รถขับเคลื่อนสี่ล้อสีดำคันใหญ่ที่รอบๆ ตัวรถมีคราบฝุ่นเกาะจนแทบจะจำสีเดิมไม่ได้ แล่นตะบึงด้วยความเร็วจากฝีเท้าของชายหนุ่มร่างสูงในชุดเครื่องแบบทหารสีเขียวเข้ม ความเร็วของรถทำให้ชายหนุ่มในชุดทหารที่นั่งอยู่เบาะข้างๆ ถึงกับต้องควักพระเครื่องที่คล้องคอออกมา ก่อนจะยกขึ้นเหนือหน้าผากแล้วหันไปบอกคนขับเสียงละห้อย
“พี่ครับ ผมยังไม่อยากตายก่อนวัยอันควรนะครับ บวชก็ยังไม่ได้บวช เมียก็ยังหาไม่ได้”
พันตรีแสนคม อริยวรรต ชำเลืองมองร้อยเอกบดินทร์ วงศ์เจริญ นายทหารหน่วยเดียวกันด้วยแววตาขบขัน แล้วค่อยๆ ลดความเร็วลงแต่ก็ยังเร็วอยู่ดี ในขณะที่ร้อยเอกบดินทร์ค่อยๆ ผ่อนลมหายใจออกมาด้วยสีหน้าที่ดีขึ้น
“กลัวขนาดนั้นเลยหรือดิน ยังไม่ชินอีกหรือไง” พันตรีหนุ่มถามทหารรุ่นน้องน้ำเสียงกลั้วหัวเราะ
คนถูกถามส่งค้อนให้ราวกับผู้หญิง “โธ่...ใครจะไปชินล่ะครับ ที่จ่าโชติกับจ่าทัศน์บอกผมว่านั่งรถที่ผู้พันขับทีไรขี้หดตดหายทุกที ตอนนี้ผมเข้าใจความรู้สึกแล้ว”
“พี่คิดถึงบ้านอยากถึงเร็วๆ”
นายทหารรุ่นพี่บอกพลางคลี่ยิ้ม ทำให้ใบหน้าที่เจ้าตัวชอบปั้นให้ดุอยู่เป็นนิตย์ดูละมุนขึ้น จนบดินทร์อดนึกในใจไม่ได้ว่า ถ้าอีกฝ่ายขยันยิ้มแบบนี้สาวๆ คงติดกันเกรียว นี่อะไร หน้าตาก็ออกจะหล่อเหลาราวกับไอดอลเกาหลี แต่ชอบทำหน้าดุเสมอ แต่ขนาดชอบทำหน้าดุอย่างนี้ ก็ยังมีสาวๆ แวะเวียนมาหาอยู่บ่อยๆ
ทว่าใครที่อยู่ใกล้ชิดย่อมรู้ดีว่าคนหน้าดุอย่างผู้พันแสนคม ผู้มีวาจาคมสมชื่อนั้น มีน้ำใจกว้างขวางเพียงใด ไม่อย่างนั้นคงไม่ได้ใจผู้ใต้บังคับบัญชารวมทั้งคนในหมู่บ้าน จึงไม่น่าแปลกใจที่ผู้พันมักจะได้รับความร่วมมือในทุกเรื่อง
“พี่แสนคมไม่ได้กลับบ้านนานเท่าไหร่แล้วครับ”
“สามเดือน” คนถูกถามตอบเรียบๆ ราวกับระยะเวลาที่พูดถึงไม่ได้นานอะไรนักหนา แสนคมเป็นนายทหารในสังกัดกองพลพัฒนาที่ 1 ของกองทัพบก ซึ่งปฏิบัติงานด้านการพัฒนาประเทศ และมีภารกิจสำคัญๆ คือ งานพัฒนาตามโครงการอันสืบเนื่องมาจากพระราชดำริ ซึ่งนายทหารหนุ่มมีความภูมิใจอย่างมากที่ได้ทำงานด้านนี้ ไม่แพ้การประจำอยู่ตามแนวชายแดน
เขาย้ายมาจากดอยฟ้าห่มปก ที่จังหวัดเชียงใหม่เมื่อกลางปีที่แล้ว ด้วยความที่นายทหารหนุ่มเป็นคนผิวขาวอยู่แล้ว ผิวพรรณจึงค่อนข้างแตกต่างจากทหารราบ
“สามเดือนเองหรือครับ ผมนึกว่ามากกว่านั้นซะอีก ถ้าผมไม่ได้กลับบ้านสามเดือนแบบพี่ คงโดนที่บ้านโทร. มาบ่นเช้าบ่นเย็นแล้วครับ แล้วอย่างนี้สาวๆ ที่เมืองกรุงไม่คิดถึงกันแย่หรือครับ”
บดินทร์กล้าพูดกระเซ้า เพราะเขารู้จักสนิทสนมกับแสนคมตั้งแต่เรียนเตรียมทหาร แถมยังเลือกเรียนเหล่าเดียวกันอีก เขาเองก็เพิ่งย้ายมาจากสามจังหวัดชายแดนใต้ได้ไม่ถึงสามเดือน และบังเอิญได้มาร่วมงานกับอีกฝ่าย ซึ่งย้ายมาจากดอยฟ้าห่มปกเมื่อกลางปีที่แล้วเช่นกัน
การได้มาเจอกันทำให้ความสนิทสนมที่มีอยู่เป็นทุนเดิมนั้นเพิ่มพูนขึ้น ทั้งยังได้เห็นการทำงานอย่างเอาจริงเอาจัง ตรงไปตรงมา ที่สำคัญไม่ถือว่าตัวเองเป็นถึงบุตรชายคนเดียวของแม่ทัพภาคที่กำลังรุ่งโรจน์อยู่ในกองทัพ จึงทำให้ผู้พันหนุ่มเป็นที่รักของผู้ใต้บังคับบัญชาและคนในหมู่บ้าน จะยกเว้นก็แต่พวกลักลอบตัดไม้ทำลายป่าที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตลอด
“พี่ไม่มีสาวๆ ให้คิดถึงเหมือนนายหรอกน่าผู้กองดิน อย่าเอาตัวเองมาเป็นบรรทัดฐานสิ”
แสนคมตอบพลางคลี่ยิ้มน้อยๆ ทำให้ใบหน้าขาวดูหล่อเหลาขึ้นอีกโข “แล้วหยุดพักหลายวันแทนที่จะกลับบ้านตัวเอง นึกยังไงถึงจะตามไปเที่ยวบ้านพี่ ไม่กลัวที่บ้านจะบ่นหรือไง”
บดินทร์ส่ายหน้าหวือ “ช่วงนี้คงไม่กลับบ่อยเหมือนเดิมแล้วครับพี่ ขืนกลับไปตอนนี้ละแย่แน่ๆ”
คำพูดของทหารรุ่นน้องทำให้คนยิ้มยากยิ้มอีกครั้ง
“ไปทำลูกสาวใครท้องเข้าล่ะ”
“อ้าว...พี่หาคุกหาตะรางมาให้ผมแล้วไหมล่ะ” บดินทร์ค้อนคนพูดเป็นครั้งที่สอง “พ่อกับแม่ผมสิครับจู่ๆ ก็ถามว่าเมื่อไหร่จะมีเมียซะที”
“ทำไมนายไม่บอกพวกท่านไปล่ะว่าเมียน่ะมีหลายคนแล้ว”
“ขืนบอกแบบนั้นหัวผมก็แตกสิครับพี่ แหม แนะนำแต่ละอย่าง รักน้องจริงๆ นะพี่แสนคม” คนถูกกระเซ้าโอดครวญ จนแสนคมอดหัวเราะรุ่นน้องเจ้าเสน่ห์ไม่ได้
“แล้วทำไมจู่ๆ พ่อกับแม่นายถึงถามอย่างนั้นล่ะ”
“ก็ไม่รู้ไปฟังใครพูดมาว่าอายุเท่าผม ถ้ายังไม่มีเมียน่าจะเป็นพวกชอบไม้ป่าเดียวกัน ดูสิครับพี่ พ่อแม่ผมทันสมัยไหมล่ะ ทีนี้ก็พยายามแนะนำคนโน้นคนนี้ให้ ช่วงนี้เลยต้องหาทางหลบไม่งั้นอาจได้แต่งงานโดยไม่รู้ตัว”
บดินทร์พูดถึงบิดามารดาบังเกิดเกล้าอย่างขำๆ พลอยทำให้แสนคมหัวเราะตามไปด้วย พลางคิดในใจว่า ถ้าอีกฝ่ายโดนคิดเช่นนี้ ตัวเขาเองก็คงไม่แคล้วจะโดนเช่นเดียวกัน แม้ว่าครอบครัวจะไม่ค่อยยุ่งเรื่องส่วนตัวของเขาเท่าไรนักก็ตาม แต่ก็มีคำถามเปรยๆ บ้างเหมือนกัน ซึ่งเขาก็พยายามหลบและเลี่ยงที่จะตอบตลอด
เพราะพันตรีหนุ่มก็หวงชีวิตโสดของตัวเองไม่น้อยไปกว่ารุ่นน้องเช่นกัน
“ถ้าพ่อแม่นายมาเห็นลูกชายควงสาวไม่ซ้ำหน้าคงต้องเปลี่ยนความคิด เพราะอาจได้ลูกสะใภ้โดยไม่รู้ตัวแทน”
“พี่ก็พูดไป นั่นมันเมื่อก่อน ตอนนี้ผมยังไม่พร้อมจะมีครอบครัวเลยครับ อยากใช้ชีวิตโสดไปอีกนานๆ” บดินทร์พูดเสียงจริงจังตามประสาคนรักชีวิตโสด