“เอ่อ…ขอโทษทีนะครับ คือ…” ธันย์ธาดารู้สึกตึกตักๆ ในอกแปลกๆ ตั้งแต่แรกพบ ที่เห็นหญิงสาวเปิดประตูเข้ามาในห้อง และตอนนี้จังหวะหัวใจเขามันก็เต้นเร็วเสียจนจะทะลุออกมานอกอก เมื่อสาวงามคนนี้กำลังนั่งอยู่ข้างๆ
“ไม่เป็นไรค่ะ กล้วยนะคะ ยินดีที่ได้รู้จัก” นวียาหันไปยิ้มและกระซิบแนะนำตัวเองเบาๆ กับชายหนุ่มเพื่อทำความรู้จัก วันนี้เธอมาสายเพราะรถที่บ้านดันเสีย พี่ชายก็ไม่อยู่จะให้ใครมาส่งก็ไม่ได้ จึงตัดสินใจออกมาเรียกแท็กซี่หน้าปากซอย ซึ่งก็ต้องรอนานมาก เสียเวลากับการเดินทางไปเยอะเลยทีเดียว อีกทั้งระยะทางจากบ้านมามหาวิทยาลัยก็ไกลกันมิใช่น้อย
“ธันย์ครับ ธันย์ธาดา ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ”
“อาจารย์สอนถึงไหนแล้วคะ กล้วยไม่รู้เรื่องแน่ๆ มาสายแบบนี้”
“เดี๋ยวกล้วยเอาสมุดผมไปดูก็ได้นะครับ” รีบบอกเมื่อเห็นสีหน้าเซ็งๆ ของอีกฝ่าย ก่อนที่ปากหยักจะยิ้มกว้างตามไปด้วย เมื่อเห็นรอยยิ้มพิมพ์ใจบนหน้าหวานๆ นั้น ทันทีที่เขาพูดจบ
“ขอบคุณมากนะ กล้วยดีใจจังที่ได้รู้จักกับธันย์ เรามาเป็นเพื่อนกันนะ”
“ครับ”
และแล้วการเรียนในวันแรกของชายหนุ่ม ก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะของเขา ที่มาจากสาวสวยข้างกาย นอกจากเธอจะน่ารักและมนุษย์สัมพันธ์ดีแล้ว ยังคุยเก่งอีกต่างหาก ยามที่อาจารย์เผลอหญิงสาวก็มักจะมีเรื่องโน่นนี่นั่นมากระซิบเล่าให้เขาฟังอยู่ร่ำไป เรียกรอยยิ้มและความอิ่มเอิบใจให้เกิดกับชายหนุ่มอย่างที่ไม่เคยรู้สึกกับใครมาก่อน
“ไอ้บอยๆ” เชษฐพลหันไปสะกิดวัฒนาที่กำลังตั้งใจฟังอาจารย์สอน เป็นเหตุให้อีกฝ่ายหันกลับมามองอย่างเซ็งๆ ที่ถูกรบกวน
“อะไรของเอ็งวะไอ้แม็ค จะสะกิดทำไมนักหนา ข้ากำลังใช้สมาธิ” วัฒนาหันไปโวยไม่เต็มเสียงนัก
“เอ็งดูๆ” พูดพลางบุ้ยใบ้ไปทางธันย์ธาดาและนวียาที่หัวร่อต่อกระซิกใส่กันอย่างมีความสุข
“อือ แล้วไง”
“ไอ้บื้อเอ๊ย เอ็งไม่เห็นเหรอว่าไอ้ธันย์มันจะอารมณ์ดีอะไรขนาดนั้นวะ”
“อ้าว ก็มันนั่งใกล้สาวสวยมันก็ต้องอารมณ์ดีสิ ไม เอ็งอิจฉามันรึไง” วัฒนาส่ายหน้าให้กับเพื่อนจอมจุ้น เชษฐพลเป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไร ไม่ฉลาดแล้วยังชอบทำตัวสอดรู้สอดเห็นเรื่องชาวบ้านอีก
“ไอ้บอย เอ็งไม่เห็นรึ สองคนนั้นสนิทอะไรกันเร็วจัง ข้าเห็นน้องคนสวยเค้าเพิ่งเดินเข้ามาเองนะเว้ย” เชษฐพลยังงงๆ กับท่าทางของเพื่อนที่ดูจะเบิกบานยิ่งนัก ตั้งแต่นวียาเดินเข้ามานั่งตรงนั้น
“มันชอบมั้ง ไม่งั้นมันจะคุยด้วยทำไม”
“อ้าว ไอ้บอย ถ้าไอ้ธันย์มันชอบน้องคนนี้ แล้วน้องคนนั้นล่ะ”
“คนไหนวะ” วัฒนากระซิบถาม คิ้วเข้มเป็นปื้นดำอย่างกับชินจังแต่ไม่น่าเกลียด ขมวดเข้าหากันวุ่น ถ้าจะเรียนไม่รู้เรื่องแล้ววันนี้
“ก็น้องอิงอรหน้ามนคนสวยของข้าไงวะ เอ็งก็เห็นว่าไอ้ธันย์มันมาพร้อมกับน้องเค้านี่หว่า”
“เออน่า เค้าอาจจะเป็นเพื่อนกันก็ได้ เอ็งคิดไรมาก พอเลย เลิกชวนข้าคุยซะที กูจะเรียน พ่อกูส่งกูซึ่งเป็นคนให้มาเรียน ไม่ได้ส่งฟายมาเรียนเหมือนมึง”
วัฒนาว่าให้เพื่อนอย่างเจ็บๆ ก่อนจะหันไปให้ความสนใจกับเนื้อหาตรงหน้า ทิ้งให้เชษฐพลได้แต่งุนงงสงสัยกับความเป็นไปของเพื่อนที่นั่งข้างๆ ซึ่งกำลังยิ้มกริ่มส่งสายตาอ่อนเชื่อมให้กับสาวสวยอย่างนวียา โดยไม่สนใจอะไรรอบตัว…
“อร่อยมั้ยครับกล้วย” ธันย์ธาดาเอ่ยถามหญิงสาวที่นั่งทานข้าวผัดกุ้งอยู่ฝั่งตรงข้ามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน หลังเสร็จสิ้นจากคาบวิชาเรียนในช่วงเช้า เขาและเพื่อนจึงเอ่ยชวนเธอให้มารับประทานอาหารกลางวัน ที่โรงอาหารของมหาวิทยาลัยด้วยกัน
“รสชาติใช้ได้เลยค่ะ กล้วยชอบ” หญิงสาวเงยหน้าขึ้นตอบก่อนจะยิ้มหวานส่งให้อย่างไม่คิดอะไร แต่ไฉนเลยจะรู้ว่า คนมองแทบจะใจละลายหยุดหายใจไปซะดื้อๆ
“ตอนบ่ายหลังเรียนเสร็จแล้ว กล้วยจะไปไหนต่อหรือเปล่าครับ” ธันย์ธาดาถามขึ้นหลังจากเห็นนวียารวบช้อนส้อมเป็นสัญญาณว่าอิ่มแล้ว
“กล้วยคงกลับบ้านทันทีค่ะ เพราะว่าต้องรีบกลับไปดูหลาน พอดีพี่ชายไปต่างจังหวัดน่ะค่ะ อีกอย่างวันนี้กล้วยไม่ได้เอารถมาด้วย จะไปไหนเลยไม่สะดวก”
“แล้วตอนเย็นกล้วยจะกลับยังไงล่ะครับ เดี๋ยวธันย์ไปส่งก็ได้นะ ธันย์เอารถมา” ชายหนุ่มอาสาอย่างเร็วรี่ เมื่อเห็นโอกาสที่จะได้ดูแลใกล้ชิดนางในฝันที่บังเอิญมาอยู่บนโลกใบนี้แล้ว
“ไม่เป็นไรดีกว่าค่ะ กล้วยไม่รบกวน แต่ว่ากล้วยขอเบอร์โทรศัพท์ของธันย์ แม็ค และก็บอยไว้ด้วยนะคะ ถ้ามีอะไรฉุกเฉิน หรือมาเรียนไม่ได้ กล้วยจะได้โทรบอก”
“แหมๆๆ กล้วยอยากได้เบอร์แม็คคนเดียวก็ไม่บอก ทำทีเป็นขอทุกคน ไม่ต้องอายนะ มามะเอาโทรศัพท์กล้วยมาเดี๋ยวแม็คบันทึกให้”
“ไอ้แม็ค อย่าเสียมารยาท” ธันย์ธาดาหันไปตวาดเพื่อนเสียงเข้ม ก่อนจะดึงโทรศัพท์ของตนออกมาจากกระเป๋า และกดเบอร์ยิงไปยังหมายเลขที่นวียาบอก
หลังจากต่างฝ่ายต่างแลกเบอร์กันเสร็จเรียบร้อย ก็คุยกันต่ออย่างสนุกสนาน สายตาของธันย์ธาดาและเชษฐพลไม่ได้ละไปจากดวงหน้างามนั้นเลยซักนิด เลยไม่ทันได้สังเกตวัฒนา ที่ลุกจากเก้าอี้เดินแยกออกไปคนเดียวเงียบๆ…