ถ้าระหว่างเขาและเธอไม่ได้เริ่มต้นด้วยการคลุมถุงชนมันคงจะมีทางสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันได้ไม่ยาก อย่างน้อยเป็นเพื่อนก็ยังดี แต่นี่แค่ความเป็นเพื่อน เธอยังไม่แน่ใจเลยด้วยซ้ำว่าเขาจะนึกถึงหรือยอมรับบ้างหรือเปล่า
หญิงสาวก้มหน้าลงมองพื้นระหว่างเดินอย่างหงอยๆ ทำไมเธอต้องเศร้าด้วยนะ กับการที่คิดว่าเขาไม่ชอบขี้หน้า เกลียด หรือไม่พอใจ ทั้งๆ ที่เธอเองก็ใช่ว่าจะยินดีกับการถูกบังคับ แต่ตั้งแต่เมื่อวานที่เขาช้อนตัวเธอขึ้นอุ้มพาไปใส่ยาและนวดข้อเท้าให้นั้น จิตใจมันก็กระวนกระวาย พาลแต่จะคิดถึงหน้าชายหนุ่มอยู่เรื่อย จนได้เวลาเข้านอนแล้ว กว่าจะหายจากอาการเหล่านั้น พลอยทำให้นอนไม่หลับ จนดึกดื่นค่อนคืนเลยทีเดียวถึงได้เข้าสู่นิทรา
คงไม่ใช่รักแรกพบหรอกนะยัยอรเอ๊ย ไม่งั้นแกก็ต้องอกหักตั้งแต่พบครั้งแรกนั่นแหละ
“เฮ้อ…”
เสียงถอนหายใจเบาๆ จากคนในอ้อมแขนที่ถูกเขาประคองเอวกิ่วไว้ ทำให้ธันย์ธาดาต้องก้มหน้าลงไปมองร่างเล็กที่ส่วนสูงอยู่เพียงหัวไหล่หนาทันที
“เจ็บข้อเท้าหรือเปล่า…นั่งพักตรงนั้นก่อนมั้ย” เสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้นอย่างราบเรียบ หาได้นุ่มนวลชวนฝันตามที่หญิงสาวอยากจะฟังรึก็ไม่
“ไม่เป็นไร อรเดินไหว”
“ตามใจ เธอดื้อเองนะ…เดินสิ” เสียงเข้มสั่งขึ้น เมื่อเธอหยุดเดินและหันมามองหน้าเขาหลังจากที่โดนบ่นว่าดื้อ
“อรไม่ได้ดื้อ ถ้ามันลำบากธันย์นัก ก็ปล่อยอรไว้นี่แหละ ไม่ต้องมาช่วย” บอกเขาอย่างงอนๆ โดยไม่รู้ตัว ว่าอาการนั้นน่ะมีไว้ให้คนเป็นแฟนไว้ง้อ หน้าสวยหวานงอง้ำพร้อมกับสะบัดไปอีกทาง
“เออดี อวดดีนักก็เดินไปเองละกัน” จบประโยคก็ไม่รอช้าปล่อยแขนออกจากเอวบางทันที แต่ยังไม่ทันจะได้เดินผละห่างก็ต้องหันกลับไปมองด้านหลังซะก่อน
“ไอ้ธันย์!”
“อ้าว ไอ้แม็ค ไอ้บอย มาแล้วเหรอวะ”
ชายหนุ่มหันไปยิ้มกว้างอย่างดีใจ ให้กับเพื่อนสนิทสองหนุ่มที่เรียนด้วยกันมาตั้งแต่มัธยม ทั้งยังสอบติดคณะและสาขาเดียวกัน จึงได้มาเรียนต่อที่นี่ด้วยกันอีก ทั้งสองเดินรี่เข้ามาหาอีกฝ่าย ก่อนที่ทั้งหมดจะยกกำปั้นขึ้นแตะกันเป็นเชิงทักทาย
“ข้าคิดถึงพวกเอ็งว่ะ ไม่ได้เจอกันตั้งนาน”
ธันย์ธาดาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง ตั้งแต่จบมัธยมปลายก็ตลอดช่วงเวลาปิดเทอมนั่นแหละที่ไม่ได้เจอกันเลย แม้แต่วันส่งตัวและปฐมนิเทศนักศึกษาใหม่ เพราะต่างคนก็ต่างยุ่งวุ่นวายกับการเตรียมตัว
“แหมๆ ทำเป็นบอกว่าคิดถึงพวกข้า จริงๆ เอ็งไม่มีเวลาเพราะว่าติดหญิงอ่ะดิ” แม็ค หรือ เชษฐพล แซวขึ้น พลางหันไปพยักพเยิดกับบอย หรือวัฒนา ซึ่งดูท่าอีกฝ่ายก็เห็นด้วยเช่นกัน
“ใช่ มีสาวแล้วลืมเพื่อน” วัฒนาเอ่ยเสียงห้วน พลางจ้องหน้าคนที่ตกเป็นจำเลยกลายๆ อย่างจับผิด
“อะไรของพวกเอ็งวะ” น้ำเสียงไม่สบอารมณ์ถามออกไปอย่างไม่เข้าใจ
“อ๊ะๆๆ มีหงุดหงิดซะด้วย เฮ้ย! ไอ้บอยจัดการ” เชษฐพลหันไปพยักหน้าให้กับวัฒนาเป็นอันรู้กันว่าให้ดำเนินการบางอย่าง
“ได้เลยพรรคพวก” วัฒนารับคำก่อนจะเดินเข้าไปใกล้สาวสวยหนึ่งเดียวในที่นี้ ที่กำลังยืนมองพวกเขาอย่างงงๆ
“สวัสดีครับ ผมวัฒนา โชติช่วงธีรากร เรียกง่ายๆ ว่าบอย รูปไม่หล่อ พ่อไม่รวยแต่รักใครรักจริงไม่ทิ้งขว้างนะคร้าบบบบ”
วัฒนาแนะนำตัวเสร็จสรรพก่อนจะโค้งตัวก้มศีรษะให้อิงอร จนหัวเกือบจะจรดถึงพื้นหญ้าตรงทางเดิน พอๆ กับการแนะนำตัวแบบพิลึก เรียกรอยยิ้มขำจากหญิงสาวได้ทันที ยังไม่ทันจะได้เอ่ยอะไรอีกคนก็ตรงเข้ามาสมทบ
“สวัสดีครับ กระผมชื่อนายเชษฐพล ปริยาการณ์ ชื่อเล่นแม็ค ยังโสดครับ นิสัยดีมีเวลาให้ ยังไงก็รับไว้ในอ้อมใจด้วยนะครับผม”
เชษฐพลกล่าวแนะนำตัวเสียงขึงขังเลียนแบบทหาร ก่อนจะตะเบ๊ะท่าทำความเคารพหลังจบการพูดอีกต่างหาก ทำให้อิงอรถึงกับกลั้นขำเอาไว้ไม่อยู่หัวเราะออกมาคิกๆ
“สวัสดีนะคะ อิงอรค่ะ เรียกอรเฉยๆ ก็ได้ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ” หญิงสาวเอ่ยรับไมตรีด้วยการแนะนำตัวกลับบ้างอย่างไม่คิดอะไร เพราะเห็นว่าทั้งสองเป็นเพื่อนของธันย์ธาดา
แต่หารู้ไม่ว่าชายหนุ่มคนเดียวที่ยืนเงียบอยู่กำลังคุกรุ่นได้ที่ เมื่อเห็นสีหน้าท่าทางดูมีความสุขของหญิงสาว ทั้งๆ ที่ตอนมากับเขาทำหน้าซึมอย่างกับจะโดนพาไปเชือด
“ไอ้แม็ค ไอ้บอย พวกแกจะไปเข้าห้องน้ำก็ไปสิ เดี๋ยวเจอกันที่ห้องเรียนวิทย์ฯ นะ”
พูดจบไม่ฟังเสียงตอบรับใดๆ แขนแกร่งยื่นไปรวบกอดเอวเล็กเข้ามาจนชิด อีกข้างที่ว่างจับยกต้นแขนเรียวด้านที่อยู่ติดอกแกร่งให้วางพาดไว้บนไหล่หนา แล้วบังคับดันเธอให้เดินไปตามจังหวะการก้าวขาของเขา โดยที่ไม่ได้สนใจเพื่อนตัวแสบทั้งสองที่ยืนมองอย่างงงงวยสักนิด
“เฮ้ย! ไอ้บอย มึงปวดขี้เหรอวะ” เชษฐพลหันมาถามวัฒนาอย่างงงๆ
“ปวดขี้บ้านป้ามึงดิ กูขี้แล้วเมื่อเช้า”
“แล้วไอ้ธันย์มันให้เราไปเข้าห้องน้ำทำไมวะ”
“ไอ้ฟาย มันหวงสาว มันเลยไล่มึงไปพ้นๆ ไง ไอ้บ๊อง มึงน่ะกินแห้วไปเลย น้องอรไม่สนใจมึงหรอก ฮ่าๆๆ”
วัฒนาว่าก่อนจะเดินนำหน้าออกไปก่อนอย่างอารมณ์ดี ทิ้งให้เชษฐพลยืนเกาหัวอย่างงงๆ กับคำถากถางของเพื่อน ก่อนจะรีบเดินตามอีกฝ่ายไป เมื่อมองดูนาฬิกาเห็นว่าใกล้ถึงเวลาเข้าเรียนเต็มทีแล้ว…