บทที่ ๘ ‘ออกปล้น’

2176 Words
หมูป่าตัวใหญ่ถูกจับผ่าแล่ ทาเกลือแล้วย่างบนกองไฟกลางหมู่บ้าน ชาวบ้านทั้งลูกเด็กเล็กแดงมานั่งล้อมวงกันเพื่อรอลิ้มรสหมูป่า ส่วนคนที่ล่าหมูตัวใหญ่มาได้นั้นนั่งยิ้มแก้มปริหน้าบานยิ่งกว่ากระด้ง “ฉันเก่งไหมจ๊ะพี่ราชัน” “เออ!” ราชันตอบคำถามเดิมเป็นรอบที่สิบ ไอ้สองที่ถูกทำโทษหายเข้าป่าไปเป็นอาทิตย์ หายไปนานจนราชันคิดว่าถ้ามันไม่ตายก็คงหลงป่า หรือไม่ก็หนีไปแล้วเพราะไม่อยากจับหมู แต่พอพ้นวันที่เจ็ดไอ้สองก็กลับมาพร้อมหมูป่าตัวใหญ่บนหลัง เนื้อตัวมอมแมมสกปรกดูไม่ได้ แต่ชาวบ้านต่างพากันชื่นชมมันไม่ขาดปาก มีครอบครัวหนึ่งถึงขั้นอยากหมั้นหมายลูกสาวกับไอ้สอง แต่ราชันยังไม่อนุญาตเพราะเด็กคนนั้นเพิ่งอายุได้เพียงสามขวบ “พี่เก่งไหมจ๊ะใบบัว” สองหันมาถามสาวน้อยดวงตากวางบ้าง ราชันไม่รู้ว่าทั้งคู่ไปสนิทสนมกันตอนไหน เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยจนน่ารำคาญ “เก่งจ้ะ หมูป่าตัวใหญ่มากเลย” “ใช่หรือไม่เล่า! นี่กว่าพี่จะจับได้นะ ต้องซุ่มรอมันตั้งสามวันแหนะ” “พี่สองเก่งที่สุด” ราชันเดินหนีสองคนนั้นอย่างรำคาญ อีกคนก็อวดไปเรื่อย ส่วนอีกคนก็สรรเสริญเยินยอเหมือนไอ้สองมันไปกู้โลกมาได้ ไร้สาระ “พี่ราชันมานี่ ๆ ยาดองอันนี้ของดี กินแล้วคึกเหมือนม้าเลยนะพี่!” ลูกน้องที่ออกปล้นด้วยกันกวักมือเรียก ราชันเดินเข้าไปนั่งล้อมวงกับพวกมันแต่ไม่ยอมรับยาดองที่อีกฝ่ายยื่นให้ “พวกมึงกินเถอะ” “ทำไมล่ะพี่” “กูไม่มีเมีย ถ้ามันคึกคักขึ้นมากูจะระบายกับใคร” จอมโจรนึกอยากจะตบกระโหลกลูกน้องที่ช่างสรรหาของแปลกมาให้กินสักคนละทีสองที พวกมันมีเมียกันเกือบทุกคน พอมีเมียก็ชอบหายาบำรุงกำลังมากินไว้คลุกวงในเมีย เมื่อก่อนราชันก็กินบ่อย ๆ แต่ช่วงนี้ต้องงดไป เพราะถ้ากินแล้วจะลงกับใครได้ เมียก็ไม่มีแล้ว ซ่องก็ไม่ได้อยู่ใกล้ ๆ “ก็อีหนูคนนั้นอย่างไรเล่าพี่” “ใครวะ” “เด็กของพี่ที่นั่งกับไอ้สองน่ะสิ หน้ามันเสียโฉมแต่หุ่นดีอยู่นา พี่ไม่เอามันมาบำเรอแก้ขัดล่ะ” “ไม่เอาหรอก” ราชันส่ายหน้าแล้วเปลี่ยนเรื่อง “ที่ให้ไปดูลาดเลาบ้านไอ้ผู้กองนั่น เป็นอย่างไรบ้าง” ราชันพูดถึงตำรวจที่ย้ายมาอยู่ในอำเภอนี้ได้ปีกว่าแล้ว ตอนมาผู้กองนั่นมาตัวเปล่า ไม่ได้ร่ำรวยและกินเงินเดือนหลวงไปวัน ๆ แต่ตอนนี้กลับอู่ฟู่ขึ้นเพราะรับสินบนจากพวกค้าไม้และค้ายา ไม่พอ.. มันยังคอยรีดไถเงินจากชาวบ้านเป็นประจำ มีชาวบ้านเดือดร้อนมากมายแต่กลับไม่มีที่พึ่ง เพราะตำรวจทำตัวเป็นโจรเสียเอง พอราชันรู้เข้าก็ต้องการไปจัดการสั่งสอนไอ้ผู้กองนั่นด้วยมือของตัวเอง แต่เพราะมันเป็นตำรวจ การปล้นครั้งนี้จึงไม่ง่าย ราชันให้ลูกน้องไปดูลาดเลาที่บ้านผู้กองนิสัยโจรมาหลายวัน มันระวังตัวดีและมีปืน การออกปล้นครั้งนี้จึงต้องวางแผนอย่างรัดกุม “มันชอบออกไปกินเหล้ากับเสี่ยกำจรทุกคืนวันศุกร์ วันนั้นจะลงมือได้ง่ายที่สุด แต่พวกเราไม่แน่ใจว่ามันเก็บเงินทองไว้ตรงไหน” “ไม่แน่ใจก็แค่รื้อ!” ดวงตาของจอมโจรแข็งกร้าว “พวกมึงเตรียมตัวให้พร้อม ศุกร์นี้เราจะออกปล้นบ้านไอ้ผู้กองมานพ เอาเงินที่มันรีดไถมากลับไปคืนชาวบ้านให้ได้!” “เฮ!” “เฮ!” เสียงร้องตะโกนดังขึ้นจากกลุ่มโจร จากนั้นชาวบ้านก็ส่งเสียงออกมาบ้าง ใบบัวมองทุกคนที่ยกมือขึ้นสูงแล้วตะโกนเฮดังลั่นด้วยความไม่เข้าใจ “ทำอะไรกันหรือจ๊ะพี่สอง" “อ๋อ สัญญาณออกปล้นน่ะ” สองอธิบาย “ถ้าพี่ราชันออกปล้นจะส่งสัญญาณแบบนี้ เป็นอันรู้กันว่าพวกเราจะปล้น” “ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ใบบัวไม่เคยเห็นพวกพี่ออกปล้นเลย” “ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็ปล้นบ่อย แต่พอหมู่บ้านเริ่มมั่นคงก็ไม่ค่อยปล้นแล้ว ส่วนมากที่ปล้นกันก็เพื่อเอาเงินไปแจกจ่ายให้คนยากคนจนนั่นแหละ” “แจกจ่ายคนยากคนจนหรือจ๊ะ” “อืม.. พวกเราปล้นแค่พวกคนเลว ข้าราชการโกงกิน พวกที่ทำเรื่องผิดกฎหมาย พอปล้นเสร็จก็เอาเงินไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านที่ยากจน มีแค่บางส่วนที่พวกเราเก็บไว้” “ทำไมต้องทำแบบนั้นด้วยล่ะจ๊ะ” ใบบัวไม่เข้าใจ เธอไม่คิดว่าจะมีคนทำเลวเพื่อเอาเงินทองไปแจกจ่าย ขึ้นชื่อว่าโจรมักไม่เคยถูกพูดถึงในด้านดี โดนด่าโดนสาปแช่งจนเป็นเรื่องปกติ แต่ราชันกลับทำเรื่องดี ๆ ลับหลังคำด่าทอ ทำไมถึงไม่ทำดีต่อหน้าให้จบ ๆ ไป “ก็เมื่อก่อน...” “พูดเยอะไปแล้วไอ้สอง เดี๋ยวมึงจะโดน” สองสะดุ้งเฮือก มันหันกลับไปมองเจ้าของเสียงดุอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ส่งยิ้มโง่ ๆ ให้ราชัน ก่อนจะคิดหาทางหนีทีรอดอย่างด่วนจี๋ “ฉะ ฉัน ฉันไปดูหมูก่อนนะพี่!” พูดจบสองก็วิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้ใบบัวต้องทนกับสายตากดดันจากราชันเพียงคนเดียว “มึงไม่ต้องอยากรู้อะไรให้มันมาก พวกรู้มากอายุมันมักจะไม่ยืนยาวหรอก จำเอาไว้” . . ในคืนวันศุกร์ที่มืดสนิท เมฆหนาปกคลุมทั่วท้องฟ้าจนมองไม่เห็นแสงจันทร์และดวงดาว ราชันและพวกพ้องเตรียมม้าและอาวุธครบมือ นัดหมายกันในเวลายามสอง ชาวบ้านบางส่วนมารอส่งและอวยพรให้กลุ่มโจรได้รับชัยชนะอย่างที่แล้วมา ใบบัวเองก็มาส่งราชันด้วย เธอกระชับผ้าคลุมไหล่กันลมหนาว ตากลมโตจับจ้องร่างกำยำของราชันที่ยืนตัวตรงข้างเหนือเมฆ เธอยอมรับว่าราชันในเวลานี้ดูดีมาก แต่ภายใต้ความดูดีนั้นเต็มไปด้วยความน่ากลัวและกดดัน “ราชัน รอบนี้หนักหน่อยนะ” แม่อ่อน.. ผู้ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญของหมู่บ้านเอ่ยขึ้น ใบบัวรู้แค่ว่าแม่อ่อนสามารถดูดวงได้และเก่งกาจเรื่องสมุนไพร เป็นหมอประจำหมู่บ้านทั้งหมอยาและหมอดู แต่เธอไม่เคยพูดคุยกับแม่ก่อนมาก่อน เพราะถ้าหากไม่มีเรื่องสำคัญแม่อ่อนจะเข้าป่าหาสมุนไพร บ้างก็จำศีลนั่งสมาธิอยู่ในถ้ำไม่ไกลจากหมู่บ้านเท่าไหร่ แต่ก็น่าแปลกที่ทุกครั้งถ้าหากมีคนต้องการความช่วยเหลือ แม่อ่อนจะปรากฎตัวขึ้นทันทีโดยไม่ต้องไปตามหา ราชันนับถือแม่อ่อนมาก มือทั้งสองข้างยกขึ้นไหว้หญิงชรา แม่อ่อนวางมือบนไหล่แกร่งอย่างไม่สบายใจ แต่สุดท้ายก็ยอมปล่อยให้ราชันขึ้นม้าไป กลุ่มโจรหกคนออกเดินทางอย่างเงียบกริบ ทันทีที่ราชันพ้นหมู่บ้านไป แม่อ่อนก็หันมาพูดกับใบบัวด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “อีหนู เอ็งเตรียมน้ำสะอาด ยา และผ้าสะอาดไว้แล้วรีบเข้านอนเสีย เพราะเมื่อถึงเวลาย่ำรุ่งเอ็งจะไม่ได้พักจนถึงค่ำของอีกวัน” “แม่อ่อนหมายความว่ายังไงหรือจ๊ะ” “เอ็งต้องคอยดูแลจอมโจร รอบนี้ราชันจะเจ็บหนัก” “อะไรนะจ๊ะ!” ใบบัวตะลึงงัน เธอไม่รู้หรอกว่าแม่อ่อนจะทำนายได้แม่นแค่ไหน แต่เพราะมันเป็นเรื่องอัปมงคลเธอจึงอดตกใจไม่ได้ “อย่างที่บอก รอบนี้ราชันเจ็บหนักนัก” แม่อ่อนปิดตาลงสักพัก ก่อนจะเปิดขึ้นเพื่อมองใบบัว “ข้าเห็นเลือดเต็มไปหมด” “หากแม่อ่อนรู้แบบนี้ แล้วทำไมถึงปล่อยให้พี่ราชันออกปล้นล่ะจ๊ะ!” “มันเป็นโชคชะตา.. ไม่มีใครฝืนโชคชะตาได้ หากฝืนครั้งนี้ รอบหน้าจะหนักกว่าหลายเท่า” ใบบัวพูดอะไรไม่ออก สีหน้าของเธอเก็บกักความกังวลเอาไว้ไม่มิด คิ้วเรียวขมวดแน่น ความวิตกฉายผ่านทางแววตาชัดเจน ถึงแม้ว่าราชันจะไม่ได้เป็นคนใจดีมากนัก แต่เขาก็เป็นคนที่ให้ที่หลับนอน ให้อาหารดี ๆ และยินยอมให้เธอได้อยู่ในหมู่บ้านนี้ต่อไป ไม่ต้องกลับไปเป็นเมียคนรุ่นพ่อเพื่อแลกกับเงินแค่ไม่กี่บาท ได้ใช้ชีวิตอย่างที่ไม่เคยเจอ ถึงไม่ได้สุขล้นแต่ก็ไม่ได้ทุกข์ตรมเหมือนเมื่อก่อน ราชันให้ชีวิตใหม่กับใบบัว และใบบัวก็ไม่อยากให้ราชันตาย “ราชันมันตายยาก ไม่ต้องกังวลไปหรอก” หญิงชราเอ่ยขึ้นเหมือนอ่านใจใบบัวได้ หรือแท้จริงแล้วแม่อ่อนอาจจะอ่านใจคนออกได้จริง ๆ ก็ได้ ไม่มีใครรู้... “เลิกคิดกังวลเสีย ราชันมันมีอายุยืนยาว เพียงแค่ครั้งนี้เป็นช่วงดวงตกเท่านั้น เอ็งแค่กลับไปเตรียมของที่ข้าสั่งก็พอ ราชันกลับมาเมื่อใดข้าจะมาทำแผลให้ แต่หลังจากนั้นจะเป็นหน้าที่ของเอ็งที่ต้องดูแลต่อ” “จ้ะแม่อ่อน ใบบัวจะเตรียมของตามที่แม่อ่อนบอก” “ดี” . . ทางด้านราชัน จอมโจรควบเหนือเมฆไปตามแนวป่าที่รกทึบ คืนที่ดวงจันทร์ถูกบดบังแสงทำให้การเดินทางยากลำบากกว่าปกติ แต่นั่นเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับโจร การออกปล้นจะเอิกเกริกไม่ได้ ไม่อย่างนั้นเหยื่อจะรู้ตัวก่อน อีกไม่ถึงกิโลก็จะถึงจุดหมายในวันนี้ ราชันเร่งความเร็วมากขึ้น สิบนาทีต่อมากลุ่มโจรก็มาดักซุ่มตามแนวป่าใกล้บ้านพักผู้กองเพื่อรอทำตามแผน “รอสัญญาณ” ราชันซุ่มดูจนกระทั่งผู้กองขับรถยนต์เข้ามาจอดหน้าบ้าน ร่างสูงใหญ่ของนายตำรวจก้าวลงจากรถ เดินเซเล็กน้อยจากความมึนเมา “มาแล้ว เตรียมพร้อม” ราชันและพรรคพวกลงจากหลังม้า เดินเท้าย่องเข้าไปใกล้ตัวบ้านที่ปิดไฟเงียบ ในความมืดสลัวราชันเห็นร่างของผู้กองมานพ นอนหมดสภาพอยู่กลางบ้าน “รื้อให้ทั่ว เอาทรัพย์สินมาให้หมด!” เสียงคำสั่งของราชันปลุกให้ตำรวจหนุ่มตื่นขึ้น แต่ราชันไม่ได้เกรงกลัว เพราะเขาต้องการให้มันตื่นขึ้นมาอยู่แล้ว “มึง มึงเป็นใคร!” “คนที่พวกมึงหมายหัวไว้ แต่ไม่มีปัญญาจะจับอย่างไรเล่า หึ ตำรวจกระจอก” ราชันหัวเราะเยาะเย้ย เอ่ยดูถูกการทำงานของตำรวจจนผู้กองหนุ่มเลือดขึ้นหน้า “ได้ข่าวว่าผู้กองอย่างมึงรีดไถเงินจากชาวบ้าน รวมถึงรับสินบนจากพวกที่ทำผิดกฏหมายอย่างนั้นหรือ กูไม่ยักรู้ว่าตำรวจสมัยนี้ จะทำตัวไม่ต่างจากโจรอย่างกูเลย” “มึง!” นายตำรวจทำท่าจะกระโจนเข้าหา แต่ก็ต้องหยุดลงเมื่อราชันชักมีดเล่มยาวออกมา “ผู้กอง มึงอยู่นิ่ง ๆ เถอะ พวกกูแค่มาเอาของมีค่า ยังไม่ได้อยากฆ่าคนตอนนี้” “ไอ้พวกสวะ!” ราชันหัวเราะรับคำด่าทอ เสียงตึงตังจากบนบ้านเริ่มทยอยลงมาที่ชั้นล่าง จังหวะที่ผู้กองหนุ่มหันกลับไปมองพวกที่เหลือ ราชันก็จัดการตีท้ายทอยจนอีกฝ่ายสลบไป “ได้เยอะมากพี่” กล้าเปิดถุงให้ราชันดู ทั้งเงินและทองอัดแน่นอยู่ในถุงสีดำ ราชันเห็นแบบนั้นก็ยิ่งโกรธ “แม่งแดกเสียเยอะ!” ราชันง้างขาเตะร่างที่นอนสลบเต็มแรง “มึงนั่นแหละสวะ! ถุย! ผู้พิทักษ์สันติราษฎรณ์อย่างนั้นหรือ มึงมันก็ไม่ต่างอะไรจากโจรอย่างพวกกูหรอก! ก็แค่โจรที่มีสีมียศ น่าสะอิดสะเอียนฉิบหาย!” ราชันยังอยากอยู่กระทืบข้าราชการเลว ๆ อีกสักหน่อย แต่ลูกน้องต่างพากันห้ามไว้ ตอนนี้ยามสามแล้ว อีกไม่นานก็จะเช้า หากพระอาทิตย์ขึ้นการหลบหนีก็จะยิ่งลำบาก “ไปกันเถอะพี่” “ถ้ามึงยังไม่หยุดเอารัดเอาเปรียบคนอื่นอีกรอบหน้ากูจะเล่นให้พิการ เอาให้ทำมาหาแดกไม่ได้อีกเลยคอยดู!!” ราชันเตะสีข้างส่งท้าย นายตำรวจนอนสลบนิ่งเหมือนคนตาย จอมโจรยกยิ้มเหยียดก่อนจะหันหลังให้ แต่ราชันคงลืมไป ว่าถ้าหากตีงูแล้วมันไม่ตาย.. งูตัวนั้นก็อาจจะหันมาแว้งกัดได้ อย่างเช่นตอนนี้ ปัง!! ปัง!! “อึก!” “พี่!!” “เฮ้ย! ลูกพี่ถูกยิง!!”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD