EPISODE 5 กลับมาทวงเมีย

1583 Words
กลับมาทวงเมีย 5 พอเพียง คือลูกสาวคนเล็กของตระกูลออเกรย์ฮาวด์ ครอบครัวของเธออาศัยอยู่ในประเทศอังกฤษ ตอนนี้มีเพียงเธอเท่านั้นที่ยังอยู่ที่เมืองไทย พอเพียง เป็นหญิงสาวที่ถูกอบรมมาอย่างดี เธอจึงเป็นคนใจเย็น สงบ และค่อนข้างเรียบร้อยเข้ากับหน้าตาสละสวยราวกับเจ้าหญิงในเทพนิยายของเธอ ดวงตาสีเฮเซลที่ได้จากพ่อชาวอังกฤษของเธอยิ่งทำให้เธอมีเสน่ห์ เธอถึงชอบใส่แว่นสายตาเพื่อบดบังความงามของดวงตาแทนจะใส่คอนแทคเลนส์เนื่องจากหลายครั้งที่เธอมักมีปัญหากับความสวยงามเกินเรื่องเกินราวของมัน “ลืมซื้อคอนเทคเลนส์อีกแล้วเหรอเนี่ย” หญิงสาวพึมพำกับตัวเอง ส่วนใหญ่เธอจะใส่แว่นแต่แว่นนั่นเธอคิดว่า เธอทำมันตกในห้องน้ำของราชสิงห์และเธอไม่มีความคิดจะไปเอามันแน่นอน “เพราะคุณแท้ๆ เลย ฮึ่ย” ตั้งแต่จูบสุดท้ายวันนั้น พอเพียงก็ไม่เคยเลิกคิดถึงเจ้าของจูบนั่นได้ อีกทั้งเรื่องที่เกิดขึ้นตอนเจอกันวันแรกนั่นยิ่งไม่สามารถลบออกไปได้เลย “เลิกคิดถึงคนร้ายกาจแบบนั้นนะพอเพียง” มือเล็กตบหน้าตัวเบาๆ เพื่อเรียกสติกลับมา เธอรู้จากพิมพา หญิงสาวรุ่นพี่ของเธอว่าราชสิงห์เป็นน้องชายของเสือ คนที่พิมพาให้ไปดูแลแทนวันนั้น เรื่องวันนั้นเธอเลือกที่จะบอกพิมพาไม่หมด เธอบอกแค่ว่าเธอเข้าห้องผิด เข้าไปในห้องราชสิงห์ไม่ใช่ห้องของเสือแต่เธอไม่บอกว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นในห้องนั้น บอกเพียงว่าราชสิงห์พูดจาไม่ดีกับเธอ เธอเลยกลับบ้านมา “เฮ้อ ทำยังไงคุณถึงจะออกไปจากหัวฉันนะ” เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนั้นไม่ใช่ว่าพอเพียงไม่โกรธ เธอโกรธเขามากแต่จะโทษเขาฝ่ายเดียวก็ไม่ถูกเพราะเธอเองก็หักห้ามใจตัวเองไม่ได้เหมือนกัน “นี่ผ่านมาแล้วห้าวันที่คุณสิงหายไป อีกไม่กี่วันเธอก็จะลืมเขาได้แล้วพอเพียง” หญิงสาวให้กำลังใจตัวเองในกระจกอีกครั้งก่อนจะเดินไปหยิบกระเป๋าเพื่อไปมหาวิทยาลัย เธอเดินลงมาบริเวณชั้นล่างของเพนต์เฮาส์ “พอเพียงมานี่หน่อย” ขมิ้น สาวน้อยน่ารัก ผมสั้นเลยติ่งหูมานิดเดียว ทำให้เธอดูเหมือนเด็กประถามมากกว่าเด็กมหาลัยปี 4 เธอเป็นเพื่อนต่างคณะของพอเพียง พวกเธอรู้จักกันตอนปี 1 และพอเพียงขอมาแชร์บ้านอยู่กับเธอหลังจากที่พอเพียงขออนุญาตออกมาใช้ชีวิตเองสำเร็จ “ทำอะไรน่ะขมิ้น” “แกงเขียวหวาน ลองชิมหน่อย” พอเพียงระบายยิ้มออกมา รับช้อนมาชิมแกงของเพื่อน “เป็นไงๆ” “เอ่อ พอเพียงว่ามันจืดไปนิดนะ” “เหรอ” “อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิ มันดีอยู่” “ดีอยู่แปลว่าไม่ดีสินะ” “ฮ่าๆ พอเพียงแปลว่าดีจริงๆ แต่แค่จืดไปเท่านั้นเอง ขมิ้นปรุงอีกนิดรับรองอร่อยแน่นอน ^_^” “เธอนี่ช่างเป็นพลังบวกของชาวโลกจริงๆ” ขมิ้นยิ้มกลับ ตั้งแต่เธอรู้จักพอเพียงมา เธอรู้สึกได้เลยว่า เธอมองโลกในแง่ดีขึ้น นี่สินะที่เขาบอกว่า อยู่กับคนคิดบวก ชีวิตเราก็จะบวกไปด้วย “แล้วพี่พิมพาล่ะ” พอเพียงเอ่ยถามถึงหญิงสาวรุ่นพี่อีกคนที่อยู่เพนต์เฮาส์เดียวกับพวกเธอ ทั้งสามคนอยู่ในเพนต์เฮาส์เดียวกันโดยมีพิมพาเป็นเจ้าของ ด้วยความที่เพนต์เฮาส์ใหญ่มากมีถึงสองชั้น สามห้องนอน พิมพาเลยตัดสินใจให้คนเข้ามาเช่าโดยเธอจะเป็นคนเลือกผู้เช่าเอง ฉะนั้น มีเงินอย่างเดียวก็ใช่ว่าจะเข้ามาได้ “เห็นบอกไปดูแลคนไข้ที่ชื่อเสืออะไรนั่นน่ะ” ชื่อเสือทำให้พอเพียงเผลอคิดถึงอีกคน เกิดอาการเหม่อลอยจนขมิ้นต้องเอ่ยถาม “เป็นอะไรรึเปล่าพอเพียง” “เปล่าจ้ะ พอเพียงไปมอก่อนนะ” “ให้ไปส่งไหม รถเธอซ่อมอยู่ไม่ใช่เหรอ” “ไม่เป็นไรเลย พอเพียงว่าจะลองนั่งรถเมล์” “ไหวเหรอพอเพียง” ขมิ้นถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง เธอรู้ดีว่าพอเพียงถูกเลี้ยงมาอย่างไร “แน่นอนแค่สามป้ายเองใช่ไหม แบ่งแกงเขียวหวานไว้ให้พอเพียงด้วยนะ เดี๋ยวจะกลับมากิน” พอเพียงยิ้มกว้าง รีบเดินออกไปกลัวว่าเพื่อนตัวเองจะเปลี่ยนใจ หญิงสาวไม่มีทางพลาดโอกาสได้ลองนั่งรถเมล์แน่นอน “ก้าวเลยพี่ ให้ไว ให้ไว” บรรยากาศบริเวณป้ายรถเมล์ไม่ได้เป็นอย่างที่พอเพียงคิดไว้สักนิด เธอเคยขึ้นรถเมล์ในต่างประเทศ ซึ่งสถานที่รอรถเมล์และสภาพรถดูปลอดภัยกว่านี้หลายเท่า “64 จอดหน้ามอ จอดบีทีเอส เชิญเลยค่า” พอเพียงกะพริบตาสองครั้ง เธอจำได้ว่าเธอต้องขึ้นรถเมล์สาย 64 แต่สภาพรถเมล์คล้ายกระป๋องวิ่งได้นั่นทำให้เธอไม่กล้าก้าวขึ้นไป “ภาษีก็เก็บทุกเดือน ทำไมสภาพรถถึงเป็นอย่างนี้นะ” หญิงสาวตัดสินใจไม่ก้าวขึ้นไป เธอยืนถอนหายใจมองรถเมล์คันนั้นวิ่งไปพร้อมปล่อยควันดำฟุ้งไปทั่วท้องถนน สุดท้ายพอเพียงตัดสินใจเดินไปมหาลัยด้วยตัวเอง “ใช่ทางนี้รึเปล่านะ” ขณะที่พอเพียงกำลังหันซ้าย หันขวาอยู่นั่นเองก็มีรถซูเปอร์คาร์สีดำเงาวับมาจอดเทียบฟุตบาท กระจกรถลดลงเผยให้เห็นใบหน้าหล่อคมของคนขับ “ขึ้นมา” พอเพียงกะพริบตาปริบๆ เพ่งมองคนในรถอีกครั้งเพราะวันนี้เธอไม่ได้ใส่คอนแทคเลนส์แถมแว่นก็ยังไม่ได้ไปตัดใหม่ “พอเพียง บอกให้ขึ้นมา” “คุณ!” “นับหนึ่งถึงห้า ถ้ายังไม่ขึ้นมา ฉันจะลงไปปล้ำเธอ” ดวงตากลมโตเบิกกว้าง รีบเปิดประตูรถขึ้นไปนั่งโดยไม่ทันได้คิดไตร่ตรองให้ดี “หึ กลัวฉันปล้ำขนาดนั้นเลยรึไง” สิงแกล้งแซวคนขี้ตกใจ “หยุดพูดเถอะค่ะ ขอร้อง” ใบหน้าสวยเต็มไปด้วยความหนักใจ เรื่องในวันนั้นทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจเลยและยิ่งไม่สบายใจเพิ่มขึ้นเมื่อเขามาพูดเล่นทำนองนี้ “จะไปไหน?” สิงเลยเลือกที่จะเปลี่ยนเรื่อง ถามถึงที่หมายของเธอแทน “มหาลัยค่ะ” ความเงียบปกคลุมไปทั่วทั้งรถ เป็นเวลากว่าห้านาทีที่ไม่มีใครพูดออกมา “ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ” “ค่ะ” พอเพียงตอบทั้งที่ไม่มองคู่สนทนา เธอเบนหน้ามองออกไปนอกหน้าต่าง “ฉันส่งข้อความไป ทำไมไม่ตอบ” พอเพียงเหลือบสายตามองสิงเล็กน้อยก่อนจะหยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมาเปิดดู “ถาม ไม่ได้ยินรึยังไง” “ฉันไม่ทราบว่าข้อความไหนเป็นข้อความคุณค่ะ” “ทำไม คนส่งข้อความหาเธอเยอะมากรึไง” “ก็ไม่เชิงค่ะ” จะว่ามากก็ได้เพราะเธอได้รับข้อความส่งมาขายขนมจีบให้เธอทุกวัน ซึ่งเธอชินเสียแล้วและไม่เคยได้เปิดอ่านข้อความเหล่านั้นเลย เอี๊ยด ดูเหมือนสิ่งที่เธอคิดว่าปกติจะไม่ปกติสำหรับใครบางคน ราชสิงห์หักพวงมาลัยเข้าข้างทางกะทันหันจนผู้โดยสารด้านข้างตั้งตัวแทบไม่ทัน “คุณไม่ควรขับรถแบบนี้นะคะ มันอันตราย อุ๊บ>x<” ริมฝีปากร้อนกดลงบนริมฝีปากอ่อนนุ่มรุนแรง พอเพียงรับรู้ได้ถึงความไม่พอใจของราชสิงห์ก่อนจะเปลี่ยนเป็นความหวานที่สอดแทรกด้วยความร้อนแรงจนเธอแทบละลาย “พะ...พอแล้วค่ะ” ราชสิงห์ยอมผละออกแม้จะยังไม่อยากปล่อยเธอ “เอามือถือมา” “มือถือฉัน?” “เออ เอามา” พอเพียงยื่นโทรศัพท์เครื่องบางไปตรงหน้า ราชสิงห์คว้ามันมากดด้วยใบหน้าหงุดหงิด “ไอ้พวกที่ส่งหาเธอมันเป็นใคร!” ไหล่เล็กห่อเข้าหากันราวกับจะแทรกเข้าไปในซอกหลืบของเบาะ เธอไม่รู้ว่าราชสิงห์หงุดหงิดอะไรและไม่รู้ว่าเขามีสิทธิอะไรมาทำแบบนี้ด้วย แต่สิ่งที่รับรู้ได้ตอนนี้คือ เขาน่ากลัวมาก “ฉันถามทำไมไม่ตอบ!” “พอเพียงไม่รู้ค่ะ” หญิงสาวรีบปฏิเสธรัวเร็ว ให้ตายเถอะ เธอพยายามจะควบคุมตัวเองให้สงบนิ่งเหมือนก่อนหน้านี้แต่เธอไม่เคยเจอใครดุขนาดนี้เลย “แล้วเธอให้เบอร์พวกมันรึไง” “เปล่าค่ะ” เสียงหวานเริ่มสั่น พอเพียงรู้สึกราวกับตัวเองกำลังจะถูกสิงโตขย้ำ “ฉันจะเก็บมือถือเธอไว้ เธอเอาของฉันไปใช้” ราชสิงห์พูดขณะยื่นมือถือของตัวเองให้เธอ “ไม่ได้นะคะ คุณไม่มีสิทธิทำแบบนี้” ดวงตาดุดันเหลือบมองดวงหน้าสวยของคนด้านข้างก่อนจะโน้มตัวเข้าหาเธอ ใช้แขนแกร่งสองข้างกักขังร่างเธอไว้ “ฉันน่ะ มีสิทธิอยู่แล้วสาวน้อย” มือหนาจับคางมนให้เชิดขึ้นมองเขาและกดจูบย้ำถึงสิทธิตัวเอง “ฉันเป็นผัวเธอจำไม่ได้รึไง” “ไม่ใช่นะ” ริมฝีปากอวบอิ่มเม้มเข้าหากัน เรื่องวันนั้น เขากับเธอก็แค่... “เข้าสุดขนาดนั้นยังไงก็ผัว หรือว่าเธอจะเถียง” “หยุดพูดนะ คนลามก” “หึหึ ฉันปล่อยเธอมานานพอแล้ว ต่อไปนี้ก็เตรียมใจให้ดี” “เตรียมใจอะไรคะ?” “เตรียมใจสำหรับการเป็นเมียราชสิงห์ไงครับน้องพอเพียง”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD