ตอนที่6

1348 Words
ปฐพีมาถึงบริษัทเหลือเวลาเพียงแค่สิบนาทีเท่านั้นก็จะถึงเวลาเข้าร่วมประชุม หุ้นส่วนคนสำคัญต่างทยอยเดินเข้ามาภายในห้องประชุมซึ่งมีคุณหญิงประภาพรรณรวมอยู่ในนั้นด้วย และคนที่นั่งอยู่ด้านข้างคุณหญิงประภาพรรณนั้นก็ไม่ใช่ใครถ้าไม่ใช่คุณหญิงรจนาเพื่อนที่รักกันมาตั้งแต่วัยเรียน ทั้งคู่ได้หมายมั่นปั้นมือว่าจะให้ลูกของทั้งสองแต่งงานกัน ด้วยความเหมาะสมของฐานะและหน้าตาทางสังคมนั้นคุณหญิงแม่ของปฐพีจึงเอ่ยปากขอปารีณาลูกสาวเพียงคนเดียวของเพื่อนรักมาเป็นลูกสะใภ้ของวงศ์ตระกูล "นี่เมื่อไหร่ลูกชายขอเธอจะมาล่ะ รจนานี่ก็ใกล้เวลาที่จะประชุมแล้วนะ" "ปฐพีกำลังรวบรวมเอกสารอยู่ คงใกล้จะเสร็จแล้ว เธอรอหน่อยนะ"รจนาได้แต่ก่นด่าลูกชายของตัวเองอยู่ในใจที่กำลังจะทำให้ตัวเองเสียความหน้าเชื่อถือ รู้อย่างนี้เมื่อเช้าเธอไม่ยอมปล่อยให้ไปหานางเด็กนั่นเสียก็ดี แกร๊ก เสียงเปิดประตูห้องประชุมที่ดังขึ้นในเวลาต่อมาเรียกสายตาให้ทุกคนที่นั่งอยู่ต้องหันไปมอง ชายหนุ่มที่อยู่ในชุดสูทสีดำเข้มเดินเข้ามาพร้อมกับเลขาที่ถือเอกสารการประชุมในครั้งนี้เดินตามหลังมาติด ๆ สายตาคมเข้ม เรียบนิ่งแฝงไปด้วยความดุดันกวาดมองหน้าคนที่นั่งอยู่ภายในห้องประชุมแห่งนี้ กายหนาเดินไปนั่งบนเก้าอี้ตรงหัวโต๊ะสายตายังคงจอดจ้องมองหน้าของทุกคน ก่อนที่สายตาคมกริบของเขาจะสบเข้ากับใบหน้าของเพื่อนสนิทของแม่ และแม่ของเขาที่กำลังจ้องมองกลับมา "ขอโทษนะครับที่ทำให้ทุกท่านต้องรอพอดีเอกสารการประชุมในครั้งนี้มีปัญหานิดหน่อย ผมกับเลขาจึงช่วยกันรีบแก้ หวังว่าทุกท่านคงจะไม่ติดใจ"กล่าวคำขอโทษและเหตุผลอ้างอิงได้อย่างลื่นไหล จนไม่มีใครจับสังเกตและพิรุธได้นอกจากแม่ของตัวเองที่รู้ว่าเกิดอะไรอยู่เต็มหัวใจ "เอาล่ะครับในเมื่อทุกคนมาครบกันแล้วผมขอเริ่มเปิดการประชุมในครั้งนี้ครับ"เอกสารที่เตรียมมามีเลขาคนสนิทของปฐพีเดินแจกจ่าย รายได้ในไตรมาสของปีที่แล้วสามารถสร้างความพึงพอใจให้กับหุ้นส่วนคนอื่น ๆ ได้เป็นอย่างดี และปีนี้มีเรื่องที่น่ายินดีเพราะมีบริษัทจากจีนติดต่อมาให้ทางบริษัทสร้างคอนโดที่ใหญ่โตมากกว่าหนึ่งร้อยชั้นซึ่งนั่นเท่ากับว่าจะมีเม็ดเงินจำนวนมหาศาลไหลเข้าในบริษัท ซึ่งงบการสร้างคอนโดในครั้งนี้ทางอีกฝั่งทุ่มไม่อั้นขอแค่ให้ได้ในตามแบบที่อีกฝ่ายต้องการก็เพียงพอ ทุกคนต่างปรบมืออย่างดีใจ คนอย่างปฐพีไม่เคยทำให้พวกเขาผิดหวังหลังจากที่พ่อของเขายกตำแหน่งประธานบริหารบริษัทแห่งนี้ให้เม็ดเงินที่ได้จากกำไรเพิ่มพูนมากมายขึ้นทุกปี ๆ เป็นที่น่ายินดีกำผู้ร่วมลงทุน หลังจากประชุมกันมาอย่างยาวนานก็ถึงเวลาจบลง หุ้นส่วนทุกคนก็ต่างเข้ามาแสดงความยินดี ปฐพีสามารถพาบริษัทให้ก้าวไปไกลตั้งแต่สองปีแรกที่ได้เข้ามาบริหารซึ่งสร้างความดีใจให้กับผู้เป็นพ่อที่ได้เห็นความสามารถของลูกชายเพียงคนเดียว และความสามารถของปฐพีทำให้เพื่อนในแวดวงสังคมไฮโซของคุณหญิงรจนากล่าวขานมากยิ่งขึ้น ความสมบูรณ์แบบของปฐพีต่างเป็นที่หมายปองของลูกหลานเหล่าไฮโซกันทั้งนั้น ซึ่งนั่นก็เป็นสิ่งที่แม่ของปฐพีนั้นต้องการ สิ่งที่แท้จริงที่คนอย่างคุณหญิงรจนานั้นต้องการก็คือ การทำให้ลูกชายของตัวเองเป็นศูนย์รวมของความเก่ง ความเพอร์เฟคในทุก ๆ ด้านต้องการทำให้เป็นที่สนใจของทุก ๆ ไม่ว่าจะเดินไปทางไหนก็มีแต่คนกล่าวถึง "ปฐพีเดี๋ยวอย่าพึ่งไปลูก"ปฐพีที่กำลังจะเดินออกจากห้องประชุมตามหลังหุ้นส่วนถึงกับต้องถอนหายใจออกมาแรง ๆ สีหน้าของเขาในตอนนี้ไม่สบอารมณ์เอาเลยสักนิด "แม่มีอะไรครับ"ถามออกไปอย่างต้องการตัดความรำคาญใจถ้าเป็นไปได้เขาต้องการที่จะเดินออกไปจากห้องนี้เสียให้พ้น ๆ "แม่มีคนที่จะแนะนำให้ลูกได้รู้จัก นี่คือคุณหญิงประภาพรรณหุ้นส่วนคนสำคัญของบริษัทเรา แล้วก็ยังเป็นเพื่อนของแม่ด้วยจ้ะ"สายตาของปฐพีมองตั้งแต่ศีรษะจรดถึงปลายเท้าริมฝีปากหยักขยับยิ้มออกมามือหน้ายกขึ้นไหว้อย่างคนไม่เต็มใจ "สวัสดีครับ" "สวัสดีจ้ะ ไม่ได้เจอกันตั้งนานตาดินคงจำน้าไม่ได้" "คงประมาณนั้นมั้งครับ" "ก็อย่างว่าน้ากับคนรอบครัวย้ายไปอยู่ต่างจังหวัดมาตั้งหลายปี ไม่แปลกที่ตาดินจะจำไม่ได้"คุณหญิงมองหน้าลูกชายเพื่อนสนิทด้วยความถูกใจ ผู้ชายที่เพียบพร้อมไปทุกอย่างแบบนี้เหมาะที่จะมาเป็นคู่ชีวิตของลูกสาวเธอ "แต่ว่าตาดินยังจำหนูปารีณาลูกสาวของน้าได้ใช่ไหมลูก" "ต้องจำได้อยู่แล้วสิพรรณ ก็ในเมื่อตอนเด็ก ๆ ลูกสาวของเธอนั้นชอบเดินตามตาดินของฉันติดแจเลย"สองเพื่อนซี้ต่างพากันหัวเราะออกมาอย่างถูกใจเมื่อนึกถึงวัยเด็กของลูกน้อย แต่แล้วเสียงหัวเราะของทั้งคู่ก็หยุดลงเมื่อเจอคำตอบที่บาดใจของปฐพี "ทำไมผมจะจำไม่ได้ล่ะครับ เด็กผู้หญิงผมหยิกตัวอ้วนผิวดำชอบแคะขี้มูกมากินแถมยังชอบใส่กางเกงในสีแดงแถมฟันหน้ายังเหมือนฟันกระต่ายทำไมผมจะจำไม่ได้ล่ะครับ"คำตอบของปฐพีทำเอาทั้งห้องตกอยู่ในความเงียบ รังสีอันตรายที่แผ่กระจายออกมาจากผู้เป็นแม่ทำให้เลขาที่ร่วมทำงานมาต้องรีบเดินหนีออกไป "ตาดินคงจะพูดล้อเล่นน่ะ เธออย่าไปถือสาตาดินเลยนะ" "จ้ะ"ถึงแม้จะจับน้ำเสียงแห่งความไม่พอใจที่ออกมาได้แต่ถึงอย่างไรคนอย่างเธออยากจะได้อะไรก็ต้องได้ และเธอก็อยากจะได้ลูกชายเพื่อนมาเป็นลูกเขยเพื่อให้เป็นชื่อเสียงแห่งวงศ์ตระกูลของเธอ "แต่ตอนนี้หนูปารีณาเปลี่ยนไปมากแล้วนะลูก ทั้งขาวทั้งสวย เหมาะที่จะมาเป็นคนรักของลูกเลย"รจนาได้แต่เก็บอาการไม่พอใจเอาไว้ ลูกชายตัวดีพูดอะไรไม่ถนอมใบหน้าของเธอเลยสักนิด ดีหน่อยที่เพื่อนของรักอย่างประภาพรรณมีจุดประสงค์เดียวกันคืออยากให้ลูกทั้งสองรักใครเป็นทองแผ่นเดียว เพราะถ้าไม่เช่นนั้นคำพูดเมื่อครู่คงไม่ทำให้ลูกชายของเธอยืนลอยหน้าลอยตาได้อยู่แบบนี้ "ให้สวยราวกับนางฟ้านางสวรรค์ผิวพรรณขาวเปล่งปลั่งแค่ไหนผมก็ไม่เอาครับ เพราะผมมีคนรักอยู่แล้ว และผมก็รักเธอมากด้วย แม่กับคุณน้าเลิกคิดที่จะจับคู่ให้ผมกับยายฟันกระต่ายนั่นสักที"ปฐพีรู้ดีว่าแม่ของเขาพยายามจับคู่กับเขากับลูกสาวของเพื่อนสนิทที่เขาเห็นมาตั้งแต่เด็ก เด็กน้อยที่แสนจะสกปรกชอบแคะขี้มูกตัวเองออกมากิน แค่คิดก็สยอง ต่อให้เหลือผู้หญิงอย่างปารีณาคนเดียวบนโลกใบนี้ก็อย่าหวังว่าคนอย่างเขาจะเอามาทำเมีย "ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวไปทำงานก่อนนะครับ มีงานสำคัญที่จะต้องทำไม่มีเวลาว่างมาคุยเรื่องไร้สาระทั้งวัน ไปก่อนนะครับแม่คุณน้า สวัสดีครับ"ยกมือขึ้นไหว้กล่าวลาก่อนจะเดินออกไปจากห้องประชุมใหญ่ทิ้งไว้ให้สองสาวยืนหน้าเสีย "ลูกชายของเธอปากร้ายใช่เล่นนะ" "สงสัยต้องเรียกหนูปารีณาให้ขึ้นมาปราบพยศสักหน่อยแล้วล่ะ"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD