ต่างคนต่างอยู่ 7
ถึงแม้เหตุผลของเขาจะมีผลต่ออัตราการเต้นของหัวใจพอเพียงไม่น้อยแต่เธอก็ยังควบคุมมันได้อยู่
“พอเพียงขอพูดตรงๆ นะคะ ว่าพอเพียงไม่ได้อยากเป็นเมีย เอ่อ ภรรยาคุณ”
“ครับ แล้วยังไง”
ราชสิงห์ไหวไหล่เล็กน้อย ไม่ได้สนใจคำพูดของเธอนัก
“มันก็หมายความว่าคุณไม่ควรทำแบบนี้และเราไม่ควรเจอกันอีกค่ะ”
“ถ้าฉันไม่ยอมล่ะ”
พอเพียงระบายยิ้มหวาน พูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลตามแบบฉบับเธอ
“ฉันคิดว่าคุณคงยอมนะคะเพราะคนอย่างราชสิงห์ไม่ชอบบังคับฝืนใจใครไม่ใช่เหรอคะ”
คนโดนยอกย้อนถึงกับสะอึกแต่ถึงอย่างนั้นราชสิงห์ก็ยังคงมาดนิ่งของตัวเองไว้ได้
“แล้วแต่เธอแล้วกัน”
ไม่รู้ทำไม คำตอบแบบไม่ใส่ใจของราชสิงห์ถึงทำให้พอเพียงรู้สึกใจหายแบบแปลกๆ
“เอาเป็นว่าเราเข้าใจตรงกันแล้วนะคะ”
“อืม”
บรรยากาศระหว่างทั้งคู่อึดอัดกว่าทุกครั้งที่พวกเขาเจอกัน พอเพียงเป็นฝ่ายทนต่อแรงกดดันนี้ไม่ไหวก่อน ขอตัวลุกออกไปเข้าห้องน้ำเพื่อหนีความกดดันตรงหน้า
“พอเพียงขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ”
ราชสิงห์ไม่ตอบเพียงแต่พยักหน้าเท่านั้น ลับหลังพอเพียง เธอไม่มีโอกาสได้รู้เลยว่า เขาแอบยกยิ้มมุมปากอย่างมีแผนการ
ส่วนพอเพียงเองก็สับสนในความรู้สึกของตัวเอง เธอควรโล่งใจที่ราชสิงห์ยอมออกไปจากชีวิตเธอง่ายๆไม่ใช่เหรอ แต่นี่อะไร เธอกลับรู้สึกเหมือนน้อยใจเสียอย่างนั้น
“ขอบคุณนะคะที่มาส่ง”
พอเพียงกล่าวขอบคุณเมื่อราชสิงห์ขับรถมาส่งเธอหลังจากที่ทั้งคู่รับประทานอาหารกันเสร็จ
“อืม”
ราชสิงห์รับคำในลำคอ ไม่ได้หันมองหน้าเธอเหมือนทุกครั้ง
ริมฝีปากบางเม้มเข้าหากันเล็กน้อยกับท่าทางเฉยชาของราชสิงห์แต่นี่เป็นสิ่งที่เธอเลือกเอง ฉะนั้น เธอไม่มีสิทธิมารู้สึกอะไรแบบนี้ทั้งนั้น
“โอ๊ย!”
ด้วยความใจลอย มือบางเลยกระแทกเข้ากับที่ล็อกเข็มขัดเพราะเธอดันกระชากมันผิดวิธี นอกจากมันไม่หลุดแล้วมันยังทำให้เธอเจ็บตัวอีกด้วย
“เป็นอะไรรึเปล่า?”
“พอเพียงไม่เป็นไรค่ะ”
“เปล่า ฉันหมายถึงเข็มขัดฉันน่ะ เป็นอะไรรึเปล่า”
พอเพียงเงยหน้ามองเขาอย่างไม่อยากเชื่อในคำตอบแต่ราชสิงห์ก็ช่วยปลดล็อกเข็มขัดให้เธอด้วยใบหน้าเรียบเฉยตามเดิม
ทั้งที่ในใจพยายามกลั้นขำปฏิกริยาของพอเพียงอยู่
“ขอบคุณนะคะ”
“อืม”
พอเพียงเปิดประตูเดินลงจากรถ กำลังจะหันมาโบกมือลาราชสิงห์แต่รถคันหรูก็ขับออกไปด้วยความรวดเร็ว ไม่สนใจเธอสักนิด
“เฮ้อ ห้ามนอยด์นะพอเพียง เธอเป็นคนเลือกแบบนี้เอง”
พอเพียงบอกกับตัวเองก่อนจะเดินเข้าบ้านไปด้วยความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย
เช้าอีกวัน ราชสิงห์เดินลงมาทานข้าวเช้าในห้องอาหารของโรงแรมพี่ชายที่ตนพักอยู่อย่างอารมณ์ดี
“วันนี้มีนัดอะไรรึเปล่าหนึ่ง”
“ไม่มีครับนาย”
“ดี ไม่ต้องรับนัดใครนะ”
“ได้ครับนาย เอ่อ วันนี้นายอยากไปไหนเป็นพิเศษรึเปล่าครับ”
ราชสิงห์หันมามายิ้มให้ลูกน้อง ซึ่งลูกน้องต่างคิดเห็นตรงกันว่า รอยยิ้มของเขาน่าระแวงกว่าเวลาเขาไม่ยิ้มอีก
“ไปแต่พวกนายไม่ต้องไปด้วย วันนี้ให้พักหนึ่งวัน”
“ว่าอะไรนะครับนาย”
“คำพูดกูเข้าใจยากนักรึไง”
“เปล่าครับ พวกผมฟังเข้าใจดีครับ”
“เออ ก็แค่นั้น”
ราชสิงห์หันกลับมาทานอาหารเช้าตรงหน้าด้วยรอยยิ้มอีกครั้ง สายตาก็คอยเหลือบมองโทรศัพท์ตัวเอง รอคอยสายจากใครบางคน
กริ๊ง กริ๊ง
และสิ่งที่เขารอคอยก็มาถึง หน้าจอโทรศัพท์ปรากฏอิโมติคอนรูปกระต่ายซึ่งนั่นคือรูปที่เขาใช้แทนชื่อของรายชื่อพอเพียงในโทรศัพท์
“สวัสดี”
“เอ่อ สวัสดีค่ะคุณสิง”
ราชสิงห์กระตุกยิ้มเมื่อได้ยินเสียงที่เต็มไปด้วยความกังวลของหญิงสาว ตอนนี้ใบหน้าสวยนั่นคงกำลังน่าฟัดเลยทีเดียว
“...”
เขาเลือกที่จะไม่ตอบปลายสาย รอให้เธอพูดต่อเอง
“คือพอเพียงมีเรื่องอยากรบกวนคุณสิงค่ะ”
“ฉันไม่ให้ใครรบกวนฟรีหรอกนะ”
“คุณสิงอ่า”
เสียงหวานอ่อนลงจนสิงเกือบใจอ่อนแต่แผนการเขาจะพังเอาได้ เขาเลยต้องทำเสียงเข้มดังเดิม
“ไม่มีอะไรแลกเปลี่ยน ก็เท่านี้นะ”
“เดี๋ยวค่ะ คุณสิงอยากได้อะไรล่ะคะ”
ราชสิงห์แทบเก็บอาการดีใจไว้ไม่อยู่ เขาเป็นคนเจ้าแผนการแต่ก็ไม่เคยมีครั้งไหนที่ดีใจกับความสำเร็จของแผนการขนาดนี้เลย ขนาดเป็นแค่ช่วงเริ่มต้นของแผนเท่านั้น
“เดี๋ยวค่อยบอก เธออยากรบกวนอะไรฉันล่ะ”
“คือพอเพียงไม่แน่ใจว่าพอเพียงทำแหวนตกในรถคุณสิงรึเปล่าค่ะ”
ราชสิงห์กระตุกยิ้มมุมปาก หยิบแหวนสีโรสโกลด์ประดับด้วยหินสีสวยขึ้นมาเล่น
“แล้วเธอจะให้ฉันหาให้รึยังไง”
เขารู้ดีว่าพอเพียงไม่มีทางออกปากใช้เขาแน่และมันก็เป็นอย่างที่เท่าคิด
“ไม่ใช่นะคะ เดี๋ยวพอเพียงขออนุญาตไปหาด้วยตัวเองได้ไหมคะ”
“หึ ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวฉันไปรับ”
ไม่รอให้อีกฝ่ายแย้ง ราชสิงห์ก็กดวางสาย
มองแหวนในมือด้วยรอยยิ้มร้ายกาจก่อนจะเก็บมันเข้ากระเป๋ากางเกง
“นายจะให้พวกผมจัดการเรื่องที่สั่งเลยไหมครับ”
“รอก่อน รอให้เหยื่อตายใจก่อน”
ลูกน้องราชสิงห์โค้งรับคำสั่ง รีบยื่นกุญแจรถให้เจ้านาย ราชสิงห์คว้ากุญแจ เดินผิวปากออกไปอย่างอารมณ์ดี