บทนำ
ตึก
ตึก
เสียงสองเท้าเล็กเดินตรงเข้าไปยังภายในห้องคอนโดใหม่ตัวเองพลางลอบยู่หน้าไปกับความใหญ่โตอลังการที่อยู่ตรงหน้า
“ห้องกว้างมากเลย” ริมฝีปากสีหวานพึมพำ ก่อนจะหันไปเอ่ยขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่พ่อของเธอจ้างมาช่วยขนของเข้าคอนโดใหม่ใจกลางเมืองในวันนี้
“ขอบคุณนะคะ ไว้ตรงนั้นได้เลยค่ะ เดี๋ยวลินจัดการต่อเอง ^^” เจ้าของใบหน้าเรียวใสยิ้มหวานบอกกับชายสามคนที่ยืนอยู่ ทั้งสามที่ได้ยินแบบนั้นจึงก้มหัวเชิงรับรู้ค่อย ๆ เดินออกจากห้องคอนโดหรูไป ซึ่งในตอนนั้นเอง
ครืดดด~
เสียงโทรศัพท์ของร่างเล็กสูงเพียงร้อยห้าสิบแปดเซนติเมตรดังขึ้น ดวงตากลมโตจึงก้มลงมองชื่อของปลายสายที่โทรเข้ามา
พ่อ
ติ้ด!
นิ้วเรียวไม่รอช้าที่จะกดรับสายด้วยความรวดเร็วพร้อมกับกรอกเสียงหวาน
“ว่าไงคะพ่อ~”
(คอนโดใหม่เป็นยังไงบ้าง ลลิน)
“ทำไมเลือกที่นี่ล่ะคะ”
(หือ? เพราะมันดีที่สุดไง ความปลอดภัยก็สูง…ทำไมถามพ่อแบบนั้น)
“ก็มันกว้างเกินไปนี่คะ ลินอยู่คนเดียวนะคะ ให้ลินกลับไปอยู่…”
(หยุดเลย พ่อรู้ว่าลินกำลังจะพูดอะไร)
“…”
(ทำไมอยากอยู่หอนั้นนักนะ)
“ก็มันถูกนี่คะ แถมยังสะดวกสบาย…”
(แล้วคอนโดใหม่เราไม่สะดวกสบายตรงไหน อยู่ตรงใจกลางเมืองพอดี ติดรถไฟฟ้า)
“…”
(อยู่ที่นี่ไป เพื่อความสบายใจของพ่อ ไม่งั้นพ่อจะให้ลินกลับมาอยู่บ้านด้วยกัน)
“ก็ได้ค่ะ” สุดท้ายร่างเล็กที่อยากโตเป็นผู้ใหญ่ด้วยตัวเองที่ขอคนเป็นพ่อออกมาอยู่ลำพังก็จำต้องตอบกลับไปอย่างไม่อาจจะถกเถียงอะไรได้อีก เพราะแค่เธอขอพ่อตัวเองออกมาอยู่เองได้ในวัยยี่สิบปีก็แทบรากเลือดแล้ว กว่านักการเมืองทรงอิทธิพลที่มีลูกสาวคนเดียวจะยอม
(ให้คนขับรถไปคอยรับส่งไหม)
“ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวลินไปเอง พ่อคะ เราคุยกันแล้วนะ ว่าลินจะออกมาเติบโตดูแลตัวเอง”
(…)
“พ่อคะ ทำไมเงียบ”
(ถ้ามีอะไรต้องรีบโทรบอกพ่อนะ)
“แน่นอนค่ะ ไม่ต้องห่วงลินนะคะ”
(อืม)
“ถ้างั้นเดี๋ยวลินจัดของต่อก่อนนะคะ ยังไง เดี๋ยวลินส่งข้อความหานะคะ”
“อืม ส่งหาพ่อบ่อย ๆ นะ”
“ได้เลยค่ะ~” หลังจากตอบพ่อตัวเองกลับไปเสียงหวาน นิ้วเรียวก็กดวางสายไปด้วยรอยยิ้มสดใส
“ขี้เป็นห่วงจริง ๆ ลินโตแล้วนะคะเนี่ย” ใบหน้าเรียวสวยยิ้มตาหยีพึมพำ ก่อนจะเดินไปสำรวจบริเวณห้องคอนโดราคาแพงของตัวเองที่คนเป็นพ่อซื้อให้ด้วยท่าทีปากยู่อีกครั้ง
“เฮ้อ สูงจัง TT” คนตัวเล็กที่เป็นคนกลัวความสูงเอ่ยพลางลอบมองไปยังด้านนอกหน้าต่างกระจกภายในห้องด้วยความหวาดเสียว แต่จะทำยังไงได้ ในเมื่อคอนโดนี้เหลือเพียงห้องนี้เพียงห้องเดียว สำหรับคนอื่นอาจจะมองว่ามันไม่ได้สูงสักเท่าไร เพราะอยู่ในชั้นที่กำลังดี แต่สำหรับลลินแล้วนั้น
พรึบ!
มือบางรีบเอื้อมเข้าไปจัดการรูดผ้าม่านเพื่อปิดวิวทิวทัศน์ด้วยความรวดเร็วพร้อมกับถอนหายใจออกมา
“เฮ้อ…คิดถึงหอตึกนอกจัง” ก่อนย้ายมาที่นี่ เธอได้แอบคนเป็นพ่อไปอยู่ในหอไม่ไกลจากมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังของตัวเองมา โดยแม้จะเป็นเพียงหอพักเล็ก ๆ กำลังดีในความคิดของเธอ ทว่าสุดท้ายพ่อของเธอก็จับได้ และซื้อคอนโดนี้ให้ในทันทีตามประสาคนที่ห่วงใยลูกสาว พร้อมกับยื่นคำขาด หากไม่มาอยู่คอนโดนี้จะให้กลับบ้าน ลลินที่ทำอะไรไม่ได้จึงได้แต่ต้องมาอยู่คอนโดกว้างใหญ่นี้เพียงคนเดียวด้วยความจำนน
“แต่ก็ช่างเถอะ อย่างน้อยที่นี่ก็ทำให้พ่อสบายใจ~” เรียวปากสวยยิ้มบอกกับตัวเอง ถึงจะไม่ได้ชื่นชอบการอยู่ในคอนโดหรูหราแบบนี้ แต่เพื่อความสบายใจของพ่อ หญิงสาวก็ไม่คิดดื้อรั้นอะไร
“เก็บของต่อดีกว่า” ว่าแล้ว ร่างเล็กของนักศึกษาปีสองก็เดินไปหยิบข้าวของของตัวเองเข้ามาจัดเรียงภายในคอนโดใหม่ด้วยท่าทียิ้มแย้มสดใสตามประสา กระทั่ง…
“เรียบร้อย” เสียงหวานเอ่ยขึ้นหลังจากจัดข้าวของที่ไม่ได้มีเยอะอะไรนักเสร็จ และในตอนนั้นเอง
ครืดดด~
ข้อความ
มิลาน : ลิน
มิลาน : อย่าลืมไปซ้อมเดิน
“จริงด้วย” ปากเล็กขยับเอ่ยเมื่ออ่านข้อความจากเพื่อนสนิทที่ส่งเข้ามา ก่อนจะรีบตอบกลับ
ลลิน : ขอบคุณมากนะมิลาน
มิลาน : ว่าแล้วว่าต้องลืม ประจำ
ลลิน : TT
ทันทีที่ส่งข้อความตอบเพื่อนคนสนิทไป ร่างบางในชุดเดรสสีขาวสะอาดก็ไม่รอช้าที่จะเดินไปหยิบกระเป๋าถักไหมพรมคู่ใจเข้ามาสะพายไว้ พร้อมทำท่าจะเดินออกจากห้องคอนโดไป แต่แล้ว…
ดวงตากลมโตก็เหลือบไปเห็นกล่องขนมคุกกี้ชื่อดังที่ตัวเองตั้งใจซื้อมาเพื่อแสดงความเป็นมิตรกับคนข้างห้อง
“จะมีคนอยู่ไหมนะ” ร่างบางงึมงำ ทว่าสุดท้ายก็ตัดสินใจหยิบกล่องขนมคุกกี้นั้นถือเดินออกไปจากห้องด้วยกัน ก่อนจะไปหยุดยืนอยู่บริเวณห้องข้าง ๆ ที่อยู่ริมสุด
ออดด~
นิ้วเรียวยกขึ้นกดยังออดที่อยู่ตรงหน้าด้วยใบหน้าที่ยังคงฉายออกมาถึงความสดใสเป็นมิตร ผ่านไปได้ไม่กี่วินาที
แอดด…
เสียงประตูห้องหรูที่อยู่ริมสุดก็เปิดออกพร้อมกับร่างสูงของชายเจ้าของใบหน้าหล่อเหลาที่จ้องมองมายังใบหน้าใสของคนที่ยืนอยู่นิ่ง ขณะที่ลลินก็ยืนอึ้งไปชั่วครู่กับความหล่อแทบละสายตาไม่ได้ของชายข้างห้องของตัวเอง
“มีอะไร”
“อะ…อ้อ สวัสดีค่ะ พอดีเพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ข้างห้องคุณ…”
“…นี่ค่ะ”
“?” คนตัวสูงที่สูงกว่าหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าเกือบสามสิบเซนติเมตรก็ยังคงนิ่งมองดูกล่องคุกกี้ที่ถูกยื่นเข้ามาแววตาเรียบ
“เอ่อ เป็นของขวัญการเข้ามาอยู่ใหม่ของฉันค่ะ ยังไง…หากมีอะไรอยากให้ช่วย สามารถบอกได้ตลอดเลยนะคะ” เจ้าของใบหน้าเรียวใสยิ้มบอกคนตัวสูงเสียงใสแสดงออกมาถึงความเป็นมิตรพร้อมกับยังคงยื่นกล่องคุกกี้ให้อีกคนอยู่อย่างนั้น จนคนที่ยืนอยู่ในชุดลำลองสีสุภาพจำต้องรับกล่องขนมเข้ามา
“ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ” พูดจบ หญิงสาวตัวเล็กในชุดเดรสสีสะอาดก็ค่อย ๆ สาวเท้าเดินออกไปด้วยท่าทีสดใสที่มี แต่เมื่อเดินไปถึงบริเวณลิฟต์หรู
“จริงสิ ลืมแนะนำตัวเลย” ปากเล็กพึมพำหลังจากที่นึกขึ้นได้พลางยกมือขึ้นยีเข้าที่หัวตัวเองเบา ๆ กับนิสัยขี้ลืมที่แก้ไม่หาย ขณะที่ร่างสูงอีกคนนั้นก็เอาแต่ยืนนิ่งมองตามร่างเล็กข้างห้องที่ย้ายมาใหม่ด้วยสีหน้าราบเรียบ ก่อนจะหมุนตัวเดินกลับเข้าไปภายในห้องตัวเองนิ่ง