เชลยทรายทาสชีคเถื่อน ตอนที่ 6

1572 Words
แม้หลายปีจะไม่ได้เดินทางไปเยี่ยมเยียน แต่เพราะอับดุลอาซิได้เดินทางมาหาเขาอยู่บ่อยครั้ง รวมถึงส่งบุตรชายและคนสนิทเข้ามารับราชการทหารด้วยแล้ว เขาก็เบาใจไปได้บ้างแม้ไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ก็ตามที   “ปล่อยข้า! อย่ามายุ่งกับข้า” มาราตีอาละวาดจนข้าวของพังกระจัดกระจาย หญิงสาวหลายคนหน้าตาตื่นไม่คิดว่าหญิงสาวรูปร่างบอบบางซ่อนความอวบอิ่มเอาไว้จะเอาเรื่องถึงขนาดนี้ ตอนเห็นคราแรกดูมาราตีจะสงบนิ่งเรียบร้อย ใบหน้าคมหวานซึ้งทำให้พวกนางคิดว่าคงจะอ่อนหวานพูดง่าย แต่เหตุกลับไม่เป็นอย่างที่คิดเอาไว้สักนิด นูรีดา บุตรสาวหัวหน้าเผ่ามัลมาเลียซึ่งได้รับคำสั่งให้มาดูแลมาราตีเดินเข้ามาในห้อง หญิงสาวหน้าตาตื่นเมื่อมองเห็นข้าวของกระจัดกระจาย มาราตีนิ่งมองหญิงสาวหน้าหวาน รูปร่างอรชรที่เดินเข้ามา ในสมองคิดว่านางไม่เหมือนทาสรับใช้ แต่เหมือนหญิงสาวที่คงจะมีฐานะสำคัญในวังหลวงแห่งนี้ “ท่านมีอันใดไม่พอใจหรือไม่” นูรีดาเลิกคิ้วถามด้วยน้ำเสียงติดจะหวาน ไม่ยี่หระต่อเหตุการณ์ความโกลาหลปั่นป่วนที่เห็นในตำหนัก มาราตีเลิกคิ้วเล็กน้อย ประเมินจากสายตาและน้ำเสียง หญิงสาวตรงหน้าเก็บอารมณ์ได้ดีเยี่ยม ไม่เหมือนทาสสาวที่กลัวจนตัวสั่น เพียงแค่เธอแกล้งอาละวาด ได้ยินดังนั้นมาราตีจึงเงียบสงบลง แต่ไม่ใช่เพราะนูรีดา แต่เพราะหญิงสาวเหนื่อยที่จะกลั่นแกล้งนางทาสพวกนี้แล้วต่างหาก เธอรู้สึกใจหายไม่น้อยที่อาและพี่ชายเดินทางกลับไปแล้ว ตอนนี้ก็ได้เวลาที่จะถวายตัว ในใจคิดว่าตัวเองยังไม่พร้อม คิดว่าจะแผลงฤทธิ์ให้สุดๆ ไปเลย เพื่อต่อต้านชีคหนุ่มที่เอาแต่อำนาจ เห็นผู้หญิงเป็นเพียงเครื่องบำเรอความใคร่ของตัวเองแถมยะห์นาคนที่เธออยากเจอมากที่สุดก็ถูกแยกไปพักอยู่อีกที่หนึ่ง แล้วส่งนางทาสที่เธอไม่ต้องการมาแทน “คุณหนูมาราตีต้องทำความสะอาดเพื่อถวายตัว แต่นางไม่ยินยอม” ลาติฟะห์ฟ้องนูรีดาเสียงเบา ยิ่งเงยหน้าสบตากับมาราตีก็ต้องรีบก้มหลบด้วยความกริ่งเกรง มาราตีเชิดหน้าขึ้นทันที เธอรู้ธรรมเนียมปฏิบัติดีว่าต้องอาบน้ำขัดสีฉวีวรรณทุกสัดส่วน รวมถึงเส้นขนทุกเส้นบนร่างกายก็ต้องจัดการ แต่เรื่องอะไรเธอจะยอมชีคป่าเถื่อนโหดร้ายเช่นนี้ นึกถึงตอนเขาได้เห็นเรือนร่างสาว เขาสัมผัสแตะต้องเธอก็สั่นสะท้านในใจ แม้แรกพบสบตาจะพึงใจแต่เพราะเสียงลือเสียงเล่าอ้างหนาหูเรื่องไม่ดีเกี่ยวกับผู้หญิง ทำให้เธอเกิดความสับสนไม่มั่นใจขึ้นมาแบบปัจจุบันทันด่วน “ท่านเป็นใครรึ” มาราตีถามนูรีดาเสียงเรียบ แต่แววตาบ่งบอกถึงความจริงใจที่อยากทำความรู้จักกับเพื่อนใหม่วัยไล่เลี่ยกัน นูรีดายิ้มตอบเดินเข้าไปหาอย่างเชื่องช้า “ข้าเป็นบุตรสาวหัวหน้าเผ่ามัลมาเลีย นามว่านูรีดา” ทันทีที่ผู้มาใหม่แนะนำ มาราตีก็รู้สึกไม่ชอบใจชีคอัฟฟานมากขึ้น ..นี่ขนาดเอาตัวบุตรสาวของหัวหน้าเผ่าคนอื่นมาบำเรอรักตัวเองก่อนหน้าเธออีกไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่ แต่ความจริงไม่ใช่อย่างที่มาราตีคิดสักนิด เพราะเขาไม่ได้หักหาญน้ำใจของใครทั้งนั้น แต่ทำตามธรรมเนียมปฏิบัติเท่านั้น เพราะหากบุตรสาวของหัวหน้าเผ่าจะสมัครรักใคร่กับผู้ใดเขาก็ไม่ได้หวงห้าม หญิงสาวเหล่านั้นดีใจด้วยซ้ำที่ไม่ต้องถูกบุพการีบังคับ เพราะชีคหนุ่มสามารถมอบนางให้ใครก็ได้ โดยที่บิดามารดาไม่อาจขัดขวางหรือบังคับได้อีกเมื่อส่งมาเป็นบรรณาการแล้ว “เหตุใดเจ้าจึงไม่ทำความสะอาดร่างกายเล่า” คำถามของนูรีดาทำให้มาราตีนึกไม่ชอบ ไม่ใช่ไม่ชอบคนถาม แต่ไม่ชอบคำถามนี้เหลือเกิน “ก็ข้า...” ยังพูดไม่ทันจบ มาราตีก็เห็นผู้ติดตามที่พ่วงตำแหน่งคนสนิทเลี้ยงดูเธอมาตั้งแต่เยาว์วัยกำลังเดินเข้ามา เธอบอกความประสงค์อยากที่จะเจอกับยะห์นาให้นางทาสเหล่านี้ฟัง แต่ไม่มีใครสนใจความต้องการของเธอ จึงต้องอาละวาดกันแบบนี้ “แม่เฒ่า” หญิงสาวได้เห็นหน้ายะห์นาก็ดีใจ เธอไม่ต้องการใครนอกจากนาง อยากให้นางพูดอะไรบ้างให้เธอรู้สึกดีในตอนนี้ “ให้ข้าจัดการกับนางเถอะ” ยะห์นาบอกทาสรับใช้ของชีคอัฟฟานเสียงเรียบ ทุกคนจึงก้มหน้าให้นางอย่างนอบน้อม รวมถึงนูรีดาที่ต้องขอตัวด้วย “ได้ ข้าขอฝากท่านด้วย” ลาติฟะห์กล่าวอนุญาตเมื่อได้มองสบตากับนูรีดา “ข้าคงต้องไปเหมือนกัน” นูรีดาหันมายิ้มให้มาราตีอีกครั้ง “ข้ายินดีที่ได้รู้จักเจ้า” มาราตีบอกนูรีดาที่กำลังจะออกจากห้อง หญิงสาวหันมายิ้มให้เพื่อนใหม่ก่อนตอบด้วยความยินดีไม่ต่างกัน “ข้าก็ยินดียิ่งคุณหนูมาราตี” คล้อยหลังทุกคนที่ออกไปแล้ว มาราตีจึงหันมาคุยกับแม่เฒ่าคนสนิท “ข้าไม่อยากถวายตัว” มาราตีเดินเข้ามาหายะห์นาอย่างออดอ้อน เป็นกิริยาที่มักทำเสมอยามที่ต้องการความช่วยเหลือหรืออยากได้อันใด เธอคิดว่านางเหมือนแม่แท้ๆ มากกว่าคนรับใช้ส่วนตัว โชคดีที่สามารถขอร้องผู้เป็นอาได้สำเร็จ จึงมีโอกาสพายะห์นาติดตามมาด้วย ซึ่งในตอนนั้นไม่ว่าเธอจะขออะไรท่านอับดุลอาซิก็ยินยอมเพื่อให้เธอเข้าวังมาถวายตัว มาอยู่ในตำแหน่งตัวประกันทางการเมืองในครั้งนี้ หรืออาจเป็นได้ว่าที่ชนเผ่ายังมีการิง ผู้เฒ่าสูงวัยศิษย์ร่วมอาจารย์ผู้เก่งกล้าไม่แพ้ยะห์นาอยู่อีกคน หากไม่เช่นนั้นคงไม่มีทางปล่อยนางให้เข้าวังหลวงมาอย่างแน่นอน “คุณหนู ท่านอย่าดื้อสิเจ้าคะ” ยะห์นาเตือนเหมือนหญิงสาวเป็นเด็กๆ ลูบหลังมือด้วยความเอ็นดูไม่เสื่อมคลาย “ท่านเข้าใจความรู้สึกของข้าหรือไม่” มาราตีบีบมือแม่เฒ่าคนสนิทเหมือนต้องการระบายบางอย่างในใจ ริมฝีปากสีชมพูสดอวบอิ่มเม้มเข้าหากันเป็นกิริยาที่แสดงความขัดใจทุกครั้งที่ไม่ได้ดั่งใจหมาย “ท่านยังเยาว์วัยนัก แต่ข้ารู้ว่าท่านก็มีใจให้ชีคอัฟฟาน” คำพูดตรงไป ตรงมาทำให้นายสาวหน้าระเรื่อซับสีเลือดก่อนจะเข้มขึ้นจนถึงใบหูเล็ก บ่งบอกอาการเขินอายหรือถูกจับความคิดได้ นางมองนายสาวยิ้มๆ เมื่อเห็นมาราตีหลบสายตาเป็นพัลวัน “ท่านพูดอันใด ข้าไม่เข้าใจ นับวันท่านยิ่งจะเหลวไหลใหญ่แล้ว ถ้าพูดแบบนี้อีกข้าจะไม่คุยด้วยแล้ว” มาราตีหลบหน้าเลี่ยงเดินหนีไปอีกทางอย่างมีแง่งอน ยะห์นาแอบยิ้มเอ็นดูนายสาวผู้อ่อนวัย “ได้เวลาแล้ว ท่านควรอาบน้ำชำระร่างกาย ข้าจะช่วยจัดการให้ท่านเอง รับรองว่าชีคอัฟฟานต้องพึงพอใจท่านอย่างแน่นอน” ยะห์นาแตะแขนของนายสาวเบาๆ มาราตีถึงกับสะดุ้ง เมื่อถึงเวลาแล้วจริงๆ ที่เธอต้องถวายตัว “ข้าเข้าใจแล้ว อยากทำอะไรก็เชิญเถิด” มาราตีหันหลังให้ยะห์นาอย่างงอนๆ เมื่อยังไงก็ต้องยอมในที่สุด แม่เฒ่าผู้สูงวัยแอบยิ้มแล้วลงมือทำความสะอาดเรือนร่างของนายสาวก่อนจะชโลมผิวด้วยขี้ผึ้ง ประพรมน้ำหอมไปทั่วกาย สวมใส่อาภรณ์เรียบร้อยบนร่างงาม “ท่านงดงามมาก” ยะห์นาเอ่ยชื่นชมผู้เป็นนายด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มระคนเอ็นดู มาราตีเป็นหญิงสาวที่งดงาม เฉลียวฉลาด มีความสามารถหลายด้าน หากชายใดได้เป็นคู่ครองถือว่าโชคดีเป็นที่สุด “ถึงจะงาม ข้าก็ไม่อยากถวายตัวให้ชีคป่าเถื่อนที่เห็นผู้หญิงเป็นเพียงเครื่องบำเรอความต้องการของตัวเองแบบนั้น” มาราตียังมั่นใจในเสียงเล่าลือไม่เปลี่ยนแปลง “ท่านอย่าเพิ่งวิตกกังวลไปเลย ตอนนี้ได้เวลาแล้ว... บางครั้งอาจไม่เป็นแบบที่ท่านคิดก็เป็นได้ สิ่งที่ฟังอาจไม่ใช่ตามที่ได้ยิน สิ่งที่เห็นอาจไม่ใช่อย่างที่คิด หรือบางครั้งสิ่งที่คิดอาจไม่ถูกต้องเสมอไป” คำพูดของยะห์นาทำให้มาราตีนิ่งงัน “ข้าไม่เข้าใจในสิ่งที่ท่านพูด” หญิงสาวแสร้งไขสือหน้านิ่ง ปกปิดความฉลาดของตัวเอง ยะห์นาส่ายหน้าไปมาอย่างรู้ทันนายสาว “ข้ารู้... ว่าท่านรู้ ท่านเป็นคนฉลาด ตอนนี้คงรู้ว่าต้องทำเช่นไร แต่ถ้าท่านอยากทำสิ่งใดตามใจ ข้าก็มิอาจห้ามได้ แต่ผลจะเป็นเช่นไรท่านคงรู้ดีแก่ใจ” “ข้าไม่รู้หรอกว่าอนาคตจะเป็นเช่นไร” มาราตีเหมือนรำพึงกับตัวเองมากกว่าจะพูดกับคนข้างกาย 
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD