“เพื่อไม่ให้เธอทำตัวเหลวไหล เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้น้องสาวฉันเห็น ฉันจะกักเธอเอาไว้ก่อน”
“คะ... คุณว่าอะไรนะคะ” บัวบูชากดปลายเท้ากับพื้นเอาไว้ ไม่ให้เขาลากเข้าบ้านได้ เธอทั้งตกใจ ทั้งอ้าปากค้างและไม่คาดคิดว่าเขาจะเอาเหตุผลนี้มาลากเธอเข้าบ้าน
“เธอได้ยินไม่ผิดหรอก ฉันจะควบคุมความประพฤติของเธอ”
“บัวโตแล้วนะคะ”
“โตแล้วถึงขนาดแก้ผ้าถ่ายแบบ แล้วยังดื่มเหล้ากับพวกผู้ชายนี่นะ ลับหลังฉันไม่รู้ว่าเธอจะทำตัวเหลวแหลกขนาดไหน”
“เกี่ยวอะไรกับคุณด้วยคะ” เธองงไปหมดแล้ว
“ยัยพิมพ์ไม่เคยดื่มเหล้า แต่ก่อนหน้านี้ซดไปหมดแก้ว เพราะเธอแน่ๆ ที่ทำให้น้องสาวของฉันเป็นไปได้ถึงขนาดนี้”
“ปกติพิมพ์ไม่ดื่มเหล้านี่คะ” บัวบูชาเปรยขึ้นมาด้วยความงุนงง เลยเผลอถูกเขากระชากให้ตามเข้าไปในบ้านได้สำเร็จ
“ฉันจะสอบสวนความประพฤติของเธอ เราต้องพูดกันให้เข้าใจวันนี้” บัวบูชาได้แต่งุนงง ทำไมเขาจะต้องมาสอบสวนความประพฤติของเธอด้วย
“สอบสวนบัวทำไมคะ”
“ฉันอยากรู้ว่าทำไมเธอถึงได้ทำตัวเหลวไหล”
“ทำตัวเหลวไหล!” บัวบูชายิ่งงุนงงเข้าไปใหญ่ ทวนคำเขาอย่างตกใจ เธอทำตัวเหลวไหลตรงไหนกัน
“พูดแล้วยังจะมากวนอีก”
“บัวเปล่ากวนนะคะ”
“พูดแล้วยังจะมาเถียงอีก” พอเขาพูดแบบนั้น เธอก็ยกมือขึ้นปิดปากตัวเอง
“คืนนี้นอนนี่แหละ” เขาพูดหน้าตาเฉย บัวบูชาทั้งอ้าปากค้าง ทั้งตาโต
“บัวจะกลับไปนอนกับพิมพ์ค่ะ”
“ฉันไม่เชื่อ นัดใครเอาไว้ใช่ไหม”
“เดี๋ยวพิมพ์จะสงสัยว่าบัวหายไปไหน”
“สงสัยอะไรกัน มีงานเลี้ยงแบบนี้เธอจะนอนกับทีมงานก็ไม่มีใครว่า”
“คุณไม่มีเหตุผลเลย” เธอยืนขึ้นทำท่าจะเดินหนีออกจากบ้าน แต่โดนคว้าแขนเอาไว้
“อุ๊ย!” ร่างบางเซถลาไปในอ้อมแขนของชายหนุ่มอย่างไม่ตั้งใจ เธอมองเขาตาปริบๆ ทำท่าจะขยับออกเขาก็ดึงไปกอดเอาไว้แน่น
“ปกติขายเท่าไหร่ล่ะ” เขาถามเยาะๆ
“ขะ... ขายอะไรคะ” เธอมองเขาอย่างงงๆ วันนี้พี่ชายของเพื่อนมาแปลก แปลกตรงที่จ้องจะหาเรื่องเธออย่างเอาเป็นเอาตาย จู่ๆ ก็มาถามขายเท่าไหร่ เธอคิดตามแล้วให้งุนงงจนจับต้นชนปลายไม่ถูก
“ตัวเธอน่ะขายเท่าไหร่”
“คุณพันกร!” บัวบูชาคิดว่าเธอตะโกนออกไปดังแสนดัง แถมยังตกใจกับประโยคแสนจะดูถูกของเขา แต่จริงๆ แล้วแค่เสียงกระซิบในลำคอเท่านั้น เธอเสียใจกับคำพูดของเขา
“ฉันให้ราคาดีกว่าผู้ชายคนอื่น เธอสนใจไหม”
“ปล่อยบัวนะคะ บัวไม่ขายตัว” เธอดิ้นรนอย่างตกใจเมื่อเขายิ่งกอดรัดเธอแน่นขึ้น
“กับฉันไม่ต้องเล่นละครก็ได้ กับยัยพิมพ์ก็พอแล้วมั้ง” เขาดึงร่างเธอเข้าหา ฉุดปล้ำพาเข้าห้อง บัวบูชากดเท้าเอาไว้กับพื้น แต่เธอสู้แรงเขาไม่ไหว ร่างเล็กกระเด็นขึ้นไปบนเตียง นอนหงายอย่างเสียท่า
“คุณจะ... จะทำอะไร” บัวบูชาระล่ำระลักเอ่ยถามอย่างตกใจ ไม่คิดว่าพี่ชายของเพื่อนรักจะทำกับเธอถึงขนาดนี้
“เอาน่า ฉันได้ยินผู้ชายในงานพูดกันแล้วว่าเธอจะควบสักสี่ห้าคน เอาเป็นว่าฉันเหมาหมด ผู้ชายสี่ห้าคนนั้นคิดเท่าไหร่ ฉันให้สองเท่าเลยดีไหม”
“คุณต้องเสียสติแน่ๆ” บัวบูชาถลาลงจากเตียง แต่อีกฝ่ายก็ขวางเอาไว้ ก่อนจะผลักร่างน้อยลงไปบนเตียงกว้างอีกครั้ง
“ไม่หรอก ฉันก็เหมือนผู้ชายคนอื่นๆ นั่นแหละ เอาเป็นว่าฉันจะปิดเรื่องนี้เป็นความลับดีไหม ถ้าเธอกลัวเสียภาพพจน์กับยัยพิมพ์”
“อย่าทำอะไรบัวเลยนะคะ อีกวันสองวันบัวก็จะกลับแล้ว จะไม่อยู่ให้รกหูรกตาอีก” เธอขอร้องอย่างตกใจ ยอมรับว่าหวาดกลัวเขาจริงๆ
“ฉันไม่เหมือนผู้ชายคนอื่นตรงไหน” พันกรถามอย่างหงุดหงิด จัดการปลดกระดุมเสื้อของตัวเองออกอย่างกระแทกกระทั้น
“คุณกำลังเข้าใจผิด”
“เข้าใจผิดอะไร คนอื่นเค้าพูดกัน หลักฐานเต็มตา”
“หลักฐานอะไรคะ”
“ภาพเปลือยๆ ของเธอไง”
“บัวไม่เคยเปลือย แค่ใส่ชุดว่ายน้ำ”
“เหมือนกันแหละ ผู้หญิงที่กล้าใส่ชุดว่ายน้ำ ก็คงผ่านมาอย่างโชกโชน น้องสาวของฉันหลงไปคบเธอได้ยังไงไม่รู้”
“บัวคบกับพิมพ์ด้วยความบริสุทธิ์ใจจริงๆ” เธอพยายามอธิบาย จะหนีเขาก็ดักหน้าดักหลัง ทำไมถึงซวยแบบนี้ก็ไม่รู้
“อย่าเล่นตัวนักเลย” เขาดึงร่างน้อยมากอด ก่อนจะบดจูบริมฝีปากอิ่มสวยอย่างเร่าร้อน บัวบูชาทุบแผ่นหลังบึกบึนของเขาอย่างตกใจ แต่เพียงไม่นานความด้อยประสบการณ์และจิตใจที่เอนเอียงไปหาคนที่จูบเธออยู่ ก็ทำให้ร่างน้อยสั่นสะท้านอยู่ในอ้อมแขนของเขา
“อืม...” บัวบูชาร้องครางเมื่อถูกบดจูบซ้ำๆ
เขากดร่างเธอไปกับเตียงนอนอีกครั้ง และครั้งนี้เธอก็หมดแรงที่จะต้านทาน
“จูบหวานมาก” เขาเอ่ยชม ไล้ริมฝีปากอิ่มสวยด้วยนิ้วโป้งเบาๆ
บัวบูชามองสบตาลึกซึ้งของพี่ชายเพื่อน ก็รู้สึกอ่อนเปลี้ยไปหมด
“เธอน่ารักมากนะ” เขาเผลอชมเธอตามใจคิด บัวบูชากะพริบตาปริบๆ แต่สุดท้ายเขาก็เพิ่งรู้ตัวว่าพูดอะไรออกไป จึงบดจูบปิดปากสวยเอาไว้ไม่ให้ซักถามอะไรอีก
“อื้อ...” หญิงสาวร้องครางเมื่อเขาเลื่อนมือกอบกุมทรวงอกอวบอิ่ม เธอรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง จิตใจก็โอนอ่อนให้เขาอย่างน่าละอาย
พันกรจัดการปลดชุดสวยออกจากเรือนร่างสมส่วน เขาตาวาวเมื่อเห็นสัดส่วนยวนตาของเธออย่างชัดเจน บัวบูชานึกเขินอาย ยกมือขึ้นปิดเนื้อปิดตัวเอาไว้
“ปิดไม่มิดหรอก ตอนเธอใส่ชุดว่ายน้ำมันก็แทบทะลักออกมาแล้ว”
“คุณเห็นด้วยเหรอคะ”
“ยัยพิมพ์เอามาอวด” เขาพูดแล้วบดจูบ ซ่อนแววตาไม่พอใจเอาไว้ เพราะเรือนร่างขาวโพลนสมส่วนนี้ นอกจากเขาที่ได้เห็นและจับต้อง ผู้ชายคนอื่นก็ได้เห็นและจับต้องมาหลายคนแล้ว ยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิดเหลือเกิน
เธอมีพ่อแม่ส่งเสียให้เล่าเรียน แต่กลับไม่รู้จักใช้จ่ายเงินอย่างประหยัด สุรุ่ยสุร่ายจนต้องไปทำงานนุ่งน้อยห่มน้อยเพื่อเอาเงินมาซื้อของใช้สิ้นเปลือง ช่างเป็นผู้หญิงที่ไม่ดีเอาเสียเลย
ถ้าเธอไม่ใช่เพื่อนรักของพิมพ์นารา เขาคงไม่ต้องคอยพูดจาสั่งสอนอยู่ร่ำไป แต่พูดไปทีไรก็โดนน้องสาวตัวดีว่ากลับทุกที แถมยังเข้าข้างเพื่อนรักจนออกนอกหน้า คนที่โดนเขาสั่งสอนก็เหมือนกัน ทำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้ ไม่เคยสำนึกในความไม่รักดีของตัวเองเลย
ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่น จะแก้ผ้าถ่ายนู้ด เขาก็เฉยๆ แต่ไม่รู้ทำไม พอเป็นคนที่อยู่ใต้ร่างเขา เขากลับรู้สึกไม่เป็นสุข อยากจะฆ่าทุกคนที่หยิบยื่นงานอัปยศพวกนี้ให้เธอ
เขาเรียกมันว่างานอัปยศ!!!
บ้าสิ้นดี!!!
ยิ่งถ้าเป็นน้องสาวของเขาด้วยแล้ว ถ้าให้ไปทำงานอะไรแบบนี้ เขาคงให้หยุดเรียนกลับมาเก็บองุ่นอยู่ในไร่แน่นอน เพราะเขารับไม่ได้จริงๆ เขาอาจจะไม่ได้หัวโบราณคร่ำครึ แต่ความที่หวงน้องสาวและเลี้ยงดูกันมาตั้งแต่เล็กแต่น้อย เขาก็ไม่อยากให้น้องสาวหรือเพื่อนน้องสาวทำอะไรนอกลู่นอกทาง เพราะวงการมายาไม่มีอะไรดีเลย
บัวบูชาก็เหมือนกันกว่าจะผ่านมาได้แสดงหนังแสดงละคร หรือถ่ายแบบก็คงไต่เต้าผ่านมาอย่างโชกโชน แค่โชคดีที่ไม่ท้องเท่านั้น
เขาไม่ได้มองโลกในแง่ร้าย แต่มองความเป็นจริงของชีวิต พันกรให้เหตุผลกับตัวเองเช่นนั้น
“กินยาอยู่หรือเปล่า”
“คะ...” บัวบูชางงจริงๆ ว่าเขาถามอะไร กินยาอะไรกัน
“ฉันไม่มี...” เขาชะงักมองสีหน้าของเธอแล้วชั่งใจ
“ไม่มีอะไรคะ”
“ช่างเถอะ อย่างเธอคงป้องกันตัวเองดีอยู่แล้ว”
“คะ?” เธอเอาแต่ทำหน้างง
พันกรกอบกุมทรวงสาวเอาไว้เต็มอุ้งมือใหญ่ร้อนผ่าว เธอทำท่าจะปัดมือเขาทิ้ง แต่เขาก็ใช้มืออีกข้างกดเอาไว้และใช้อีกข้างกอบกุมเคล้นคลึงเพื่อปลุกเร้าอารมณ์สาวริมฝีปากร้อนผ่าวของเขาก้มลงรวบดูดทรวงอกอิ่มอย่างหิวกระหาย
หญิงสาวเผยอริมฝีปากครางเสียงสั่นพร่า ก่อนจะยกมือขึ้นปิดเอาไว้เพราะรู้สึกอาย
“ร้องดังๆ ก็ได้ เฮียไม่ว่าอะไรหรอก” เขาแทนตัวเองว่าอะไรนะ บัวบูชาคิดว่าตัวเองอาจจะหูฝาดไปจึงได้แต่กะพริบตาปริบๆ