“ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ พิมพ์ขอตัวก่อนนะคะ” พิมพ์นารากอดตัวเองเอาไว้ รีบเดินจ้ำอ้าวหนีออกมาทันที ดาราวดีมองอย่างหงุดหงิดใจ เพราะยาที่เธอใส่ในแก้วเหล้ามีเพียงแค่นั้น ไม่มีสำรองเอาไว้
“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ” พันกรอยากจะปลีกตัวจากดาราวดีเต็มที แต่หญิงสาวแกล้งเซถลาเหมือนหกล้มเข้ามาหาเสียก่อน ทำให้เขาต้องรับร่างหล่อนเอาไว้
“อุ๊ย! สงสัยข้อเท้าแพลงน่ะค่ะ” ดาราวดีรีบกอดแขนของพันกรเอาไว้ ก่อนจะซบหน้าที่อกกว้างเหมือนไม่มีแรง
“เดี๋ยวผมจะให้คนมาดูข้อเท้าให้นะครับ”
“คุณพันกรดูให้ไม่ได้เหรอคะ”
“ผมไม่ถนัดเรื่องการปฐมพยาบาลครับ” พันกรพูดกับคนที่พยายามเบียดซบเขาเอาไว้ แต่สายตากลับมองไปยังหญิงสาวอีกคนที่มีผู้ชายเข้ามาล้อมหน้าล้อมหลังมั่วไปหมด
“โอ๊ย! อย่าเพิ่งไปสิคะคุณพันกร” ดาราวดีไม่ยอมปล่อยให้ชายหนุ่มจากไปได้ง่ายๆ
“คุณเจ็บมากเหรอครับ” พันกรเอ่ยถามคนที่พยายามยั่วเขาจนออกนอกหน้า
“เจ็บมากๆ เลยค่ะ ยืนแทบไม่ไหว คุณพันกรอุ้มวดีไปส่งที่ห้องหน่อยสิคะ” ในเมื่อเขาไม่ได้กินยาที่เธอใส่ในแก้วเหล้า เธอก็จะยั่วเขาให้ถึงที่สุด เอ่ยปากให้ไปส่งถึงห้องขนาดนี้ ถ้าไม่หน้าโง่จนเกินไป ก็น่าจะรู้ว่าเธอต้องการอะไร
“ให้ไปส่งถึงห้องจะดีเหรอครับ คุณวดีจะไม่เสียหายหรือไง คุณเป็นถึงนางเอกเบอร์หนึ่งของเมืองไทย”
“แหม... วดีรู้ค่ะว่าคุณเป็นสุภาพบุรุษแค่ไหน”
“รู้ได้ยังไงครับ ผมเองยังไม่ยักรู้ว่าตัวเองเป็นสุภาพบุรุษ” เขาก้มลงมองสบตาเธอ ก่อนจะพูดเสียงเนิบนาบ
“ถ้าคุณพันกรจะไม่เป็นสุภาพบุรุษ วดีก็ไม่ว่าอะไรนะคะ” เธอลูบแผงอกของเขาไปมา ช้อนสายตาขึ้นมองอย่างยั่วยวน
“เหรอครับ ในเมื่อคุณเปิดโอกาสขนาดนี้ ผมก็คงต้องสนองให้ใช่ไหมครับ”
“แหม... อย่าพูดแบบนั้นสิคะ” เธอหัวเราะเบาๆ อย่างมีจริตจะก้าน
“งั้นผมจะสนองให้ถึงใจเลยดีไหมครับ”
“แล้วแต่คุณพันกรสิคะ” เธอโอบกอดรอบคอหนาของเขาเอาไว้ พันกรช้อนอุ้มร่างนางเอกสาวขึ้นมาในอ้อมแขน แล้วดาราวดีก็สวมบทบาทนักแสดงได้อย่างยอดเยี่ยมเมื่อบอกใครๆ ว่าเธอขาแพลง แล้วพันกรก็อาสาไปส่ง ซึ่งโตๆ กันแล้ว ใครๆ ก็พอจะรู้ และถ้าเป็นข่าวกับเจ้าของไร่องุ่นที่แสนร่ำรวย ดาราวดีก็เลือกที่จะบอกสื่อว่าเป็นพี่น้องหรือคนไหนมาแรงก็อาจจะบอกว่ากำลังคบหาดูใจกันอยู่ ข่าวก็ดังคับประเทศว่าสวยอย่างเธอมีคู่ควงคนใหม่ที่เป็นหนุ่มหล่อ แสนร่ำรวยหรือนักธุรกิจแนวหน้าของเมืองไทยอีกแล้ว ส่วนฝีมือการแสดงของเธอเรียกว่ายอดเยี่ยม มีแฟนคลับมากมาย ค่ายหนัง หรือผู้จัดคนไหนก็อยากจีบไปเป็นนางเอกของเรื่องเพราะเรียกเรตติ้งกระฉูด
“คุณพันกรนี่ตรงไปตรงมาดีนะคะ” ดาราวดียิ้มหวานยั่วยวนเมื่อเขาวางเธอลงบนเตียงนอนกว้างในห้องพักใหญ่โตที่ทางทีมงานจัดให้
“คุณก็ตรงไปตรงมาดีครับ” เขามองสบตาเธอ
“วดีชอบคนตรงไปตรงมาค่ะ” ดาราวดีลูบไล้ท้ายทอยของชายหนุ่ม ก่อนจะโน้มให้เขาก้มลงมาจูบ
“เดี๋ยวครับคุณวดี”
“ทำไมเหรอคะ” ดาราวดีเห็นเขาผละห่างก็เลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย
“รอแป๊บเดียวนะครับ” พันกรผละออกห่าง ก่อนจะเดินออกไปจากห้อง ดาราวดีมองอย่างงุนงง แต่เธอก็เตรียมยั่วเขาเต็มที่ พอเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง ประตูที่เปิดเข้ามาก็ทำให้เธอตาโตอ้าปากค้าง
“น้องบัวครับ จิบสักนิดสิครับ” ธีรกรพยายามยื่นเครื่องดื่มให้หญิงสาวข้างกาย แต่ดูเหมือนอีกคนจะมัวแต่มองใครคนหนึ่งอยู่
“คุณพันกรนี่เนื้อหอมจังเลยนะครับ สาวน้อยสาวใหญ่อยากทอดกายให้ ดูดาราวดีเองก็คงไม่รอดละมั้งครับคืนนี้ เห็นอุ้มเข้าไปในห้อง” บัวบูชารับเครื่องดื่มมาถือเอาไว้ ทำท่าจะดื่มแต่ก็คิดได้ว่าเธอไม่ควรดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในอารมณ์แบบนี้ สติฉุดรั้งให้เธอชะงัก ถ้าเธอดื่มจนเมามายมันจะไม่ดีเป็นแน่ ยิ่งธีรกรด้วยแล้ว เธอไม่ไว้ใจเขา
“พี่กันต์คะ ฝากหน่อยค่ะ” เธอเดินหนีจากธีรกรก่อนจะยัดเครื่องดื่มใส่มือของกันต์ ผู้กำกับหนุ่มที่เธอนับถือเหมือนพี่ชาย ส่วนธีรกรนั้นได้แต่อ้าปากค้างเมื่อถูกผู้หญิงที่หมายตาเอาไว้ เดินหนีแบบนี้
“น้ำพั้นซ์เหรอ ไม่ชอบดื่มแต่ลองชิมดูก็น่าจะดี” กันต์จัดการกรอกน้ำพั้นซ์เข้าปากจนหมดแก้ว ก่อนจะวางแก้วเครื่องดื่มเอาไว้ ธีรกรสบถอย่างหยาบคาย สรุปว่าแผนการของเขาต้องแห้ว ไม่เหมือนดาราวดีที่ป่านนี้หลอกล่อให้พันกรพาไปส่งที่ห้อง และคงจะส่งกันจนถึงสวรรค์ชั้นฟ้าไปแล้ว
“แต่งตัวแบบนี้ จะไปล่อเสือล่อตะเข้ที่ไหน” น้ำเสียงยียวนกวนอารมณ์ด้านหลังทำให้บัวบูชาหันขวับไปมอง เธอขมวดคิ้วเข้าหากัน ก็เขาเข้าไปในห้องกับดาราวดีนี่นา
“เป็นอะไร” พันกรขมวดคิ้วตามเมื่อเห็นเพื่อนรักของน้องสาวจ้องเขา จ้องเอาจ้องเอาไม่ยอมวางตา
“ปะ... เปล่าค่ะ” เธอรีบปฏิเสธที่เผลอมองเขา
“นั่นจะไปไหน” พันกรเรียกคนที่หมุนร่างทำท่าจะเดินจากเขาไป
“ไปหาพิมพ์ค่ะ พิมพ์หายไปไหนก็ไม่รู้” เธอไม่ได้ติดใจที่เขาแขวะเรื่องแต่งตัวมากนัก เพราะไม่ค่อยใส่ใจกับคำพูดหาเรื่องของใคร ในตอนนี้เป็นห่วงเพียงแค่เพื่อนรักที่ไม่เห็นแม้แต่เงา ธีรกรกับผู้ชายคนอื่นมัวแต่ชวนคุยดักหน้าดักหลัง เธอจึงคลาดกับพิมพ์นารา
“มัวแต่อยู่กับผู้ชาย เพื่อนหายยังไม่รู้” พันกรตำหนิ แต่เขาคิดว่าน้องสาวคงไม่ได้เป็นอะไรมาก เพราะอยู่ในไร่ของตัวเอง
“ขอตัวก่อนนะคะ”
“เดี๋ยวสิ ฉันคุยด้วยทำไมต้องเดินหนี”
“คุณมีอะไรเหรอคะ” บัวบูชาไม่กล้าเรียกเขาว่าเฮียเวลาอยู่ด้วยกัน ยกเว้นเวลาอยู่กับพิมพ์นารา เพราะว่าไม่อยากให้เพื่อนงอนที่เรียกพี่ชายเสียห่างเหิน
“ตกลงเลือกคนไหนล่ะ เห็นล้อมหน้าล้อมหลังตั้งหลายคน”
“เลือกคนไหน คือใครเหรอคะ” เธอถามเขาอย่างงุนงง ใบหน้าเหลอหลา
“ผู้ชายพวกนั้นไง”
“ทำไมต้องเลือกด้วยล่ะคะ” เธอไม่ได้กวนอารมณ์เขา แต่ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าทำไมถึงต้องเลือก
“อ้อ... คงอยากจะเก็บเอาไว้ทุกคนละสิ ถึงได้เลือกไม่ถูก”
“ทำไมต้องเก็บเอาไว้ด้วยล่ะคะ อื้อ...” บัวบูชาตกใจตาโตเมื่อโดนเขากระชากมาบดจูบหนักๆ เธอใช้มือทุบแผ่นหลังเขาระรัวเพื่อให้เขาปล่อย แต่สุดท้ายก็เคลิบเคลิ้ม เมื่อเขาเรียกร้องบดคลึงเคล้าริมฝีปากสวยอย่างกระหาย
“อุ๊ย! ว้าย!” บัวบูชากำลังเคลิบเคลิ้มกับริมฝีปากหยักหนาอบอุ่นของเขา จู่ๆ พันกรก็ผลักร่างเธอจนกระเด็น
“พอจูบเข้าหน่อยก็อ่อนระทวย ที่ดีดดิ้นตอนแรกนี่แค่เล่นละครใช่ไหม” บัวบูชายกมือขึ้นแตะริมฝีปาก รู้สึกอับอายที่เผลอตอบสนองเขาไปแบบนั้น เธอรีบลุกขึ้นหันหลังหนีเขาอีกครั้ง
พันกรเหมือนทนไม่ได้ที่ถูกเมินและเห็นอีกฝ่ายเดินหนี นอกจากจะไม่ตอบโต้แล้ว เธอยังไม่สนใจเขาอีกด้วย ทั้งๆ ที่โดนเขาจูบ แถมยังโดนผลัก นี่เป็นครั้งแรกที่พันกรรู้สึกว่าตัวเองไม่เป็นสุภาพบุรุษเอาเสียเลย
“จะไปไหน”
“บัวจะไปหาพิมพ์ค่ะ” เธอรู้สึกร้อนใจยังไงไม่รู้
“ไปหายัยพิมพ์ หรือนัดผู้ชายคนไหนเอาไว้”
“ทำไมบัวต้องนัดใครด้วยคะ” เธองงกับเขาจริงๆ ไม่ชอบหน้ากันแต่ทำไมถึงชอบหาเรื่องเธอนักนะ
“จะไปรู้เหรอ นอนคนเดียวอาจจะเหงา เลยอยากหาใครมานอนด้วย”
“บัวก็นอนกับพิมพ์ไงคะ”
“แน่ใจเหรอว่านอนด้วยกันทุกคืน”
“ไม่ทุกคืนหรอกค่ะ” บางคืนเธอก็ต้องไปถ่ายละคร จะนอนกับพิมพ์นาราด้วยกันทุกคืนได้อย่างไรกัน เขานี่ก็แปลก
“ก็ไม่ได้นอนกันทุกคืน” เขามองเพื่อนน้องสาวที่พยายามมองสำรวจหาใครสักคน ก็คิดไปว่าคงนัดใครเอาไว้ ไม่ใช่อยากจะไปหาพิมพ์นารา น้องสาวของเขาอย่างที่เข้าใจ
“คุณพันกรคะ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว บัวขอตัวก่อนนะคะ”
“ยังไม่ให้ไป” เขาลากเธอไปอีกด้าน ซึ่งไม่ใช่บ้านที่เธอนอนพักกับพิมพ์นารา แต่เป็นบ้านของเขา
“คุณจะพาบัวไปไหนคะ”