EP.5
ร้อยดาวหน้าร้อนผ่าวด้วยความอับอาย ความปรารถนาอันรุนแรงที่มีเขาเป็นสาเหตุวิ่งหายไปทันที เมื่อคำพูดดูแคลนออกมาจากปากหยักสวยคู่นั้น
“แล้วคุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ แล้วเจ้าชายล่ะ” หล่อนเห็นเขาหัวเราะ ก่อนที่จะเดินเข้ามาใกล้หล่อนอีก จากระยะห่าง 2 เมตร เหลือแค่ไม่ถึงหนึ่งไม้บรรทัด
ลมหายใจของหล่อนติดขัดแน่นอก ความชิดใกล้ทำให้หล่อนได้กลิ่นกายสะอาดสะอ้านจากเรือนร่างกำยำนั้น เขาสูงจนหล่อนต้องเงยหน้าขึ้นมอง ปกติแล้วหล่อนนั้นก็ไม่ใช่ผู้หญิงตัวเตี้ยสักนิดแต่เมื่อมาเผชิญหน้ากับเขา หล่อนกลายเป็นมดไปในทันที
“ที่นี่ไม่มีเจ้าชาย... มีแต่โจรทะเลทรายเท่านั้น”
หญิงสาวจ้องมองเขาอย่างตกใจ ก่อนจะฝืนหัวเราะออกมา ในใจก็ภาวนาให้หูของหล่อนเพี้ยนไปเอง
“คุณต้องล้อฉันเล่นแน่เลย...”
“ผมไม่เคยล้อเล่น คุณลำบากซะแล้วล่ะร้อยดาว”
ดวงตาของเขาเจิดจ้าไปด้วยกองเพลิง รอยยิ้มยโสผุดอยู่ที่มุมปาก ร้อยดาวตัวสั่นสะท้านขึ้นมา ความหวาดกลัวกำลังรุกรานหล่อนอย่างรุนแรง สายตาของหล่อนประสานกับดวงตาคมกล้า ดุดัน ของเขาโดยบังเอิญ ปฏิกิริยาอันน่าอึดอัดบางอย่างจู่โจมเข้าใส่ทั้งเขาและหล่อนอย่างบ้าคลั่ง
“แต่ว่าฉันมาพบเจ้าชายฮิมรานนะคะ” หล่อนยังฝืนพูดออกมา
“ผมนี่ไง ฮิมราน” เขาพูดเสียงกร้าวร้าว ความอวดเบ่งของเขาเปล่งรัศมีออกมาจากเรือนร่างสูงใหญ่จนน่าสะพรึงกลัวนั้นจนแสบตา
“แต่ไม่ใช่เจ้าชายคนที่คุณต้องการจะพบอย่างแน่นอน” ฮิมรานปดคำโต และก็รู้สึกสะใจเมื่อเห็นสีหน้าของสตรีสาวตรงหน้าซีดเผือดลง แต่กระนั้นหล่อนก็ยังงามอยู่ดี
“แต่เขาพาฉันมาที่นี่ หรือว่ามีการเข้าใจผิดกัน” หญิงสาวพยายามคิดหาทางออก พยายามผูกเรื่องให้น่าหวาดกลัวน้อยที่สุด
“สงสัยฉันจะขึ้นรถผิดแน่ๆ” หล่อนพึมพำเบาๆ ฮิมรานหรี่ตามองหล่อนด้วยสายตาเพชฌฆาตดีๆ นี่เอง
“ไม่ผิดหรอก” หล่อนเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างตกใจ
“คุณหมายความว่ายังไงคะ” ร้อยดาวภาวนาเหลือเกินขออย่าให้เขามีเจตนาร้ายกับหล่อนเลย...
เขายื่นมือหนามาคว้าเอวคอดของหล่อนเข้าไปแนบอก ความแข็งแกร่งที่เกิดจากกล้ามเนื้อแน่น แนบชิดกับความอิ่มเต็มของทรวงอกสาว ฮิมรานสบถออกมาเป็นภาษาความาร์ซึ่งร้อยดาวฟังไม่ออก
ทั้งๆ ที่พยายามจะทำให้หล่อนอกสั่นขวัญหายและตกใจวิ่งหนีกลับบ้านเกิดของหล่อนไป แต่ผิดคาด เพราะคนที่ได้รับผลกระทบโดยตรงนั้นคือเขาเองต่างหาก ความอึดอัดจนน่าเวียนหัวพุ่งเข้าใส่ช่องท้องของเขาอย่างคุ้มคลั่ง
เขาอยากจะจับหล่อนโยนลงบนเตียงแล้วก็จัดการกับเรือนร่างงดงามของหล่อนซะให้หายบ้าอย่างนี้ ฮิมรานครวญครางออกมาอย่างทุกข์ระทม นี่เขาจะต้านทานเสน่ห์ของร้อยดาวได้นานแค่ไหนนะ
แต่ยังไง ก็ขอให้นานพอจนหล่อนวิ่งหนีกับเมืองไทยไปก็แล้วกัน
“ผมให้คนไปรับคุณมาเอง...” เมื่อเห็นหล่อนจ้องมองเขาอย่างกังขา ฮิมรานจึงอธิบายต่อ
“ผมกับเจ้าชายเราไม่ถูกกัน เราเป็นศัตรูกัน” หน้าของร้อยดาวที่ซีดอยู่แล้ว ขาวลงไปอีกราวกับกระดาษ
หญิงสาวอยากจะร้องไห้ออกมาจริงๆ นี่หล่อนสมควรจะเชื่อคำพูดของเขาดีไหมนะ คำพูดของผู้ชายที่หล่อเหลาเหลือเกิน
“คุณต้องล้อฉันเล่นแน่ๆ เลย” ฮิมรานหัวเราะออกมาเมื่อฟังคำพูดที่พยายามปลอบใจตัวเองสุดฤทธิ์ของร้อยดาว
“ช่วยพาฉันไปหาเจ้าชายทีเถอะนะฉันขอร้อง หรือถ้าลำบากเกินไป พาฉันไปที่สนามบินก็ได้”
“คุณจะบินกลับเมืองไทยหรือ”
ฮิมรานถามออกไปอย่างมีความหวัง เพราะถ้าหล่อนตัดสินใจกลับเมืองไทยไปตอนนี้ เขาจะรีบไปส่งหล่อนโดยไม่รอให้เสียเวลาเลย
“เปล่าค่ะ ฉันคิดว่าคนของเจ้าชายคงรอฉันอยู่”
คำพูดของหล่อนทำให้ความผิดหวังปรากฏอยู่ในแววตาของเขา ก่อนจะจางหายไปเหลือแต่ความเย็นชาดังเดิม
“ถ้าผมไม่ทำตามที่คุณขอล่ะ”
ความตกใจแปรเปลี่ยนเป็นความไม่พอใจก่อนจะกลายเป็นความขัดเคืองสุดแสน หล่อนมองเขาอย่างตำหนิ
“แต่คุณกำลังลักพาตัวเจ้าสาวของเจ้าชายฮิมรานนะ”
เขาหัวเราะเยาะ แก้มสาวร้อนผ่าว แต่ก่อนจะพูดอะไรออกไป หล่อนก็รู้สึกถึงความเหมือนของชื่อของชายทั้งสองคน
ฮิมราน... กับเจ้าชายฮิมราน ทำไมถึงชื่อเดียวกันล่ะ
“ทำไมคุณกับเจ้าชายถึงชื่อเดียวกันคะ นี่คุณกำลังเล่นตลกอะไรกันแน่”
ฮิมรานยักไหล่กว้างอย่างไม่ใส่ใจ “ก็แค่เหมือนกัน แต่ไม่ใช่คนเดียวกันแน่”
“ฉันไม่เชื่อคุณหรอก คุณไม่ได้ชื่อฮิมรานหรอก”
“ก็ตามใจ แต่ขอบอกว่าผมจะไม่ไปส่งคุณให้กับเจ้าชายบ้าบออะไรนั่นหรอก”
เหมือนโลกทั้งโลกกำลังมืดมิด ร้อยดาวแทบล้มทั้งยืน นี่หล่อนไม่อยากจะเชื่อเลยว่าตัวเองจะต้องมาพบเจอกับชะตากรรมอันโหดร้ายเยี่ยงนี้ แล้วนี่เจ้าชายจะตามหาหล่อนไหมนะ
“การที่ผมมีคุณอยู่ในมือ นั่นก็คือสิ่งได้เปรียบที่ผมมีเหนือเจ้าชาย”
“ฉันไม่ได้มีค่าขนาดนั้นสักหน่อย คุณปล่อยฉันไปเถอะนะคะ รับรองว่าฉันจะไม่บอกเรื่องนี้กับเจ้าชายแน่”
หล่อนขอร้องเขาอย่างมีความหวัง แต่มันก็ดับวูบลงราวกับแสงเทียนต้องลมเมื่อคำพูดอันร้ายกาจไร้ความปรานีของเขาดังขึ้นมา
“ผมไม่รับข้อเสนอของคุณ”
“คุณมันใจร้าย ทำไมต้องมาลงที่ฉันด้วย ฉันไม่ได้มีเรื่องโกรธแค้นกับคุณสักหน่อย” น้ำตาที่ซ่อนอยู่ในอกล้นทะลักออกมาอย่างน่าละอาย แต่จะทำยังไงได้เล่า ในเมื่อหล่อนจนปัญญาจะกักมันไว้ได้จริง ๆ
“แต่ผมกับเจ้าชายมี...” น้ำเสียงของเขาอ่อนลง เมื่อเห็นน้ำตาของหล่อน วูบหนึ่งเขาก็อดรู้สึกสงสารหล่อนไม่ได้ แต่พอคิดว่านั่นมันคือมารยาของหล่อน เขาก็เก็บซ่อนความเห็นใจนั้นเข้าไปในอกอย่างรวดเร็ว
“เจ้าชายย่ำยีน้องสาวของผมและไม่ยอมรับผิดชอบ แถมยังจะแต่งงานใหม่กับคุณอีก”
เจ้าชายหนุ่มกุเรื่องโกหกได้อย่างแนบเนียน และก็ยิ้มออกมาอย่างพอใจเมื่อเห็นท่าทีของร้อยดาวอ่อนลง
“จริงหรือคะ”
หล่อนถามออกไปทั้งน้ำตา ด้วยความไม่อยากเชื่อ ฮิมรานพยักหน้ารับ พลางกระชับมือหนาที่รั้งเอวคอดของหล่อนให้แน่นขึ้น กลิ่นกายสาวของร้อยดาวเตะจมูกเขายิ่งนัก
“ถ้าคุณกลับเมืองไทยไปซะ น้องสาวของผมก็จะไม่ต้องผิดหวัง” เขายังแต่งเรื่องต่อไปอีก ร้อยดาวก้มหน้ามองแผ่นอกกว้างของเขานิ่งอย่างสับสน ตอนนี้ทั้งสมองและร่างกายของหล่อนต่างสับสนไม่แพ้กัน
หญิงสาวพยายามขยับตัวเพื่อจะให้พ้นจากปลอกแขนที่แข็งแกร่งดั่งเหล็กกล้า ความตกใจ ความประหม่า เขินอาย จับกลุ่มร่วมกันอยู่ในความรู้สึกของหล่อนตอนนี้
เจ้าชายฮิมรานสบถออกมาอย่างหัวเสีย เมื่อร่างกายของเขาขานรับกับความอวบอัด นุ่มนิ่ม ที่ขยับไปมาอยู่ภายในอ้อมแขน เขาอยากจะผลักหล่อนให้ล้มลงบนเตียง แล้วจากนั้นก็ฝังร่างอันใหญ่โตที่กำลังคึกคะนองเต็มที่ของเขาให้หายเข้าไปในเนินเนื้อของเจ้าหล่อนนัก
ฮิมรานถอดถอนลมหายใจออกมาอย่างเดือดดาลเมื่อรับรู้ถึงแรงกระตุ้นทางเพศที่เขามีต่อหญิงสาวในอ้อมแขนอย่างดุเดือด เลือดพล่าน
“แต่ฉันต้องแต่งงานกับเจ้าชายนะคะ ฉันไม่มีทางเลือกอื่น” หล่อนคร่ำครวญ
“คุณไม่ยอมเลือกทางอื่นมากกว่า เพราะสิ่งที่คุณจะได้จากเจ้าชายนั้น มีค่ามากมายมหาศาลใช่ไหมล่ะ” เขาพูดอย่างดูถูกหล่อน
ร้อยดาวหน้าชา เมื่อถูกเขาสบประมาทซึ่งๆ หน้า และนั่นก็ทำให้อารมณ์ขุ่นมัวของหล่อนที่น้อยครั้งนักจะมีอำนาจเหนือสติของหล่อนพุ่งพรวดจนแทบระเบิด
“คุณยังไม่รู้จักฉัน ไม่ควรจะมาประนามใส่ฉันแบบนี้นะคะ” เขาหัวเราะเยาะอย่างดูหมิ่น
“ผมรู้จักคุณดีเลยแหละ แม่ผีเสื้อราตรีคนสวย”
เขาก้มหน้าลงมาหา ปลายจมูกโด่งเป็นสันแทบจะชนกับปลายจมูกโด่งเชิดของหล่อนอยู่แล้ว นี่ยังไม่รวมถึงลมหายใจอุ่น ๆ ที่เป่ารดลงมาบนใบหน้าของหล่อนอีก ทุกสิ่งอย่างรวมกันขึ้นมาเป็นเขาทำให้หล่อนแทบคลุ้มคลั่ง
“ฉันไม่เข้าใจที่คุณพูดนะ แต่คุณกล่าวหาฉันอย่างน่าละอาย” คำพูดของร้อยดาวทำให้ฮิมรานหน้าตึงขึ้นมาทันที เขาตอกกลับหล่อนไปอย่างเดือดดาล