นิโคลัสชี้ให้พัลเลเดียมหันไปทางหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งเป็นสาวไทยรูปร่างเล็กบอบบางอยู่ในชุดกระโปรงรัดรูปสีชมพูสดกำลังเดินตรงมาทางคนทั้งสอง เป็นหญิงสาวหน้าตาดีและท่าทางของเธอมั่นใจยามเดินเฉิดฉายกลางแสงแดดที่เริ่มแผดจ้า กระทั่งเธอเดินผ่านไปและหยุดที่รถสปอร์ตคันหรูซึ่งจอดอยู่ไม่ไกลจากที่ทั้งสองยืนอยู่
“มีอะไรนิค...นายรู้จักเธอหรือ”
“วีริน...หรือเวโรนิกา...เธอเป็นพรีเซนเตอร์ของเครื่องสำอางแบรนด์ใหญ่ และ...ฉันเคยเห็นผู้หญิงคนนี้ควงอยู่กับคุณอิศรา หุ้นส่วนของนายนั่นไงพีท”
“ควงกับอิศราอย่างนั้นหรือ?”
พัลเลเดียมทวนคำนั้นและราวกับมีอะไรบางอย่างวาบเข้ามาในความคิดอย่างรวดเร็วขณะจ้องมองหญิงสาวร่างเล็กบอบบางในชุดรัดรูปที่ทำให้ดูเป็นสาวเปรี้ยวและโฉบเฉี่ยวเดินไปเปิดประตูรถเปิดประทุนคันหรูก่อนที่มันจะแล่นออกไปจากลานจอดรถ ขณะนั้นเองนิโคลัสหันกลับมาจ้องหน้าเพื่อนสนิท
“ทำไมนายมองเธออย่างนั้น นี่นายไม่รู้จักผู้หญิงคนนี้จริง ๆ หรือ เธอโด่งดังมากนะ เป็นผู้หญิงเอเชียตัวเล็กแต่ขึ้นชื่อเรื่องเสน่ห์เย้ายวน มีข่าวเรื่องควงกับพวกมหาเศรษฐีบ่อย ๆ แต่ดู ๆ แล้วเธอก็สวยน่ารักจริง ๆ นะ”
“ฉันยอมรับว่าไม่รู้จักเธอจริง ๆ นิค”
“นายคงทำงานมากเกินไปแล้วล่ะ ฉันว่าผู้ชายรูปหล่อและร่ำรวยอย่างนายที่อายุขนาดนี้แล้วน่าจะหาใครสักคนมาเป็นเพื่อนพูดคุยจริงจังด้วยได้ซะทีแล้วนะ”
คำพูดของนิโคลัสราวกับมันไปสะกิดต่อมความคิดและสำนึกได้ถึงอะไรบางอย่างในความรู้สึกของชายหนุ่ม มีบางอย่างแล่นเข้ามาในสมอง มันแจ่มชัดอย่างเหลือเกินโดยเฉพาะกลิ่นสตรอว์เบอรรี่เล็ก ๆ หอมหวานที่ติดอยู่บนริมฝีปากของเขาจนเผลอยกมือขึ้นลูบเบา ๆ อย่างลืมตัว แต่แล้วพัลเลเดียมต้องเรียกสติคืนกลับเมื่อได้ยินนิโคลัสเอ่ยขึ้นอีกว่า
“ฉันรู้นะพีทว่านายทำงานหนักมาตลอด แต่นายคงต้องมีใครไว้บ้างเพื่อที่จะได้เป็นเพื่อนพูดคุยนอกจากพี่สาวที่นายพูดคุยกับเธอได้ทุกเรื่อง อย่างน้อยก็สักหนึ่งคน”
“เห็นนายบอกว่าจะพาฉันไปดื่มกาแฟที่อร่อยที่สุดไงนิค”
นิโคลัสส่ายหน้าเมื่อเห็นพัลเลเดียมเดินไปเปิดประตูรถเหมือนไม่ได้ใส่ใจคำพูดของเขา
“นายก็เป็นซะอย่างนี้ อยากรู้จริง ๆ ว่าผู้หญิงที่จะมาเป็นคู่ชีวิตของผู้ชายปากแข็งอย่างนายจะเป็นแบบไหน”
บ่นกับตัวเองแล้วเดินตามไปก่อนที่รถสปอร์ตคันหรูจะแล่นทะยานออกไปจากลานจอดรถของโรงพยาบาล
ลลิลตื่นขึ้นมาในเพนท์เฮ้าส์หรูก็เห็นแม่บ้านเข้ามาทำความสะอาดห้องแต่เช้า ซึ่งคงเป็นแม่บ้านวัยสามสิบกว่าที่คอยดูแลเพนท์เฮาส์พี่สาวของพัลเลเดียมตามที่เขาบอกเธอเมื่อวาน หญิงสาวเก็บผ้านวมบนที่นอนก่อนเข้าไปในห้องน้ำ กระทั่งอาบน้ำแต่งตัวเสร็จแล้วแต่พอออกมาก็ต้องประหลาดใจเมื่อเห็นที่นอนถูกเปลี่ยนผ้าคลุมผืนใหม่และผ้านวมก็เปลี่ยนเป็นอีกสีเข้าชุดกับผ้าคลุมเตียง ที่โต๊ะริมหน้าต่างกรุกระจกมีอาหารเช้าวางอยู่ ลลิลเดินไปหยุดที่โต๊ะก่อนได้ยินเสียงแม่บ้านกล่าวขึ้น
“อรุณสวัสดิ์ค่ะคุณผู้หญิง”
“คะ...ค่ะ...อรุณสวัสดิ์...เอ้อ...คุณคงจะใช่จูลี่”
“ค่ะ...ฉันจูลี่ เป็นแม่บ้านที่คอยดูแลที่นี่ ดิฉันเตรียมอาหารเช้าไว้ให้คุณแล้วนะคะ เชิญรับประทานได้เลยค่ะ”
“เอ้อ...ค่ะ...เอ้อ...”
“มีอะไรหรือคะคุณผู้หญิง?”
ลลิลมองแม่บ้านอย่างเก้อ ๆ
“คือเมื่อกี๊ฉันเก็บผ้านวมเรียบร้อยแล้วน่ะค่ะ ที่จริงยังไม่ต้องเก็บไปซักก็ได้นะคะ”
3
หัวใจที่ไร้รัก
“ปกติดิฉันมีหน้าที่ต้องเปลี่ยนผ้าคลุมเตียงกับผ้านวมทุกสองวันตามคำสั่งของคุณแพตน่ะค่ะ เธอชอบให้ฉันเปลี่ยนบ่อย ๆ เพราะเธอชอบสีสันที่ไม่ซ้ำกัน”
“ถ้าอย่างนั้นต่อไปนี้เปลี่ยนสัปดาห์ละครั้งก็ได้ค่ะ ฉันนอนบนผ้าคลุมเตียงผืนเก่า ห่มผ้านวมผืนเก่าได้ค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นดิฉันจะทำตามคำสั่งของคุณนะคะ...คุณผู้หญิง”
คุณผู้หญิง...คำนั้นก้องในความรู้สึกที่ยังสับสนของลลิล จริงสินะ...เธอไม่ใช่เด็กสาวสิบแปดที่ต้องตั้งหน้าเรียนหนังสืออีกต่อไปแล้ว แต่กลายเป็น เมีย ของเพื่อนพ่อ ผู้ชายซึ่งเธอเรียกว่าคุณอาตลอดเวลาหลายปีในห้วงเวลาเพียงข้ามคืน เธอยิ้มกับจูลี่ซึ่งเป็นหญิงชาวอเมริกันหน้าตาใจดีและเป็นมิตร
“ขอบคุณนะคะ”
ลลิลกล่าวด้วยความรู้สึกสดชื่นกว่าเมื่อคืนเล็กน้อยเพราะเมื่อตื่นมาในเช้าวันนี้เธอยังไม่เห็นเจ้าของเพนท์เฮ้าส์อีกคนที่ทั้งดุดันและเหี้ยมเกรียม เธอไม่เห็นเขาสองวันแล้วหลังกลับจากเนเธอแลนด์และถูกบังคับให้เซ็นชื่อในสัญญารวมทั้งทะเบียนสมรสซึ่งหลังจากนั้นดูเหมือนเขาไม่ใส่ใจที่จะมองหน้าเธอด้วยซ้ำเพราะพัลเลเดียมลั่นคำว่าเขาจะกลับไปอยู่ที่ห้องชุดของเขาและอยากมาที่นี่เมื่ออยากมา...มาเมื่ออยากมาอย่างนั้นหรือ เขาอาจไม่อยากเห็นหน้าเธอเลยก็เป็นได้ ทว่าไม่ทันที่ความเครียดและกดดันในหัวใจของหญิงสาวได้ทันคลายลงเธอกลับต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงหนึ่งดังขึ้น
“จูลี่...เตรียมอาหารเช้าไว้ให้ฉันหรือยัง?”
ร่างสูงใหญ่ก้าวฉับ ๆ เข้ามาหยุดที่โต๊ะริมหน้าต่าง เขาไม่มองหน้าหญิงสาวร่างเล็กด้วยซ้ำแต่กลับหันไปคุยกับแม่บ้านทันทีที่เข้ามาในห้อง จูลี่พยักหน้า
“ค่ะคุณพีท...ฉันเตรียมอาหารเช้าไว้ให้เรียบร้อยแล้วค่ะ”