ถึงความเก่าพอสมควร พร้อมกับคนขับที่ดูชราอยู่ไม่น้อย
“ไปxxxไหมคะคุณตา”
“ไปครับ” ชายชราที่ไม่ค่อยถูกโบกเรียกรีบตอบกลับ ทำให้หญิงสาวในชุดเดรสสีหวานยิ้มกว้างรีบเดินขึ้นบนรถแท็กซี่คันเก่าในทันที
“ขับรถมานานแล้วเหรอคะ” เสียงหวานถามชายสูงวัยด้วยความชวนคุย
“อืม จะสามสิบปีได้แล้วครับ”
“คุณตา ไม่ต้องพูดสุภาพเป็นทางการกับหนูก็ได้ค่ะ ^^”
“ไม่ได้หรอกครับ คุณเป็นลูกค้า…”
“แต่หนูไม่ชอบนี่นา คุณตาอายุมากกว่าหนูตั้งเยอะ แบบนี้ หนูไม่ค่อยสบายใจเลย” ลลินยู่หน้าเอ่ยบอกกับชายชราตาแป๋ว ทำเอาคนที่เห็นรับรู้ได้ถึงความน่ารักเป็นกันเองที่เป็นธรรมชาติจากอีกคน
“เอาแบบนั้นก็ได้” สุดท้ายคนขับแท็กซี่ที่นาน ๆ จะเจอลูกค้าที่น่ารักไม่เหยียดหยามหรือดูถูกต่อว่ากันก็ยิ้มออกมาด้วยความโล่งใจปนดีใจ ขณะที่ลลินนั้นก็ยิ้มหวานให้กับชายสูงวัยด้วยรอยยิ้มชวนเอ็นดู
“ทำไมถึงเลือกรถตาล่ะลูก”
“คะ?”
“ก็ปกติ…ไม่ค่อยมีใครอยากนั่งรถแท็กซี่เก่า ๆ แบบนี้”
“รถเก่า ๆ ก็น่ารักดีนะคะ ไม่อันตรายด้วย คุณตาขับกำลังดีเลยค่ะ”
“ตาเคยถูกว่าด้วย ว่าขับช้าเกินไป…”
“พวกเขาอาจจะรีบก็ได้ค่ะ แต่หนูไม่รีบนะคะ คุณตาขับได้เรื่อย ๆ เลยค่ะ ไม่ต้องกังวล ^^” เสียงหวานยังคงตอบกลับชายสูงวัยด้วยน้ำเสียงใจดีมีความสดใส เธอเข้าใจที่ชายชราบอก เนื่องจากรถที่อีกคนขับนั้นค่อนข้างเก่า ทำให้ไม่สามารถที่จะขับรถได้เท่ากับรถแท็กซี่คันอื่น ๆ แต่ถึงจะขับช้ายังไง ลลินกลับรู้สึกดีมากกว่าที่นั่งรถคันนี้ เนื่องจากชายสูงวัยนั้นพูดจาดีและไม่จ้องมองเธอด้วยสายตาอึดอัดอย่างที่มักจะเคยพบเจออยู่บ่อยครั้ง
“หนูนี่น่ารักจริง ๆ เลยนะลูก” ชายชราที่ผ่านชีวิตมานานอดไม่ได้ที่จะเอ่ยชมเชยร่างเล็กที่นั่งอยู่ด้านหลัง ลลินที่ได้ยินแบบนั้นจึงยิ้มหวานรับคำชม ก่อนจะชวนชายชราพูดคุยนั่นนี่ไป กระทั่งรถแท็กซี่คันเก่าจอดลงบริเวณหน้าตึกของโรงแรมขนาดใหญ่
“นี่ค่ะ” มือเรียวจัดการหยิบแบงก์สีเทายื่นให้แก่คนขับ
“ไม่มีแบงก์ย่อยเลยเหรอลูก ตามีทอนไม่ถึง” ไม่ใช่เล่ห์กลอุบายแต่อย่างใด แต่ชายสูงวัยไม่มีเงินที่จะทอนให้หญิงสาวตัวเล็กจริง ๆ เนื่องจากค่าแท็กซี่นั้นมันแค่ร้อยกว่าบาท แต่อีกคนกลับยื่นแบงก์หนึ่งพันมาให้
“ไม่ต้องทอนค่ะ”
“หือ?”
“หนูให้คุณตา” สิ้นเสียงหวานบอก ชายชราก็ชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะรีบส่ายหน้าตอบกลับ
“ไม่ได้หรอกลูก มันมากไป…”
“ถ้างั้นก็ถือว่าหนูช่วยค่านมหลานสาวของคุณตาก็ได้ค่ะ” ลลินยิ้มบอก เธอนั่งมานานพอที่จะได้รับรู้ว่าที่ชายชรายังคงต้องทำงานขับแท็กซี่แบบนี้ก็เพราะมีหลานสาววัยทารกเพิ่งเกิดไม่นานต้องเลี้ยงดู
“หนู…”
“รับไว้เถอะนะคะ หนูอยากให้จริง ๆ” เจ้าของใบหน้าใสบอก จนในที่สุดชายสูงวัยก็จำต้องรับเงินจากมือเล็กมาด้วยความรู้สึกอยากขอบคุณหญิงสาวใจดีที่เหมือนนางฟ้ามาโปรด
“ขอบคุณนะลูก ขอให้คนดีแบบหนูพบเจอแต่เรื่องราวดี ๆ ในชีวิต”
“ขอบคุณค่ะ หวังว่าหนูจะได้ใช้บริการรถแท็กซี่ที่คนขับน่ารักและใจดีแบบคุณตาอีกนะคะ” พูดจบ ลลินก็ยิ้มหวานเดินลงจากรถตรงเข้าไปภายในโรงแรมหรูที่อยู่ตรงหน้าด้วยใบหน้าที่ยังคงฉายออกมาถึงความสดใสเป็นมิตรที่มีต่อทุกคน
อีกด้าน
“ตายแล้วน้องเทีย…”
“…คอลเลกชันใหม่หรือเปล่าคะเนี่ย ได้ข่าวว่าใบนี้หายากมากเลยนี่คะ” เสียงสาวสองคนหนึ่งที่กำลังจัดเตรียมงานสำหรับในอีกสองวันข้างหน้าเอ่ยทักร่างสวยที่กำลังนั่งก้มเล่นโทรศัพท์อยู่ เทียริน่าที่ได้ยินจึงยิ้มตอบ
“หายากเหรอคะ”
“ใช่ค่ะ เห็นคุณอุ้มที่เป็นดาราดังบอกทางยูทูบช่องเขาว่าหายากมาก ขนาดเขายังหาไม่ได้เลย”
“ก็…คงงั้นมั้งคะ” หญิงสาวลูกสาวนักธุรกิจดังยิ้มตอบพร้อมกับยกมือขึ้นเขี่ยผมทัดหูด้วยท่าทีปกติ ทว่า…
“กรี๊ดด! Bvlgari…” สาวสองคนเดิมยังคงตาลุกวาวขึ้นมากับนาฬิกาหรูที่อยู่บนข้อมือสวยของลูกสาวนักธุรกิจดังที่นั่งอยู่ ก่อนที่หลายคนที่ยืนอยู่จะเข้ามาให้ความสนใจแก่เทียริน่าอย่างรู้สึกตื่นตาไปกับของแบรนด์เนมมากมายที่ร่างสวยสวมใส่
“อันนี้เท่าไรกันคะน้องเทีย”
“ไม่รู้สิคะ พอดีมีคนซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิด” เรียวปากสวยเคลือบด้วยลิปสติกราคาแพงเอ่ยพร้อมกับยกยิ้มบาง ๆ ให้กับหลายคนที่เข้ามาสนใจในตัวเอง แต่แล้วในตอนนั้นเอง
“สวัสดีค่ะ ^^” เสียงหวานของร่างเล็กที่เข้ามาใหม่ดังขึ้น ทำให้หลายคนที่กำลังสนใจไฮโซสาวหน้าสวยอยู่นั้นหันไปมอง
“น้องลลิน” แล้วทุกคนที่ยืนล้อมเทียริน่าอยู่ในตอนแรกก็หันไปให้ความสนใจแก่ลูกสาวนักการเมืองที่กำลังถูกจับตามองอยู่ในตอนนี้ด้วยความรวดเร็ว…