หมูป่าตัวใหญ่ถูกจับผ่าแล่ ทาเกลือแล้วย่างบนกองไฟกลางหมู่บ้าน ชาวบ้านทั้งลูกเด็กเล็กแดงมานั่งล้อมวงกันเพื่อรอลิ้มรสหมูป่า ส่วนคนที่ล่าหมูตัวใหญ่มาได้นั้นนั่งยิ้มแก้มปริหน้าบานยิ่งกว่ากระด้ง
“ฉันเก่งไหมจ๊ะพี่ราชัน”
“เออ!”
ราชันตอบคำถามเดิมเป็นรอบที่สิบ ไอ้สองที่ถูกทำโทษหายเข้าป่าไปเป็นอาทิตย์ หายไปนานจนราชันคิดว่าถ้ามันไม่ตายก็คงหลงป่า หรือไม่ก็หนีไปแล้วเพราะไม่อยากจับหมู
แต่พอพ้นวันที่เจ็ดไอ้สองก็กลับมาพร้อมหมูป่าตัวใหญ่บนหลัง เนื้อตัวมอมแมมสกปรกดูไม่ได้ แต่ชาวบ้านต่างพากันชื่นชมมันไม่ขาดปาก มีครอบครัวหนึ่งถึงขั้นอยากหมั้นหมายลูกสาวกับไอ้สอง แต่ราชันยังไม่อนุญาตเพราะเด็กคนนั้นเพิ่งอายุได้เพียงสามขวบ
“พี่เก่งไหมจ๊ะใบบัว” สองหันมาถามสาวน้อยดวงตากวางบ้าง ราชันไม่รู้ว่าทั้งคู่ไปสนิทสนมกันตอนไหน เข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยจนน่ารำคาญ
“เก่งจ้ะ หมูป่าตัวใหญ่มากเลย”
“ใช่หรือไม่เล่า! นี่กว่าพี่จะจับได้นะ ต้องซุ่มรอมันตั้งสามวันแหนะ”
“พี่สองเก่งที่สุด”
ราชันเดินหนีสองคนนั้นอย่างรำคาญ อีกคนก็อวดไปเรื่อย ส่วนอีกคนก็สรรเสริญเยินยอเหมือนไอ้สองมันไปกู้โลกมาได้ ไร้สาระ
“พี่ราชันมานี่ ๆ ยาดองอันนี้ของดี กินแล้วคึกเหมือนม้าเลยนะพี่!”
ลูกน้องที่ออกปล้นด้วยกันกวักมือเรียก ราชันเดินเข้าไปนั่งล้อมวงกับพวกมันแต่ไม่ยอมรับยาดองที่อีกฝ่ายยื่นให้
“พวกมึงกินเถอะ”
“ทำไมล่ะพี่”
“กูไม่มีเมีย ถ้ามันคึกคักขึ้นมากูจะระบายกับใคร”
จอมโจรนึกอยากจะตบกระโหลกลูกน้องที่ช่างสรรหาของแปลกมาให้กินสักคนละทีสองที พวกมันมีเมียกันเกือบทุกคน พอมีเมียก็ชอบหายาบำรุงกำลังมากินไว้คลุกวงในเมีย เมื่อก่อนราชันก็กินบ่อย ๆ แต่ช่วงนี้ต้องงดไป เพราะถ้ากินแล้วจะลงกับใครได้ เมียก็ไม่มีแล้ว ซ่องก็ไม่ได้อยู่ใกล้ ๆ
“ก็อีหนูคนนั้นอย่างไรเล่าพี่”
“ใครวะ”
“เด็กของพี่ที่นั่งกับไอ้สองน่ะสิ หน้ามันเสียโฉมแต่หุ่นดีอยู่นา พี่ไม่เอามันมาบำเรอแก้ขัดล่ะ”
“ไม่เอาหรอก” ราชันส่ายหน้าแล้วเปลี่ยนเรื่อง “ที่ให้ไปดูลาดเลาบ้านไอ้ผู้กองนั่น เป็นอย่างไรบ้าง”
ราชันพูดถึงตำรวจที่ย้ายมาอยู่ในอำเภอนี้ได้ปีกว่าแล้ว ตอนมาผู้กองนั่นมาตัวเปล่า ไม่ได้ร่ำรวยและกินเงินเดือนหลวงไปวัน ๆ แต่ตอนนี้กลับอู่ฟู่ขึ้นเพราะรับสินบนจากพวกค้าไม้และค้ายา ไม่พอ.. มันยังคอยรีดไถเงินจากชาวบ้านเป็นประจำ มีชาวบ้านเดือดร้อนมากมายแต่กลับไม่มีที่พึ่ง เพราะตำรวจทำตัวเป็นโจรเสียเอง
พอราชันรู้เข้าก็ต้องการไปจัดการสั่งสอนไอ้ผู้กองนั่นด้วยมือของตัวเอง แต่เพราะมันเป็นตำรวจ การปล้นครั้งนี้จึงไม่ง่าย ราชันให้ลูกน้องไปดูลาดเลาที่บ้านผู้กองนิสัยโจรมาหลายวัน มันระวังตัวดีและมีปืน การออกปล้นครั้งนี้จึงต้องวางแผนอย่างรัดกุม
“มันชอบออกไปกินเหล้ากับเสี่ยกำจรทุกคืนวันศุกร์ วันนั้นจะลงมือได้ง่ายที่สุด แต่พวกเราไม่แน่ใจว่ามันเก็บเงินทองไว้ตรงไหน”
“ไม่แน่ใจก็แค่รื้อ!”
ดวงตาของจอมโจรแข็งกร้าว
“พวกมึงเตรียมตัวให้พร้อม ศุกร์นี้เราจะออกปล้นบ้านไอ้ผู้กองมานพ เอาเงินที่มันรีดไถมากลับไปคืนชาวบ้านให้ได้!”
“เฮ!”
“เฮ!”
เสียงร้องตะโกนดังขึ้นจากกลุ่มโจร จากนั้นชาวบ้านก็ส่งเสียงออกมาบ้าง ใบบัวมองทุกคนที่ยกมือขึ้นสูงแล้วตะโกนเฮดังลั่นด้วยความไม่เข้าใจ
“ทำอะไรกันหรือจ๊ะพี่สอง"
“อ๋อ สัญญาณออกปล้นน่ะ” สองอธิบาย “ถ้าพี่ราชันออกปล้นจะส่งสัญญาณแบบนี้ เป็นอันรู้กันว่าพวกเราจะปล้น”
“ตั้งแต่มาอยู่ที่นี่ใบบัวไม่เคยเห็นพวกพี่ออกปล้นเลย”
“ถ้าเป็นเมื่อก่อนก็ปล้นบ่อย แต่พอหมู่บ้านเริ่มมั่นคงก็ไม่ค่อยปล้นแล้ว ส่วนมากที่ปล้นกันก็เพื่อเอาเงินไปแจกจ่ายให้คนยากคนจนนั่นแหละ”
“แจกจ่ายคนยากคนจนหรือจ๊ะ”
“อืม.. พวกเราปล้นแค่พวกคนเลว ข้าราชการโกงกิน พวกที่ทำเรื่องผิดกฎหมาย พอปล้นเสร็จก็เอาเงินไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านที่ยากจน มีแค่บางส่วนที่พวกเราเก็บไว้”
“ทำไมต้องทำแบบนั้นด้วยล่ะจ๊ะ”
ใบบัวไม่เข้าใจ เธอไม่คิดว่าจะมีคนทำเลวเพื่อเอาเงินทองไปแจกจ่าย ขึ้นชื่อว่าโจรมักไม่เคยถูกพูดถึงในด้านดี โดนด่าโดนสาปแช่งจนเป็นเรื่องปกติ แต่ราชันกลับทำเรื่องดี ๆ ลับหลังคำด่าทอ ทำไมถึงไม่ทำดีต่อหน้าให้จบ ๆ ไป
“ก็เมื่อก่อน...”
“พูดเยอะไปแล้วไอ้สอง เดี๋ยวมึงจะโดน”
สองสะดุ้งเฮือก มันหันกลับไปมองเจ้าของเสียงดุอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ ส่งยิ้มโง่ ๆ ให้ราชัน ก่อนจะคิดหาทางหนีทีรอดอย่างด่วนจี๋
“ฉะ ฉัน ฉันไปดูหมูก่อนนะพี่!”
พูดจบสองก็วิ่งหนีไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้ใบบัวต้องทนกับสายตากดดันจากราชันเพียงคนเดียว
“มึงไม่ต้องอยากรู้อะไรให้มันมาก พวกรู้มากอายุมันมักจะไม่ยืนยาวหรอก จำเอาไว้”
.
.
ในคืนวันศุกร์ที่มืดสนิท เมฆหนาปกคลุมทั่วท้องฟ้าจนมองไม่เห็นแสงจันทร์และดวงดาว ราชันและพวกพ้องเตรียมม้าและอาวุธครบมือ นัดหมายกันในเวลายามสอง ชาวบ้านบางส่วนมารอส่งและอวยพรให้กลุ่มโจรได้รับชัยชนะอย่างที่แล้วมา
ใบบัวเองก็มาส่งราชันด้วย เธอกระชับผ้าคลุมไหล่กันลมหนาว ตากลมโตจับจ้องร่างกำยำของราชันที่ยืนตัวตรงข้างเหนือเมฆ
เธอยอมรับว่าราชันในเวลานี้ดูดีมาก แต่ภายใต้ความดูดีนั้นเต็มไปด้วยความน่ากลัวและกดดัน
“ราชัน รอบนี้หนักหน่อยนะ”
แม่อ่อน.. ผู้ซึ่งเป็นบุคคลสำคัญของหมู่บ้านเอ่ยขึ้น ใบบัวรู้แค่ว่าแม่อ่อนสามารถดูดวงได้และเก่งกาจเรื่องสมุนไพร เป็นหมอประจำหมู่บ้านทั้งหมอยาและหมอดู แต่เธอไม่เคยพูดคุยกับแม่ก่อนมาก่อน เพราะถ้าหากไม่มีเรื่องสำคัญแม่อ่อนจะเข้าป่าหาสมุนไพร บ้างก็จำศีลนั่งสมาธิอยู่ในถ้ำไม่ไกลจากหมู่บ้านเท่าไหร่ แต่ก็น่าแปลกที่ทุกครั้งถ้าหากมีคนต้องการความช่วยเหลือ แม่อ่อนจะปรากฎตัวขึ้นทันทีโดยไม่ต้องไปตามหา
ราชันนับถือแม่อ่อนมาก มือทั้งสองข้างยกขึ้นไหว้หญิงชรา แม่อ่อนวางมือบนไหล่แกร่งอย่างไม่สบายใจ แต่สุดท้ายก็ยอมปล่อยให้ราชันขึ้นม้าไป
กลุ่มโจรหกคนออกเดินทางอย่างเงียบกริบ ทันทีที่ราชันพ้นหมู่บ้านไป แม่อ่อนก็หันมาพูดกับใบบัวด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“อีหนู เอ็งเตรียมน้ำสะอาด ยา และผ้าสะอาดไว้แล้วรีบเข้านอนเสีย เพราะเมื่อถึงเวลาย่ำรุ่งเอ็งจะไม่ได้พักจนถึงค่ำของอีกวัน”
“แม่อ่อนหมายความว่ายังไงหรือจ๊ะ”
“เอ็งต้องคอยดูแลจอมโจร รอบนี้ราชันจะเจ็บหนัก”
“อะไรนะจ๊ะ!”
ใบบัวตะลึงงัน เธอไม่รู้หรอกว่าแม่อ่อนจะทำนายได้แม่นแค่ไหน แต่เพราะมันเป็นเรื่องอัปมงคลเธอจึงอดตกใจไม่ได้
“อย่างที่บอก รอบนี้ราชันเจ็บหนักนัก” แม่อ่อนปิดตาลงสักพัก ก่อนจะเปิดขึ้นเพื่อมองใบบัว “ข้าเห็นเลือดเต็มไปหมด”
“หากแม่อ่อนรู้แบบนี้ แล้วทำไมถึงปล่อยให้พี่ราชันออกปล้นล่ะจ๊ะ!”
“มันเป็นโชคชะตา.. ไม่มีใครฝืนโชคชะตาได้ หากฝืนครั้งนี้ รอบหน้าจะหนักกว่าหลายเท่า”
ใบบัวพูดอะไรไม่ออก สีหน้าของเธอเก็บกักความกังวลเอาไว้ไม่มิด คิ้วเรียวขมวดแน่น ความวิตกฉายผ่านทางแววตาชัดเจน
ถึงแม้ว่าราชันจะไม่ได้เป็นคนใจดีมากนัก แต่เขาก็เป็นคนที่ให้ที่หลับนอน ให้อาหารดี ๆ และยินยอมให้เธอได้อยู่ในหมู่บ้านนี้ต่อไป ไม่ต้องกลับไปเป็นเมียคนรุ่นพ่อเพื่อแลกกับเงินแค่ไม่กี่บาท ได้ใช้ชีวิตอย่างที่ไม่เคยเจอ ถึงไม่ได้สุขล้นแต่ก็ไม่ได้ทุกข์ตรมเหมือนเมื่อก่อน
ราชันให้ชีวิตใหม่กับใบบัว และใบบัวก็ไม่อยากให้ราชันตาย
“ราชันมันตายยาก ไม่ต้องกังวลไปหรอก”
หญิงชราเอ่ยขึ้นเหมือนอ่านใจใบบัวได้ หรือแท้จริงแล้วแม่อ่อนอาจจะอ่านใจคนออกได้จริง ๆ ก็ได้ ไม่มีใครรู้...
“เลิกคิดกังวลเสีย ราชันมันมีอายุยืนยาว เพียงแค่ครั้งนี้เป็นช่วงดวงตกเท่านั้น เอ็งแค่กลับไปเตรียมของที่ข้าสั่งก็พอ ราชันกลับมาเมื่อใดข้าจะมาทำแผลให้ แต่หลังจากนั้นจะเป็นหน้าที่ของเอ็งที่ต้องดูแลต่อ”
“จ้ะแม่อ่อน ใบบัวจะเตรียมของตามที่แม่อ่อนบอก”
“ดี”
.
.
ทางด้านราชัน จอมโจรควบเหนือเมฆไปตามแนวป่าที่รกทึบ คืนที่ดวงจันทร์ถูกบดบังแสงทำให้การเดินทางยากลำบากกว่าปกติ แต่นั่นเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับโจร การออกปล้นจะเอิกเกริกไม่ได้ ไม่อย่างนั้นเหยื่อจะรู้ตัวก่อน
อีกไม่ถึงกิโลก็จะถึงจุดหมายในวันนี้ ราชันเร่งความเร็วมากขึ้น สิบนาทีต่อมากลุ่มโจรก็มาดักซุ่มตามแนวป่าใกล้บ้านพักผู้กองเพื่อรอทำตามแผน
“รอสัญญาณ”
ราชันซุ่มดูจนกระทั่งผู้กองขับรถยนต์เข้ามาจอดหน้าบ้าน ร่างสูงใหญ่ของนายตำรวจก้าวลงจากรถ เดินเซเล็กน้อยจากความมึนเมา
“มาแล้ว เตรียมพร้อม”
ราชันและพรรคพวกลงจากหลังม้า เดินเท้าย่องเข้าไปใกล้ตัวบ้านที่ปิดไฟเงียบ ในความมืดสลัวราชันเห็นร่างของผู้กองมานพ นอนหมดสภาพอยู่กลางบ้าน
“รื้อให้ทั่ว เอาทรัพย์สินมาให้หมด!”
เสียงคำสั่งของราชันปลุกให้ตำรวจหนุ่มตื่นขึ้น แต่ราชันไม่ได้เกรงกลัว เพราะเขาต้องการให้มันตื่นขึ้นมาอยู่แล้ว
“มึง มึงเป็นใคร!”
“คนที่พวกมึงหมายหัวไว้ แต่ไม่มีปัญญาจะจับอย่างไรเล่า หึ ตำรวจกระจอก”
ราชันหัวเราะเยาะเย้ย เอ่ยดูถูกการทำงานของตำรวจจนผู้กองหนุ่มเลือดขึ้นหน้า
“ได้ข่าวว่าผู้กองอย่างมึงรีดไถเงินจากชาวบ้าน รวมถึงรับสินบนจากพวกที่ทำผิดกฏหมายอย่างนั้นหรือ กูไม่ยักรู้ว่าตำรวจสมัยนี้ จะทำตัวไม่ต่างจากโจรอย่างกูเลย”
“มึง!”
นายตำรวจทำท่าจะกระโจนเข้าหา แต่ก็ต้องหยุดลงเมื่อราชันชักมีดเล่มยาวออกมา
“ผู้กอง มึงอยู่นิ่ง ๆ เถอะ พวกกูแค่มาเอาของมีค่า ยังไม่ได้อยากฆ่าคนตอนนี้”
“ไอ้พวกสวะ!”
ราชันหัวเราะรับคำด่าทอ เสียงตึงตังจากบนบ้านเริ่มทยอยลงมาที่ชั้นล่าง จังหวะที่ผู้กองหนุ่มหันกลับไปมองพวกที่เหลือ ราชันก็จัดการตีท้ายทอยจนอีกฝ่ายสลบไป
“ได้เยอะมากพี่”
กล้าเปิดถุงให้ราชันดู ทั้งเงินและทองอัดแน่นอยู่ในถุงสีดำ ราชันเห็นแบบนั้นก็ยิ่งโกรธ
“แม่งแดกเสียเยอะ!” ราชันง้างขาเตะร่างที่นอนสลบเต็มแรง “มึงนั่นแหละสวะ! ถุย! ผู้พิทักษ์สันติราษฎรณ์อย่างนั้นหรือ มึงมันก็ไม่ต่างอะไรจากโจรอย่างพวกกูหรอก! ก็แค่โจรที่มีสีมียศ น่าสะอิดสะเอียนฉิบหาย!”
ราชันยังอยากอยู่กระทืบข้าราชการเลว ๆ อีกสักหน่อย แต่ลูกน้องต่างพากันห้ามไว้ ตอนนี้ยามสามแล้ว อีกไม่นานก็จะเช้า หากพระอาทิตย์ขึ้นการหลบหนีก็จะยิ่งลำบาก
“ไปกันเถอะพี่”
“ถ้ามึงยังไม่หยุดเอารัดเอาเปรียบคนอื่นอีกรอบหน้ากูจะเล่นให้พิการ เอาให้ทำมาหาแดกไม่ได้อีกเลยคอยดู!!”
ราชันเตะสีข้างส่งท้าย นายตำรวจนอนสลบนิ่งเหมือนคนตาย จอมโจรยกยิ้มเหยียดก่อนจะหันหลังให้
แต่ราชันคงลืมไป ว่าถ้าหากตีงูแล้วมันไม่ตาย.. งูตัวนั้นก็อาจจะหันมาแว้งกัดได้
อย่างเช่นตอนนี้
ปัง!! ปัง!!
“อึก!”
“พี่!!”
“เฮ้ย! ลูกพี่ถูกยิง!!”