ตอนที่ 8

1567 Words
EP.8     รัตติกาลเริ่มคืบคลานเข้ามาช้า ๆ อากาศที่ร้อนตับแทบแตกในยามกลางวันบนพื้นทะเลทรายสีอร่ามนี้ ค่อย ๆ เย็นสบายลงได้อย่างเหลือเชื่อ ความร้อนระอุของไอแดดค่อยๆ จางหายไปราวกับไอน้ำที่เลือนหายไปในอากาศ ความหนาวเหน็บแทรกซึมทั่วทั้งหัวใจ                 ฮิมรานยืนกอดอกเหม่อมองลำแสงของดวงอาทิตย์ที่ยังคงสะท้อนสีแสดขึ้นมาตามขอบฟ้า ลมหายใจหนักๆ พ่นออกมาจากริมฝีปากได้รูปงดงามเฮือกใหญ่                 ตั้งแต่เกิดมาเป็นตัวเป็นตนจนอายุอานามปาเข้าไปสามสิบสี่ปีแล้ว ยังไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนทำให้เขายุ่งยากใจได้เท่ากับแม่สาวร้อยดาวผู้เลอโฉมคนนี้เลย                 หล่อนสวยอย่างน่าตื่นตะลึง รูปร่างองค์เอวก็งดงามหาที่ติไม่ได้ และที่สำคัญหล่อนมีเคมีตรงกับเขาอย่างสุดๆ เจ้าหล่อนทำให้ความต้องการทางเพศของเขารุนแรงขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ                 แต่สิ่งเหล่านั้นก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่กับเขาสักนิด เพราะเขารู้ดีว่า แค่กระดิกนิ้วเรียก ร้อยดาวก็แทบจะกระโจนเข้าใส่เขาโดยไม่ต้องเสียเวลาคิดแล้ว เพราะไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนปฏิเสธเขาได้ พวกหล่อนจะยินดีทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ขึ้นเตียงกับเขาเท่านั้น                 เจ้าชายหนุ่มคิดอย่างทระนง และเขาก็ไม่คิดว่าร้อยดาวจะต้านทานเสน่หาแห่งชายชาตรีที่แข็งแกร่งของตัวเองได้ สายตาของหล่อนที่ทอดมองเขามาอย่างเปิดเผยทำให้เขาแทบอาเจียนกับการเสนอตัวแบบนั้น                 “ฉันจะไม่ยอมโง่แต่งงานกับเธอหรอก ร้อยดาว แม่ผู้หญิงเจ้าเล่ห์” ฮิมรานพึมพำออกมาอย่างเครียดแค้น วีรกรรมของหล่อนยังฝังแน่นถาวรอยู่หัวไม่จาง                 เจ้าชายหนุ่มเดินกลับไปกลับมาอย่างใช้ความคิด เขาจะต้องทำอะไรบางอย่าง ไม่ใช่สิ... ต้องทำทุกๆ อย่างนั่นแหละ ที่จะทำให้ร้อยดาวตัดสินใจกลับบ้านเกิดเมืองนอนของหล่อนไปได้                 ทั้งๆ ที่ตอนแรกคิดว่าการหลอกพาตัวหล่อนมารอนแรมกลางทะเลทรายแบบนี้จะทำให้เจ้าหล่อนกลัวจนหัวหด รีบเพ่นแน๊บกลับเมืองไทยแทบไม่ทัน แต่ผิดคาด! หล่อนดื้ออย่างน่าใจหาย ร่ำร้องว่าจะแต่งงานกับเขาให้ได้ พฤติกรรมเยี่ยงนักขุดทองแบบนี้ของร้อยดาว ยิ่งทำให้ฮิมรานสะอิดสะเอียนจนคลื่นไส้ ในเมื่อการจับตัวมากลางทะเลทรายไม่ได้ทำให้หล่อนหวาดกลัวแม้แต่น้อย งั้นคืนนี้เขาต้องค้นหาหนทางจำกัดหล่อนให้ออกไปจากวงโคจรใหม่ มันต้องน่ากลัวและน่าพรั่นพรึงสุดๆ เจ้าชายรูปงามอมยิ้มสมใจออกมา แต่การที่เขาจะส่งหล่อนกลับประเทศไปนั้น ไม่ได้หมายความว่าเขาจะไม่ต้องการหล่อนบนเตียงนอนของตัวเองในคืนนี้หรอกนะ         ร้อยดาวยกมือบางขึ้นปาดน้ำตาจากแก้มนวลลวกๆ ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ ดวงตากลมโตหวานฉ่ำที่ขนตายังเปียกชื้นอยู่ทอประกายเจิดจ้าด้วยความหวัง เมื่อหญิงสาวคิดแผนการที่ตัวเองจะสามารถหนีไปจากกรงเล็บซาตานกลางทะเลทรายแห่งนี้ได้ ร่างบางผุดลุกขึ้นยืนเต็มความสูงห้าฟุตกับเจ็ดนิ้ว ใบหน้านวลเบ้เล็กน้อยเมื่อถูกเหน็บชาเล่นงานที่เรียวขาทั้งสองข้าง เนื่องจากหล่อนนั่งอยู่ในท่าเดิมไม่ขยับเขยื้อนนานเกินชั่วโมงมาแล้ว หญิงสาวค่อยๆ ย่องออกไปที่ทางออกของกระโจม มือเรียวเล็กกลมกลึงยื่นออกไปจับรอยแยกของผ้านั้นออกจากกันเล็กน้อย ความมืดมิดที่ปกคุลมไปทั่วผืนทะเลทรายช่างเขย่าหัวจิตหัวใจที่จะพยายามแข็งแรงของหล่อนให้กระฉอกหลุดออกไปทีละเล็กทีละน้อยอย่างน่าใจหาย สายลมเย็นๆ ที่ไม่เพียงแต่พัดเอาฝุ่นทรายมาใส่หน้าให้แสบตาเล่นเท่านั้น แต่มันยังพัดนำเอาความเหน็บหนาวและความน่าสะพรึงกลัวเข้าใส่จนสันหลังสะท้านไปหมด แต่อุปสรรคตรงหน้าก็หาใช่สิ่งที่จะมาขัดขวางการกู้อิสรภาพคืนของหล่อนไม่ ยังไงหล่อนก็จะไม่ยอมทนอยู่กลางทะเลทรายให้ซาตานร้ายแต่หล่อบาดใจคนนั้นย่ำยีง่ายๆ หรอก ขอไปตายเอาดาบหน้าดีกว่า ร้อยดาวค่อย ๆ ย่องออกไปนอกกระโจมเดินอ้อมไปด้านหลัง หญิงสาวตั้งใจจะแอบหยิบตะเกียงน้ำมันที่ส่องแสงวาบวับอยู่เหนือศีรษะไปด้วยเพื่ออำนวยความสะดวกในการหลบหนีของหล่อน แต่เมื่อมาคิดถึงผลเสียที่จะตามมาหากนำเจ้าตะเกียงนี้ติดตัวไปด้วยแล้ว หญิงสาวก็ถอนลมหายใจออกมาอย่างถอดใจ “มืดเหลือเกิน แล้วจะจำทางได้ไหมเนี่ย” ร้อยดาวพึมพำกับตัวเองอย่างกังวลใจ ขณะเงยหน้าขึ้นมองดวงจันทร์กลมโตที่เหลือแค่เสี้ยวเล็ก ๆ นี่ถ้าเป็นคืนพระจันทร์เต็มตัวคงดีไม่น้อย ร้อยดาวชะโงกหน้ามองไปรอบๆ บริเวณกว้าง ผู้คนในชุดพื้นเมืองทั้งชายและหญิงกำลังตะเตรียมอาหารกันอยู่ใกล้ๆ กับกองไฟกองใหญ่ ซึ่งห่างจากหล่อนไปไม่กี่ร้อยเมตร หญิงสาวขยับตัวเดินถอยหลังไปช้าๆ เท้าเปลือยเปล่าที่ย่ำลงบนพื้นทรายจมหายลงไป สายลมเย็นฉ่ำพัดเอาความเหน็บหนาวมาห่อหุ้มเนื้อตัวที่มีเพียงเสื้อเชิ้ตกับกางเกงยีนส์ขายาวของร้อยดาวอย่างอำมหิต หญิงสาวยกมือขึ้นกอดอกไว้เพื่อให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย ขณะมุ่งหน้าเดินต่อไปอย่างไม่ลดละ แม้จะจดจำหนทางไม่ได้ก็ตาม เจ้าชายฮิมรานตวาดใส่คนใช้ที่เฝ้าร้อยดาวอยู่ในทะเลทรายอย่างเดือดดาล เรือนกายสูงใหญ่เกร็งไปทั่วทั้งร่าง มือหนาสีคร้ามแดดกำเข้าหากันแน่นแทบระเบิด ดวงตาคมกล้าหรี่มองผนังห้องตรงหน้าราวกับมันคือคนที่เขากำลังจะพิพากษาด้วยโทษตายให้ กรามแข็งแกร่งบดกันเป็นสันนูนด้วยความขัดเคือง “พวกเจ้าดูแลนางยังไง ปล่อยให้หายไปได้ยังไง?!” เขาไม่คาดคิดเลยว่าร้อยดาวจะใจเด็ดอย่างนี้ นี่ขนาดเขาขู่ไว้แล้วนะว่าทะเลทรายนั้นน่ากลัวยังไง แต่เจ้าหล่อนก็ยังไม่วายหนีออกไปจนได้ “ช่วยกันออกไปตามหาให้เจอ! ถ้านางเป็นอะไรไปพวกเจ้าหัวหลุดจากบ่าแน่”  ฮิมรานกดปิดโทรศัพท์อย่างหัวเสีย ก่อนจะร้องเรียกองครักษ์หน้าห้องให้เข้ามารับคำสั่งด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราดที่ปิดไม่มิด “เรห์ฮานนายช่วยไปเตรียมเฮลิคอปเตอร์ให้ฉันเร็วที่สุด” เมื่อองครักษ์หนุ่มออกไปแล้ว ฮิมรานก็เดินกลับไปกลับมาอยู่บนพื้นพรมเปอร์เซียนุ่มนั้นอย่างกระวนกระวายใจ ความจริงเขาอยากจะเหาะไปหาหล่อนในทะเลทรายด้วยซ้ำ นี่หล่อนไม่เคยล่วงรู้เกี่ยวกับความหายนะที่เกิดมาจากทะเลทรายหรือไง เจ้าชายถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ถ้าหล่อนเป็นอะไรไปเขาคงเสียใจเป็นอย่างมาก เพราะสิ่งที่เขาต้องการจากหล่อนจริงๆ ก็คือการที่ให้หล่อนกลับไปประเทศไทย และยกเลิกสัญญาบ้าบอคอแตกนั้นซะ ไม่ได้ต้องการให้หล่อนมาทิ้งชีวิตวัยสาวในทะเลทรายแห่งนี้สักหน่อย ร้อยดาวลุกขึ้นยืนปัดเม็ดทรายให้ออกจากใบหน้า ลำคอและเนื้อตัว หญิงสาวพยายามใช้แสงจันทร์ที่มีอยู่น้อยนิดเพ่งมองทะเลทรายที่เวิ้งว้างตรงหน้า เนินทรายหลายแห่งเกิดขึ้นมาใหม่โดยมีสายลมเป็นตัวเคลื่อนย้าย ร่องรอยเท้าคนหรือแม้แต่รอยเท้าของอูฐก็ไม่มีให้เห็นแม้แต่น้อย หญิงสาวคิดอย่างสิ้นหวัง แล้วนี่หล่อนจะรอดออกไปจากทะเลทรายแห่งนี้ได้ไหมนะ หญิงสาวกลั้นน้ำตาแห่งความหวาดกลัวไว้ในอก ดวงตากลมโตยังคงสอดส่ายหาหนทางที่จะพาตัวเองให้รอดพ้นไปจากค่ำคืนที่โหดร้ายนี้อย่างบ้าคลั่ง หล่อนพยายามนึกถึงตอนที่นั่งรถมา หล่อนจำได้ว่าถ้าเดินไปตามทางถนนเส้นเล็กก็จะเจอถนนใหญ่ แต่จนแล้วจนรอดหล่อนก็หาเจ้าถนนเส้นเล็กๆ เส้นนั้นไม่เจอ รอบตัวของหล่อนตอนนี้มีแต่เนินทรายเตี้ยๆ หลายเนินล้อมรอบอยู่ “เราคงหลงทางแล้วแน่ๆ” หญิงสาวพึมพำบอกตัวเองราวกับจะร้องไห้ ความเหน็บหนาวจากอากาศยามค่ำคืนทำให้หญิงสาวหนาวจนฟันกระทบกันดังกึก ขณะที่กำลังยืนลังเลเลือกหนทางที่จะมุ่งหน้าไปต่อนั้น เสียงคำรามของพายุทะเลทรายก็ดังขึ้นรอบๆ ตัว ร้อยดาวขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างแปลกใจ เพราะหล่อนไม่สามารถเดาได้ว่านั่นคือเสียงของอะไร แต่ก็ชั่วครู่เท่านั้นเพราะไม่ช้าร่างบอบบางก็มีอันต้องกระเด็นลมลงกองกับพื้นทราย เมื่อลมพายุพัดผ่านมาทางหล่อน เสียงกรรโชกรุนแรงทำให้หญิงสาวตกใจ ถึงแม้ว่าหล่อนจะไม่เคยศึกษาอะไรเกี่ยวกับทะเลทรายมาก่อน แต่พายุที่หอบเอาเม็ดทรายพัดผ่านไปอย่างนี้ คงเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกจาก พายุทะเลทราย...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD