ตอนที่ 4 ยกพวกตีกัน

2579 Words
Episode 4 ยกพวกตีกัน ปิดเทอมใหญ่อีกครั้ง ในที่สุดเธอก็กำลังเป็นพี่ใหญ่ของโรงเรียน ในช่วงที่เรียนม.5 เธอตั้งใจเรียกมาก เพื่อที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยที่เดียวกับพี่รักให้ได้ ขนาดพี่สาวเธอยังสอบได้เลยนับประสาอะไรกับเธอที่จะสอบไม่ได้ ถ้าตั้งใจก็ไม่ยากหรอก “ แม่ หนูได้หอพักแล้วนะ ” พี่ชื่นพูดขึ้นในขณะที่กินข้าว “ เหรอจ่ะ แล้วมันใกล้มหาวิทยาลัยไหม เด็กหมู่บ้านเรา มีใครบ้าง ” แม่ถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย “ ก็พี่รักพี่ชายยัยพุดเพื่อนชบา แล้วพี่โกสน คนที่เรียนโรงเรียนมัธยมพวกเราไงค่ะ แล้วมีเพื่อนชื่นด้วยนะคะ กล้วยนั่นแหละ มหาวิทยาลัยนี้สอบยากมาก แต่มีคนอยากเข้าเยอะ ” “ หนูอยากเข้าด้วย พี่ชื่นว่างวันไหน กลับมาติวให้บ้างนะ ” “ ผีเข้าเหรอชบา ” แม่เอ่ยอย่างล้อๆ “ แม่อะ ชบาตั้งใจเรียนแล้วนะ ดูเกรดเทอมที่แล้วสิ ขึ้นมาแล้วนะ ตอนม.4 หนูได้ลำดับที่ในห้อง คนที่ 20 มีเด็ก 25 คน ทั้งสองเทอม แต่พอขึ้นม.5 หนูได้ลำดับที่ 18 เทอมที่หนึ่ง พอเทอมสอง หนูได้ลำดับที่ 17 แล้วนะคะ เด็กในห้องก็เท่าเดิมเลย ต้องขอบคุณพี่ชื่นที่ให้ยืมอ่านหนังสือ ” “ จ้ะๆ ถ้าตั้งใจเรียนตั้งแต่แรกก็น่าจะดีกว่านี้ ” แม่พูด ในความเป็นจริง คือโครตน่าเบื่อมาก เธอไม่อยากอ่านหนังสือเลย แต่เธอมีแรงบันดาลใจคือพี่รัก เอารูปเขามาดู ก็ทำให้ตั้งใจอ่านมาก จนสอบแล้วได้เลื่อนลำดับที่ขึ้นมาบ้าง ให้ผ่านการสอบเข้ามหาวิทยาลัยก่อนเถอะ แล้วแม่จะกลับมาแสบ ห้ามเหมือนเดิม 555+ จากวันกลายเป็นอาทิตย์แล้วก็เป็นเดือน ในที่สุดก็เปิดเทอม เป็นรุ่นพี่แล้ว มันน่าเบื่อนะ เพราะรุ่นพี่จะมีเวลาว่างน้อยเพราะเอาเวลาไปอ่านหนังสือเพื่อสอบเข้ามหาลัย แต่สำหรับเธอบอกเลย มันยังมีเรื่องให้เล่นได้ทุกวัน ถึงอายุจะ18 แล้ว แต่เธอก็ไม่ได้เปลี่ยนไปตามอายุนะ “ พี่ชบามีเรื่องแล้ว ” ในขณะที่เธอนั้นกำลังอ่านหนังสือ ก็มีเด็กผู้ชายม.5วิ่งมาหา “ อะไรไอ้สอง ” เธอถาม “ ไอ้หนึ่งมันมีเรื่องอยู่หน้าโรงเรียน ไอ้พวกที่พวกเราเดินเหยียบเท้าตอนไปกินหมูกะทะ มันมาเอาคืน ” “ เฮ้อ ในที่สุดก็มีคนมาเอาคืน แม่งเอ้ย รอมาก็หลายปี อยากมีเรื่องชกต่อยเหมือนพวกอาชีวะอะ น่าสนุก 555+ ” ปกติเวลามีเรื่อง ก็ไม่มีใครที่กล้าจะมาเอาคืนกับเธอเลย ไม่รู้เกรงอะไร หรือกลัวเธอก็ไม่แน่ “ ยัยชบา อย่าไปเลย พวกนั้นมันเป็นผู้ชายนะยะ ” บัวเอ่ยห้าม “ เออน่า เดี๋ยวค่อยคุย เก็บหนังสือให้ด้วยนะ ไปล่ะ ” “ ยัยชบา!!! ” เธอไม่ฟังเสียงค้านจากเพื่อน เธอแค่อยากลองอะไรใหม่ๆบ้าง ก็ช่วงนี้มันโครตน่าเบื่ออะ ยืดเส้นยืดสายหน่อยคงไม่เป็นอะไรมั้ง แถมช่วงที่พี่รักไปเรียนมหาวิทยาลัยเธอก็แทบไม่ไปเหยียบค่ายมวยเลย “ ใครมันมาหาเรื่องน้องกูวะ ” เสียงต้องใหญ่ๆ แล้วน่าเกรงข้ามสักหน่อย “ หึก พวกมึงไอ้เด็กโรงเรียนมัธยมX มันไร้น้ำยาจริงๆ ถึงขั้นไปเรียกผู้หญิงมาเลยเหรอวะ ” เสียงของไอ้หนุ่มที่มีหุ่นเหมือนหมีควายพูดขึ้น “ มึงต่อยกับกู ตัวต่อตัวปะล่ะ ” ความที่มั่นอกมั่นใจว่าล้มหมีควายได้แน่ เธอจึงยืดอกพร้อมถกแขนเสื้อขึ้น “ พอดีไม่ต่อยกับผู้หญิงครับ แต่ถ้าหากให้หยุด มีวิธีเดียว เธอมาเป็นแฟนฉันไหมล่ะน้องสาว ” มันไม่มีทีท่าว่ากลัว แถมยังเอานิ้วสากมาปัดผมเธอเล่นอีก ‘ ปึก ’ มือเรียวผลักอกแกร่งให้ออกไปไกลๆ “ พอดีมีแค่พี่สาว ไม่มีพี่ชายร่างเหมือนหมีควาย ขอโทษด้วยนะคะ ” พอพูดจบเธอก็รีบเอามือปัดผมที่โดนมันเอามือมาแตะเมื่อกี้ “ หึ ปากดีจริงๆ ถ้าได้ชิมคงจะเด็ด ว่าไหมพวกมึง 555+ ” มันหันไปถามเพื่อนๆของตัวเองที่มีห้าคน “ 555+ ” พวกมันพากันหัวเราะ ‘ พลัวะ ’ เธอมันส์มือ เลยต่อยไปที่หน้าของมัน แต่ต่อยธรรมดาไม่ได้เพราะมันสูงเกิน เธอเลยกระโดดต่อย ผลลัพธ์เกินคาด ความแรงไม่ลด ‘ ตุบ ตุบ ตุบ ’ รู้งี้ไม่พูดมากน่าจะต่อยปากมันตั้งนานแล้ว แค่เธอเริ่มลงมือ พวกมันกับรุ่นน้องของเธอต่างกรูเข้าหากัน มือไม้ก็ต่อยกันไป ขาก็ไม่ปล่อยให้ว่าง เตะไปด้วย “ เฮ้ยๆ หยุดๆ ตำรวจมา ” เสียงหนึ่งดังขึ้น แต่ไม่ทันได้วิ่งหนี แต่ละคนกำลังฟัดกันอย่างนัวเนีย เธอแทบจะไม่ใช้ผู้หญิงแล้ว ฝ่ายตรงข้ามก็ไม่ยั้งมือขนาดรู้ทั้งรู้ว่าเธอคือผู้หญิง แต่เธอก็ไม่ได้เป็นอะไรมาก แต่สภาพคือยับเยินมาก เสื้อนักเรียนหลุดหลุ่ยจากสีขาวตอนนี้มีรอยเปื้อนดำเป็นหย่อมๆ ผมกระซัดเซิง @โรงพักX มาถึงโรงพัก ตำรวจก็ให้เซ็นชื่อกันด้วย เพิ่งเคยมาครั้งแรก มันเลยเกร็งๆไปหน่อย มือไม้ก็เริ่มสั่น “ วัยรุ่ยสมัยนี้ เอะอะก็ใช้แต่กำลังกันจริงๆ แล้วนี่อย่าบอกนะว่าแย่งผู้หญิงกัน ” ตำรวจคนที่พูดหันไปทั่วสุดท้ายมาหยุดที่เธอ ตอนนี้เธอกำลังนั่งคู่กับไอ้หมีควาย ส่วนคนอื่นที่เหลือ ตำรวจให้ยืน “ เปล่านะ ก็แค่เรื่องเหยียบเท้าในร้านหมูกะทะเอง ” เธอตอบกลับไป “ จริงเหรอ ไอ้ท็อป แกนี่นะ มาโรงพักเหมือนกลับบ้านตัวเองเลย มาไม่หยุดไม่หย่อน เรื่องใช้กำลังเพลาๆบ้างเถอะ ไหนบอกจะตั้งใจเรียนเพื่อแม่ไง เดี๋ยวแม่เเกมาเห็นแกอยู่ที่นี่ ก็ร้องห่มร้องไห้อีกหรอก ” ตำรวจมียศเป็นจ่าหันไปพูดกับไอ้หมีควายหัวโจ๊กอันธพาล “ จ่าครับ อย่าบอกแม่ผมเลย ผมขอร้องละ นะๆ ” “ ตอนทำแล้วไม่คิด ” คงจะสนิทกันแหละเพราะว่าเจอกันบ่อย “ แล้วเรามาอยู่ในกลุ่มพวกนี้ได้ไง หรือว่าลูกหลง ” จ่าหันมาถามเธออีกครั้ง “ มะ... ” เธอพูดออกเสียงได้แค่คำหน้า รุ่นน้องที่ยืนอยู่ก็พูดตัดบท “ ใช่ครับ รุ่นพี่เดินผ่านพอดี ” พวกมันคงออกรับแทนแหละ “ ไม่จริงครับจ่า ยัยนี่ต่อยผมก่อน ถ้ามันไม่ต่อยน้องๆผมคงไม่ลงมือหรอก ” “ ห้ะ ! แกอย่ามาพูดแบบนี้ ดูร่างก็รู้กระดูกคนละเบอร์แล้ว แกนี่นะ รังแกแม้กระทั่งผู้หญิง ใช้ไม่ได้จริงๆ ” จ่าพูดต่อ “ จ่า จริงๆนะ ไม่เชื่อถามพวกผมดู ” “ ใช่ครับ ใช่ๆ ” พวกมันพูดกันเป็นเสียงเดียวกัน “ ไม่ใช่ๆ พวกมันใส่ร้ายครับ รุ่นพี่พวกเราแค่โดนลูกหลงเอง ” รุ่นน้องเธอก็ใช่ย่อยต่างพูดปกป้องเธอเป็นเสียงเดียวกันหมด “ จ่ามีเรื่องอะไรกันเหรอ ” จู่ๆก็มีตำรวจอีกนายโผล่มา “ ก็เรื่องเดิมๆครับ ไอ้วัยรุ่นใจร้อนเตะต่อยกัน ” จ่าพูด “ เดี๋ยวนะ เธอเนี่ยหน้าคุ้นๆนะ อ๋อ ใช่ลูกเฮียบลูหรือเปล่า ” เอาแล้วไง ซวยแน่ๆ “ ไม่ใช่ๆ ” เธอส่ายหน้ารัวๆ “ แต่ฉันว่า ฉันจำไม่ผิดนะ เด็กผู้หญิงชื่ออะไรจ่า ” ตำรวจที่มาใหม่ ดูมีอายุ น่าจะวัยกลางคน พ่อเธอก็ออกจะดังในเรื่องการค้า ผู้คนรู้จักมากมายก็ไม่แปลก แต่ถ้าครอบครัวมาเห็นเธอในสภาพนี้ คิดไม่ออกว่าอะไรจะเกิด ป๊าไม่เท่าไรแต่แม่นี่สิ โอ๊ยๆ “ เอ่อ...ชื่อชบาแก้ว อิทธิพลครับ ” สิ้นเสียงจ่า “ ใช่ เธอคือลูกสาวคนเล็กของเฮียบลู ” ตำรวจนายนี้รู้ดีจริงๆ “ แหะๆ ” เธอได้แต่ส่งยิ้มแห้งๆไป “ โทรหาผู้ปกครองกันยัง ” ตำรวจวัยกลางคนหันไปถามพวกที่ยืน “ ผมว่าจะกักสักคืน ให้มันได้รู้สึกสำนึกกันบ้าง ” จ่าพูด “ งั้นก็โทรบอกผู้ปกครองทุกคนก่อนแล้วกัน แต่เดี๋ยวผมโทรหาเฮียบลูเอง ส่วนพวกนี่จ่าก็พาไปในคุกแล้วกัน ส่วนหนูคนนี้ก็ให้นั่งรอไปก่อน แล้วจ่าก็ไปเอาน้ำเย็นๆมาให้เธอด้วยนะ ” โอ้ ป๊า นี่เส้นใหญ่ใช่เล่นเลย! “ ไปๆ ฉันจะให้พวกเอ็งได้ลิ้มลองการนอนคุกนอนตะรางบ้าง ” พวกผู้ชายต่างทำหน้าไม่ค่อยสู้ดี โวยวายไปก็โดนเหมือนเดิม “ ลุงคะ คือว่า ช่วยไปซื้อของให้รุ่นน้องของหนูหน่อยได้ไหม ” เธอเกิดนึกสงสารรุ่นน้องตัวเอง เลยหันไปหาคนที่รู้จักกับพ่อเธอ “ อ๋อ ได้ๆ เดี๋ยวลุงจัดการให้ ” “ เอ่อ...นี่ค่ะ ห้าร้อย ซื้อให้ทุกคนเลยนะคะ ” เธอเกิดเปลี่ยนใจกระทันหันเพราะเกิดสงสารอีกพวก หากรุ่นน้องได้กิน พวกนั้นก็ได้แค่มอง ถึงเธอจะเป็นคนหาวหาญ แต่จิตใจของเธอก็ดีนะ รู้สึกสงสารคนอื่นเป็นเหมือนกัน เธอก็ไม่ได้ร้ายใส่ทุกคนหรอก “ ได้ๆ เดี๋ยวลุงซื้อให้เอง เก็บเงินหนูไว้เถอะ ” “ ไม่เป็นไรค่ะ เงินของลุงเก็บไว้ซื้อขนมให้ลูกๆกินเถอะ เป็นตำรวจใช่ว่าจะมีเงินเยอะนะคะ อันนี้หนูไม่ได้พูดจาดูถูกแต่พูดอิงตามความจริง เรื่องพวกนี่ให้หนูจัดการเองเถอะ ” “ จ้ะๆ หนูนี่จิตใจดีเหมือนพ่อเลยนะ ” ลุงเขาพูดจบก็เดินไปสั่งลูกน้องอีกที “ ยัยชบา! ” เธอถึงกับสะดุ้งเพราะจำเสียงนี้ได้ สะดุ้งไม่พอยังหวาดระแวงกลัวแม่พาไม้เรียวมา อายคนแน่ๆถ้าเกิดมาตีกันถึงที่นี่ “ …. ” เธอได้แต่นั่งนิ่งๆอย่างคนสำนึกผิด ป๊ามาถึงก็ไปพูดกับลุงคนนั้น ส่วนเธอนั้น ได้แต่สำรวมกิริยาใกล้แม่ของตนเอง แม่นั่งไม่พูดไม่จาแต่ใบหน้าปราศจากรอยยิ้ม นั่งหน้านิ้วคิวขมวดเป็นปมแล้ว น่าจะไม่ทันถึงบ้านเธอคงโดนบ่นหูชาแน่ๆ งานนี้ป๊าก็คงช่วยอะไรไม่ได้ “ ไปเถอะคุณ ปะชบา ” ป๊าเดินมาหาพวกเราสองคน “ สภาพดูไม่ได้เลย ฉันจะเป็นลม ” พอลุกขึ้นยืนแม่พูดด้วยเสียงเบาให้ได้ยินกันแค่สามคน “ ไปเถอะคุณ ไม่มีอะไรแล้ว ผมจ่ายค่าปรับแล้ว ” ป๊าพูดแล้วพาแม่เดินออกไป “ ฉันละอยากจะบ้าตาย หัวใจจะวายตอนที่พี่หนุ่มโทรมาบอกว่าลูกสาวขึ้นโรงพัก ” พอขึ้นรถ แม่ก็พูดเสียงดังด้วยอารมณ์โมโห ลุงคนนั้นชื่อหนุ่มแน่ๆ รู้จักไว้ก็ดี เผื่อจะได้เจอกันอีก “ … ” เธอก็เงียบเหมือนเป่าสาก ไม่กล้าแม้จะพูด “ คราวนี้ทำไมไม่เถียง นั่งนิ่งสำรวมเชียว แกนะแก ฉันส่งให้ไปเรียน ไม่ใช่ให้ไปมีเรื่อง แล้วเรื่องแบบนี้ผู้หญิงแบบแกก็ไม่ควรเข้าไปยุ่งนะ ฉันเคยคิดว่ามีผู้หญิง แล้วเรื่องแบบนี้คงไม่มี แต่ที่ไหนได้… มัน มันน่าตีให้ตาย ” แม่พูดออกมาเยอะ เหมือนกำลังระบายความอัดอั้น “ ชะ...ชบาขอโทษ ” “ แกนะแก นี่แกใช่ลูกฉันจริงๆใช่ไหม ชื่นน่าจะเกิดมาเป็นลูกฉันมากกว่า ” งื้อ แม่พูดแบบนี้แรงมาก “ คุณก็...พูดอะไรแบบนั้น ลูกเสียใจนะ คนเรามันก็ต้องมีเรื่องผิดพลาดกันบ้างดิ เกิดมาใช่ว่าจะดีทุกอย่างนะ คุณก็อย่าเอาชบากับชื่นไปเปรียบเทียบกันเลย เดี๋ยวลูกก็รู้สึกไม่สบายใจเปล่าๆ ” ป๊าพูดขึ้น ป๊าเป็นคนพูดน้อย สุขุม พูดมีเหตุมีผลประจำ ตอนป๊าดุ เธอยังไม่เคยเห็นเลย ตั้งแต่โตมา “ คุณก็เข้ากันลูกแบบนี้ตลอด นั่นไงถึงไม่ฟังเวลาฉันพูด ฉันเตือนอะไร ” “ ผมแค่พูดไปตามความจริง ผิดก็ว่าไปตามผิด ” “ แม่ตัวดี ไม่คิดจะพูดแก้ตัวอะไรหน่อยเหรอ ” แม่ก็หันมาจิกกัดเธออีก “ ชบาผิดไปแล้ว ” เธอก็ไม่กล้าพูดอะไรมากเพราะผิดจริงๆ “ เห็นไหม ลูกก็ยอมรับผิดแล้ว คุณก็ใจเย็นลงบ้าง ” ป๊าพูดต่อ “ เหอะ! ” แม่ส่งเสียงแค่นั้นก็เงียบไปเลย เธอรู้ว่าแม่โกรธมากๆ ครั้งนี้ @บ้านอิทธิพล “ แม่คะ ป๊าคะ มาจากไหนกันเหรอ หนูกลับมาตั้งแต่บ่าย ไม่เจอใครเลย มีแค่ป้าพุ่มกับพี่มะขามที่อยู่บ้าน ” ป้าพุ่มคือแม่บ้าน “ อ้าว หนูกลับมาทำไมเหรอ หรือขาดเหลืออะไร ทำไมไม่โทรมาบอกเดี๋ยวแม่ให้เจ้ามะขามไปส่งให้ ” น้ำเสียงของแม่ปรับเร็วมาก พูดกับพี่ชื่นด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนและเอ็นดู “ แล้วแม่กับป๊าไปไหนมาเหรอคะ ” พี่ชื่นเข้ามากอดแม่แบบออดอ้อน “ ตอนแรกก็ไปธุระมาที่บ้านย่าของลูกนั่นแหละ แต่มันก็ดันมีเรื่องอีก ต้องขึ้นโรงพักกันเลย เพราะน้องสาวตัวดีของลูกนี่แหละ ” พี่ชื่นผละจากแม่ แล้วชะเง้อมองมาที่เธอ “ อ้าว ชบาทำไมอยู่สภาพนี้ เจ็บหรือเปล่าเนี่ย มีเรื่องกับใครอีกล่ะ เธอนี่มันจริงๆเลย ” พี่ชื่นเข้ามาจับตัวเธอหมุนไปมา แล้วลูบตามแขนของเธออย่างเป็นห่วง “ มีเรื่องนิดหน่อย แต่ชบาไม่ได้บาดเจ็บอะไรเลยแล้ววันนี้พี่กลับมานอนที่บ้านเหรอ ” “ ใช่ๆ พรุ่งนี้เช้าพี่จะไปเรียนตอนบ่ายนะ ” “ สบายเนอะมหาวิทยาลัย ไม่ได้เรียนทุกเวลาเหมือนมัธยม ชบาอยากไปเรียนมหาวิทยาลัยแล้วอะ ” “ ขืนยังทำตัวแบบนี้ น่าจะอยู่แค่บ้าน จบม.6 แหละ ” แม่พูดจบก็เดินไปทันที ทำเอาเธอต้องหุบยิ้มลง แล้วก้มหน้า “ อย่าถือโทษแม่เลยลูก คนเราสามารถปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้นได้ ป๊าเชื่อว่าหนูต้องสอบได้ ” ป๊าพูดจบเข้ามาลูบหัวเธอแล้วเดินตามแม่ไป “ เป็นไรเนี่ย เป็นหมาหงอยเชียว ไอ้เด็กแสบไปไหนแล้ว ยิ้มหน่อยๆ ” พี่ชื่นดึงแก้มของเธอทั้งสองข้างอย่างหยอกล้อ “ พี่ชื่นอะ...คืนนี้ชบานอนกับพี่ได้ไหมอะ ” “ ได้สิ รู้ไหม ตอนไปอยู่หอเบื่อมาก ไม่มีคนมาคอยกวน ไม่มีเด็กมานั่งใกล้ๆ ” “ งื้อ ชบาก็เหงา แม่ดุด่าทุกวันเลย ชบาคิดถึงพี่ชื่นมากๆเลย ” “ แม่ก็กล่าวตักเตือนแหละ ชบาก็ฟังแม่บ้าง อย่าทำตามใจตัวเองเกินไปบางครั้งที่แม่พูดไป ก็คิดเสียว่าเขาเป็นห่วงเรา ” พี่ชื่นเป็นพี่ที่ดีจริงๆ เธอจะคอยปลอบตลอด เธอสองคนพี่น้องไม่เคยมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันเลยสักครั้งตั้งแต่โตกันมา พี่ชื่นจะเป็นผู้ให้ และเธอจะชอบแกล้งพี่สาวตลอด แต่พี่ชื่นก็ไมได้ว่าอะไร หยอกล้อกันประสาพี่น้อง ปกติ ❤️___________❤️ นามปากกา ByMinne
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD