7

1492 Words
“ช่อนั้นค่ะ มันใหญ่ดี คงจะยำได้เยอะเชียว” คนอยากกินของเปรี้ยวๆ ตะโกนบอกอย่างลุ้นๆ อยู่ใต้โคนต้นมะม่วง เธอน้ำลายสอตั้งแต่บอกเขาว่าหิว อยากกินยำมะม่วงแซ่บๆ แล้ว “ถอยไปหน่อยสิ เดี๋ยวก็โดนหัวหรอก” คนที่ต้องปีนขึ้นไปบนต้นมะม่วงทำเสียงดุใส่ บางทีเขาก็ถามตัวเองนะว่าต้องการจับเธอมาแก้แค้นหรือทรมานใช่ไหม แต่ไหงถึงต้องมาเป็นทาสเธอด้วย ตั้งแต่ปล่อยออกมาจากห้อง เธอก็เอาแต่ใจ ขี้น้อยใจ บางครั้งก็มีลูกอ้อนมาแบบที่ทำให้เขาไปไม่เป็น ถ้าไม่ถูกใจก็ร้องไห้โฮออกมาเสียเฉยๆ เขาคิดว่าคงเป็นอาการของคนท้อง อารมณ์ถึงได้แปรปรวนแบบนี้ อยากจะสวมบทโหดให้มากกว่านี้ แต่สุดท้ายก็กลายเป็นต้องมาปีนต้นมะม่วงเป็นทาสเธออยู่นี่เอง “หลบแล้วค่ะ โยนลงมาสิคะ” เธอบอกเสียงใส ตาใสๆ น้ำเสียงมีความหวังและท่าทางการแตะลิ้นเลียริมฝีปากทำให้เขาลำคอแห้งผากตามไปด้วย เธอคงไม่รู้ว่ามันทำให้เขาอารมณ์ปั่นป่วนแค่ไหน นราวดีรีบโผไปที่ช่อมะม่วงที่หล่นลงมาใต้โคนต้นเหมือนเด็กๆ สนเผลอยิ้มอย่างเอ็นดู ก่อนที่เขาจะดึงสติกลับมา เมื่อเผลออ่อนไหวกับหญิงสาวไปอย่างไม่น่าให้อภัย “พอหรือยัง” เขาทำเสียงเหมือนรำคาญ “ขออีกสักพวงใหญ่ๆ ได้ไหมคะ” เธอมาพร้อมลูกอ้อน นราวดีเองก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยกลัวเขาสักเท่าไหร่แล้ว เพราะเขาก็ไม่ได้ใจร้ายถึงขนาดฆ่าแกงเธอ อย่างน้อยเขายังใส่ใจถามไถ่ว่าเธออยากกินอะไร “เรื่องมากจริง” เขาบ่น แต่ยังปีนข้ามไปอีกด้านเพื่อปลิดช่อมะม่วงให้เธอจนได้ คนที่อยู่ใต้ต้นลุ้นจนตัวโก่งเมื่อเขาโหนตัวลงมาจากต้นสำเร็จ เขาแย่งมะม่วงจากมือของเธอไปถือเอาไว้ เธอทำท่าจะบ่นแต่เขาเดินหายเข้าไปในกระท่อม นราวดียืนมองเขายำมะม่วงแล้วน้ำลายสอ อยากกินจนต้องไปเดินวนๆ เวียนๆ ป้วนเปี้ยนอยู่ใกล้ๆ เขา “เสร็จแล้ว” เขาหยิบมาวางไว้ตรงหน้าเธอ “ท้องแล้วหิวของเปรี้ยวแบบนี้เหรอ เป็นตั้งแต่ตอนไหน” สนเอ่ยถามหญิงสาวตรงหน้า “หลายวันแล้ว” เธอตอบก่อนจะตักกินอย่างเอร็ดอร่อย เขาเองก็รู้สึกเปรี้ยวปาก ลอบกลืนน้ำลายตามเธอไปด้วย เธอทานได้อย่างเอร็ดอร่อยจริงๆ “อร่อยหรือไง” เขานั่งใกล้ มองเธอไม่วาง “อร่อยค่ะ มันเอ่อ... แซ่บมาก” เธอทำท่าคิดก่อนตอบ ตักมะม่วงกินอย่างเอร็ดอร่อย “ยังไม่ได้กินข้าวแบบนี้ กินเข้าไปไม่ปวดท้องแย่เหรอ” “ไม่หรอกค่ะ มันอร่อยกว่ากินข้าวอีกนะ” “คุณจะไปไหนคะนั่น” เธอเอ่ยถามเมื่อเห็นเขาเดินหายเข้าไปในครัวอีกครั้ง “เรื่องของฉัน” คำตอบของเขาทำให้เธอสะอึก ก่อนจะสะบัดหน้าใส่แผ่นหลังของเขาอย่างหมั่นไส้ เธอไม่เห็นอยากรู้เสียหน่อย เขากลับมาอีกครั้งพร้อมกับจานข้าวผัดหอมกรุ่น เธอสังเกตเขาตั้งแต่วันแรกว่าเขาเป็นคนทำอาหารอร่อย แต่เธอไม่ชมให้เขาได้ใจหรอก “กินไหม” เขาเอ่ยถาม แต่เธอส่ายหน้าไปมา ถึงจะหอมแต่เธอก็ไม่อยากทานอะไรมันๆ เลี่ยนๆ “อยากกินอะไรล่ะ” “อยากกิน” เธอทำท่านึก นอกจากผลไม้แล้วเธอก็อยากกินอะไรอีกหลายอย่าง “คุณจะทำให้ฉันกินเหรอ” “ต้องดูก่อนว่าทำได้ไหม” เขาตอบ “ฉันอยากกินอาหารทะเล แต่ที่นี่คงไม่มี” เธอตอบเสียงเบา หน้าหงอยลงทันที กลัวเขาจะดุเอา “ไม่มีจริงๆ นั่นแหละ มีแต่กบ เขียด อึ่งอ่าง เอาไหม” “แหวะ!” เธอทำท่าจะอาเจียน เขาหัวเราะเยาะหยัน แต่เธอไม่อยากสนใจเขานัก เขาอารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ยิ่งกว่าพวกวัยทองหรือประจำเดือนมาไม่ปกติเสียอีก “เอ๊ะ! แต่ข้าวผัดคุณมีกุ้งด้วยนะ” เธอมองกุ้งตัวใหญ่ในจานข้าวผัดของเขา “มีกุ้งแล้วทำไมล่ะ” เขาเลิกคิ้วขึ้นมอง “ก็ไหนคุณบอกว่าไม่มีอาหารทะเลไง” “กุ้งมันอยู่ในทะเลอย่างเดียวหรือไง มันอยู่ในแม่น้ำด้วย” “นี่คุณหาว่าฉันโง่เหรอ” “เธอว่าตัวเองนะ” เขามองเธอนิ่ง นราวดีเม้มปาก รู้สึกอยากตบปากเขาเสียจริง “คุณปล่อยฉันออกมานอกห้อง ไม่กลัวฉันหนีหรือไง” “บอกแล้วไงว่าถ้ามีปัญญาหนีก็หนีไปเลย ฉันอนุญาต” เขาตอบเหมือนไม่ยีหระ นราวดีฮึดขึ้นมาทันที คอยดูเอาเถอะ ถ้าเธอหนีได้ เขาจะได้สำนึกว่าอย่าดูถูกคนอย่างเธอ “นึกแผนการหนีอยู่เหรอ ถึงได้เงียบไป” เขาพูดเหมือนชวนหาเรื่อง “เปล่า” เธอตอบเสียงแข็ง ก่อนจะยกจานยำมะม่วงเข้าไปล้างในห้องครัวเล็กๆ ของเขา “จะไปไหน” เขาเอ่ยถามเมื่อเธอเดินหนี “จะไปเข้าห้องน้ำ ปวดท้องฉี่จะตามไปด้วยไหม” เธอประชด “ตามไปก็ได้” “นี่คุณ!!!” นราวดีเหวใส่ นึกว่าเขาจะชะงักไม่ตามมา แต่กลับเดินตามมาเสียนี่ “อ้าว... นึกว่าจะให้ตามไปด้วยจริงๆ” “ฉันประชด” เธอสะบัดหน้าใส่เขา ได้ยินเสียงหัวเราะของเขาตามหลังมาติดๆ พอพ้นร่างหญิงสาวไปแล้วเขาหยุดหัวเราะทันที เขากำลังงุนงงว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้ สนพยายามบอกตัวเองว่าเธอท้องอยู่ เขาก็ต้องทำแบบนี้ จะรุนแรงกับเธอไม่ได้ นราวดีนอนตัวแข็งอยู่บนที่นอนในคืนนั้น แต่ปรากฏว่าเขาไม่ได้เข้ามานอนกับเธอเหมือนหลายๆ คืนที่ผ่านมา หญิงสาวค่อยๆ ผ่อนคลายลงไปจนหลับสนิทไปในที่สุด ในขณะที่เธอกำลังหลับไหล คนที่เธอแอบกลัวว่าเขาจะเข้ามาในห้องกลับมายืนมองเธออยู่ข้างเตียงด้วยสายตาที่อ่านไม่ออก สนนั่งลงบนขอบเตียง เขาถอนใจอย่างหนักหน่วง ความรู้สึกหลายอย่างตีตื้นขึ้นมาจนเขาทำตัวไม่ถูก ความผิดชอบชั่วดี ความแค้นในอดีต ความเสียใจและความรู้สึกแปลกใหม่ที่เขามีต่อคนบนเตียง “อื้อ... คุณจับฉันมาทำไม จับฉันมาทำไม” เธอละเมอยกมือขึ้นปัดไปปัดมา “นี่เธอ เธอ!” นราวดีสะดุ้งวาบ เหงื่อไหลโซมทั่วกาย เธอมองเขาอย่างงุนงง “คุณมาตั้งแต่เมื่อไหร่” “เธอเป็นอะไร” เขามองใบหน้าชุ่มไปด้วยเหงื่อของเธอ “เปล่า ฉันไม่ได้เป็นอะไร” เธอพูดปัด ลูบหน้าตัวเองเบาๆ เขาไม่เซ้าซี้แต่ไปนำผ้าขนหนูชุบน้ำมาให้เธอ “เช็ดหน้าเสียหน่อย เหงื่อเธอเต็มหน้าเต็มตัวไปหมด” “คะ” เธอมองเขาเหมือนตั้งคำถาม บางทีเขาก็ดีจนเธองุนงง “ชักช้าเสียจริง” เขาไม่สนใจท่าทีงุนงงของเธอ แต่ดึงผ้าขนหนูผืนเล็กไปซับหน้าให้เธอแทน “ขอบคุณนะคะ” เธอบอกเขาในที่สุด “ไม่จำเป็น” เขาเดินหนีออกจากห้องไป นราวดีเม้มปากแน่น เธอเดาอารมณ์ของเขาไม่ถูก บางทีเขาก็ดี บางทีเขาก็เหมือนแค้นเธอมาก มีความหลังฝังใจอะไรสักอย่าง เธอเคยถามชื่อเขา หาข้อมูลเขาในบ้าน แต่ก็ไร้ประโยชน์ เพราะขนาดชื่อ เธอยังไม่รู้เลยว่าเขาชื่ออะไร เขายื่นน้ำให้เธอดื่ม เพราะน้ำในเหยือกบนหัวเตียงหมด นราวดีรับมาดื่มด้วยความกระหาย คืนนี้รู้สึกว่าอากาศร้อนอบอ้าว เธอมองตามร่างสูงที่ทิ้งตัวลงนอนหน้าเตียงของเธอหลังจากเขาปูที่นอนง่ายๆ อย่างสงสัย “สงสัยอะไร หรืออยากจัดสักยกก่อนนอน” “ปะ... เปล่าเสียหน่อย” เธอรีบทิ้งตัวลงนอน ห่มผ้าจนถึงคอ ได้ยินเสียงหัวเราะของเขาก็หน้างอ นอนเกร็งอยู่บนเตียง “คุณหลับหรือยัง” เธอเอ่ยถาม เขาเงียบ เธอเลยแอบมอง เห็นเขานอนเอามือก่ายหน้าผาก “คุณ...” เธอพูดยังไม่ทันจบเขาก็สวนกลับมาเสียก่อน “เรียกอยู่ได้ อยากให้ฉันจัดให้เหรอ” “ไม่ใช่สักหน่อย” เธอค้อนเขา ก่อนจะนอนตะแคงหันไปอีกด้านอย่างโมโห คิดว่าเธอจะหื่นแบบเขาหรือไง “แล้วเรียกทำไม ล่ะหืม...” “คุณขึ้นมาทำไมกันล่ะ” เธอสะดุ้งเพราะจู่ๆ เขาก็มานอนกอดซ้อนทางด้านหลัง “บนพื้นมันแข็งแล้วก็หนาวด้วย เมียนอนเรียกไม่หยุดก็ต้องขึ้นมาสิ” เขาแหย่ “ฉันเปล่าเรียกเสียหน่อย”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD