บทที่ ๙ ‘เจ็บหนัก’

2250 Words
“กูนี่แหละจะทำให้พวกมึงสิ้นชื่อ!!!” ผู้กองมานพหัวเราะก้อง ยกปืนพกกระบอกสั้นเล็งไปที่โจรทั้งหกคน พวกโจรกระจอก มีแค่มีดดาบจะสู้กับปืนได้อย่างไร โง่หาที่ตายกันแท้ ๆ เป็นแค่โจรโง่ ๆ แต่ริอาจมาปล้นบ้านผู้กองอย่างเขา นอกจากเงินจะไม่ได้แล้ว พวกมันก็จะไม่มีโอกาสได้รอดชีวิตกลับไปด้วย ราชันประเมินสถานการณ์ตรงหน้าอย่างรวดเร็ว เขาถูกยิงที่ท้องหนึ่งนัด ส่วนอีกนัดไอ้ผู้กองมันยิงพลาด อาจจะเป็นเพราะความเมาหรือเพราะมันกระจอกเองเขาไม่รู้ แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องดี เพราะมันไม่ได้ทำให้ราชันเจ็บหนักจนทนไม่ไหว แต่ถึงอย่างไรปืนก็คือปืน แค่นัดเดียวก็สามารถปลิดชีวิตคนได้เหมือนผักปลา หากวันนี้ไอ้ผู้กองไม่เมามายจนยิงพลาดเขาคงตายไปแล้ว แม้จะมีพวกเยอะกว่าแค่ไหนแต่ก็สู้เพชรฆาตอย่างปืนนั่นไม่ได้ ไม่มีทางสู้ได้เลย... แต่หากจะต้องตาย ก็ให้เขาตายเพียงคนเดียว “พวกมึงหนีไป” “พี่ ฉันไม่...” “ไป! ดูแลพวกเราให้ดี หากพระอาทิตย์ขึ้นแล้วกูยังไม่กลับไป.. ก็หมายความว่ากูไม่รอด” “พี่!!” “ไปเดี๋ยวนี้!! หากไม่ไปก็อย่ามาเรียกกูว่าพี่อีก ไป!! อย่าให้ไอ้ผู้กองชั่วได้เงินทองคืน ไปสิวะ!!” ราชันตะโกนไล่ ลูกน้องทั้งห้าน้ำตาคลอ ก่อนจะยอมหันหลังวิ่งหนีไป อ้อมแขนโอบกอดถุงเงินทองเอาไว้แน่น ผู้กองมานพเห็นแบบนั้นจึงเปลี่ยนเป้า เพื่อหมายจะเอาชีวิตพวกโจรทั้งห้าและทรัพย์สินคืน ผลั่ก! “อ๊ากกก” แต่ผู้กองมานพประเมินกำลังของจอมโจรต่ำไป ถ้าหากงูเห่าต้องตีให้ตายแล้ว คนอย่างราชันก็ต้องฆ่าให้ตายเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นมันจะวกกลับกัดจนจมเขี้ยว “อ๊ากกกกกกก!!!” . . ใบบัวรู้สึกตัวตื่นตอนใกล้สว่าง แม้ท้องฟ้าจะยังมืดมิดแต่ไก่ก็เริ่มพากันส่งเสียงขันรับเช้าวันใหม่ เธอได้ยินเสียงเอะอะโวยวายของชาวบ้านไม่ไกลจึงรีบลงจากเรือนไปดู กลุ่มโจรกลับมาแล้ว ไปหก แต่กลับมาห้า ทั้งห้าคนนั้นตีอกชกหัวตัวเองอย่างโกรธแค้นและเสียอกเสียใจ “เกิดอะไรขึ้น พี่ราชันเล่า” สองที่ไม่ได้ออกปล้นด้วยในวันนี้วิ่งเข้าไปถามเพื่อน ชาวบ้านต่างปิดปากเงียบเพื่อรอฟังคำตอบ แต่กลับไม่มีใครตอบอะไรกลับมาสักคน พวกมันหอบหายใจหนัก ส่งเสียงร่ำไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวด “ไอ้กล้า พี่ราชันอยู่ที่ใด” “สอง กู..” “กูถามว่าพี่ราชันอยู่ที่ไหน!! ตอบกูสิวะ!” สองจับกล้ามาเขย่าเต็มแรง เสียงถามกลายเป็นเสียงตะคอก ยิ่งกลุ่มโจรที่ออกไปพร้อมราชันพากันปิดปากเงียบ สองก็ยิ่งคุมสติตัวเองไม่อยู่ “กูถามว่าพี่ราชันอยู่ไหน!! ปากพวกมึงอมเหี้ยอะไรกันอยู่!!!” “สอง ใจเย็น ๆ ก่อนนะ” ชาวบ้านที่อยู่ใกล้เอ่ยปลอบ แต่สองในตอนนี้หูดับ มันไม่สนอะไรทั้งนั้นจนกว่าจะเค้นหาความจริงจากเพื่อนโจรทั้งห้าได้ “พี่ราชันอยู่ที่ไหน แล้วทำไมพี่ราชันจึงไม่กลับมากับพวกมึง ตอบกูมาเดี๋ยวนี้! ตอบสิวะ!!!” กล้าปาดน้ำตาที่หน้าออก ก่อนจะตอบด้วยเสียงที่แหบพร่าแผ่วเบา “ไอ้สอง พี่ราชัน.. ถูกยิง” “อะไรนะ..” ชาวบ้านต่างหน้าเสีย พากันร้องอุทานด้วยความตกใจ ใบบัวยกมือทั้งสองข้างขึ้นปิดปาก โดนยิงเลยหรือ.. “ละ แล้วตอนนี้พี่ราชันอยู่ที่ไหน กูจะรีบไปตามแม่อ่อนมารักษา แม่อ่อนรักษาได้ทุกอย่าง ทะ ทุกคนไม่ต้องกังวลไป” สองพยายามตั้งสติ แต่ถึงอย่างนั้นคำพูดของมันก็ติดขัดจนฟังแทบไม่รู้เรื่อง “พี่ราชัน..” กล้ากลั้นเสียงสะอื้น “ไล่พวกกูกลับมา” “..มึงว่าอะไรนะไอ้กล้า” “พี่ราชันให้พวกกูกลับมา แล้วอยู่สู้กับมันเพื่อให้พวกกูปลอดภัย” “ไหนมึงบอกว่าพี่ราชันถูกยิง แล้วพี่ราชันจะสู้กับมันได้อย่างไร” “กูไม่รู้ อึก.. กูไม่รู้ กูแม่ง!” กล้าเริ่มทุบตีตัวเอง น้ำตาลูกผู้ชายไหลอาบหน้า “กูแม่งกระจอก! แค่ปกป้องพี่ราชันยังทำไม่ได้ กูรังเกียจตัวเอง มึงช่วยกระทืบกูทีไอ้สอง เผื่อความเจ็บจะทำให้กูหายกระจอกได้บ้าง ฮึก” สองในตอนนี้ไร้เรี่ยวแรงจะไปกระทืบใคร มือทั้งสองข้างปล่อยออกจากตัวเพื่อน ดวงตาเอ่อคลอไปด้วยน้ำใส ก่อนที่มันจะไหลอาบหน้าไม่ต่างจากคนอื่น ๆ เสียงร้องไห้ดังขึ้นระงม ใบบัวมองภาพนั้นด้วยความหดหู่ใจ สำหรับชาวบ้านราชันคงเป็นเหมือนที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ พอขาดไปก็ไม่ต่างอะไรจากต้นหญ้าที่ไหวเอนไปกับสายลมเพราะไร้ที่พักพิง ขนาดใบบัวมาอยู่ที่นี่ได้ไม่นานยังใจหาย ชาวบ้านที่อยู่กับราชันมาเป็นสิบปีจะรับไหวได้อย่างไร “ร้องไห้กันทำไม” ทว่า... สุ้มเสียงอ่อนแรงที่ยังคงเต็มไปด้วยความดุดันก็ทำให้บรรยากาศแสนหดหู่จางลง ทุกคนหันไปมองตามเสียงนั้นเป็นตาเดียว เห็นร่างของราชันโงนเงนอยู่บนหลังเหนือเมฆ ท่าทางอ่อนแรงแต่ยังมีลมหายใจ ราชันยังไม่ตาย ใบบัวเผลอยิ้มออกมา เธอใจชื้นขึ้นเมื่อเห็นว่าราชันยังมีชีวิตอยู่ “มีใครตายถึงได้ร้องห่มร้องไห้กัน” “พี่ราชันนนน!!” สองวิ่งเข้าไปหาราชันอย่างรวดเร็ว มันเดินวนสำรวจเหมือนหนูติดจั่น แตะตรงโน้นทีตรงนี้ทีเพื่อตรวจสอบว่าราชันยังไม่ตายจริง ๆ เมื่อมั่นใจแล้วสองก็ยิ้มกว้างทั้งน้ำตา “พี่ยังไม่ตาย!” “มึงแช่งกูหรือ” “เปล่านะ! ฉันไม่ได้แช่งพี่นะจ๊ะ” “งั้นก็เลิกคร่ำครวญเสียที กูยังไม่ตาย... อึก!” พูดยังไม่ทันจบประโยคดีราชันก็ทรุดลง พิษบาดกำลังทำร้ายร่างกายอย่างไม่ปราณี เสื้อที่ฉีกมาพันรอบบาดแผลเพื่อห้ามเลือดชุ่มฉ่ำ เลือดจอมโจรไหลออกมามากจนปากหยักเริ่มซีดจาง “พี่ราชัน!!” “พี่ราชันแย่แล้ว ใครก็ได้ไปตามแม่อ่อนที!” “ไม่ต้อง ข้าอยู่นี่แล้ว แม่อ่อนที่โผล่มาจากไหนไม่รู้เอ่ยขึ้น มือเอื้อมไปแตะชีพจรของจอมโจร ก่อนจะหันไปสั่งคนอื่น ๆ เสียงเครียด “ชีพจรอ่อนเกินไป พวกเอ็งพาราชันขึ้นเรือน ส่วนอีหนูใบบัวไปเอาของที่ข้าสั่งให้เตรียมไว้มา แล้วตามข้าไปที่ห้องของราชันเดี๋ยวนี้” “จ๊ะ แม่อ่อน” ใบบัววิ่งไปที่ครัว ยกสิ่งที่แม่อ่อนสั่งไว้แล้วตามไปที่ห้องนอนของราชัน เมื่อเข้าไปในห้องเธอก็เห็นว่าราชันกำลังนอนสะลึมสะลืออยู่บนเตียง ผ้าชุ่มเลือดถูกดึงออก แผลของราชันไม่ใหญ่มาก แต่เลือดกลับไหลไม่หยุด “กระสุนฝังใน ต้องผ่า เอ็งมาช่วยข้าใบบัว” ใบบัวช่วยแม่อ่อนอย่างกระตือรือร้น เธอหวาดกลัวตอนที่เห็นเลือดมากมาย แต่สักพักก็รู้สึกคุ้นชินเพราะอยากช่วยเหลือราชันมากกว่า “เอาผ้ามาให้ราชันกัด ส่วนเอ็งก็ให้ราชันหนุนตักไว้ คอยพูดคุยอย่าให้ราชันหลับเด็ดขาด” “จ้ะแม่อ่อน” “ราชันจะเจ็บมาก เพราะข้าไม่มียาชา เองต้องคอยให้กำลังใจอย่าให้ห่าง” “จ้ะ” ใบบัวรีบทำตามที่แม่อ่อนสั่ง เธอฉวยหยิบผ้าสะอาดผืนหนึ่งมา ก่อนจะอ้อมไปทางหัวเตียง ปีนขึ้นไปแล้วยกหัวราชันขึ้นมาวางบนตัก อ้าปากออกแล้วยัดผ้าเข้าไป ป้องกันไม่ให้ราชันกัดลิ้นตัวเอง แม่อ่อนเริ่มทำความสะอาดบาดแผล เช็ดเลือดสีสดหลายต่อหลายครั้งจนกระทั่งมันเริ่มหยุดไหล มีดผ่าตัดจ่อเข้ากับเปลวเทียนจนร้อนได้ที่ ใบบัวเม้มริมฝีปาก จับมือใหญ่ไว้แน่น “มีสติ อย่าตกใจ” “อื้อออ!!!” สิ้นคำของหญิงชรา มีดที่ทั้งคมและร้อนจัดก็กรีดลงบนผิวเนื้อของจอมโจรทันที ราชันที่สะลึมสะลือตื่นเต็มตา เขาดิ้นหนี ส่งเสียงร้องอู้อี้ในลำคอ แววตาดุดันฉายแววเจ็บปวดทรมานเกินจะกล่าว “พี่ราชัน อย่าดิ้น บีบมือใบบัวไว้นะ” ใบบัวกระซิบบอก ราชันได้ยินแบบนั้นก็รีบบีบมือทั้งสองของใบบัวทันที แรงของราชันนั้นมีมากจนใบบัวรู้สึกเหมือนถูกหักกระดูก แต่เธอก็ไม่บ่นออกมาสักคำ ได้แต่เอ่ยปลอบให้ราชันหายเจ็บปวดระหว่างที่แม่อ่อนผ่าเอากระสุนออก แกร๊ง หัวกระสุนถูกวางลงบนถาดเล็ก ๆ แม่อ่อนความสะอาดแผล หยิบเข็มและด้ายขึ้นมาก่อนจะเย็บปิดบาดแผลแบบสด ๆ “อื้อออ” “ไม่เป็นไรนะพี่” ใบบัวกระซิบ บีบมือราชันเพื่อบอกให้เขารู้ว่าเธออยู่ตรงนี้ “ชู่ว ไม่เป็นไร อีกเดี๋ยวก็เสร็จแล้ว ใบบัวอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหน” จู่ ๆ ราชันรู้สึกอุ่นวาบที่หน้าอกข้างซ้าย เขาเผลอมองหน้าที่มีรอยแดงไปเกือบครึ่งของหญิงสาว ดวงตากลมเหมือนลูกกวางสั่นระริก ใบบัวเองก็คงกลัวไม่น้อย อายุก็เพียงเท่านี้ แต่ริมฝีปากอิ่มกลับพร่ำคำปลอบโยนออกมาตลอดเวลา ราชันไม่รู้ว่าตัวเองตกอยู่ในภวังค์นั้นนานเพียงใด แต่ในตอนสุดท้ายเขาได้ยินเสียงแม่อ่อนพูดขึ้นว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว พร้อม ๆ กับดวงตากวางที่หายไปเพราะใบบัวเงยหน้าขึ้นมองแม่อ่อน “พี่ราชันจะหายใช่ไหมจ๊ะแม่อ่อน” “หึ ราชันมันไม่ตายง่าย ๆ หรอก ข้าบอกเอ็งแล้ว” แม่อ่อนมองคนสองคนก่อนจะยิ้มออกมา อีกคนนอนซบบนตักนุ่มดูท่าจะสบายไม่น้อย มือใหญ่จับมือน้อย ๆ ไว้ไม่ห่าง แววตาที่มองใบบัวเริ่มเปลี่ยนไปทีละนิด ส่วนอีกคนก็นั่งนิ่งให้เขานอนตักไม่ท้วงสักคำ แววตาที่สั่นระริกมีแต่คำว่าเป็นห่วงผิดวิสัยคนที่ไม่ชอบพอกัน โชคชะตาคงกำลังทำหน้าที่ของมัน อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด เพียงแค่มีคนที่รู้อนาคตอย่างเธอเข้ามาช่วยเติมฟืนนิด ๆ หน่อย ๆ ให้ไฟมันติดเร็วขึ้นก็เท่านั้น “ข้าหมดแรงเหลือเกิน คงต้องไปพักแล้ว” “ให้ใบบัวไปส่งไหมจ๊ะ” “ไม่ต้อง เอ็งอยู่ดูแลราชันที่นี่แหละ อีกไม่เกินสองชั่วยามจะไข้ขึ้น เอ็งต้องคอยเช็ดตัว ป้อนยาหม้อทุกสี่ชั่วโมง” “ได้จ้ะ” “แม่อ่อน ฉันขอบคุณ” ราชันเอ่ยด้วยน้ำเสียงเหนื่อยอ่อน ดูอ่อนแรงและอ่อนแอไม่เหมือนจอมโจรผู้ยิ่งใหญ่ “ข้ามีหน้าที่ช่วยเหลือทุกคนในหมู่บ้านนี้อยู่แล้ว” แม่อ่อนพูดแค่นั้นก็ขอตัวไปพักผ่อน เมื่อเหลือกันเพียงสองคนใบบัวก็ขยับตัวออกเพื่อไปเก็บข้าวของ แต่ราชันกลับยึดตักหอม ๆ เอาไว้ “พี่ราชัน ใบบัวจะเก็บของ” “ไว้ก่อน กูอยากนอนแบบนี้” ขนาดเจ็บตัวยังเอาแต่ใจไม่เลิก ใบบัวเบะปากใส่คนที่นอนหลับตาอยู่บนตัก แต่ทว่าจู่ ๆ ราชันก็ลืมตาโพลงขึ้น และทันได้เห็นเธอที่กำลังทำหน้าประหลาด ๆ อยู่พอดี “ทำหน้าอะไรของมึง” “เปล่านี่จ๊ะ” “เดี๋ยวนี้หัดโกหกกูนะ” “เปล่าจ้ะ พี่ราชันให้ใบบัวไปเก็บของก่อน” “แม่อ่อนพูดว่าอะไร ให้ดูแลกูไม่ใช่หรือ ไม่ทันไรก็เกเรแล้วนะมึง” “ใบบัวเปล่า แค่จะไปเก็บของ” "นั่งเฉย ๆ กูเจ็บแผล" ได้ผล ใบบัวหยุดขยับตัวทันทีเมื่อราชันพูดแบบนั้น จอมโจรยกยิ้มมุมปาก ดวงตาคมกริบปิดลงอย่างเชื่องช้า ไม่นาน เสียงลมหายใจเข้าออกสม่ำเสมอก็ดังขึ้น ใบบัวก้มมองโจรหน้าดุที่นอนหมดฤทธิ์บนตักของตนเอง ราชันในเวลานี้ดูไร้พิษภัย เหมือนเป็นแค่ชายหนุ่มธรรมดาที่เหนื่อยอ่อนและต้องการพักผ่อนเท่านั้น ดวงตากลมไล่มองลงไปที่ลำตัว บาดแผลตรงท้องด้านซ้ายมีผ้าสีสะอาดพันไว้ ส่วนที่เหลือเปิดเปลือยอวดมัดกล้ามแน่นตึงและรอยแผลเป็นหลายจุด บางจุดนูนสูงบ่งบอกว่าแผลตรงนั้นมันเคยฉกรรจ์เพียงใด “คงเจ็บมาก” ชีวิตของโจรมีแต่เรื่องให้ต้องเจ็บตัวตลอดเวลา ออกปล้นทีไรก็เหมือนเอาชีวิตไปทิ้ง ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าหากก้าวออกไปแล้วจะได้กลับมาหรือไม่ เงินทองยิ่งได้มาง่ายเท่าไรก็ยิ่งอันตรายเท่านั้น “หากพี่ราชันเลิกเป็นโจรได้ก็คงดี” ครั้งเดียวก็พอแล้วกับภาพใกล้ตายของราชัน ใบบัวไม่อยากเห็นอีก ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม...
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD