“เอ็ดเวิร์ด...”อนาสตาเซียเคาะและเอ่ยเรียกเอ็ดเวิร์ดที่อยู่หลังพวงมาลัยรถสีดำที่จอดอยู่
“วันนี้เป็นไงบ้าง?” เอ็ดเวิร์ดเอ่ยถาม เมื่ออนาสตาเซียเข้ามานั่งในรถเคียงข้างเขา
“…ดีนะ!…แต่วันพรุ่งนี้ต้องดีกว่าแน่นอน...เพราะเอ็ดเวิร์ดและ โนอาห์จะมาดูด้วย” เอ็ดเวิร์ดยิ้มให้อนาสตาเซีย เพราะมีเซอร์ไพรส์ที่เธอยังไม่รู้ว่าท่านอดัมกับคุณแม่ก็จะมาชมการแสดงของเธอด้วย ถึงแม้จะไม่ใช่รอบการแสดงแรกก็ตาม แต่ละครเวทีนี้เป็นเรื่องที่สองของอนาสตาเซียที่เธอได้รับคัดเลือกให้แสดงอีกครั้งอย่างเต็มตัว ในฐานะนักแสดงนำฝ่ายหญิง
เอ็ดเวิร์ดมองหญิงสาวที่เธอเต็มเปี่ยมไปด้วยเลือดศิลปินมาตั้งแต่คุณปู่พีท(ปีเตอร์ มาร์ส) คุณย่าหนูนาหรือนีน่า และรวมถึงท่านอดัม ที่เป็นพ่อของเธออดีตนายแบบแถวหน้าของวงการ หลายๆรูปแบบของศิลปะที่จากรุ่นสู่รุ่น ทำให้อนาสตาเซียมีความรัก ความสนใจตั้งแต่เยาว์วัยด้านเหล่านี้ เธอค่อยๆเริ่มขยับและพัฒนาตัวเองมาเรื่อยๆ เธอมีความสามารถทั้งร้อง ทั้งเต้น การแสดง ความสามารถที่ติดตัวได้รับการสนับสนุนจากทุกคน ที่ต้องการให้เธอมีชีวิตเหมือนนางฟ้าจริงๆ หลานสาวเพียงคนเดียวของตระกูล เธอได้รับความรักจากทุกคนแต่นั้นไม่ทำเธอกลายเป็นหญิงสาวที่ ไร้สติหรือสร้างปัญหาแต่อย่างใด ความรักที่ทุกคนมอบให้นั้นมาพร้อมกับการเอาใจใส่ ใส่ใจอย่างมากโดยเฉพาะท่านอดัมที่ไม่เคยตามใจลูกสาวในเรื่องที่ไม่สมควร การเติบโตของอนาสตาเซียเหมือนนางฟ้า แต่เธอเป็นนางฟ้าที่จับปืนจับดาบความสามารถเท่าๆกับที่เธอจับไมค์เลยทีเดียว
ตี๊ด ตี๊ด เสียงเตือนข้อความเข้าโทรศัพท์อนาสตาเซีย
“…เราต้องได้เจอกันอีกแน่นอน...ลูส” อนาสตาเซียเบิกตากว้างขึ้น เมื่ออ่านข้อความที่มาจากลูส ลูเธอร์ เรื่องที่เขามีเบอร์ติดต่อเธอไม่ได้ทำให้เธอแปลกใจเท่ากับที่เขาส่งข้อความหาเธอ อนาสตาเซียรีบปรับสีหน้าและเก็บโทรศัพท์มือถือไว้ทันทีแบบมีพิรุธน้อยที่สุด แต่...
เอ็ดเวิร์ดทำเพียงชำเลืองมองอนาสตาเซียเพียงแว็บเดียว เขาจับความผิดปกติของเธอได้เช่นกัน แต่เลือกที่จะไม่เอ่ยถามเพราะรู้คำตอบดีอยู่แล้ว“ไม่มีอะไร”มันต้องเป็นประโยคนี้ทุกครั้งเมื่อมันมีอะไรในความเป็นจริง
อนาสตาเซียเดินไปเดินมาหลังเวทีการแสดงในวันต่อมา เธอแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว แต่ที่ทำให้เธอกระสับกระส่ายคือช่อดอกไม้ที่เธอได้รับมาต่างหาก “...สำหรับ นางฟ้า อนาสตาเซีย...” และเธอหวังว่าคืนนี้ลูส คงไม่ปรากฎตัวเพราะเอ็ดเวิร์ดกับโนอาห์มาชมการแสดงรอบนี้ด้วย
“ให้ตายเถอะ” อนาสตาเซียพึมพำกับตัวเอง เพราะเธอรู้ตัวดีว่า ตัวเองไม่สามารถปกปิดความผิดปกติที่เกิดขึ้นต่อหน้าสองคนนั้นได้สัก เท่าไหร่ โดยเฉพาะโนอาห์ไม่รู้ว่าเกิดมาเป็นน้องชายของเธอหรือเป็นพี่ชาย แค่สายตาของโนอาห์ที่มองจับพิรุธเธอนั้น เธออ่านมันไม่ออก เพราะโนอาห์เป็นคนเก็บอารมณ์ของตัวเองได้ดีมาก รอยยิ้มของโนอาห์ไม่มีใครจับทางเขาได้เลย ว่ายิ้มของเขานั้นคือยิ้มยินดี หรือ ยิ้มเอาเรื่อง แล้วอนาสตาเซียเธอไม่ได้ตาบอด ลูส ลูเธอร์ต้องไม่ใช่คนธรรมดาเดินดินทั่วไป ถึงเขาพยายามจะให้เธอเห็นแบบนั้น เพราะครั้งแรกที่เจอกัน เขาถูกกลุ่มคนมีฝีมือรุมทำร้ายและในขณะนั้นเขาก็ได้รับการช่วยเหลือจากอีกกลุ่มคนที่สามารถกำจัดลมหายใจของกลุ่มนั้นได้อย่างไม่ลังเล นั้นทำให้อนาสตาเซียมั่นใจได้เลยว่าเหล่าขุนพลน้องๆมาเฟียของเธอไม่มีทางให้เธอคบหากับลูสแน่นอนในทุกสถานะ
“บ้าจริง!!!” อนาสตาเซีย สบถด่าตัวเอง ที่ทำไมจู่ๆเธอถึงมีความคิดที่อยากจะคบค้ากับลูส ด้วย...
“แอนนี่ เป็นอะไรไปนะ?” อนาสตาเซียหันมาตามเสียงนั้น โช เพื่อนร่วมการแสดงของเธอ
“เปล่าจ๊ะ...แอนนี่คงตื่นเต้นมั้ง” โช คิ้วขมวด ตื่นเต้น ก็สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่โชคิดว่าวันนี้เพื่อนร่วมการแสดงดูตื่นๆกว่าปกติ และเธอเป็นตั้งแต่ได้รับช่อดอกไม้นั้นที่เธอวางไว้ที่หน้ากระจกแต่งหน้า
“คงไม่เกี่ยวกับดอกไม้ช่อนั้นใช่มั้ย?”
“โช รู้เหรอว่าใครนำมาให้แอนนี่”
“ใช่ เขานั่งอยู่แถวที่สองหน้าเวทีเลยล่ะ”
“ห๊า!!!!” อนาสตาเซียร้องออกมา และวิ่งไปที่ข้างเวทีที่สามารถมองเห็นผู้ชมได้ จริงด้วยนั้นลูส ลูเธอร์ และถัดไปอีกสองแถวด้านหลัง เอ็ดเวิร์ดกับโนอาห์ “พ่อ!...แม่!!” อนาสตาเซียไม่รู้มาก่อนว่าพ่อกับแม่จะมาชมการแสดงด้วย ซึ่งพ่อกับแม่นั่งอยู่ตรงกลางขนาบข้างด้วยทางแม่จะเป็นเอ็ดเวิร์ดทางพ่อจะเป็นโนอาห์
อนาสตาเซียกลับเข้ามาด้านในและหยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมา พิมพ์บางอย่างและ...
ตี๊ด ตี๊ด ลูส หยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมา
“คืนนี้คุณห้ามเข้ามาทักฉันเป็นอันขาด...ถ้าไม่อยากเดือดร้อน...ขอบคุณสำหรับดอกไม้ แต่ต่อไปไม่ต้องแล้ว” ลูส ยิ้มออกมา คำห้ามของอนาสตาเซียนั้นเขารู้ทันที สาเหตุคงเพราะท่านอดัมที่นั่งถัดจากเขาไปสองแถวแน่นอน ทำไมเขาจะไม่รู้ ระดับอย่างท่านอดัมมาปรากฎตัว
“ผมยินดีทำอย่างที่คุณต้องการ ถ้าคุณรับปากว่าหลังรอบการแสดงรอบสุดท้ายจบลง คุณจะให้เกียรติผมได้เชิญคุณไปรับประทานอาหารสักมือเพื่อเป็นการตอบแทนที่คุณได้ช่วยชีวิตผมไว้” ลูส พิมพ์เสร็จและส่งกลับไปทันที
“…ทำไมคุณถึงเป็นคนเข้าใจอะไรยากเหลือเกิน” ลูสยิ้มเมื่อข้อความตอบกลับมาในเวลาที่ติดๆกัน
“ถ้าคุณเป็นห่วงผม ก็รับปากผมสิ” ลูสพิมพ์กลับไป
“ฉันไม่ได้เป็นห่วงคุณ อย่า!เข้าใจผิด” อนาสตาเซียพิมพ์ตอบกลับมาทันที
“ถ้างั้นหลังจบการแสดง ผมจะดักรอคุณ”
“โอ้ย!...คุณนี้มันเหลือเกินจริงๆ...ฉันตกลง และจะเป็นฝ่ายติดต่อคุณไปเอง คุณห้ามติดต่อฉันมาในทุกๆทาง”
“เมื่อไหร่?” ลูสพิมพ์ตอบกลับ
“…หลังจากนี้อีกสามวัน...บาย” ลูส ยิ้มออกมาพร้อมกับปิดโทรศัพท์ของตัวเอง “สามวันผมจะรอนะที่รัก” ลูสพึมพำกับตัวเองด้วยความรู้สึกที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความยินดี เพราะการที่อนาสตาเซียดูยินยอมและทำตามความต้องการของเขาแบบนี้ เพียงเพราะเธอเป็นห่วงในสวัสดิภาพของเขา เพราะไม่ใช่ว่าเขาไม่รู้ว่าอนาสตาเซียเป็นใครเสียเมื่อไหร่