คิดถึง 6
ราชสิงห์เหลือบมองนาฬิกาบนข้อมือเมื่อเห็นว่าใกล้ถึงเวลาแล้ว เขาก็รีบปิดแฟ้มเอกสารบนโต๊ะ ลุกขึ้นไปคว้ากุญแจรถ
“รีบไปไหนวะไอ้สิง”
เสือเปิดประตูเข้ามาเห็นน้องชายกำลังมีท่าทางรีบร้อนเลยเอ่ยทัก
“ไปมหาลัย”
“กูรู้สึกว่ามึงจบมานานแล้วนะ อ่อคงไป...”
“อย่าเสือก ไปเอาเรื่องตัวเองให้รอดก่อนไหม”
“เหอะ กูไม่ใช่คนเจ้าแผนการแบบมึง อย่านึกว่ากูไม่รู้ว่ามึงให้คนไปทำให้รถน้องเขาเสีย”
สิ่งที่เสือพูดเป็นเรื่องจริง เพราะหลังจากที่เขาจูบกับพอเพียงวันนั้น ดูเหมือนความต้องการเขาก็เพิ่มขึ้นแบบทวีคูณ
คงรอให้ครบสองอาทิตย์ตามที่เขาบอกไว้ไม่ได้แล้ว
“มึงต้องการอะไรเสือ”
ราชสิงห์ถามพี่ชายตัวเองนิ่ง เขาให้คนไปทำให้รถพอเพียงเสียอีกครั้ง เพราะครั้งก่อนลูกน้องเขาดันจำรถผิดคัน
และมันก็ได้ผล เขาได้ไปรับ ไปส่งพอเพียงตามแผนซึ่งจะให้มันพังลงเพราะพี่ชายจอมเจ้าเล่ห์ของเขาไม่ได้
“คนอย่างพี่ชายไม่ต้องการอะไรหรอกน้องสิง”
เสือเข้ามาตบบ่าน้องชายด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์
“เอาสิ ถ้าเรื่องนี้ถึงหูพอเพียง เรื่องที่มึงแอบไปแดกเหล้าเมื่อวานจะถึงหูคุณพยาบาลมึงเหมือนกัน”
รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของเสือแปรเปลี่ยนเป็นบึ้งตึงแทบทันที
“ไอ้น้องเลว”
“หึ พี่ชายเริ่มก่อนนะครับ”
“เหอะ อย่างน้อยกูก็ไม่เคยไปพังรถใครละวะ”
“ผมก็ไม่เคยสำออยเพราะแผลโดนยิงแค่นี้เหมือนกัน กลางคืนแดกเหล้า กลางวันอ้อนเมีย หึ”
เสืออ้าปากพะงาบๆ มองราชสิงห์เดินออกจากห้องไปอย่างเจ็บใจเพราะไม่มีอะไรจะเถียงน้องชายตัวเอง
‘เลิกกี่โมง?’
‘5 โมงค่ะ’
‘อืม เดี๋ยวมารับ’
‘ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณมากนะคะ’
‘ถ้า 5 โมงฉันไม่เห็นเธอ เราจะได้เห็นดีกัน’
บทสนทนาก่อนลงจากรถเมื่อตอนบ่ายเป็นเหตุให้พอเพียงจำต้องมายืนรอคนเผด็จการอยู่ที่เดิมที่เขามาส่ง
“อ้าวพอเพียง ยังไม่กลับบ้านเหรอ”
“สวัสดีค่ะนิกกี้”
นิกกี้เป็นเพื่อนต่างคณะของเธอ ทั้งคู่รู้จักกันตอนประกวดดาวเดือน
“ขมิ้นบอกว่ารถพอเพียงเสีย ให้เราไปส่งไหม”
“คงไม่ต้อง”
พอเพียงไม่ทันได้ตอบออกไป สิงที่เดินเข้ามายืนซ้อนอยู่ด้านหลังเธอตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ เป็นคนตอบออกไปแทน
ถ้าเขาตอบเฉยๆ คงไม่มีปัญหาเท่าไรหรอก แต่นี่เขาเล่นเอามือมาโอบไหล่เธอไว้ด้วย
“คุณสิง”
“จะกลับกันได้รึยัง”
ราชสิงห์ไม่ได้หันมองหน้าคนในอ้อมกอดแต่ทว่าเขากลับมองผู้ชายอีกคนตรงหน้าแทน
“นิกกี้คะ ยังไงฉันต้องขอตัวก่อนนะคะ”
“เอ่อ ครับ”
นิกกี้พยายามหลบสายตาราชสิงห์ หันไปพูดกับพอเพียงแทน
“ไปค่ะคุณสิง”
“ก็เดินไปสิ”
แต่เหมือนสิงยังคาใจเกี่ยวกับนิกกี้ เขาไม่ยอมละสายตาหรือขยับแม้แต่น้อยจนพอเพียงต้องชะโงกหน้ามองเขา
“พอเพียงไม่รู้หรอกนะคะว่ารถคุณจอดอยู่ตรงไหน”
“เหอะ”
ราชสิงห์ส่งสายตาเป็นสัญญาณเตือนนิกกี้เป็นครั้งสุดท้ายซึ่งนิกกี้รับรู้ถึงมันได้ดี สงสัยครั้งนี้เขาคงต้องถอยจากพอเพียงแล้วจริงๆ
ถ้าคู่ต่อสู้จะน่ากลัวขนาดนี้ เขาคงสู้ไม่ไหว
“โอ๊ะ คุณสิงหยุดเดินทำไมคะ”
ร่างบางเกือบเสียหลัก เมื่ออยู่ๆ คนที่โอบไหล่เธอก็หยุดเดินกะทันหัน
ว่าแต่นี่เธอปล่อยให้เขาโอบไหล่ได้ยังไงกัน
“คุณสิงช่วยเอามือออกจากไหล่พอเพียงด้วยค่ะ”
“ไอ้ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร”
ราชสิงห์ไม่สนใจทำตามที่เธอพูด ถามคำถามที่ตัวเองอยากรู้แทน
“คุณสิงไม่ควรเรียกคนอื่นว่าไอ้นะคะ”
พอเพียงปรามด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลแต่นั่นก็เพียงพอที่จะทำให้อีกคนเกรงใจ
“อือ แล้วตกลงมันเป็นใคร”
“เรียก มัน ก็ไม่ดีนะคะ”
ราชสิงห์แทบอยากเอาหัวโขกประตูรถ
พูดคำหยาบมาทั้งชีวิต วันนี้กลับต้องมาฟังผู้หญิงตักเตือนเรื่องคำหยาบเสียอย่างนั้น
“ตอบคำถามมาสักทีเถอะ”
“นิกกี้เป็นเพื่อนที่เคยประกวดดาวเดือนด้วยกันค่ะ ทำไมหรือคะ คุณสิงอยากรู้จักเหรอ”
“ฉันจะไปอยากรู้จักมันทำไม แต่ถ้ามันยังมาวอแวเธอ คงต้องทำความรู้จักสักหน่อย”
“ทำไมคะ? พอเพียงไม่เข้าใจค่ะ”
แววตาใสซื่อของพอเพียงเป็นเครื่องยืนยันว่าเธอไม่เข้าใจสิ่งที่เขาพูดจริงๆ
“ช่างมันเถอะ อยากกินอะไร”
ราชสิงห์ถามหลังจากทั้งคู่เข้ามานั่งในรถเรียบร้อยแล้ว
“หือ เรามีนัดทานข้าวกันเหรอคะ?”
คิ้วสวยเลิกขึ้นด้วยความสงสัย ถ้าเป็นคนอื่นราชสิงห์คงคิดว่ากวนตีนแต่พอหันไปมองหน้าใสๆ นั่นก็ทำให้รู้เลยว่า เมียเขาคนนี้ไม่ได้กวนตีนแต่ซื่อต่างหาก
“เปล่าแต่ฉันหิว”
ราชสิงห์ตัดสินใจทุกอย่างเองเสร็จสรรพ เขาพาพอเพียงแวะร้านเสื้อผ้าแบรนด์ดังเพื่อเปลี่ยนจากชุดนักศึกษาเป็นชุดปกติ
“ครั้งหน้าไม่เอาแบบนี้แล้วนะคะ”
“แบบไหน”
“ก็แบบที่คุณลากพอเพียงไปไหนมาไหนตามใจชอบแบบนี้”
“เธอก็ไม่ปฏิเสธนี่”
ริมฝีปากอวบอิ่มเม้มเข้าหากัน เธอเองก็เถียงไม่ออกในข้อนี้ ใช่ว่าเธอไม่พยายามปฏิเสธแต่เป็นเขาเองต่างหากที่ไม่เปิดช่องว่างให้เธอปฏิเสธเลย
หรืออันที่จริงเธอใจอ่อนให้ราชสิงห์โดยไม่รู้ตัวไปแล้ว
“เอาน่า ยอมรับเถอะว่าห้าวันที่ผ่านมาเธอคิดถึงฉัน”
“ทำไมพอเพียงต้องคิดถึงคะ”
“เพราะฉันก็คิดถึงเธอยังไงล่ะ พอเพียง”
พอเพียงเงียบลงกว่าเดิมหลังจากประโยคบอกคิดถึงของราชสิงห์ ซึ่งราชสิงห์เองก็ไม่ได้เซ้าซี้อะไร บางทีปล่อยให้เธอคิดทบทวนดูบ้างก็ดี
“พอเพียง”
ราชสิงห์เรียกชื่อคนด้านข้างเมื่อเห็นเธอยังนั่งนิ่งอยู่ตรงเบาะข้างคนขับ
“...”
“พอเพียง”
เขาเรียกชื่อเธอดังขึ้นอีกครั้ง
“คะ คะ มีอะไรคะ”
“จะเหม่ออีกนานไหม ฉันหิว”
ขาเรียวรีบก้าวลงจากรถแทบทันที ท่าทางน่ารักของเธอทำเอาราชสิงห์ถึงกับกลั้นขำ
หน้าตาก็สวย กริยาก็น่ารัก ให้มันได้อย่างนี้สิเมียราชสิงห์
ราชสิงห์คว้ามือเล็กมาจับไว้ก่อนจะเดินเข้าไปในร้านอาหารชื่อดังแห่งหนึ่ง
“สวัสดีครับคุณราชสิงห์”
ราชสิงห์ค่อนข้างเป็นที่รู้จักในแวดวงธุรกิจ จึงไม่แปลกที่เขาจะเจอคนรู้จักในสถานที่แบบนี้
“สวัสดีครับคุณอดัย”
“ไม่ค่อยเห็นคุณสิงควงผู้หญิงเลยนะครับ”
อดัยเอ่ยแซว สายตาจับจ้องไปยังสาวสวยข้างกายราชสิงห์
“สวัสดีค่ะ”
พอเพียงยกมือขึ้นไหว้ตามมารยาท แต่มันดูอ่อนน้อมจนอดัยรับไหว้แทบไม่ทัน
“สวัสดีครับ นี่อย่าบอกนะครับว่า...”
“ครับ นี่พอเพียง ภรรยาผมเอง”
ถึงแม้จะไม่ค่อยชอบใจคำพูดของราชสิงห์แต่พอเพียงก็มีมารยาทพอที่จะไม่โวยวายเพื่อเป็นการหักหน้าเขา
ซึ่งนั่นทำให้ราชสิงห์พอใจไม่น้อย อย่างน้อยถึงก่อนหน้านี้เธอจะเมินเขา ไม่เขาเต็มใจที่จะอยู่กับเขาสักเท่าไรแต่เธอก็ไม่ทำให้เขาเสียหน้าต่อหน้าคนอื่น
“คุณสิงทำแบบนี้ทำไมคะ”
พอเพียงถามขึ้นเมื่อทั้งคู่สั่งอาหารเรียบร้อยแล้วและกำลังนั่งรออาหาร
“ก็เธอเป็นเมียฉัน” ราชสิงห์ตอบหน้าตาย
“แต่พอเพียงยังไม่ตกลงเลยนะคะ”
“อืม ตกลงซะสิ”
“ไม่ค่ะ เรื่องนี้มันไม่สมเหตุสมผลเลย”
“เหตุผลคือฉันเสียตัวให้เธอแล้ว และฉันอยากได้เธอเป็นเมียจริงๆ เหตุผลแค่นี้พอไหม”
“คุณสิง!”