ตอนที่4

958 Words
บรรยากาศยามเช้าที่สดใสแต่ไม่ช่วยให้ชายหนุ่มที่เดินลงบันไดสดใสเหมือนกับบรรยากาศในตอนนี้เอาเสียเลย เพื่อคำพูดของผู้เป็นแม่เมื่อคืนนั้นทำเอาเขาแทบจะนอนไม่หลับ ยิ่งมีชื่อของปารีณาผู้หญิงที่เขาเคยเจเพียงไม่กี่ครั้งมาข้องเกี่ยวอีกมันยิ่งทำให้เขาใจไม่ดี เป็นกังวลกลัวว่าแม่ของเขาจะมีแผนอะไรขึ้นมาอีก "อ้าว ตาดินไม่ทานข้าวก่อนเช้าก่อนเหรอลูก"เมื่อเดินผ่านห้องรับประทานอาหารเสียงทุ้มของผู้เป็นพ่อเอ่ยทักขึ้น สองขาที่กำลังจะก้าวไปด้านหน้าหยุดชะงักก่อนจะหมุนตัวไปมองผู้เป็นพ่อที่กำลังจะเดินพ้นประตูเข้าไปในห้องรับประทานอาหาร สายตาเรียบคมมองผู้เป็นแม่ที่ยืนอยู่ไม่ไกล ร้อยวันพันปีเห็นจะได้ที่เขามีโอกาสได้เห็นแม่ของเขาอยู่ร่วมรับประทานอาหารเช้า "ผมจะไปทานกับฟ้าที่บ้านของเธอครับคุณพ่อ" "อืม งั้นลูกรีบไปเถอะวันนี้มีประชุมกับบอร์ดด้วย เดี๋ยวจะสายเอา"คุณอัคคีพยักหน้าด้วยความเข้าใจพร้อมกับปรายสายตาไปมองภรรยาที่ยืนอยู่ไม่ไกล เขาแอบเห็นว่าสองมือของภรรยากำหมัดแน่น ก็อย่างที่ว่าล่ะภรรยาของเขาไม่ชอบเด็กสาวที่เป็นคนรักของลูกชาย "หึ อยากกินข้าวกับคนนอกคงจะอร่อยมากกว่ากินกับพ่อและแม่สินะ "สองเท้าที่กำลังจะก้าวหยุดลงเมื่อได้ยินคำพูดประชดประชันของผู้เป็นแม่ ปฐพีหมุนตัวกลับหันไปมองหน้าก็เจอสายตาของความไม่พอใจจากผู้เป็นมารดาที่ส่งมาให้ "แม่ถามตัวเองดีกว่านะครับ ว่ากินข้าวข้างนอกมันอร่อยกว่ากินข้าวกับลูกและผัวตัวเองไหม แม่ถึงได้ทิ้งผมกับพ่อให้กินข้าวกันเพียงสองคนไม่รู้กี่ปี" "ปฐพี" เพียะ "คุณหญิง" ใบหน้าของปฐพีสะบัดไปตามแรงตบ ความชาในตอนแรกแปรเปลี่ยนเป็นความเจ็บมันเจ็บร้าวไปทั้งซีกหน้าเขาหันหน้ามาจ้องมองมารดาด้วยแววตาแข็งกร้าวก่อนจะปรับสายตาให้เรียบนิ่งดังเดิม เขาเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้ม แล้วใช้นิ้วมือเช็ดเลือดที่มุมปากของตนเอง รจนามองลูกชายของตัวแววตาโรจน์เธอไม่นึกเลยว่าลูกในไส้จะกล้าลั่นวาจาเจ็บแสบได้ถึงเพียงนี้ "ที่ฉันทำทุกอย่างก็เพราะอยากจะให้แกได้ในสิ่งที่ดีที่สุด แต่ฉันไม่นึกเลยว่าแกจะกล้าพูดกับฉันแบบนี้" "เหอะ แม่อยากให้ผมได้ในสิ่งที่ดีแต่แม่เคยถามผมสักคำไหมว่าผมอยากได้มันหรือเปล่าไอ้สิ่งดี ๆที่แม่มอบให้" "..." "แม่เคยคิดบ้างหรือเปล่าว่าทุก ๆวันคนที่ผมอยากเจอเป็นคนแรกคือใคร แม่เคยคิดบ้างไหมว่าผมก็อยากได้รับความอบอุ่นจากแม่เหมือนกับคนอื่น ไงบ้าง แม่เอาแค่สนใจหน้าตาของตัวเอง ไม่เคยสนใจความรู้สึกของผมกับพ่อเลยสักนิด แม่เอาแต่หาความสุขให้กับตัวเองเคยหันมามองผมกับพ่อบ้างไหม"ความรู้สึกมากมายที่อยู่ในใจตั้งแต่เล็กจนใหญ่ถูกระบายออกมาจนหมดเปลือก "ดิน แม่" "แม่เคยจำได้ไหมครับ ว่าเราเคยกินข้าวแบบพร้อมหน้าพร้อมตาครั้งล่าสุดเมื่อไหร่"รจนามองหน้าลูกชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยสายตาที่สั่นไหวก่อนจะเปลี่ยนมาเรียบนิ่งดั้งเดิม "ถึงฉันจะทำหน้าที่แม่ไม่ดี แต่ฉันสามารถมอบสิ่งดี ๆ ให้แกได้ก็แล้วกัน" "งั้นแม่ก็เก็บสิ่งที่ดีของแม่เอาไว้ก็แล้วกันนะครับ เพราะผมไม่ต้องการ"เพราะสิ่งที่เขาต้องการมันสวนทางกับสิ่งที่แม่ของเขากำลังยัดเยียดให้ "ครั้งนี้คุณทำเกินไปนะคุณหญิง"เมื่อลูกชายเดินออกไป ผู้เป็นพ่ออย่างคุณอัคคีรีบเอ่ยปากต่อว่าภรรยาโดยทันที "เกินไปตรงไหน ที่ฉันทำเพราะฉันอยากให้ลูกได้รับสิ่งดี ๆ ทั้งนั้น"คนเป็นแม่ทุกคนล้วนอยากให้ลูกมีชีวิตที่ดี สุขสบาย อะไรที่คิดว่าดีคนเป็นแม่ก็พร้อมที่จะมอบให้ได้ทุกอย่าง "แล้วคุณเคยถามความรู้สึกของลูกบ้างไหม ว่าลูกอยากจะได้มันหรือเปล่า" "ถึงไม่อยากได้แต่อย่างไรชีวิตของลูกก็จะต้องเดินไปในทางที่ฉันวางเอาไว้ ลูกต้องมีชีวิตที่ดีโดยที่ไม่มีนางเด็กอิงฟ้าอะไรนั่น คนที่ลูกจะต้องแต่งงานคือหนูปารีณาเท่านั้น จำเอาไว้"คุณอัคคีส่ายหน้าให้กับความบงการของภรรยาที่มีมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเมียของตัวเองต้องคอยเอาแต่บงการชีวิตของลูกมาตั้งแต่เล็กจนโต ทั้งที่จริงแล้วปฐพีควรจะมีชีวิตที่เป็นอิสระเดินไปตามเส้นทางชีวิตของตัวเอง ไม่ต้องคอยเดินตามเส้นทางที่แม่เจ้าบงการวางเอาไว้ "คอยดูเถอะรจนา ถ้าคุณขืนยังบงการชีวิตของลูกอีก สักวันคุณจะไม่เหลือใครที่จะยืนอยู่ข้างกายของคุณ"การอดทนต่อสิ่งที่รบเร้าจิตใจมันถือว่าหนักหน่วงยิ่งเราไม่สามารถที่จะตอบโต้อะไรได้มันยิ่งทำให้กดดัน ความอดทนก็เหมือนกับระเบิดเวลา ที่เดินถอยหลังอย่างช้า ๆ ก่อนที่มันจะระเบิดทำลายล้างจนไม่เหลืออะไร
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD