กลับมาทวงเมีย 5
พอเพียง คือลูกสาวคนเล็กของตระกูลออเกรย์ฮาวด์ ครอบครัวของเธออาศัยอยู่ในประเทศอังกฤษ ตอนนี้มีเพียงเธอเท่านั้นที่ยังอยู่ที่เมืองไทย
พอเพียง เป็นหญิงสาวที่ถูกอบรมมาอย่างดี เธอจึงเป็นคนใจเย็น สงบ และค่อนข้างเรียบร้อยเข้ากับหน้าตาสละสวยราวกับเจ้าหญิงในเทพนิยายของเธอ
ดวงตาสีเฮเซลที่ได้จากพ่อชาวอังกฤษของเธอยิ่งทำให้เธอมีเสน่ห์ เธอถึงชอบใส่แว่นสายตาเพื่อบดบังความงามของดวงตาแทนจะใส่คอนแทคเลนส์เนื่องจากหลายครั้งที่เธอมักมีปัญหากับความสวยงามเกินเรื่องเกินราวของมัน
“ลืมซื้อคอนเทคเลนส์อีกแล้วเหรอเนี่ย”
หญิงสาวพึมพำกับตัวเอง ส่วนใหญ่เธอจะใส่แว่นแต่แว่นนั่นเธอคิดว่า เธอทำมันตกในห้องน้ำของราชสิงห์และเธอไม่มีความคิดจะไปเอามันแน่นอน
“เพราะคุณแท้ๆ เลย ฮึ่ย”
ตั้งแต่จูบสุดท้ายวันนั้น พอเพียงก็ไม่เคยเลิกคิดถึงเจ้าของจูบนั่นได้ อีกทั้งเรื่องที่เกิดขึ้นตอนเจอกันวันแรกนั่นยิ่งไม่สามารถลบออกไปได้เลย
“เลิกคิดถึงคนร้ายกาจแบบนั้นนะพอเพียง”
มือเล็กตบหน้าตัวเบาๆ เพื่อเรียกสติกลับมา
เธอรู้จากพิมพา หญิงสาวรุ่นพี่ของเธอว่าราชสิงห์เป็นน้องชายของเสือ คนที่พิมพาให้ไปดูแลแทนวันนั้น
เรื่องวันนั้นเธอเลือกที่จะบอกพิมพาไม่หมด เธอบอกแค่ว่าเธอเข้าห้องผิด เข้าไปในห้องราชสิงห์ไม่ใช่ห้องของเสือแต่เธอไม่บอกว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นในห้องนั้น บอกเพียงว่าราชสิงห์พูดจาไม่ดีกับเธอ เธอเลยกลับบ้านมา
“เฮ้อ ทำยังไงคุณถึงจะออกไปจากหัวฉันนะ”
เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนั้นไม่ใช่ว่าพอเพียงไม่โกรธ เธอโกรธเขามากแต่จะโทษเขาฝ่ายเดียวก็ไม่ถูกเพราะเธอเองก็หักห้ามใจตัวเองไม่ได้เหมือนกัน
“นี่ผ่านมาแล้วห้าวันที่คุณสิงหายไป อีกไม่กี่วันเธอก็จะลืมเขาได้แล้วพอเพียง”
หญิงสาวให้กำลังใจตัวเองในกระจกอีกครั้งก่อนจะเดินไปหยิบกระเป๋าเพื่อไปมหาวิทยาลัย
เธอเดินลงมาบริเวณชั้นล่างของเพนต์เฮาส์
“พอเพียงมานี่หน่อย”
ขมิ้น สาวน้อยน่ารัก ผมสั้นเลยติ่งหูมานิดเดียว ทำให้เธอดูเหมือนเด็กประถามมากกว่าเด็กมหาลัยปี 4
เธอเป็นเพื่อนต่างคณะของพอเพียง พวกเธอรู้จักกันตอนปี 1 และพอเพียงขอมาแชร์บ้านอยู่กับเธอหลังจากที่พอเพียงขออนุญาตออกมาใช้ชีวิตเองสำเร็จ
“ทำอะไรน่ะขมิ้น”
“แกงเขียวหวาน ลองชิมหน่อย”
พอเพียงระบายยิ้มออกมา รับช้อนมาชิมแกงของเพื่อน
“เป็นไงๆ”
“เอ่อ พอเพียงว่ามันจืดไปนิดนะ”
“เหรอ”
“อย่าทำหน้าอย่างนั้นสิ มันดีอยู่”
“ดีอยู่แปลว่าไม่ดีสินะ”
“ฮ่าๆ พอเพียงแปลว่าดีจริงๆ แต่แค่จืดไปเท่านั้นเอง ขมิ้นปรุงอีกนิดรับรองอร่อยแน่นอน ^_^”
“เธอนี่ช่างเป็นพลังบวกของชาวโลกจริงๆ”
ขมิ้นยิ้มกลับ ตั้งแต่เธอรู้จักพอเพียงมา เธอรู้สึกได้เลยว่า เธอมองโลกในแง่ดีขึ้น
นี่สินะที่เขาบอกว่า อยู่กับคนคิดบวก ชีวิตเราก็จะบวกไปด้วย
“แล้วพี่พิมพาล่ะ”
พอเพียงเอ่ยถามถึงหญิงสาวรุ่นพี่อีกคนที่อยู่เพนต์เฮาส์เดียวกับพวกเธอ
ทั้งสามคนอยู่ในเพนต์เฮาส์เดียวกันโดยมีพิมพาเป็นเจ้าของ ด้วยความที่เพนต์เฮาส์ใหญ่มากมีถึงสองชั้น สามห้องนอน พิมพาเลยตัดสินใจให้คนเข้ามาเช่าโดยเธอจะเป็นคนเลือกผู้เช่าเอง
ฉะนั้น มีเงินอย่างเดียวก็ใช่ว่าจะเข้ามาได้
“เห็นบอกไปดูแลคนไข้ที่ชื่อเสืออะไรนั่นน่ะ”
ชื่อเสือทำให้พอเพียงเผลอคิดถึงอีกคน เกิดอาการเหม่อลอยจนขมิ้นต้องเอ่ยถาม
“เป็นอะไรรึเปล่าพอเพียง”
“เปล่าจ้ะ พอเพียงไปมอก่อนนะ”
“ให้ไปส่งไหม รถเธอซ่อมอยู่ไม่ใช่เหรอ”
“ไม่เป็นไรเลย พอเพียงว่าจะลองนั่งรถเมล์”
“ไหวเหรอพอเพียง”
ขมิ้นถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง เธอรู้ดีว่าพอเพียงถูกเลี้ยงมาอย่างไร
“แน่นอนแค่สามป้ายเองใช่ไหม แบ่งแกงเขียวหวานไว้ให้พอเพียงด้วยนะ เดี๋ยวจะกลับมากิน”
พอเพียงยิ้มกว้าง รีบเดินออกไปกลัวว่าเพื่อนตัวเองจะเปลี่ยนใจ
หญิงสาวไม่มีทางพลาดโอกาสได้ลองนั่งรถเมล์แน่นอน
“ก้าวเลยพี่ ให้ไว ให้ไว”
บรรยากาศบริเวณป้ายรถเมล์ไม่ได้เป็นอย่างที่พอเพียงคิดไว้สักนิด
เธอเคยขึ้นรถเมล์ในต่างประเทศ ซึ่งสถานที่รอรถเมล์และสภาพรถดูปลอดภัยกว่านี้หลายเท่า
“64 จอดหน้ามอ จอดบีทีเอส เชิญเลยค่า”
พอเพียงกะพริบตาสองครั้ง เธอจำได้ว่าเธอต้องขึ้นรถเมล์สาย 64 แต่สภาพรถเมล์คล้ายกระป๋องวิ่งได้นั่นทำให้เธอไม่กล้าก้าวขึ้นไป
“ภาษีก็เก็บทุกเดือน ทำไมสภาพรถถึงเป็นอย่างนี้นะ”
หญิงสาวตัดสินใจไม่ก้าวขึ้นไป เธอยืนถอนหายใจมองรถเมล์คันนั้นวิ่งไปพร้อมปล่อยควันดำฟุ้งไปทั่วท้องถนน
สุดท้ายพอเพียงตัดสินใจเดินไปมหาลัยด้วยตัวเอง
“ใช่ทางนี้รึเปล่านะ”
ขณะที่พอเพียงกำลังหันซ้าย หันขวาอยู่นั่นเองก็มีรถซูเปอร์คาร์สีดำเงาวับมาจอดเทียบฟุตบาท
กระจกรถลดลงเผยให้เห็นใบหน้าหล่อคมของคนขับ
“ขึ้นมา”
พอเพียงกะพริบตาปริบๆ เพ่งมองคนในรถอีกครั้งเพราะวันนี้เธอไม่ได้ใส่คอนแทคเลนส์แถมแว่นก็ยังไม่ได้ไปตัดใหม่
“พอเพียง บอกให้ขึ้นมา”
“คุณ!”
“นับหนึ่งถึงห้า ถ้ายังไม่ขึ้นมา ฉันจะลงไปปล้ำเธอ”
ดวงตากลมโตเบิกกว้าง รีบเปิดประตูรถขึ้นไปนั่งโดยไม่ทันได้คิดไตร่ตรองให้ดี
“หึ กลัวฉันปล้ำขนาดนั้นเลยรึไง”
สิงแกล้งแซวคนขี้ตกใจ
“หยุดพูดเถอะค่ะ ขอร้อง”
ใบหน้าสวยเต็มไปด้วยความหนักใจ เรื่องในวันนั้นทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจเลยและยิ่งไม่สบายใจเพิ่มขึ้นเมื่อเขามาพูดเล่นทำนองนี้
“จะไปไหน?”
สิงเลยเลือกที่จะเปลี่ยนเรื่อง ถามถึงที่หมายของเธอแทน
“มหาลัยค่ะ”
ความเงียบปกคลุมไปทั่วทั้งรถ เป็นเวลากว่าห้านาทีที่ไม่มีใครพูดออกมา
“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ”
“ค่ะ”
พอเพียงตอบทั้งที่ไม่มองคู่สนทนา เธอเบนหน้ามองออกไปนอกหน้าต่าง
“ฉันส่งข้อความไป ทำไมไม่ตอบ”
พอเพียงเหลือบสายตามองสิงเล็กน้อยก่อนจะหยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมาเปิดดู
“ถาม ไม่ได้ยินรึยังไง”
“ฉันไม่ทราบว่าข้อความไหนเป็นข้อความคุณค่ะ”
“ทำไม คนส่งข้อความหาเธอเยอะมากรึไง”
“ก็ไม่เชิงค่ะ”
จะว่ามากก็ได้เพราะเธอได้รับข้อความส่งมาขายขนมจีบให้เธอทุกวัน ซึ่งเธอชินเสียแล้วและไม่เคยได้เปิดอ่านข้อความเหล่านั้นเลย
เอี๊ยด
ดูเหมือนสิ่งที่เธอคิดว่าปกติจะไม่ปกติสำหรับใครบางคน
ราชสิงห์หักพวงมาลัยเข้าข้างทางกะทันหันจนผู้โดยสารด้านข้างตั้งตัวแทบไม่ทัน
“คุณไม่ควรขับรถแบบนี้นะคะ มันอันตราย อุ๊บ>x<”
ริมฝีปากร้อนกดลงบนริมฝีปากอ่อนนุ่มรุนแรง พอเพียงรับรู้ได้ถึงความไม่พอใจของราชสิงห์ก่อนจะเปลี่ยนเป็นความหวานที่สอดแทรกด้วยความร้อนแรงจนเธอแทบละลาย
“พะ...พอแล้วค่ะ”
ราชสิงห์ยอมผละออกแม้จะยังไม่อยากปล่อยเธอ
“เอามือถือมา”
“มือถือฉัน?”
“เออ เอามา”
พอเพียงยื่นโทรศัพท์เครื่องบางไปตรงหน้า ราชสิงห์คว้ามันมากดด้วยใบหน้าหงุดหงิด
“ไอ้พวกที่ส่งหาเธอมันเป็นใคร!”
ไหล่เล็กห่อเข้าหากันราวกับจะแทรกเข้าไปในซอกหลืบของเบาะ
เธอไม่รู้ว่าราชสิงห์หงุดหงิดอะไรและไม่รู้ว่าเขามีสิทธิอะไรมาทำแบบนี้ด้วย แต่สิ่งที่รับรู้ได้ตอนนี้คือ เขาน่ากลัวมาก
“ฉันถามทำไมไม่ตอบ!”
“พอเพียงไม่รู้ค่ะ”
หญิงสาวรีบปฏิเสธรัวเร็ว
ให้ตายเถอะ เธอพยายามจะควบคุมตัวเองให้สงบนิ่งเหมือนก่อนหน้านี้แต่เธอไม่เคยเจอใครดุขนาดนี้เลย
“แล้วเธอให้เบอร์พวกมันรึไง”
“เปล่าค่ะ”
เสียงหวานเริ่มสั่น พอเพียงรู้สึกราวกับตัวเองกำลังจะถูกสิงโตขย้ำ
“ฉันจะเก็บมือถือเธอไว้ เธอเอาของฉันไปใช้”
ราชสิงห์พูดขณะยื่นมือถือของตัวเองให้เธอ
“ไม่ได้นะคะ คุณไม่มีสิทธิทำแบบนี้”
ดวงตาดุดันเหลือบมองดวงหน้าสวยของคนด้านข้างก่อนจะโน้มตัวเข้าหาเธอ ใช้แขนแกร่งสองข้างกักขังร่างเธอไว้
“ฉันน่ะ มีสิทธิอยู่แล้วสาวน้อย”
มือหนาจับคางมนให้เชิดขึ้นมองเขาและกดจูบย้ำถึงสิทธิตัวเอง
“ฉันเป็นผัวเธอจำไม่ได้รึไง”
“ไม่ใช่นะ”
ริมฝีปากอวบอิ่มเม้มเข้าหากัน เรื่องวันนั้น เขากับเธอก็แค่...
“เข้าสุดขนาดนั้นยังไงก็ผัว หรือว่าเธอจะเถียง”
“หยุดพูดนะ คนลามก”
“หึหึ ฉันปล่อยเธอมานานพอแล้ว ต่อไปนี้ก็เตรียมใจให้ดี”
“เตรียมใจอะไรคะ?”
“เตรียมใจสำหรับการเป็นเมียราชสิงห์ไงครับน้องพอเพียง”