ไรอันเหลือบมองผู้หญิงสูงวัยที่อยู่ด้านหน้า เขาเห็นหล่อนหยุดพูดคุยกับชายอาวุโสผู้หนึ่งกับเพื่อนเขาด้วยรอยยิ้มแย้มที่เต็มไปด้วยอาการนอบน้อม ผู้ชายคนนั้นคงเป็นคนสำคัญไม่ก็มีหน้าที่การงานไม่ธรรมดา ครู่หนึ่งก็เรียกสาวน้อยคนนั้นเข้าไปทำความเคารพชายทั้งสองคน แล้วคงจะพูดคุยแนะนำตัวสาวน้อยเพราะเขาเห็นสองคนนั้นมองมาที่เธอ ฝ่ายหญิงสูงวัยก็ลูบผมลูบไหล่สาวน้อยด้วยท่าทีรักใคร่
รัก...แบบไหน
“ก้อง ผู้หญิงคนนั้นใครวะ” ไรอันถามเพื่อนแต่ไม่ได้ละสายตาจากสาวน้อยหน้าหวาน
“ไหน” ก้องหล้าผละจากสาวสวยขยับเข้ามามองตามทิศทางที่เพื่อนกำลังมองอยู่ “อ๋อ แม่เลี้ยงสุภาวินี เป็นเจ้าของรีสอร์ตอยู่ที่ภาคเหนือโน่น โอ้ว้าว...แม่เจ้าโว้ย แล้วนั่นข้างกายหล่อนคงเป็นลูกสาวคนสวยที่จะนำตัวมาประมูลคืนนี้แน่ๆ เลยว่ะ สวยโครตเลยเด็กคนนี้”
“นี่แกจะบอกฉันว่าผู้หญิงคนนั้นเหรอวะที่เป็นคนจัดหาเด็กสาวๆ มาประมูล เด็กคนนั้นน่ะนะ เด็กไปหรือเปล่าวะ”
“วัวแก่ก็อยากแทะหญ้าอ่อนกันทั้งนั้นหรือแกไม่อยากวะ นั่นน่ะไม่เด็กหรอกกำลังดีเลยล่ะ เห็นทีคืนนี้ฉันคงจะขอร่วมประมูลเจ้าหล่อนด้วยคน คนอะไรวะสวยอย่างกับนางฟ้าเลย”
ไรอันแทบไม่ได้ฟังคำพร่ำของเพื่อนรักอีก มองไปที่สาวน้อยและเป็นจังหวะที่เธอมองมาทางเขาเข้าพอดี ตากลมโตมองสบตาเขาชั่ววินาทีเจ้าหล่อนก็เมินหลบเหมือนจะกลัวหรือไม่แน่ใจ สักพักเธอก็ลอบชำเลืองมาอีกเมื่อพบว่าตาคมกล้ายังคงมองเธออยู่วงหน้าหวานเหมือนจะแดงซ่านขึ้นน้อยๆ กับการที่ไรอันยักคิ้วเข้มส่งให้อย่างกับจะบอกว่าเขารู้ว่าเธอแอบมองมาทางเขา สาวน้อยรีบหลบตารวดเร็ว แล้วก็ไม่ได้มองมาอีกแต่ชายหนุ่มมองตามสาวน้อยคนนั้นจนกระทั่งเธอเดินลับหายไปจากสายตา รอยยิ้มผุดขึ้นตรงมุมปาก ดวงตาตื่นๆ คู่นั้นติดตรึงอยู่ในความคิดคำนึงของเขาอยู่ตลอดเวลา
“มองตาไม่กะพริบเลยนะเพื่อน สนใจเธอแล้วสิเพื่อนรัก” ก้องหล้าแกล้งเบียดไหล่กระแทกเข้ามาเบาๆ เป็นการเย้าหยอก
“แกก็บอกนี่หว่าว่าเธอสวย แล้วถ้าฉันจะสนใจผิดด้วยเหรอวะ”
“เปล่าไม่ผิดสักกระติ๊ดเดียว แต่ที่ถามเพื่อที่ว่าฉันจะได้ทำใจต่างหากเล่า แกน่ะมันเจ้าของสายการบินระดับอินเตอร์เนชั่นนัลสามารถทุ่มประมูลได้ไม่อั้น แต่ฉันมันแค่ทายาทบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ไม่มีตังค์มากมายเหมือนแกนี่หว่า” ก้องหล้าว่าประชด
“แต่คนหรือนางฟ้าก็ไม่รู้ว่ะสวยฉิบ” ชายหนุ่มไม่วายรำพัน
ไรอันหัวเราะเบาๆ ยักไหล่เล็กน้อยด้วยความเคยชิน สาวน้อยคนนั้นสวยจริงอย่างที่เพื่อนว่า สวยและน่าทะนุถนอม น่าปรารถนา นี่แค่เขาเห็นไกลๆ ยังเกิดความร้อนรุ่มในร่างกายเลย แต่ถ้าที่ก้องหล้าเล่ามาเป็นความจริงเธอก็น่าสงสารไม่น้อยที่ต้องมาตกเป็นสินค้าให้คนอื่นซื้อขายกันแบบนี้ ดวงตาตื่นๆ เหมือนกวางน้อยเพิ่งออกมาผจญภัยในโลกกว้าง ชั่ววินาทีที่ได้สบตาคู่นั้นลมหายใจของไรอันสะดุด แรงดึงดูดบางอย่างทำให้ชายหนุ่มที่ผ่านผู้หญิงมาก็ไม่น้อยอย่างเขาชะงักงันแบบที่ไม่เคยเป็น เขาก็ชักอยากรู้แล้วสิว่า เธอจะบริสุทธิ์ผุดผ่องจริงหรือว่ารู้อยู่แล้วว่าตัวเองถูกพามาที่นี่ทำไม
“ไปเหอะ อีกไม่นานการประมูลก็จะเริ่ม ทางนี้” ก้องหล้าเดินนำหน้าเพื่อนไปทางเดียวกับที่สาวน้อยผู้นั้นเดินหายไป
“ฉันอยากรู้จริงๆ ว่าผู้หญิงพวกนั้นรู้ตัวหรือเปล่าว่าถูกพาตัวมาขายแบบนี้” ไรอันถามลอยๆ เขาเดินเอื่อยๆ ตามเพื่อนรักไป ตาคมก็กวาดมองไปรอบๆ บริเวณนั้น ที่มีหนุ่มใหญ่หนุ่มน้อยบ้างก็ยืนคุยกับสาวสวย บ้างก็นั่งแอบอิงเคล้าคลอกัน
“เดาเอานะว่า บางคนก็รู้บางคนก็ไม่รู้ ยายแม่เลี้ยงนั่นร้ายจะตาย ฉากหน้าทำตัวเป็นคนใจบุญ เปิดมูลนิธิรับเด็กกำพร้ามาอุปการะ น้อยคนที่จะมีใครรู้ว่าเบื้องหลังแล้วเอาเด็กมาเลี้ยงเพื่อขายให้บำรุงบำเรอพวกคนมีเงิน บางคนที่รู้ก็ยอมทำเพราะว่าเวลาที่ถูกซื้อตัวไปเจ้าหล่อนก็จะได้ค่าเลี้ยงดู ยิ่งถ้าคนไหนที่ออดอ้อนเอาใจเก่งๆ พวกเสี่ยเงินหนาก็ยิ่งทุ่มให้ทั้งเงินทองบ้านรถเครื่องประดับ แต่ก็อย่างว่าล่ะนะถ้ารู้จักเก็บหรือว่าคนที่ซื้อไปถูกใจชอบกันจริงๆ เก็บเอาไว้ก็โชคดีไป แต่ส่วนใหญ่แล้วไม่เกินสองสามเดือนพอเบื่อหรือหาผลประโยชน์จากเงินที่เสียไปคุ้มแล้วก็เอามาคืน ยายแม่เลี้ยงก็เอาไปหากินต่อในคลับ สาวๆ ที่แกเห็นพวกนั้นไงล่ะ”
ก้องหล้าเล่าเบาๆ พอให้ได้ยินกันเพียงสองคน
“แกก็ทำเป็นว่าเขาร้าย ก็เพราะมีแม่เลี้ยงคนนั้นไม่ใช่เหรอแกถึงได้มีที่ให้เที่ยวปลดปล่อยอารมณ์หนุ่มเหมือนวันนี้น่ะไอ้ก้อง” ไรอันได้ทีสัพยอกเข้าให้บ้าง
“เออ ก็จริง เฮ้ย! อย่าคิดมากเลยวะ เขามีที่ให้กินให้เที่ยวเราก็เที่ยวไปกินไป น่า...แค่หาความรื่นรมย์ใส่ตัวเป็นกำไรชีวิตแค่นั้นเอง”
ก้องหล้ายักไหล่ ทำหน้าทะเล้นทะลึ่งตามประสาของคนอารมณ์ดีและรักความสนุกสนาน
ไรอันเลยได้แต่ส่ายหน้าระอาเพื่อนที่ช่างหาเหตุผลให้กับการกระทำของตัวเอง แต่ชายหนุ่มรู้ดีว่าเพื่อนรักของเขาคนนี้ไม่ใช่คนเหลาะแหละไม่เอาไหน ไม่อย่างนั้นบริษัทฯ ของก้องหล้าคงไม่เจริญก้าวหน้าจนติดแถวหน้าของเมืองไทยเช่นทุกวันนี้ แต่ผู้ชายบางครั้งมันก็ต้องมีเรื่องแบบนี้เป็นธรรมดาอยู่แล้ว
“ลูกปัดรอแม่อยู่ในห้องนี้กับพวกพี่ๆ เขาก่อนนะ เดี๋ยวแม่จะออกไปคุยกับผู้หลักผู้ใหญ่ข้างนอก” แม่เลี้ยงสุภาวินีบอกกับสาวน้อยลูกสาวคนโปรดของเธอในคืนนี้เสียงอ่อนเสียงหวาน
ลูกปัด หรือ ปัทมณฑ์ ยิ้มบางๆ พลางตอบรับ
“ค่ะคุณแม่ ลูกปัดอยู่ได้ค่ะ”
“ดีจ้ะ แม่ไปไม่นานหรอก ถ้าหิวก็ตักอาหารกินได้เลยนะ ที่นี่เขาจัดเลี้ยงแบบบุฟเฟ่ต์ให้เราบริการตัวเอง พวกเธอดูแลลูกปัดดีๆ นะ น้องยังใหม่” แม่เลี้ยงวัยกลางคนแต่ยังสวยปิ๊งเหมือนหญิงอายุสักสามสิบห้าบอกสาวน้อย แต่ท้ายประโยคหันไปย้ำกับเด็กสาวสองสามคนที่นั่งอยู่ในโต๊ะนั้น
“ค่ะคุณแม่ รับรองว่าพวกเราจะคอยดูแลลูกสาวคนสวยของคุณแม่แบบริ้นไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอมเลยล่ะค่ะ”