“คิดถึงจังเลย” ภัทรศักดิ์ดึงร่างของเด็กน้อยไปกอดหอม ก่อนจะยกขึ้นเหนือศีรษะ จนกิตต้องหัวเราะเอิ้ก อ้ากออกมา ส่วนหนึ่งฤทัยนั้นได้แต่มองทั้งคู่ตาปริบๆ
“แม่หนึ่งครับนี่พี่ภัทรครับ” เด็กน้อยรีบเอ่ยแนะนำให้ทั้งคู่ได้รู้จักกัน
ภัทรศักดิ์หันมามองหญิงสาวที่กำลังยืนมองเขาอยู่ก่อนแล้วก่อนจะยิ้มส่งไปให้ หัวใจของเขากระตุกเมื่อได้สบตากับหญิงสาวตรงหน้า เขารู้สึกชอบผู้หญิงตรงหน้าเหลือเกิน แต่ประโยคเรียกขานว่าแม่หนึ่งทำให้เขาคิดว่าผู้เป็นอามีภรรยาซุกเอาไว้ แต่ไม่ยอมบอกเขา
“สวัสดีครับคุณ...” เขากล่าวสวัสดีก่อนจะพูดประโยคที่ต้องทำให้เธอแนะนำตัวเอง
“ฉันชื่อหนึ่งฤทัยค่ะ ชื่อเล่นว่าหนึ่งบ้านอยู่ใกล้กันนี่แหละค่ะ”
“คุณเป็นอะไรกับอาภีมเหรอครับ” ภัทรศักดิ์เอ่ยถามอย่างสนใจ
“ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับอาภีมค่ะ” เธอตอบด้วยรอยยิ้มคิดว่าเขาคงเข้าใจว่าเธอเป็นอะไรกับภีมพัฒน์แน่นอนเพราะกิตเรียกเธอว่าแม่
“งั้นคุณเป็นครูสอนพิเศษให้กิตเหรอครับ” ภัทรศักดิ์เอ่ยถามอีก คิดว่าที่กิตเรียกหนึ่งฤทัยว่าแม่อาจเพราะอยากมีแม่นั่นเอง เขารับรู้มาโดยตลอดผ่านทางผู้เป็นอาว่ากิตอยากมีแม่ เห็นใครใจดีก็อยากได้มาเป็นแม่เสียหมด แต่อาของเขาค่อนข้างเลือกจึงยังไม่แต่งงานจนถึงทุกวันนี้
“ไม่ใช่อีกนั่นแหละค่ะ ฉันแค่แวะมาสอนการบ้านให้กิตก็เท่านั้นเองค่ะ” เธอรีบปฏิเสธด้วยรอยยิ้ม
“ผมชื่อภัทรศักดิ์ครับ ชื่อเล่นว่าภัทรเป็นหลานชายคนเดียวของอาภีมครับ พ่อผมเป็นพี่ชายของอาภีมน่ะครับ” เขาขยายความให้เธอได้เข้าใจ
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” เธอกล่าวยินดีเขาเองก็ยิ้มให้เธอเช่นกัน
“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ แล้วนี่กำลังสอนการบ้านกันอยู่เหรอครับ”
“ใช่ค่ะ”
“ขนมน่ากินจังเลยนะครับ”
“คุกกี้ตัวหนอนไส้สับปะรดของแม่หนึ่งครับ แม่หนึ่งทำเองอร่อยมากๆ เลยครับพี่ภัทร”
“ผมอยากชิมแล้วสิครับ” ภัทรศักดิ์ยื่นมือไปทำท่าจะหยิบกิน แต่โดนเด็กน้อยตีมือเอาไว้
“โอ๊ย! ตีมือพี่ทำไมครับ”
“พี่ภัทรต้องไปล้างมือก่อนครับ”
“งั้นผมคงต้องขอตัวไปอาบน้ำอาบท่าก่อนดีกว่าครับ ไม่งั้นจะโดนหาว่าสกปรก เด็กแถวนี้ตีมือเอาอีก” ภัทรศักดิ์พูดแล้วดึงกิตมากอดและหอมแก้มอีกฝ่ายแรงๆ นั่นทำให้ กิตต้องดิ้นไปมาทำท่างอนๆ ใส่ ภัทรศักดิ์ชอบแกล้งกอดหอมแรงๆ บ่อยๆ
“เดี๋ยวมานะครับเด็กน้อย” เขาโยกศีรษะของกิตไปมา ก่อนจะรีบเดินเข้าบ้าน สาวใช้นำน้ำดื่มมาเสิร์ฟให้เจ้านายหนุ่ม ก่อนที่จะช่วยขนสัมภาระขึ้นไปยังห้องนอนของภัทรศักดิ์ซึ่งภีมพัฒน์นั้นได้ให้คนทำความสะอาดเอาไว้อยู่เสมอตั้งแต่หลานชายไปเรียนต่อต่างประเทศ
ภัทรศักดิ์รีบอาบน้ำอาบท่าและลงไปนั่งสอนการบ้านกิตพร้อมๆ กับหญิงสาวแสนสวย ไม่นานภีมพัฒน์ก็กลับมา เขาดีใจที่ได้เจอกับหลานชาย แต่ก็ประหลาดใจเพราะภัทรศักดิ์ไม่ได้แจ้งเอาไว้ล่วงหน้า
“กลับมาทำไมไม่บอก อาจะได้ไปรับ”
“ผมอยากกลับมาเซอร์ไพร้ส์ไงครับ” ภัทรศักดิ์พูดแล้วโยกศีรษะของกิตไปมาเบาๆ ด้วยความเอ็นดู
“คิดถึงคุณพ่อจัง” กิตตรงเข้าไปกอดหอมแก้มบิดา ทำให้หนึ่งฤทัยมองคนทั้งสามอย่างเปรียบเทียบ
“หน้าของน้องกิตเหมือนคุณภัทรมากกว่าอาภีมอีกนะคะนี่ นี่ถ้าบอกว่าเป็นลูกของคุณภัทรหนึ่งเชื่อเลยนะคะ” เธอเผลอหลุดปากวิจารณ์ออกมาตรงๆ แต่คิดว่าทั้งสามเป็นครอบครัวเดียวกัน หน้าตาคล้ายกันก็คงเป็นเรื่องธรรมดา
ภีมพัฒน์กับภัทรศักดิ์ถึงอึ้งในความช่างสังเกตของหนึ่งฤทัย เจ้าหนูน้อยทำลายความเงียบด้วยน้ำเสียงสดใส จึงเลี่ยงการตอบคำถามของสองหนุ่มอาหลานไปได้โดยพลัน
“วันนี้น้องกิตจะได้กินข้าวพร้อมกับคุณพ่อกับพี่ภัทร แล้วก็มีพี่หนึ่งคนสวยอีกคนหนึ่งด้วยครับ” เด็กน้อยที่กำลังวาดรูปอยู่ยกภาพนั้นให้ผู้ใหญ่ดู
“สวยจังเลยครับ วาดรูปเก่งตั้งแต่เด็กเลยนะเรา” ภัทรศักดิ์เอ่ยชม ทำให้ภีมพัฒน์ต้องเอ่ยขอตัว
“งั้นอาขอไปอาบน้ำอาบท่าก่อนนะ เดี๋ยวจะได้มากินข้าวด้วยกัน” เพราะใกล้เวลาอาหารเย็นแล้ว เขาเองก็มีเรื่องอยากจะพูดคุยกับหลานชายหลายเรื่องอยู่เหมือนกัน
“ครับอา” ภัทรศักดิ์หันไปรับคำ ก่อนจะหันมาพูดกับหนึ่งฤทัยเมื่อผู้เป็นอาเดินจากไปแล้ว
“เรียกผมว่าพี่ก็ได้ครับ อย่าเรียกคุณเลยมันดูห่างเหิน”
“ค่ะ” หนึ่งฤทัยไม่ได้มีปัญหาอยู่แล้วเพราะภัทรศักดิ์นั้นเป็นกันเองและสนุกสนาน พูดคุยแล้วทำให้รู้สึกสบายใจ
ภีมพัฒน์ลงมาอีกครั้งก็ได้เวลาอาหารเย็น เขาสังเกตได้ถึงความสนิทสนมของหลานชายกับหนึ่งฤทัยบนโต๊ะอาหาร หลังจากหนึ่งฤทัยกลับไปแล้ว ภัทรศักดิ์ก็มาคุยเรื่องหนึ่งฤทัยในทันที
“หนึ่งดูรักและเอ็นดูกิตมากเลยนะครับ”
“เขาสนิทกัน มาสอนการบ้าน มาอาบน้ำเล่านิทานให้ฟังบ่อยๆ”
“อาภีมคิดยังไงกับหนึ่งเหรอครับ” ภัทรศักดิ์ถามตรงๆ
“ก็ไม่ได้คิดอะไรนี่ เขาก็เป็นเพื่อนบ้านที่ดี” คำตอบของผู้เป็นอาทำให้ภัทรศักดิ์อมยิ้ม คิดอะไรบางอย่างขึ้นมาในหัว
“อาภีมครับ ผมชอบหนึ่งครับ อาภีมช่วยเป็นพ่อสื่อให้ผมหน่อยสิครับ” ประโยคของภัทรศักดิ์ทำให้ภีมพัฒน์ถึงกับอึ้งไป ภัทรศักดิ์อยากรู้ว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่เป็นเช่นไรถึงได้เอ่ยออกมาเช่นนี้ อาของเขาเสียสละเพื่อเขามาตลอด เขาจึงอยากทำให้อีกฝ่ายสมหวังบ้าง
ภัทรศักดิ์อยากจะทำให้คนปากแข็งได้รู้ใจตัวเอง หึงหวงเขาออกมาบ้าง จีบเขาบ้างจะได้ไม่ต้องอยู่คนเดียวไปแบบนี้ หลานชายผู้หวังดีคิดขำๆ อยู่ในใจ
“เพิ่งเจอกัน ชอบเขาแล้วเหรอ” ภีมพัฒน์เอ่ยถามอย่างแปลกใจ แต่เขาก็รู้นิสัยของหลานชายดี อีกฝ่ายค่อนข้างเจ้าชู้พอสมควร
“ชอบครับ ชอบมากเลย” ภัทรศักดิ์เอ่ยแล้วรอดูท่าทีของผู้เป็นอา
“ถ้าเราจะเล่นๆ อาไม่โอเคหรอกนะ หนึ่งเป็นคนดี คุณยายเองก็มีน้ำใจกับอามาก เราจะไปทำให้หลานสาวของเขาเสียใจ คงมองหน้ากันไม่ติด”
“ผมจริงจังนะครับอาภีม ไม่ได้เล่นๆ” ประโยคหนักแน่นของหลานชายและท่าทีจริงใจนั้นทำให้ภีมพัฒน์จำต้องรับปากอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“ขอบคุณอาภีมมากๆ ครับ” ท่าทีดีใจของหลานชายทำให้ภีมพัฒน์ไม่กล้าปฏิเสธ พี่ชายของเขาได้ฝากภัทรศักดิ์เอาไว้ เขาก็อยากดูแลหลานชายให้ดีที่สุด
หนึ่งฤทัยมาหากิต แต่ลึกๆ ในใจเธออยากเห็นหน้าภีมพัฒน์ แต่เขากลับหลบเลี่ยงเหมือนไม่อยากเจอเธอ ทำให้เธอต้องอยู่กับภัทรศักดิ์ตามลำพังอยู่เสมอ
“พี่กำลังจะพาน้องกิตไปตลาด ไปด้วยกันไหมครับ” ภัทรศักดิ์เอ่ยถามหญิงสาวข้างบ้าน การทำให้อาของเขาหึงดูจะไม่เห็นผลเท่าไหร่
ในเมื่อผู้ชายไม่แสดงออกอย่างชัดเจนผู้หญิงก็ไม่กล้า เขาเองก็ดูออกว่าหนึ่งฤทัยมีใจให้ผู้เป็นอาของเขาเหมือนกัน
“แม่หนึ่งไปด้วยกันนะครับ” กิตรีบจับมือของพี่สาวข้างบ้านพลางเอ่ยชวน
“จ้ะ” หนึ่งฤทัยจำต้องรับคำ ในขณะที่เธอไม่เห็นแม้แต่เงาของภีมพัฒน์ ซึ่งเธอไม่รู้ว่าเขานั้นได้แอบมองอยู่ตรงหน้าต่างห้อง
ภัทรศักดิ์พาหนึ่งฤทัยและกิตมาเที่ยวตลาด ก่อนที่หญิงสาวจะเดินชนเข้ากับพ่อเลี้ยงจักรอย่างไม่ตั้งใจ
“อุ๊ย! ขอโทษค่ะ” เธอรีบเอ่ยขอโทษขอโพย ในขณะที่พ่อเลี้ยงจักรนั้นตั้งใจเดินมาชนกับหนึ่งฤทัยเพราะอยากทำความรู้จักกับเธอ ด้วยว่าหญิงสาวนั้นมีหน้าตาสะสวยและถูกตาต้องใจเขาเป็นอันมาก
“ไม่เป็นไรครับ ผมพ่อเลี้ยงจักรครับ คุณชื่ออะไรครับ” ประโยคนั้นทำให้หนึ่งฤทัยจำต้องแนะนำชื่อของตัวเองให้อีกฝ่ายได้รู้จักเช่นกัน
“ฉันชื่อหนึ่งฤทัยน่ะค่ะ”
“ผมไม่เคยเห็นหน้าของคุณมาก่อนเลยครับ เพิ่งย้ายมาอยู่ที่นี่เหรอครับ”
“ใช่ค่ะ หนึ่งย้ายตามคุณยายกลับมาอยู่บ้านเกิดของท่านน่ะค่ะ เพิ่งย้ายมาอยู่เดือนกว่าๆ เอง”
“ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ นี่นามบัตรของผมครับ หวังว่าเราคงจะได้เจอกันอีก ถ้าคุณหนึ่งมีปัญหาอะไร หรือมีเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจอะไรอยากให้ผมช่วยก็ติดต่อผมได้เลยนะครับ ผมยินดีช่วยเหลือทุกอย่าง”