EPISODE 4 ให้เวลา

1232 Words
ให้เวลา 4 หลังจากวันนั้นที่ราชสิงห์โดนพอเพียงเมินที่มหาลัย เขาก็ไม่ได้เจอเธออีกเลย เพราะเขาต้องมาดูงานที่ฮ่องกง วันนี้ก็ปาเข้าไปสองอาทิตย์แล้ว สิ่งเดียวที่ทำให้เขาพอคลายคิดถึงเธอได้บ้างคือการนั่งดูสตอรี่ไอจีของเธอ “นายครับขออนุญาตครับ” “อืม” หนึ่งเดินเข้ามาพร้อมรายงานเรื่องที่เขาได้รับมาอีกที “วันศุกร์นี้คุณนายอยากให้นายไปร่วมงานการกุศลด้วยครับ” ราชสิงห์ถอนหายใจออกมาด้วยความเบื่อหน่าย แม่ของเขาบังคับเสือ พี่ชายของเขาไม่ได้น่ะสิเลยต้องมาบังคับเขาแทน “บอกไปว่ากูไม่ไป” “แต่คุณหญิงบอกว่า...” ดวงตาคมเหลือบมองลูกน้องนิ่ง นั่นทำให้หนึ่งไม่กล้าพูดต่อ ราชสิงห์ก้มมองมือถือในมืออีกครั้ง เขากดเข้าไปดูสตอรี่ไอจีของพอเพียงเมื่อเห็นว่าเธอเพิ่งอัปสตอรี่ใหม่ “หึ ทำมาเป็นยิ้มนะ” ต้องยอมรับว่าเขาตกหลุมรักรอยยิ้มของพอเพียงจริงๆ เธอเป็นผู้หญิงที่มีรอยยิ้มสวยที่สุดตั้งแต่เขาเจอมาเลยก็ว่าได้ “เอ๊ะ งานการกุศุลอย่างนั้นเหรอ” ราชสิงห์เพ่งมองภาพในสตอรี่ไอจีอีกครั้ง ซึ่งด้านหลังเหมือนเป็นการจัดงานบางอย่างและมันดูเหมือนงานการกุศลที่ไหนสักแห่ง “หนึ่ง อย่าเพิ่งโทรหาแม่” “ครับนาย” หนึ่งรีบลดโทรศัพท์ลง เดินกลับเข้ามายืนตรงหน้าเจ้านาย “นายเปลี่ยนใจเหรอครับ” “อือ ไปงานการกุศลก็ดีเหมือนกัน” “ครับ?” หนึ่งอดไม่ได้ที่จะมองเจ้านายด้วยใบหน้าสงสัย ปกติเจ้านายเขาบริจาคเงิน บริจาคสิ่งของเป็นประจำอยู่แล้วแต่ราชสิงห์ไม่ชอบเข้างานสังคมแบบนี้เท่าไรนัก “ทำไม? มึงมีปัญหารึไง” “ไม่มีเลยครับ เดี๋ยวผมรีบโทรบอกคุณนายให้นะครับ” ราชสิงห์เลื่อนไอจีดูภาพพอเพียงในไอจีก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปาก หนึ่งลอบมองเจ้านาย ช่วงนี้เจ้านายเขาชอบนั่งมองมือถือและยิ้มคนเดียวทั้งที่ก่อนหน้านี้ราชสิงห์แทบไม่สนใจโทรศัพท์ตัวเองด้วยซ้ำ “เป็นอะไรวะไอ้หนึ่ง เดินออกมาหน้าเครียดเชียว” สองทักขึ้นเมื่อสวนทางกับหนึ่งบริเวณทางเดิน “นายน่ะสิวะ ช่วงนี้แปลกๆ ชอบนั่งยิ้มคนเดียวแถมยังยอมไปงานการกุศลกับคุณนายง่ายๆ อีก” “หึหึ มึงนี่มันช่างไม่รู้อะไรบ้างเลย” สองทบบ่าเพื่อนด้วยร้อยยิ้มมีเลศนัย “รู้อะไรวะ?” “ตอนนายยิ้ม นายดูอะไรอยู่ล่ะ แล้วที่นายยอมไปงานการกุศล มึงคิดว่านายต้องการไปเจอใครรึเปล่า” “อาจจะดูคลิปตลกมั้ง แล้วไปงานการกุศลก็ต้องเจอคุณนายสิ” คำตอบของเพื่อน ทำเอาสองถึงกับกุมขมับ “แล้วแต่มึงเลยครับ” “มีอะไรวะไอ้สอง บอกกูดิ” “ไม่บอก เรื่องง่ายๆ แค่นี้ มึงคิดไม่ออกก็อย่ารู้เลย” สองว่าพลางเดินออกไป หนึ่งเลยรีบเดินตามเพราะอยากรู้คำตอบ “บอกกูก่อนดิวะ กูไม่เข้าใจ ไอ้สองบอกกูก่อนนนน” งานการกุศลวันนี้เป็นงานประมูลภาพวาดของเด็กผู้ด้อยโอกาสเพื่อเป็นทุนการศึกษาให้เด็กและมอบรายได้ส่วนหนึ่งให้แก่มูลนิธิ “สวัสดีค่ะคุณทักษอร แหมวันนี้ควงลูกชายมาเลยนะคะ” “สวัสดีค่ะคุณอรนภา นานๆ ทีแหละค่ะกว่าจะเจ้าสิงเขาจะว่างมา” ราชสิงห์ไหว้เหล่าบรรดาคุณหญิง คุณนายก่อนจะขอตัวแยกออกมาอ้างว่าไปเข้าห้องน้ำ เขาค่อนข้างมั่นใจว่าพอเพียงได้รับเชิญมางานนี้แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังมองหาเธอไม่เจอ “อุ๊ย ขอโทษค่ะ” ผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาชนราชสิงห์ เจ้าหล่อนล้มตัวลงเหมือนชนแรงเสียเต็มประดา โชคดีที่ราชสิงห์รับไว้ทัน “ขอโทษด้วยนะคะ ติช่าซุ่มซ่ามจังเลย” มือเรียวเกาะแขนแกร่งไว้แน่น พยายามส่งสายตาหวานเยิ้มให้เขาแต่นั่นไม่ได้ทำให้ราชสิงห์สนใจแม้แต่น้อย เพราะเขามีบางสิ่งที่น่าสนใจกว่า “มาคนเดียวเหรอพอเพียง” มาร์ชเดินเข้ามาทักพอเพียงซึ่งกำลังเลือกหยิบขนมทานเล่นอยู่ พอเพียงเลยหันไปยิ้มทักทายเขา “สวัสดีค่ะพี่มาร์ช” “ไม่เจอกันนานตัวไม่สูงขึ้นเลยนะ” “คนนะคะไม่ใช่ต้นไม้ที่รดน้ำแล้วจะสูงขึ้น” “อู้ว เดี๋ยวนี้ยอกย้อน” ทั้งคู่ค่อนข้างสนิทกันอยู่แล้วเพราะมาร์ชเป็นเพื่อนพี่ชายของพอเพียง แถมยังเป็นลูกของเพื่อนสนิทพ่อเธออีก “ฮ่าๆ เดี๋ยวนี้พอเพียงเก่งขึ้นแล้วนะคะ” “จ้า แม่คนเก่ง” ทั้งคู่หยอกล้อกันตามประสาโดยไม่รู้เลยว่าพฤติกรรมของพวกเขาตกอยู่ในสายตาของอีกคน ราชสิงห์ปล่อยหญิงสาวที่เดินมาชนเขาทิ้งอย่างไม่ไยดีก่อนจะเดินตรงไปหาพอเพียงแต่เขาบังเอิญเจอกับแม่ของตัวเองเลยต้องหยุดทักทายเพื่อนท่านก่อน หันมาอีกทีพอเพียงก็หายไปแล้ว “หายไปไหนวะ” ราชสิงห์เดินหาพอเพียงรอบงาน จนกระทั่งเดินมาถึงบริเวณชานระเบียง แผ่นหลังเปลือยเปล่าแสนบอบบางนั่นทำให้เขารู้ได้ทันทีว่าคือคนที่เขากำลังตามหา “กับคนอื่นยิ้มหน้าบานเลยนะ” พอเพียงหันมองเจ้าของเสียงเข้มที่ดังขึ้นจากทางด้านหลัง เมื่อเห็นว่าเป็นใคร เธอเลยทำท่าจะเดินหนีแต่กลับโดนร่างสูงมาขวางไว้เสียก่อน “ทีกับผมไม่เห็นยิ้มแบบนั้นบ้างเลย” “นี่ฉันก็กำลังยิ้มอยู่ไงคะ” พอเพียงระบายยิ้มออกมาแต่เป็นรอยยิ้มเฉยชาซึ่งราชสิงห์ไม่ต้องการ “ไม่ เธอต้องยิ้มแบบเต็มใจมากกว่านี้” “คุณชอบบังคับให้คนอื่นยิ้มให้รึยังไงคะ” ราชสิงห์กระตุกยิ้มมุมปาก ก้มลงกระซิบข้างใบหูขาวสะอาด “ฉันไม่ได้ชอบยิ้มคนอื่นแต่ฉันชอบยิ้มเธอ” ดวงตากลมโตเบิกกว้าง รีบถอยห่างออกมาสองสามก้าว ท่าทางของเธอทำเอาราชสิงห์ขบขันไม่น้อย เรียกได้ว่าลืมเรื่องหงุดหงิดใจก่อนหน้านี้ไปเลย “ถ้าไม่มีอะไร พอเพียงขอตัวนะคะ” “พอเพียง ฉันรู้นะว่าเธอตั้งใจหลบหน้าฉัน” “เปล่าค่ะ พอเพียงจะหลบหน้าคุณสิงทำไม” พอเพียงพูดทั้งที่ยังก้มหน้าอยู่ เธอไม่กล้าเงยหน้ามองเขาเพราะไม่อยากให้เขาจับได้ว่าเธอกำลังประหม่า “เหรอ ถ้าอย่างนั้นพิสูจน์สิ” “ยะ... อุ๊ป >x<“ มือหนาเชยคางมนขึ้นก่อนจะกดจูบลงบนริมฝีปากอ่อนนุ่มแผ่วเบาแล้วค่อยๆ เปลี่ยนเป็นร้อนแรงขึ้น “อือ คุณสิง” ราชสิงห์ทำท่าจะก้มลงจูบเธออีกรอบ พอเพียงเลยรีบใช้มือปิดปากเขาไว้ “ไม่เอาค่ะ” ห้ามไปก็หน้าแดงไป เจ้าของใบหน้าสวยไม่มีโอกาสรู้เลยว่าใบหน้าตัวเองแดงแค่ไหน คนที่รู้ตอนนี้มีเพียงคนเดียวก็คือตัวต้นเหตุที่ทำให้เธอหน้าแดงนั่นแหละ “ฉันจะไม่เร่งเธอ” “...” “ฉันให้เธอกลับไปคิดอีกสองอาทิตย์ แล้วฉันจะมาเอาคำตอบ” “คิดอะไรคะ?” “คิดว่าเธอพร้อมจะเป็นเมียราชสิงห์รึยัง”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD