บทที่ 8 ข้อเสนอแน่หรือเอาเปรียบข้า

1411 Words
จ้าวเฉียนยี่แช่น้ำไม่นานมากนักส่วนหนึ่งเป็นเพราะอากาศที่เริ่มเย็นและอีกหนึ่งเป็นเพราะสตรีที่เขาบอกให้รอ ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงกังวลใจเรื่องของนางถึงเพียงนี้ ตัวเขามีดีอะไรนางถึงได้ชอบคนเช่นเขากัน ตัวเขาเป็นเพียงลูกอนุที่บังเอิญโชคดีได้รับช่วงต่อจากท่านพ่อเท่านั้น ต่อให้ตอนนี้ได้เลื่อนขั้นรับยศจนมีหน้ามีตาแล้วแต่ลูกที่เกิดจากอนุอย่างไรก็ต้องถูกนินทาลับหลังให้เสียหาย จ้าวเฉียนยี่ใคร่ครวญถึงคราวกล่าวตัดหาญน้ำใจนางคราก่อน จดจำสีหน้าผิดหวังในเสี้ยวหนึ่งลมหายใจของนางได้ ไม่คาดคิดว่าสิ่งนั้นจะทำให้เขารู้สึกผิดต่อนางถึงขั้นไม่มีสมาธิในการทำงานตลอดทั้งวัน “นางหลับไปแล้วหรือยัง” จ้าวเฉียนยี่เอ่ยพึมพำกับตัวเองขณะเดินออกมาจากหลังฉากกั้น สิ่งแรกที่มองหานั่นคือร่างบอบบางของสตรี ก่อนจะเห็นว่ามีคนนอนคดคู้อยู่บนเตียง ผ้าห่มพับวางเรียบร้อยด้านข้างไม่ได้ถูกหยิบมาใช้ คาดว่านางคงนั่งรอเขาจนเผลอหลับไป ไม่รู้อะไรดลใจหรือเป็นเพราะใบหน้ายามหลับของนางดูไร้พิษสงเหลือเพียงสตรีน่าเอ็นดูผู้หนึ่งเท่านั้น “เจ้ากล้าหลับอย่างสบายใจในห้องบุรุษเช่นนี้ได้อย่างไรกัน แต่เอาเถอะจะยอมเจ้าสักครั้งหนึ่ง” รอยยิ้มอ่อนประดับขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลาแม้กระทั่งเจ้าตัวเองก็ไม่รู้ตัว.. มือใหญ่เอื้อมไปหยิบผ้าขึ้นมาวางลงบนกายนาง ก่อนเคลื่อนมือลูบเส้นผมสีดำนุ่มของนางเชื่องช้าคล้ายต้องการปลอบประโลม “ข้า..เฮ้ย!” หมับ! อยู่ ๆ คนที่คิดว่าหลับไปตื่นขึ้นพร้อมกับขึ้นคล่อมตัวจ้าวเฉียนยี่เอาไว้ แรงของสตรีมีไม่ถึงครึ่งหนึ่งของบุรุษแต่ด้วยไม่ทันระวังตัว ทั้งสองจึงล้มตัวลงบนเตียงโดยมีเรือนร่างอรชรและเบาอย่างปุยนุ่นทับอยู่บนตัว “สามี.. ข้านั่งคิดดูแล้ว เข้าหอค่ำคืนก่อนยังไม่สำเร็จลุล่วง เรามาสานต่อให้มันจบไปทีละเรื่องก่อนดีหรือไม่” น้ำเสียงหวานเจือปนความยั่นยวนกล่าวพลางใช้นิ้วเรียวของนางลูบไล้ตามสันกราม ไล่ลงมาจนถึงอกแข่งแกร่งซ่อนมวลกล้ามภายใต้ผ้าเนื้อบาง “เจ้าดื่มสมุนไพรนั่นมาอีกหรือ” จ้าวเฉียนยี่คิ้วขมวดทว่าไม่ได้ผลักไสนางออกปล่อยให้จิ้งจอกสาวจำแลงกายยั่วยวนอยู่บนร่าง ขณะชันศอกขึ้นสายตาประสานดวงตากลมโตระยะห่างระหว่างเขาและนางถูกกั้นไว้เพียงหนึ่งคืบเท่านั้น หลี่ถิงถิงตอบเขาด้วยการส่ายหน้าดวงตากระพริบปริบ ๆ ได้อย่างน่ารักน่าชัง “ดีแล้ว” หากนางดื่มมากไปเกรงว่าจะปวดศีรษะเอาได้ “ท่านเสนาบดี ท่านตั้งใจออกบวชรึ ข้าตั้งใจมายั่วยวนท่านแต่ท่านก็ยัง..นิ่งเป็นหิน” “...” หลี่ถิงถิงไม่อาจรู้ว่าแท้จริงแล้วเขาต้องพยายามอดกลั้นเพียงใด ชายหนุ่มยังคงนิ่งไม่ตอบโต้ตามคาด เสียงถอนหายใจเฮือกใหญ่ออกมาอย่างไม่ปิดบังก่อนจะพาตัวเองลงจากร่างหนาและถอนหายใจอีกรอบ การกระทำของนางทำเอาจ้าวเฉียนยี่ที่ถูกถอนหายใจใส่คิ้วกระตุกถี่ “เฮ้อ ข้ารู้อยู่แล้วว่าท่านจะเป็นเช่นนี้ ข้าเลยมีข้อเสนอมาต่อรองเจ้าค่ะ” “ข้อเสนอ?” “ใช่เจ้าค่ะ อย่างไรเราทั้งสองได้ตบแต่งเป็นสามีภรรยาแล้ว ท่านพ่อและท่านแม่ของข้าย่อมอยากเห็นหน้าหลานไว ๆ แต่หากท่านเสนาบดียังหลบเลี่ยงข้าอยู่ ภายภาคหน้าสกุลจ้าวคงไร้บุตรสืบสกุล” “เข้าเรื่องเถอะ เจ้ามีข้อเสนออะไร” จ้าวเฉียนยี่รีบห้ามปรามนางก่อนที่จะได้ยินคำเหน็บแหนมให้ช้ำใจยิ่งกว่าเก่า หลี่ถิงถิงหันไปหยิบบางอย่างที่วางอยู่หัวโต๊ะออกมาเป็นกล่องไม้สูงเท่าสองฝ่ามือ ในนั้นบรรจุกระดาษพับแผ่นเล็ก ๆ อยู่เกือบเต็มโหล “..นี่คือที่เสี่ยงดวงชี้ชะตาของท่าน..สามี” น้ำเสียงเล็กแฝงไว้ด้วยความสะใจอยู่ในที หลี่ถิงถิงอ้างพ่อและแม่สามีขึ้นมาไม่มีทางที่จ้าวเฉียนยี่จะกล้าปฏิเสธ “ในนั้นมีอะไร..” “มาเดี่ยวข้าทำให้ดู” นางพูดพร้อมกับล้วงมือลงไปในกล่องไม้ สิ่งที่นางนำขึ้นมาเป็นกระดาษพับแผ่นเล็ก ๆ “ลองเปิดดูสิเจ้าคะ” จ้าวเฉียนยี่รับกระดาษในมือนางขึ้นมาสายตามองใบหน้าเล็กที่ยิ้มแป้นอย่างไม่ไว้ใจ นางกำลังวางแผนแปลกประหลาดใดขึ้นมาอีก กระทั่งเขาเปิดกระดาษออกและจ้องมองมันอยู่นานสองนาน “...” “มันเขียนว่าอะไรหรือเจ้าคะ” คนตัวเล็กชะโงกมอง ลุ้นจนตัวโก่งด้วยวิธีการนี้ความคิดเป็นของจ้าวเสวี่ยซิน เนื่องด้วยเข้าหาชายหนุ่มผู้รักสันโดษผู้นี้เข้าหาอย่างตรงไปตรงมาคงเป็นไปได้ยาก จึงใช้วิธีการเลือกสุ่มเอาเสีย ในนั้นจะมีทางเลือกให้เลือกอยู่สามทางนั่นคือ หนึ่งหอมแก้ม สองจูบ และสาม...ร่วมเตียง แน่ล่ะว่านางอยากให้เป็นอย่างสุดท้ายใจจะขาด แต่จ้าวเสวี่ยซินดันบอกไว้ว่าหากไม่อยากให้แผนการนี้ล่มต้องใส่อย่างสุดท้ายไปน้อยที่สุด เพื่อที่จ้าวเฉียนยี่จะไม่ได้คิดว่ามันไม่ยุติธรรมเกินไป ฮึ่ย น่าเสียดายจริงๆ ! “สามี.. มันเขียนว่าอะไรหรือ” จ้าวเฉียนยี่เงียบอยู่นานจนกระทั่งยอมพูดออกมา “...จูบ” “หืม..นั่นก็ดีไม่ใช่น้อย” หญิงสาวกล่าวพลางยิ้มจนกว้างด้วยท่าทางเขินอาย “นี่..เป็นขอเสนอแน่หรือเอาเปรียบข้ากัน” หลี่ถิงถิงอมยิ้มส่ายหน้า “ข้าไม่เอาเปรียบท่าน สิ่งนี้เสวี่ยซินเป็นผู้ทำทั้งหมด ในนี้มีหอมแก้มอยู่หนึ่งส่วน จูบอีกหนึ่งส่วนที่น้อยลงมา ส่วนอีกหนึ่งส่วนที่น้อยที่สุดคือ..ร่วมเตียงกับท่านเจ้าค่ะ” “พี่หญิงเป็นคนต้นคิดหรือ..” ศีรษะเล็กพยักหน้าจนผมปลิวสยาย ขณะที่จ้าวเฉียนยี่ถึงกับกุมขมับ ดูเหมือนว่าเรื่องที่พักไว้จะไปห้ามปรามพี่หญิงให้เลิกสอนสิ่งแปลก ๆ ให้แก่นางต้องรีบทำก่อนเสียแล้ว “นี่..ไหน ๆ ก็จับได้แล้ว เรา..จูบกันไม่ได้หรือเจ้าคะ” ดวงหน้างามส่งสายตาออดอ้อนนิ้วเรียวเกี่ยวเล่นผมไปมาคล้ายประหม่าเล็กน้อย พวงแก้มขาวขึ้นสีแดงระเรื่อคล้ายลูกแมวทำเอาคนที่มองมาถึงกับเผลอคิดในใจว่า น่ารัก.. “ท่านเงียบไม่ตอบโต้เช่นนี้ข้าถือว่าท่านตกลงแล้วกันนะเจ้าคะ” “ดะ..เดี๋ยว อื้ม!” ริมฝีปากอวบอิ่มตรงเข้าจู่โจมประกบลงบนกลีบปากหนา หลี่ถิงถิงทวนวิธีการจูบในตำราของจ้าวเสวี่ยซิน ทว่านางไม่ได้ช่ำชองนางผลจึงออกมาเป็นเงอะงะเสียจนคนตัวโตกว่าลอบขบขัน จากที่ตกใจที่ได้เห็นนางเป็นฝ่ายจุ่โจมกลับกลายเป็นเขาที่ดึงรั้งใบหน้านางเข้ามาหาแล้วประกบริมฝีปากแนบแน่น “อื้อ..” หลี่ถิงถิงเบิกตากว้างยามถูกลิ้นร้อนรุกล้ำเข้ามาละเมียดชิมความหวานภายในโพรงปาก ริมฝีปากล่างถูกดูดดึงจนเกิดเสียงดังน่าอาย นางหายใจหอบถี่ไม่คาดคิดว่าผู้รักสันโดษไม่เคยแตะต้องสตรีเช่นเขาจะรุนแรงและเร้าร้อนได้ถึงเพียงนี้ “อื้อ..แฮ่ก..ก ท่านเสนาบดี เดี๋ยวก่อน อื้ม” จ้าวเฉียนยี่ไม่ปล่อยให้นางได้พักหายใจอุ้มตัวนางลอยขึ้นมาเหนือตักและบดขยี้กลีบปากงามจนบวมเจ่อ มือเล็กประท้วงด้วยการตีเนื่องจากใกล้ขาดอากาศหายใจ เห็นดวงหน้างามสีหน้าไม่สู้ดีเขาจึงยอมผละออกจากกลีบปากงามอ้อยอิ่ง “หึ หมดแรงแล้ว? เจ้าอยากล่อลวงข้าแต่ทำได้แค่นี้เองหรือ” หลี่ถิงถิงหายใจหอบดวงหน้าแดงก่ำถึงใบหูเหลือบมองใบหน้าคมคายที่ยามนี้แสยะยิ้มร้ายกาจอย่างที่นางไม่เคยเห็นมาก่อน.. ไม่จริงน่า..นางไม่ยอมหรอก!!
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD