เมื่อซูหลินกลับมาที่ห้องของเจียวเจียว เด็กหญิงก็เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว นางถามลูกสาวว่าปกติในหนึ่งวันนั้นทำอะไรบ้าง
เด็กน้อยตอบว่าในตอนเช้าจะเรียนหนังสือกับอาจารย์หญิง ตอนเที่ยงหลังกินข้าวก็งีบหลับพอตื่นนอนก็เล่นของเล่นคนเดียว ตอนเย็นทบทวนบทเรียนให้ท่านพ่อฟัง แล้วก็กินข้าวเย็นนอนหลับ ใช้ชีวิตเรียบง่าย ซ้ำซากน่าเบื่อ
ซูหลินคิดที่จะก้าวไปทีละขั้นค่อยๆ สร้างความสนิทกับลูกสาว ดังนั้นทุกวันนางจะไปเล่นเป็นเพื่อนกับลูก ไปนั่งฟังอาจารย์หญิงสอนหนังสือ
ในตอนแรกเจียวเจียวค่อนข้างจะระมัดระวังที่อยู่ใกล้กับผู้เป็นแม่แต่หลังจากนั้นแค่ 2-3 วันเธอก็ใกล้ชิดกับผู้เป็นแม่มากขึ้น
เป็นเรื่องปกติของเด็กน้อยที่จะลืมง่าย นางไม่ขุ่นเคืองผู้เป็นมารดาอีกต่อไป ยิ่งกว่านั้นท่านแม่ก็ปฏิบัติต่อนางเป็นอย่างดี ทำให้นางลืมเรื่องเลวร้ายในอดีตไปหมดสิ้น
ฉางคงมักจะมาแอบดูว่าพวกนางแม่ลูกเป็นอย่างไร เขาเห็นภรรยามานั่งฟังบรรยายของอาจารย์หญิงเป็นเพื่อนลูกสาว ดวงตาที่อ่อนโยนของเธอมองไปที่ลูกสาวด้วยรอยยิ้ม
ในทุกเช้าบนเตียงภรรยาและลูกสาวนอนกอดกันอยู่บนเตียง มือของผู้เป็นแม่วางอยู่บนร่างกายของลูกสาว เหมือนปกป้องนางไว้ในอ้อมแขน
ในบางครั้งเขาก็เห็นภรรยาเล่นซ่อนหากับลูกสาว ในตอนที่นางซ่อนตัวนางจงใจเผยมุมกระโปรงของตัวเองออกมา เพื่อให้ลูกสาวหาตัวนางได้ แต่ในตอนที่ลูกสาวซ่อนตัว หญิงสาวก็ทำเป็นมองไม่มองหาไม่เห็น ร้องเรียกหาจนทั่วจนเด็กหญิงออกมาจากที่ซ่อน และจับตัวของท่านแม่ไว้ สุดท้ายก็เป็นฝ่ายชนะ
"เจียวเจียวเก่งกาจจริงๆ!" ในสวนก็มีแต่เสียงหัวเราะที่มีความสุข
ตอนกลางคืนเขายืนอยู่ที่หน้าประตูได้ยิน ซูหลินเล่านิทานก่อนนอนให้ เจียวเจียวฟังด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน เรื่องราวที่นางเล่าเขาไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่ฟังแล้วมันก็น่าสนุกและนึกภาพตามได้ไม่ยาก
แม้แต่ฉางคงเองก็ไม่รู้ตัวว่าเขาหลงไหลซูหลินในเวลาเพียงไม่กี่วัน หลังจากที่รู้ว่านางไม่มีเจตนาร้ายต่อเจียวเจียว เขาก็รู้สึกพึงพอใจในตัวภรรยามากขึ้นทุกวัน แม้แต่พ่อบ้านก็รู้สึกว่าใบหน้าที่เคร่งขรึมของท่านแม่ทัพนั้นดูอบอุ่นขึ้นมามาก
ในวันนี้องค์ชายห้ามาหาฉางคง เพื่อหารือเกี่ยวกับเรื่องกองทัพ และการวางแผนเดินทาง แต่เมื่อเดินผ่านสวน เขาเห็นดอกไม้ที่บานสะพรั่งเต็มสวนจึงอดที่จะเข้าไปเดินดูไม่ได้ด้วยความอยากรู้อยากเห็น
เมื่อเขาเข้าใกล้สวนดอกไม้ เขาเห็นว่ามีหญิงสาวคนหนึ่งที่นอนหลับอยู่ท่ามกลางสวนดอกไม้ นางเป็นปีศาจดอกไม้? หรือนางฟ้าดอกไม้กันนะ?
ซูหลินนอนหลับอยู่ท่ามกลางหมู่ดอกไม้ วันนี้นางมาเล่นซ่อนหากับบุตรสาวเหมือนอย่างเคย แต่เจียวเจียวบอกว่าต้องการมอบของขวัญให้กับนาง และบอกให้นางอยู่ที่นี่ แล้วก็วิ่งหายไปในสวนด้านหลัง
หญิงสาวไม่กลัวนางเป็นอันตรายเพราะมีสาวใช้ตามนางไปด้วย ยังไม่รวมองค์รักษ์เงาที่ซ่อนตัวอยู่อีกหลายคนที่คอยเฝ้าอารักขา นางรอเด็กหญิงอยู่นานจนตัวเองผล็อยหลับไปโดยไม่รู้ตัว
ซูหลินเป็นคนสวยเธอมีผิวที่ขาวนวลเนียนมีเลือดฝาด จ้าวอี้เห็นใบหน้าของหญิงสาวงดงามราวกับภาพวาดของไซซี ส่วนที่น่าดึงดูดใจที่สุดคือริมฝีปากสีแดงตัดกับผิวสีขาวราวหิมะ
เธอสวมชุดกระโปรงสีเขียวเข้ากับรูปร่างสมสวน ความงามของนางทำให้คนมองแล้วรู้สึกว่าถึงแม้จะเป็นหน้าร้อนแต่พอมองหญิงสาวแล้วก็รู้สึกเย็นสดชื่นขึ้นมา
จ้าวอี้กำลังจะเดินเข้าไปใกล้ๆ เพื่อชื่นชมความงาม แต่ได้ยินเสียงฝีเท้าเล็ก ๆ เดินเข้ามาหาเขาเสียก่อน เขาหันหลังกลับไปมองและพบว่าเป็นลูกสาวสุดที่รักของฉางคง
เมื่อเด็กน้อยเห็นเขาก็มีแววตาแปลกใจ ขณะที่เด็กน้อยกำลังจะเอ่ยปากถาม ก็ถูกจ้าวอี้หยุดเอาไว้ คนงามกำลังหลับอยู่ จะไปรบกวนให้นางตื่นได้อย่างไร
เขาจดจำความงามนี้เอาไว้ เขาจะไปถามฉางคงว่านางเป็นใคร หลายปีมาแล้วที่เจ้าน้ำแข็งฉางคงไม่มีหญิงอื่นนอกจากซูหลินภรรยาที่แต่งเข้า
แต่ซูหลินเป็นหญิงสาวชั่วร้าย ทุบตีได้แม้แต่กระทั่งลูกสาวของตัวเอง เขาจึงคิดว่าหญิงสาวนางนี้ต้องเป็นเมียเก็บลับๆ ของฉางคงแน่
จ้าวอี้ลูบผมของเจียวเจียวอย่างอารมณ์ดีและเดินจากไป
เมื่อเจียวเจียวมาเรียกท่านแม่ให้ไปดูสวนดอกไม้ที่เตรียมไว้ให้เป็นของขวัญ ก็เห็นท่านแม่กำลังนอนหลับอยู่ท่ามกลางดอกไม้ มีท่านอาจ้าวอี้ ยืนดูอยู่ไม่ไกลเด็กน้อยรู้จักอาคนนี้ เขามาเยี่ยมท่านพ่อของนางบ่อยๆ บ่าวรับใช้ในบ้านเรียกเขาว่าองค์ชายห้า
เด็กหญิงแค่อยากจะปลุกแม่ของนาง แต่โดนท่านอาจ้าวอี้หยุดไว้ แต่คิดไปคิดมาตัวเด็กน้อยเองก็ไม่ชอบให้ใครมาปลุก ท่านแม่เองก็คงจะเป็นเหมือนกัน ดังนั้นเด็กหญิงจึงนอนลงข้าง ๆ เป็นเพื่อนท่านแม่นอนหลับไปด้วยกัน
ด้านจ้าวอี้ ทันทีที่ก้าวเข้าไปในประตูห้องหนังสือของฉางคง เขาก็รีบถามอย่างใจร้อน
“ฉางคง เจ้าแอบเก็บหญิงงามเอาไว้ในบ้านหรือ?”