ถ้าตบได้แล้วไม่กลัวเขาจะโต้ตอบเธอก็อยากตบเขาหนักๆ สักฉาด แต่เมื่อคิดว่าตนจะเสียเปรียบจึงได้แต่แผดเสียงใส่เขา “ทุเรศ ต่ำช้าที่สุด แค่คำว่าเกลียดคงยังใช้ไม่พอกับคนเลวๆ อย่างดอน”
คนเจ้าเล่ห์ยกยิ้มขึ้น “อย่าปากไม่ตรงกับใจ และห้ามด่าพี่แบบนี้อีกเพราะปากเล็กๆ บางๆ ของเธอมันควรมีไว้ให้พี่ได้ทำแบบนี้”
ไม่ทันขาดคำเจ้าพ่อหนุ่มก็ขยับรวดเร็ว โน้มใบหน้าบรรจงผนึกปากตัวเองเข้ากับกลีบปากบางของศศิอย่างโหยหา คิดถึงแต่เขาบอกตัวเองว่าการกระทำนั้นคือการลงโทษ สองมือแกร่งประคองใบหน้าสวยหวานที่ส่ายไปมาให้ตั้งตรงรอรับจุมพิตที่เขาอยากมอบให้ อยากได้ลิ้มรสความหวานจากกลีบปากคู่นั้นซ้ำอีกอย่างไม่นึกเบื่อ และที่หนักกว่านั้นคือไม่ต้องการให้ใครได้ลองลิ้มชิมความหวานราวกับผลสตรอว์เบอร์รี่สุกฉ่ำจากริมฝีปากคู่นี้อย่างเขา เมื่อบดจูบเคล้าคลึงจนพอใจแล้ว ร่างหนาใหญ่ก็ผละตัวเองออกห่างเมื่อความคิดเริ่มเลยเถิดไปไกลถึงขั้นว่าหวงแหนศศิ ผู้หญิงที่เขาควรปัดออกห่างไปจากชีวิต
“วันนี้พอแค่นี้ แต่อย่าทำให้พี่โมโหอีก เพราะมันจะมากกว่านี้ชนิดที่เธอคาดไม่ถึง แล้วห้ามหนีเด็ดขาด”
“คนเลว คนใจร้าย ศศิไม่กลัวพี่ ไม่รับปากอะไรด้วยทั้งนั้น” ปากตวาดว่าทันทีเมื่อได้รับอิสระ มือบางยกขึ้นถูริมฝีปากบางของตัวเองอย่างโมโหปนรังเกียจที่ถูกเขาจาบจ้วงจู่โจมแบบไม่ให้เกียรติ สายตาคู่หวานจ้องประสานกับเจ้าพ่อหนุ่มเขม็ง
“ก็ลองดู ถ้าอยากให้แด๊ดหัวใจวายตายเพราะผิดหวังในตัวลูกสาวนอกไส้ที่รักปานดวงใจก็ลองทำตัวพยศ ขัดคำสั่งที่พี่บอกให้หมด พี่จะได้เอาหลักฐานที่เธอทำเรื่องเลวร้ายไปให้แด๊ดดู เธอจะได้ไปงานศพแด๊ดวันเดียวกันเลย แล้วเธอก็จะกลายเป็นนังลูกเลี้ยงเนรคุณ งูอสรพิษที่แว้งกัดคนเลี้ยง”
“คนใจร้าย หลักฐานอะไร ศศิไม่ได้ทำอะไรผิด ถ้ามีก็คงเป็นหลักฐานเท็จ”
“พี่เชื่อหลักฐานที่อยู่ในมือมากกว่าคำพูดคนขี้อิจฉาอย่างเธอ” เขาปักใจเชื่อว่าแม่ตัวดีเป็นคนขี้อิจฉา เขาเห็นอาการเธอบ่อยครั้ง ในช่วงที่เขาไปลักตัวสาวไทยหน้าหวานมาซ่อนไว้ที่คฤหสาน์ในเวโรนา แม่น้องสาวตัวดีออกอาการเหวี่ยงใส่เขาและสาวไทยอยู่หลายครั้ง แล้วยังร่วมมือกับสามีชาวไทยของบุษบาบัณ ร่วมด้วยช่วยกันมาลักลอบพาคนสวยหนีไป
“งั้นก็ตามใจ แต่ดอนอเล็กซานโดรบังคับศศิไม่ได้หรอก”
เมื่อประกาศเจตนารมณ์ของตัวเองเสร็จ หญิงสาวที่ปากบวมเจ่อเพราะแรงบดจากริมฝีปากสากระคายก็ผลักอกของคนตัวใหญ่ที่ทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจให้ออกห่าง ก่อนจะวิ่งสุดฝีเท้าเท่าที่ร่างกายและเสื้อผ้าจะอำนวยหายลับขึ้นบันได ส่วนคนที่สาดอารมณ์รุนแรงเข้าใส่ยังยืนงงหมุนคว้างอยู่กับที่ ยกมือเสยผมอย่างหงุดหงิด ไม่เข้าใจอารมณ์ที่พลุ่งพล่านอยู่ในอก เขาจะโกรธก็โกรธไม่ลง จะให้รู้สึกอย่างอื่นกับเธอก็เหมือนมีเมฆหมอกแห่งความคลุมเครือในการกระทำของศศิเข้ามาบดบังจนมิด ความคลางแคลงใจยึดกินพื้นที่ในหัวใจของเขาไปหมด
แม้จะยังปวดหัวตุ้บๆอยู่แต่ศศิก็ฝืนตื่นแต่เช้าแล้วลงไปที่แปลงกุหลาบผืนใหญ่ในสวนข้างๆ คฤหาสน์ ดอกกุหลาบหลากสีนานาพันธุ์จากทั่วโลกถูกนำมาปลูกไว้ในแปลงเพาะแห่งนี้ เนื่องจากมาดามอบาเต้ที่จากโลกนี้ไปหลายสิบปีแล้วมีความหลงใหลในกุหลาบหลากหลายสายพันธุ์ จนมาเฟียเฒ่าเซซาเร่ผู้เป็นสามีต้องตามใจภรรยาสุดที่รักด้วยการกว้านหามาปลูกให้ภรรยา และบังเอิญที่ความหลงใหลในราชินีแห่งหมู่มวลดอกไม้ก็ตรงกันกับคุณหนูศศิ
ดังนั้นเมื่อมาดามอบาเต้สิ้นไป ภาระหน้าที่นี้ศศิจึงขอรับไว้ดูแลเอง ศศิมักลงมารดน้ำใส่ปุ๋ยด้วยตัวเองเป็นประจำ เมื่อมันออกดอกก็ตัดกิ่งไปเสียบใส่แจกันไว้ตามที่ต่างๆ หลักๆ แล้วก็มีห้องนอนใหญ่ของเซซาเร่ แต่ไม่มีที่ห้องของอเล็กซานโดร
และการกระทำที่แสนซื่อไร้เดียงสานั้นก็ยิ่งทำให้มาเฟียเฒ่ารักลูกสาวบุญธรรมที่น่าสงสารมากขึ้นไปอีก น่าแปลกที่พื้นนิสัยหลายอย่างของศศิ คล้ายคลึงกับภรรยาของเขาที่จากไปมากราวกับศศิเป็นลูกสาวที่ถอดแบบมาจากภรรยาของเขาเลยทีเดียว จึงทำให้เซซาเร่อดคิดไม่ได้ว่าศศิเป็นลูกสาวจริงๆ ของตนกับภรรยา
“ศศิทำอาหารไม่เก่ง แต่ศศิรู้ว่าแด๊ดชอบดอกกุหลาบ ศศิเอาใจแด๊ดด้วยวิธีการนี้แทนนะคะ” คนเป็นลูกสาวว่าแล้วก็วางแจกันดอกกุหลาบสีขาวช่อโตไว้กลางโต๊ะอาหารเช้า เข้าไปหอมแก้มบิดาฟอดใหญ่ ก่อนจะกลับมานั่งประจำที่โต๊ะอาหาร และลอบมองเจ้าพ่อหนุ่มด้วยสายตาขุ่นเคืองที่ทำให้เขารู้สึกราวกับว่าเป็นส่วนเกิน
“ไม่จำเป็นหรอกศศิ ลูกไม่ต้องเป็นกุลสตรี อ่อนโยน ทำอาหารเก่ง แด๊ดก็รักลูกมาก ศศิเป็นแบบนี้ดีแล้ว ถึงไม่มีทุกอย่างที่แด๊ดว่ามาแด๊ดก็รักศศิมาก...” เซซาเร่ยังไม่ทันพูดจบประโยค อเล็กซานโดรก็พรวดสำลักกาแฟออกมา เพราะบิดาพูดทวนในสิ่งที่เขาด่าว่าศศิเมื่อคืนออกมาหมดแต่ในความหมายที่ตรงข้ามกัน
“ขอโทษครับ” อเล็กซานโดรรีบเอ่ยขอโทษ ยกผ้าขึ้นมาเช็ดปาก ทว่าคู่ปรับที่นั่งอยู่อีกฟากลอบอมยิ้ม
“ระวังหน่อยดอน” เซซาเร่หันไปเอ็ดลูกชาย และยิ่งทำให้คนที่รอซ้ำอยู่ลอบอมยิ้มหนักขึ้นไปอีก
“ศศิกลับมาที่เรื่องของลูกอีกหน่อยถึงแด๊ดจะไม่อยู่ ศศิก็วางใจได้แด๊ดจะหาทางป้องกันไม่ให้ศศิต้องลำบาก ศศิจะอยู่ได้สบายถึงไม่มีแด๊ด”
“แด๊ด” สองคู่ปรับกลายมาเป็นพันธมิตรประสานเสียง เมื่อบิดาพูดถึงเรื่องความเป็นความตาย
“มันเป็นความจริง ไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้าได้หรอก ตอนนี้แด๊ดยังไม่เห็นใครที่เหมาะกับลูกสาวแด๊ดสักคน ศศิอยู่กับแด๊ดไปก่อน แด๊ดจะช่วยศศิหา หรือว่าถ้าศศิชอบพอใครก็บอกแด๊ด แด๊ดกับพี่จะช่วยดูให้”
อเล็กซานโดรเขม่นมองคนอีกฟาก “ทำไมหรือครับแด๊ด ลูกสาวแด๊ดเขาอยากมีสามีแล้วหรือครับ จู่ๆ แด๊ดก็เป็นห่วงเรื่องนี้ขึ้นมา พอแตกเนื้อสาวก็เตรียมจะหาแมลงมาชอนไช”
ดอนเซซาเร่มองลูกชายตาเขียวปั้ดเช่นเดียวกับศศิที่ถึงกับอ้าปากค้าง
อเล็กซานโดรถามน้ำเสียงไม่พอใจ มองหน้าคนที่ไม่ยอมปฏิเสธให้บิดาหาสามีให้อย่างดูแคลน แต่ทว่าคนที่ถูกมองว่าไม่ยอมปฏิเสธ กลับกำลังนั่งงุนงงตัวแข็งค้างปฏิเสธไม่ออกอยู่ต่างหาก
“ทำไมถึงได้พูดอะไรหยาบคายกับน้องแบบนั้น แด๊ดก็ต้องคิดเรื่องแบบนี้เอาไว้บ้าง น้องเป็นสาวแล้ว” เซซาเร่บอกและทำให้ดอนหนุ่มคิดต่อด้วยตัวเองว่า นอกจากเป็นสาวแล้วยังสวยน่ากินมากอีกด้วย เอ่อ...อันที่จริงช่วงนี้ เขาออกจะเหม็นหน้าแม่เด็กร้ายเดียงสานี่ ไม่ค่อยชอบน้องสาวทรยศคนนี้เท่าไหร่ แต่ก็ยอมรับว่าหุ่นเจ้าหล่อนน่าฟัด ใบหน้าสวยจัดน่าฟาดจริงๆ....เฮ้ย...นี่เขาคิดอะไรอยู่ บ้าจริง
คนสวยรู้สึกไม่พอใจคนปากเสีย แต่ก็ไม่อยากทะเลาะกับพี่ชายนอกไส้ต่อหน้าแด๊ด
“ศศิแล้วนี่ทำไมหน้าซีดๆ ไม่สบายหรือเปล่า” เซซาเร่เอ่ยถามคนที่นั่งเงียบมาตลอดมื้ออาหาร เพราะนอกจากกำลังเบิกบานที่ทุกประโยคทุกถ้อยคำที่บิดาเอ่ยมานั้น เต็มไปด้วยความรักและความเป็นห่วงเธอที่มองเผินๆ แล้วมากกว่าอเล็กซานโดรที่เป็นลูกแท้ๆ เสียอีก แต่ศศิก็กำลังตกอยู่ในภวังค์ความเศร้าหากว่าวันหนึ่งบิดาไม่ได้อยู่กับเธอแล้วจริงๆ
“นิดหน่อยค่ะแด๊ด เดี๋ยวศศิหายาทานได้ค่ะ” ศศิบอกแล้วหลบสายตาคนที่มองมาที่เธอ
“เดี๋ยวไปหาหมอกับแด๊ด แด๊ดมีนัดตรวจสุขภาพกับหมอโรแกนที่โรงพยาบาลพอดี”
“ศศิไม่ได้เป็นอะไรมากค่ะ ทานยาก็หายแล้ว”
“ไปหาหมอแค่นี้ทำไมต้องดื้อด้วย แด๊ดบอกให้ไปก็ไปเถอะ ทีแด๊ดบอกว่าจะหาสามีให้ไม่เห็นเถียงสักคำ ถ้าอยากจะมีสามีก็ต้องหัดฉีดยาเก่งๆ เพราะเข็มของหมอมันเล็กกว่าเยอะเลย” คนที่มองคล้ายว่าเป็นส่วนเกินของสองพ่อลูกมาตลอดสำทับขึ้นทำเอาผู้เป็นพ่อตะลึงค้างกับปากร้ายกาจของลูกชาย
“ดอนอเล็กซานโดร” ศศิเรียกเสียงต่ำแบบพร้อมเปิดฉากรบ
“ไม่เอาน่า อเล็กซ์อย่าแกล้งน้องแรงแบบนั้นปากแกทำไมมันร้ายแบบนั้น แซวน้องแรงไปแล้ว” เซซาเร่ปราม “ตามที่แด๊ดบอก ศศิไปหาหมอกับแด๊ดที่โรงพยาบาล”
“ก็ได้ค่ะ ศศิเชื่อแด๊ด” ศศิถอนหายใจแรงรับคำบิดา มองไปฝั่งตรงข้ามด้วยความเสียดายที่ไม่ได้สาดวาจาเผ็ดร้อนเข้าใส่คนนิสัยเสีย ปากไม่ดีบ้าง และอเล็กซานโดรกำลังจะได้ข้อเสียเพิ่มอีกข้อ เมื่อชายหนุ่มลุกจากไปอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย นอกจากนิสัยเสียปากไม่ดีแล้วยังไม่มีมารยาท เอาแต่ใจเป็นที่สุด ศศิเพิ่มเติมข้อเสียของดอนหนุ่มไว้ในใจอีกข้อจากที่มีอยู่ยาวเป็นหางว่าว