กฤตภัทร
หลังจาก..เมื่อหลายวันก่อนผมได้รู้ว่าดวงใจของผมมีแฟนผมก็รู้สึก'สตั้น'ไปนะก็แอบรักแอบมองเธอมาตลอดแต่ไม่เคยบอกเธอเพราะคิดว่ายังไม่ถึงเวลา เคยได้ยินเค้าพูดกันว่า
"ช้าๆได้พร้าเล่มงาม" แต่ตอนนี้รู้แล้วว่า "ช้าๆหมาคาบไปแดก" หึหึ
วันนี้หลังจากที่ผมเลิกเรียนผมก็ชวนเพื่อนสนิทมานั่งชิวกันหน่อยจะเรียกว่าย้อมใจก็ได้ ไม่ได้ดื่มมานานด้วยจัดซะหน่อยแล้วกัน
"ว่าไงเพื่อนวันนี้ทำไมถึงออกจากถ้ำได้เลิกจำศีลแล้วหรอ" วิทย์เพื่อนสนิทผมพูดขึ้น
"มาถึงก็ปากดีเลยนะมึง"
"เอ่อนั่นดิแถมมาก่อนพวกกูอีกมึงเปรี้ยวปากหรอไอ้ภัทร" เสียงของวี
"นั่นไงมาพูดมากอีกตัววันนี้พวกมึงสามัคคีกันจังนะปกติไม่ถูกกันนิมึงสองตัว"
"อ้าวไอ้ภัทรพูดดีๆ นะโว้ยพวกกูไม่ใช่หมาว่าแต่มึงเถอะมีเรื่องอะไรให้หนักใจล่ะถึงได้มาแต่หัววัน" วีถาม
"รู้ดีตลอดพวกมึง" ภัทรพึมพำแต่สองหนุ่มได้ยิน
"มึงกับกูเป็นเพื่อนกันมากี่ปีว๊ะจะไม่รู้ได้ไง" วิทย์กล่าว
"อืมๆ มีเรื่องนิดหน่อย"
"เรื่องน้องมุกสิจะมีอะไรคนอย่างไอ้ภัทร" วีพูด
"เฮ่อออ.." ภัทรถอนหายใจ
"น้องมุกกูมีแฟนว่ะ" '
"นั่นป่ะไร" วีพูดขึ้นพลางตบเข่าตัวเองดังฉาด ที่พูดถูก
"กูบอกมึงแล้วให้มึงบอกน้องไปมึงก็ลีลาฉิบหาย" วิทย์กล่าว
"กูว่ามันยังไม่ถึงเวลาไง"
"แล้วมึงจะรออะไรมึงจะรอให้น้องมุกมีลูกมาเย้ยมึงก่อนรึไงเหอะๆ ดูมึงดิอายุก็ยี่สิบสองแล้วแต่ไม่เคยผ่านมือหญิงใดถุย!! "
"มึงจะเก็บซิงไว้ชิงโชคแลกรถจักรยานให้ลูกๆของพวกกูขี่หรอวะไอ้ฉิบหายลูกๆ มึงคงน้อย ใจแย่ละว่าพ่อมันไม่หาแม่ให้สักที" กรกล่าวออกมายาวเหยียด
"กูเก็บไว้ให้คนที่กูรักโว้ยยยไม่เหมือนพวกมึง โดนรีดน้ำหมดตัวกันแล้วมั้งเหอะๆ"ภัทรเถียงกลับอย่างไม่ยอม
" ยังปากดีได้นะมึง หึ หึ " วิทย์ว่าพร้อมทั้งหัวเราะในลำคอ
"เอาน่า! อย่าไปซ้ำเติมมันเลยแค่นี้มันก็ชีช้ำ จวนจะตายแล้วมั้ง" วีเอ่ย
"เอาที่พวกมึงสบายใจเลยครับพวกมึงไม่เคยรักใครมึงไม่เข้าใจหรอกรอให้เนื้องอกของพวกมึงเกิดก่อนละกัน" ภัทรกล่าว
"เนื้องอกพ่องงงเค้าเรียกเนื้อคู่โว้ยย" วีเอ่ยอย่างเอือมๆ
"เออนั่นแหละจะเนื้ออะไรก็ช่างแม่ง"
"ตอนนี้แดกก่อนเดี๋ยวเหล้าบูดเถียงกันจนน้ำลายกระเด็นลงไปเต็มแก้วแล้วมั๊ย" วิทย์ว่า จากนั้นทั้งสามคนก็นั่งกินเหล้ากันไป สักพักนักร้องก็ร้องเพลงนี้ขึ้นมาครับ"
"ให้เธอได้กับเขา แล้วจงโชดดี"
"อย่ามีอะไรให้เสียใจ "ส่วนตัวฉันจะลืม
"ว่าเคยร้องไห้ ลืมว่าเคยต้องเป็นใคร ที่เธอไม่เอา" เพลง ใจนักเลง
"แม่งได้ยินแล้วจี๊ดเลยครับ น้ำตามันจวนจะไหล"
ไอ้สองคนมันหันมามองหน้าผมแต่ไม่ได้พูดอะไรมันคงรู้แหละว่าผมคิดอะไรอยู่มันเชิงถามผมว่าโอเคมั๊ย"
ผมใช้สายตาตอบกลับไปว่าโอเคจากนั้นสถานการณ์ก็เข้าสู่สภาวะปกติ นักร้องก็ร้องเพลงไปเรื่อยผมก็พูดคุยกันไปตามประสาเพื่อนที่ไม่ค่อยได้เจอกัน
เพราะเรียนคนละคณะเมื่อเวลาล่วงเลยมาจนดึกจึงร่ำลากันและแยกย้ายกันกลับบ้านไปเมื่อถึงรั้วหน้าบ้านที่มีเนื้อที่กว่ายี่สิบไร่
ก็มีชายวัยกลางคนคนหนึ่งเดินมาเปิดประตูรั้วอย่างไวเขามีนามว่า 'ลุงชัย' เป็นคนเก่าแก่ของบ้านหลังนี้
"สวัสดีครับคุณหนูวันนี้กลับดึกเลย"
"ผมไปดื่มมานิดหน่อยครับ"
"ไปดื่มแล้วไม่โทรเรียกลุงไปรับล่ะครับขับรถกลับคนเดียวมันอันตราย"
"ขอบคุณมากครับลุงขัยที่เป็นห่วงต่อไปถ้าผมดื่มผมจะพาเก่งไปด้วยนะครับ"
"ดีครับเก่งมันว่างเสมอครับถ้าคุณภัทรเรียก"
"งั้นผมเข้าบ้านก่อนนะครับ" ภัทรกล่าวเสร็จ ลุงชัยก็ส่งยิ้มให้แล้วเดินไปยืนข้างประตูตามเดิมเมื่อภัทรเดินเข้ามาในบ้านไม่ต้องบรรยายถึงเฟอร์นิเจอร์ในบ้านเนอะว่าหรูหราหมาเห่าขนาดไหนเอาเป็นว่าโครตรวยแล้วกัน
เขาเดินตรงไปชั้นสองและเข้าห้องนอนทันทีเมื่อเข้ามาข้างในแล้วเขาเดินตรงไปทางขวาเพื่อไปที่ห้องหนังสือที่มีรูปใครบางคนตั้งอยู่ในนั้น
เดินตรงไปที่รูปหยิบรูปขึ้นมาจ้องมองรูปแล้วพึมพำกับรูปว่า..
"พี่ช้าไปใช่มั๊ยคะที่ไม่บอกน้องมุกพี่มันโง่เองค่ะ ที่ปล่อยให้น้องมุกไปเป็นของคนอื่น"
เฮ่ออ! ภัทรได้แต่ถอนหายใจจากนั้นก็ออกจากห้อง เดินตรงไปที่เตียงแล้วล้มตัวลงนอน หลับตาอยู่พักนึงเพื่อทบทวนอะไรบางอย่าง ในขณะนั้นเอง "ก็มีน้ำใสๆ"
ไหลออกมาจากหางตาของภัทร 'ใช่เขาร้องไห้' เพราะเสียใจที่น้องมีแฟนคนแรกที่ไม่ใช่เขา
แถมคนคนนั้นยังเป็นคนที่ไม่ถูกกับเขาอีกด้วย และเขาก็รู้ด้วยว่ามันเป็นคนไม่ดีแต่จะทำยังไงได้
ในเมื่อน้องเลือกแล้วในเมื่อตัวเองดันช้าไปก็ต้องดูแลอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ ต่อไปแหละ...
เมื่อใจสงบลงก็ลุกขึ้นเดินตรงไปยังห้องน้ำ เพื่อชำระร่างกายให้สะอาดพออาบน้ำเสร็จภัทรเดินมาตรงระเบียงแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้าแล้วพึงพำกับดวงจันทร์เเบาๆ ราวกับว่าจะให้สายลมพัดผ่าน
เพื่อนำไปบอกใครบางคนที่อยู่ไกล้กันแต่ดูเหมือนไกลออกไปทุกที
"พี่รักหนูนะคะน้องสาวคนดีของพี่รักที่สุดและจะไม่มีวันรักใครอีกนอกจากหนูคนเดียวไข่มุกพี่สัญญาพี่จะดูแลหนูอยู่ห่างๆเหมือนเช่นเคย"
หลังจากพึมพำเสร็จภัทรก็เดินมานอนที่เตียงกว้างตามลำพังด้วยความรู้สึกที่ว้าเหว่หัวใจ พลิกตัวไปมาและในที่สุดก็ผล็อยหลับไป
แสงอรุณเบิกฟ้าของเช้าวันใหม่ยังคงทำหน้าที่ของมันดั่งเช่นทุกวันแสงแรกของวันสาดส่องเข้ามาภายในห้องนอนกว้าง ที่เปิดม่านแย้มไว้
ทำให้ใครบางคนในห้องที่ยังนอนหลับไหลอยู่ ค่อยๆขยับตัวตื่นกระพริบตาปริบๆ เพื่อปรับแสงจากนั้นเมื่อปรับแสงจนเสร็จแล้วเขาก็ลุกจากที่นอนแล้วยกมือขึ้นเหนือศรีษะ เอามือประสานกันแล้วบิดตัวไปมาสองทีเดินไปหยิบผ้าขนหนูแล้วตรงก็เข้าห้องน้ำไปทันที
ผ่านไปสักพักภัทรออกมาจากห้องน้ำด้วยชุด วอร์ม เพื่อเตรียมตัวออกไปวิ่งซะหน่อย เมื่อเดินลงมาข้าล่างก็เจอเข้ากับทุกคนนั่งคุยกันอยู่ที่ห้องโถงของบ้าน
"อรุณสวัสดิ์ครับทุกคน" ภัทรกล่าวพร้อมกับเดินเข้าไปร่วมวงสนทนาด้วย
"ไงลูกชาย" คุณกวีทักลูกชายขึ้น
"ผมว่าจะออกไปวิ่งสักหน่อยสักหน่อยครับ เช้าๆ แบนี้อากาศกำลังดี"
"ไปเถอะลูกวิ่งเสร็จจะได้มาทานข้าวพร้อมกัน" คุณกัลยาแม่ของเขากล่าวขึ้นส่วน'พจน์' น้องชายสุดหล่อของเขาได้แต่ทำหน้านิ่งๆ ฟังที่ทุกคนพูดเท่านั้น
"ครับงั้นผมขอตัว" ภัทรกล่าวจากนั้นก็เดินออกจากบ้านไป
เมื่อเปิดประตูออกรั้วออกไปก็เจอเข้ากับบุคคลที่บ้านอยู่ฝั่งตรงข้ามกัน คนที่ทำให้เขาคิดถึงทั้งคืน
"อ้าวพี่ภัทรจะไปวิ่งหรอคะ"
"ใช่ครับน้องมุกล่ะครับจะไปวิ่งเหมือนกันหรอ"
" ใช่ค่ะ " หลังจากนั้นทั้งคู่ก็วิ่งไปพร้อมกันวิ่งไปด้วยคุยกันไปด้วยจนออกไปถึงสวนสาธารณะ
"เช้านี้อากาศดีจังเลยนะคะ"
"ใช่ครับพี่ก็คิดแบบนั้นแต่พี่คิดว่าถ้าพี่มาวิ่งคนเดียวอากาศคงไม่ดีเท่านี้หรอกแถมเหงาด้วยค่ะ"
ไข่มุกหันหน้ามาสบตาภัทรสองสายตาสบประสานกันอยู่ครู่หนึ่งแต่มุกรู้สึกว่าดวงตาของพี่ภัทรนั้นดูเศร้าๆ ต่างจากที่มุกเคยเห็นเมื่อก่อน
"พี่ภัทรมีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าคะแววตาดูเศร้าจัง"
" โอ้ยเพราะตัวเองแหละช้า
พี่ภัทรเอ้ย "