“ศศิรู้จักกับท่านทิโมธี ผู้แทนรัฐบาลกลางหรือยัง” ผู้เป็นประมุขใหญ่ของบ้านเปิดฉากขึ้นทีที่เห็นลูกสาวบุญธรรมเดินผ่านประตูเข้ามา เซซาเร่และคนอื่นๆ ไม่ได้ตำหนิที่ศศิมาทีหลัง เธอลงมาตรงเวลาแต่พวกเขามาถึงก่อนเพื่อคุยกัน
“ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณหนูศศิ ตัวจริงคุณหนูสวยมาก ผมเคยได้ยินแต่ชื่อเพิ่งเคยเห็นตัวจริง ได้ข่าวว่าตอนนี้รับงานนางแบบอยู่หรือครับ”
ทิโมธีราวกับเทน้ำมันรดบนเถ้าถ่านที่กำลังมอดดับให้ลุกโชติช่วงขึ้นอีกครั้ง คำถามที่ทำให้คนในครอบครัวอบาเต้มีอารมณ์ที่แตกต่างกัน เซซาเร่เก็บอารมณ์ได้ดีที่สุดเขาไม่อยากให้ศศิทำงานเดินแบบแต่ก็ไม่อยากขัดใจลูก ส่วนพี่ชายแต่เปลือกนั่งใบหน้าเรียบเกร็งค่อนไปทางไม่พอใจเมื่อมาเฟียเฒ่าเห็นว่าลูกสาวหน้าจืดเจื่อนเงียบไปหลายอึดใจเซซาเร่ก็เป็นฝ่ายตอบแทน
“นางแบบมือสมัครเล่นน่ะครับ เห็นว่าชอบก็เลยตามใจ อยากทำผมก็ให้ทำ”
“ผมว่าคุณหนูสวยกว่าซุปเปอร์โมเดลบางคนอีกนะครับ ถ้าคิดทำจริงคงเป็นนางแบบแถวหน้าได้เลยทีเดียว”
คนฟังถึงงานตัวเองยิ้มบางๆ ให้เมื่ออีกฝ่ายชมซึ่งหน้า ถึงไม่ได้รักไม่ได้ชอบงานนางแบบจริงจังเพราะที่ทำก็เพียงเพื่อต้องการหลบหน้าพี่ชายที่คิดจ้องแต่จะเอาเปรียบกับเรือนร่างเธอทุกครั้งที่มีโอกาสก็เท่านั้น
“คงไม่ได้ไปเดินแบบที่มิลานหรือที่ไหนอีกแล้วล่ะครับ ผมอยากให้ช่วยกิจการของครอบครัวมากกว่า พี่อยากให้เธอมาช่วยงานที่แม็กซ์เวล”
เจ้าพ่อหนุ่มพูดกึ่งสั่ง นั่งหลังตรงไม่แม้แต่จะหันมามองคนข้างหลังที่เม้มปากเข้าหากันแน่นด้วยความขัดเคืองไม่พอใจที่จู่ๆ ก็ถูกบังคับให้ทำโน่นทำนี่อีกแล้ว
“แด๊ดคะ ศศิไม่ไปนะคะ” เมื่อทำอะไรไม่ได้คุณหนูคนเล็กก็ร้องหาตัวช่วย
“ศศิ อเล็กซ์ ไว้เราค่อยคุยถึงเรื่องนี้กันทีหลัง ต่อหน้าแขกไม่ควรเสียมารยาท ป่านนี้แขกของเราคงหิวแล้ว มานั่งข้างๆ พี่เขานี่ศศิ”
ถ้าเป็นไปได้ศศิอยากจะเดินหนีคนเจ้าอารมณ์ จอมออกคำสั่งคนนี้ไปให้ไกลๆ เขามีสิทธิ์อะไรมาบงการชีวิตเธอแต่เห็นกับบิดา คนไม่พอใจก็จำต้องเก็บกดข่มอารมณ์ไว้ ก้าวเดินมานั่งที่นั่งข้างๆ พี่ชายที่ไม่เห็นว่าเธอเป็นน้องสาวอีกแล้วเพราะเขาจ้องจะทำลายล้างเธออยู่ตลอด ศศิจำใจต้องปั้นหน้ายิ้มใหม่อย่างสุภาพเมื่อบริกรที่ดูแลการเสิร์ฟอาหารมาทำหน้าที่เลื่อนเก้าอี้ให้เธอนั่ง
“ผมให้พ่อครัวของเราเตรียมอาหารไว้มากมาย ทั้งอาหารชั้นดีและไวน์เลิศรสรับรองว่าคุณต้องติดใจจนต้องขอกลับมาที่นี่อีกหรือไม่ก็ขอซื้อตัวเชฟของผมไปเลย” เซซาเร่ชวนคุยหัวเราะร่าอย่างอารมณ์ดี ซึ่งทำให้บรรยากาศบนโต๊ะอาหารผ่อนคลายขึ้น
“ถ้าท่านผู้แทนได้เชฟไปทำอาหารแล้ว งั้นผมคงต้องฝากไวน์ชั้นหนึ่งของเราให้ท่านนำกลับไปด้วยสักสิบลังเพื่อกินคู่กับอาหารที่ว่ารสชาติเยี่ยมอยู่แล้วให้ยิ่งอร่อยเลิศลิ้นขึ้นไปอีก” อเล็กซานโดรช่วยเสริมบิดาอีกแรง เพื่อให้การร่วมรับประทานอาหารระหว่างกันนี้ดำเนินไปอย่างสมบูรณ์
“ฮ่าๆ ถ้าอย่างนั้นผมคงต้องกลับมาแน่ครับ หลังจากเขียนรายงานส่งให้รัฐบาลกลางว่าตระกูลอบาเต้ช่างเป็นตระกูลที่มีน้ำใจมหาศาล ข่าวที่มีออกไปก่อนหน้านี้เชื่อถือไม่ได้โกหกหลอกลวงทั้งเพ”
การรับประทานอาหารมื้อนี้เซซาเร่และอเล็กซานโดรทำสำเร็จ ทิโมธีไม่อยากมีปัญหากับตระกูลอบาเต้เขายังอยากอยู่ที่เวโรนาอย่างมีความสุขและมีเงินสนับสนุนช่วยเหลือเวลาที่มีการเลือกตั้ง แม้ต้องทำตัวเข้าข้างมาเฟียอย่างน่าเกลียดก็ตาม เสียงพูดคุยหัวเราะขณะรับประทานอาหารยังมีต่อไปเรื่อยๆ โดยการสนทนาของผู้แทนรัฐบาลกลางดึงความสนใจของมาเฟียเฒ่าไปจนหมด จนไม่ทันสังเกตว่าหนุ่มสาวอีกคู่ต่างนั่งเงียบเพราะลูกชายคนเดียวของเขากำลังส่งสายตาฟาดฟันไปให้แม่น้องน้อยที่นั่งนิ่งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เพราะอเล็กซานโดรมั่นใจเหลือเกินว่าศศิมีส่วนรู้เห็นเกี่ยวกับการให้ข้อมูลความลับแก่ศัตรู ส่วนศศิก็ไม่รู้ว่าตัวเองทำอะไรผิด
เมื่อมื้ออาหารค่ำจบลงและแขกพิเศษลากลับบ้านไปแล้ว เซซาเร่กับอเล็กซานโดรต่างแยกย้ายกันไปพักหลังส่งแขกเสร็จ ดวงไฟภายในคฤหาสน์เริ่มมืดดับลงบางส่วนคงเหลือไว้บางจุด คนที่ขอตัวจากโต๊ะอาหารขึ้นไปพักก่อนใครก้าวเท้าเปิดประตูออกมาจากห้องนอน อาการครั่นเนื้อครั่นตัวคล้ายจะเป็นไข้ทำให้ศศิตัดสินใจลงมาที่ชั้นล่างของคฤหาสน์เพื่อหายารับประทานเองโดยไม่ต้องพึ่งพามาเรียหรือสาวใช้ ปกติเธอจะเก็บยาแก้ปวดไว้ในห้องนอนอยู่เสมอแต่ทว่าวันนี้ยาหมดจากกระปุกพอดี
ร่างระเหิดระหงในชุดคลุมรัดกุม หยุดอยู่หน้าตู้ยาและเปิดออก มองหาไม่นานก็เจอยาแก้ปวดที่ต้องการมือบางหยิบขวดยามาถือแล้วต้องตกใจเกือบทำหลุดมือ เมื่อเสียงทุ้มกังวานคุ้นหูดังขึ้นเบื้องหลัง
“ลงมาทำอะไรมืดค่ำ” เจ้าพ่อหนุ่มเจ้าของคฤหาสน์เอ่ยถาม เขาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ในชุดลำลองแบบสบายๆ แล้ว กำลังลงมาหากาแฟดำขึ้นไปดื่มระหว่างทำงานยามดึกจึงมาพบศศิเข้า
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ” ศศิบอกปัด
“ดอนคงไม่ได้อยากรู้จริงๆ” ด้วยความน้อยใจที่ยังคงหลงเหลืออยู่ผลักดันให้ศศิไม่คิดจะบอกว่าเธอกำลังป่วย โดยมีต้นเหตุมาจากเขา เธอทั้งเพลียและเหนื่อยจากการทำงานมาตลอดสองอาทิตย์ พอจะได้พักผ่อนยาวๆ ก็ถูกเขาบังคับให้กลับเวโรนาอย่างรีบเร่ง ทำให้อาการอ่อนล้าบวกกับความกรุ่นโกรธแสดงออกมาเป็นอาการเจ็บไข้ได้ป่วยแทน
“ผู้หญิงอย่างเธอพี่ควรไว้ใจเหรอ”
จากน้ำเสียงหยามหมิ่นกับท่าทางกวนๆ ของเขาทำให้ศศิกระบอกตาร้อนผ่าวขึ้นทันที ในสายตาของ อเล็กซานโดรคิดแต่ว่าเธอเป็นคนเลวร้าย ร่านริษยา ไม่เคยมองเห็นอะไรที่ลึกลงไปกว่านั้น
“ใช่ค่ะ ศศิร่าน แพศยา หน้าด้าน หน้าไม่อาย พอใจไหม ดอนคงรักผู้หญิงคนนั้นมากถึงไม่เคยมองเห็นความจริงสักทีว่าศศิช่วยดอนเขาไม่ได้รักดอนอเล็กซานโดร แต่เขารักสามีของเขา ได้ยินชัดมั้ย ผู้หญิงเขาไม่มีใจยังคิดจะไปแย่งเขามา ผู้ชายอะไรผู้หญิงก็ให้รอบเอวแต่ไม่ถูกใจถึงคิดไปแย่งเมียชาวบ้าน”
“ศศิ!” อเล็กซานโดรตวาดลั่นเมื่อศศิเอาเรื่องเก่ามาพูดแทงใจดำ
“ศศิพูดความจริง”
“อยากพูดความจริงนัก งั้นเธอก็ต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่เธอทำลงไปด้วย ใช่พี่รักเขา รักคุณบุษบาบัณ รักแบบที่ไม่มีวันจะรักใครได้อีก เขาอ่อนโยน เป็นกุลสตรี ทำอาหารเก่ง ซึ่งที่พี่พูดมาทั้งหมดมันไม่มีในตัวเธอ
อเล็กซานโดรมองยิ้มหยัน “ส่วนเธอน่ะเหรอ อาหารก็ไม่ได้เรื่อง เอาอกเอาใจก็ไม่เป็น ดื้อด้านไม่อ่อนหวานสักนิด เพราะฉะนั้นไอ้ที่เธอพยายามทำมาทั้งหมดมันก็ไม่มีผลอะไร คราวนี้เธอได้ยินชัดหรือยัง”
“ศศิไม่อยากฟังหรอกว่าดอนเห็นคุณบุษบาบัณเป็นนางฟ้าแค่ไหน แล้วเห็นศศิเป็นนางมารร้าย แต่ไม่แน่หรอก...” ศศิหยุดพูดออกเสียงแต่ก็ยังคิดต่อไปเรื่อยๆ
‘สักวันอย่ามาหลงรักนางมารร้ายอย่างศศิก็แล้วกัน’
“ทนไม่ได้ใช่ไหม อิจฉาเขาล่ะสิ เพราะอยากได้พี่เป็นผัวแต่ทำยังไงพี่ก็ไม่สน จนต้องกลั่นแกล้งพี่ ขัดขวางความสุขของพี่ ร้ายที่สุดยังคิดทำร้ายครอบครัวของเราอีก”
“ไม่จริง ศศิไม่เคยคิด ไม่ได้ทำอะไรแบบนั้นอย่ามายัดข้อหา” เธอเชิดหน้าสบสายตากับเขายืนยันในความบริสุทธิ์
“แต่ภาพมันฟ้องอยู่เต็มตา เธอคงลืมไปว่าพี่มันมาเฟียตัวเอ้ พี่ให้คนไปสืบแล้วข้อมูลที่ไอ้ริคคาร์โดมันได้มา มันได้มาจากเธอจริงๆ”
ความตกใจกับข้อกล่าวหาอันรุนแรงนั้นพุ่งเข้าเกาะกินหัวใจ ลามไปส่วนอื่นๆ ของร่างกายจนเย็นเฉียบไปทั้งร่าง ศศิไม่มีทางรู้เลยว่าตัวเองหน้าซีดไร้สีเลือดแค่ไหน จนได้ยินประโยคถัดไปที่อเล็กซานโดรสาดเข้าใส่
“ต่อจากนี้ชีวิตเธอเป็นของพี่ ร่างกายของเธอด้วย อย่าพาตัวเองไปสำส่อนเสนอให้ผู้ชายที่ไหนอีก ไหนๆเธอก็อยากได้พี่จนตัวสั่นอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ พี่คนนี้จะสนองให้เอง จัดให้เธอแบบถึงใจจนคลานลงจากเตียงไม่ไหวเลยชอบมั้ย”