Nevermind : 1
แพรวา
“เธอเป็นใครเหรอครับ?”
“หิ้วมาจากข้างทางน่ะ”
“แล้วไม่รู้จักเธอ หิ้วเธอมาเนี่ยนะครับ คุณองศาสติดีหรือเปล่า”
“ใช่ กูสติไม่ดีหรอก ปกติไม่เคยเสือกเรื่องชาวบ้าน... แต่คราวนี้ดันอยากเสือกซะงั้น”
น้ำเสียงพูดคุยดังเล็ดลอดเข้ามาในโสตประสาท ทำให้ดวงตาของฉันค่อยๆ เปิดขึ้นรับกับแสงแดดในยามเช้าหรือยามบ่ายก็ไม่แน่ใจ ฉันกระพริบตาเพื่อปรับแสงเสมองไปยังข้างเตียงที่มีร่างสูงสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวพับแขนถึงข้อศอกและกางเกงสแล็คสีดำร่างกายแกร่งกำยำไปทุกสัดส่วนไหนจะท้ายทอยที่มี รอยสักรูปอะไรสักอย่างมองไม่ชัด ปลายเตียงเป็นกระจกเกือบทั้งหมดสูงติดเพดาน ฉันก็หันมองร่างสูงอีกครั้งและครั้งนี้ได้เห็นใบหน้าหล่อเหลาที่หล่อแบบดุๆ ผมสีดำขอเขาเสยขึ้นไปปล่อยเส้นผมปรกใบหน้าเล็กน้อยและมีผู้ชายอีกคนที่สวมชุดสูทสีดำทั้งตัว หน้าตาของเขาก็หล่อเหมือนกัน แต่... เขาคนนี้หล่อมากกว่า หล่อเหมือนไม่มีอยู่จริง
“ตื่นแล้วสินะ?” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก ฉันก็ชันตัวขึ้นนั่ง ถึงได้เห็นว่าตัวเองไม่ได้สวมชุดนักศึกษาอย่างที่มันควรจะเป็น แต่เป็นเสื้อเชิ้ต สีดำ ตัวใหญ่หัวเข่าที่เกิดจากล้มก่อนที่รถของเขาคนนี้จะชน เวลานี้ถูกทำแผลปิดผ้าก็อตเรียบร้อย
“คุณเปลี่ยนชุดให้ฉันเหรอคะ”
“ใช่” เฮ้อ เห็นถึงไหนต่อไหนแล้วมั้งเนี่ยแพรวา “มึงออกไปก่อน”
“ครับ” เขาเอ่ยปากไล่ผู้ชายอีกคนให้เดินออกไป จนเวลานี้เหลือแค่เราสองคนเท่านั้น ผู้ชายคนที่ช่วยฉันไว้เขามีปืนและเกือบจะยิงป้ากับลุงรวมไปถึงน้องที่เป็นน้องนอกไส้ เขาทิ้งตัวนั่งบนเตียงซึ่งฉันนั่งกอดเข่าตัวเองดึงผ้าห่มปิดแล้วนะ เงยหน้าสำรวจห้องของเขาอีกครั้ง โทนสีห้องของเขาออกดำและเทาแม้แต่เตียงนอนเองก็ตามทีที่ใหญ่กว้างนอนได้ทีสามคน... มั้ง
“เธอชื่ออะไร?”
“แพรวาค่ะ” ตอบเขาที่ถึงจะดูดุและน่าเกรงขามก็ตามที แต่อย่าลืมว่าเขาช่วยฉันไว้นะ
“ฉันองศา” องศางั้นเหรอ... สบตากับเขาฉันก็ยกมือพนมไว้กลางอก
“ขอบคุณนะคะที่คุณองศาช่วยฉัน”
“ไม่ได้ช่วย”
“...”
“เธอไปอ่อยไอ้แก่นั่นจริงหรือเปล่า” เขาเค้นถามด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด ราวกับว่าผู้หญิงอย่างฉันจะไปอ่อยผัวของป้าได้ยังไงและมันจริงไง “ไหนเล่ามาสิ”
“ฉันเปล่าอ่อยลุงนะคะ” รีบปฏิเสธฉันก็ถอนหายใจและเอ่ยปากเล่าเรื่องราวของตัวเองให้คนแปลกหน้า ที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนฟัง “ป้าเป็นพี่สาวของพ่อฉันค่ะ พ่อกับแม่ฉันตายเพราะเกิดอุบัติเหตุไฟไหม้บ้าน ฉันรอดมา คนเดียว”
“อือ”
“ฉันก็เลยต้องมาอยู่กับป้าตั้งแต่สิบขวบค่ะ ตอนนี้ฉันยี่สิบแล้ว แต่ว่า... ฉันถูกทุบตีอยู่บ่อยครั้ง ต้องทำงานเพื่อหาเงินมาให้ป้ากับลุงเล่นการพนันและ ส่งน้องที่ไม่ใช่น้องแท้ๆ แต่เป็นลูกติดลุงเรียนค่ะ”
“เธอหลุดมาจากนิยายเรื่องไหนกันเนี่ย นางเอกชัดๆ” คำพูดของ คุณองศาทำให้ฉันยิ้มขำเล็กน้อย
“ลุงเขาลวนลามฉันมาตลอดเลยค่ะ” พอคิดไปถึงเรื่องราวของเมื่อคืนนี้ฉันก็ได้แต่ลูบแขนตัวเองอย่างนึกรังเกียจ “เขาจะขืนใจฉันค่ะ ป้ามาเห็นก็เลยขังฉันไว้แต่ฉันหนีออกมาเลยมาเจอคุณ”
“...” คุณองศามองฉันด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง
“เมื่อวานก็เกือบจะโดนลูกชายของลุงขืนใจเหมือนกันค่ะ”
“เวรเอ๋ย! แล้วทำไมเธอไม่แจ้งตำรวจ”
“เคยแจ้งแล้วค่ะ แต่ไม่เกิดผลอะไร ฉันก็เลย... ต้องต่อสู้เพียงลำพัง ทั้งป้า ลุงและน้องนอกไส้ค่ะ”
“แล้วเธอจะหนีไปไหน?”
“ฉันกะว่าจะไปหาเพื่อนค่ะ แต่คงจะพึ่งพาได้ไม่นาน” ดวงตาของเราสองคนผสานเข้าหากัน นั่นทำให้ฉันรู้สึกขอบคุณเขาที่ช่วยเหลือฉันให้รอดพ้นมือของป้า แม่ว่ามันจะก็เป็นแค่ครั้งเดียวเท่านั้น “ฉันส่งตัวเองเรียนจนขึ้นปีหนึ่งมหาลัย ทำงานอย่างหนักแต่ก็โดนเอาเงินไปเสมอเลย พอเรียนจบก็ต้องดูแลป้าเพื่อทดแทนบุญคุณ”
“บุญคุณบ้าบออะไรฉันไม่รู้จักหรอกนะ”
“...”
“เธอต้องทำเพื่อตัวเองไม่ใช่เพื่อใคร ไม่งั้นเธอก็โดนข่มเหงแบบนี้” จะทำไปทำอะไรได้ล่ะ ถึงหนีออกมาก็ต้องกลับไปที่นั่นอยู่แล้ว ฉันไม่มีที่ไปหรอกจะให้ไปพึ่งพาเพื่อนก็ไม่ใช่เลยนะ ฉันเองก็มีความเกรงใจบ้างไม่ใช่ไม่มี
“ฉันไม่มีที่พึ่งนี่คะ ไม่มีใครมาปกป้องก็ต้องปกป้องตัวเอง แต่ฉันก็แค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่ง สู้พวกเขาไม่ได้หรอกค่ะ” แบบว่าชีวิตของฉันมันค่อนข้างรันทดเลยล่ะ รันทดแบบหาที่สุดไม่ได้ เหมือนนางเอกนิยายที่หลุดออกมาใช้ชีวิตจริงอย่างที่คุณองศาบอกเป๊ะเลย “ถึงวันนี้ฉันหนีพวกเขามาได้ สุดท้ายฉันก็ต้องกลับไปค่ะ”
“ร่างกายเธอมีแต่รอยช้ำ”
“คุณเห็นเหรอคะ?” ว่าแล้วถึงกับเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ ไม่เห็นก็คงแปลกล่ะ “โดนป้าทำร้ายน่ะค่ะ”
“...”
“ฉันอยากหนีไปตั้งหลักนะคะ แต่ฉันไม่มีเงินมากขนาดนั้น ไหนจะเรียนอีก” ไม่น่าเชื่อว่าฉันจะเปิดปากเล่าเรื่องของตัวเองให้กับคนที่เพิ่งรู้จักฟัง แม้แต่เพื่อนฉันยังไม่เคยเล่าด้วยซ้ำเพราะกลัวพวกเขาไม่สบายใจ
“คนพวกนั้นเคยทำอะไรกับเธอมากกว่าทำร้ายหรือเปล่า?” จู่ๆ คุณองศาก็เอ่ยถาม ฉันหันไปสบตากับเขาที่มองฉันอยู่ก่อนแล้ว ถึงจะเป็นผู้ชายที่ภายนอกดูดุดันน่าเกรงขาม ทว่าฉันดันกลับรู้สึกสบายใจที่ได้คุยกับเขา
“พาฉันไปขายที่ซ่องค่ะ”
“!”
“ตอนนั้นฉันยังเด็ก ตอนนี้ฉันโตแล้วก็คงอีกไม่นาน” คุณองศามีสีหน้า ที่เรียบนิ่งกว่าเดิม แหงสิ คงจะตกใจไม่น้อยที่แม้แต่ป้าก็ยังทำกับฉันได้ลงคอ เคยพาฉันไปเร่ขายตามซ่องด้วยนะ แต่เขาไม่รับซื้อเพียงเพราะว่าฉันยังเด็ก และเวลานี้ฉันโตเป็นสาวสวยสะพรั่ง อีกไม่นานหรอกฉันคงหนีออกมาไม่พ้นแน่ “ฉันเคยท้อนะคะ ท้อจนอยากจะตายๆ ไปซะจะได้ไม่ต้องเจ็บปวด”
“เธอยังตายไม่ได้” ผละสายตาจากมือที่กอบกุมกันจนเนื้อบุ๋มเป็นรอยเล็บจิก “มากับฉัน”
“คะ?”
“ลุกขึ้นไปล้างหน้าล้างตา”
“คุณองศา จะทำอะไรคะ”
“อย่าถาม ทำตามที่ฉันสั่ง”