ทะ ทำไมเป็นฉันล่ะ!!!
ฉันไม่รู้จักเขานะ!
ฉันพยายามเพ่งมองคนตัวสูงแต่ไม่ว่ามองยังไงก็ไม่คุ้น นึกไม่ออกเลยว่าเคยเจอกันมาก่อน แต่การที่เขามาตามหาฉันแบบนี้จะมีเหตุผลอะไรได้... เขาชอบฉันเหรอ ไม่อ่ะ ดูจากสายตาที่พร้อมจะฆ่าแล้ว อิมพอสสิเบิ้ลมาก
“จะ จำผิดคนรึเปล่าคะ?” ฉันกลืนน้ำลายอึกเมื่อถูกสายตาดุๆ นั่นมองมา ตัวฉันก็เกร็งไปหมด
นี่มันวันอะไรกันวะ วันรวมตัวฆาตกรเหรอ ดูหน้าแต่ละคนสิ มีรังสีฆ่าฟันจนฉันจะเป็นลมอยู่แล้ว ;_;
“อืม... งั้นไหนเธอลองปล่อยผมสิ๊” เขาชี้นิ้วสั่ง และฉันก็ทำตาม เผื่อว่าบางทีฉันจะหน้าโหลและเขามีปัญหากับสายตาเลยมองผิด
พรึ่บ!
ฉันปล่อยผมลงแล้วสางมันเบาๆ เขาย่นคิ้วเล็กน้อย
“หันข้าง”
ฉันหันตามคำสั่ง
“หมุนตัวสามที”
ฉันหมุนตัวประหนึ่งนางงาม ในขณะที่ไลท์ยืนนิ่งๆ และหน้าของเขาก็หงุดหงิดขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งหมอนั่นได้ใจและสั่งให้ฉันทำอีก
“ไหน ลองเห่า”
ฮะ!
“อยากลองตายดูมั้ยล่ะ?” ไลท์ย่นคิ้วโกรธๆ หากแต่คนที่อยู่ตรงหน้าแสยะยิ้มชอบใจที่ได้กวนประสาทพวกฉัน เขาไหวไหล่ทีนึงแล้วตอบกลับมา
“ฉันก็แค่ล้อเล่น... ฉันจำไม่ผิดหรอก ไม่ว่าจะมองยังไงมันก็เธอ แม้แต่ไฝบนหน้าก็มีห้าเม็ดเท่ากัน ทำไมฉันจะพลาดล่ะ” อีตานั่นยิ้มจนตาหยีเป็นพระจันทร์ครึ่งเสี้ยว แต่ยิ่งเขายิ้ม ฉันยิ่งรู้สึกกลัวแบบแปลกๆ ขนาดฉันเกิดมาตั้งหลายปี ฉันยังไม่รู้เลยว่าบนหนังหน้าฉันมีไฝห้าเม็ดเนี่ย! เขาจะใส่ใจในรายละเอียดมากเกินไปมั้ยวะ!
“ใช่ เธอนี่แหละไม่ผิดแน่” ไอ้โล้นที่แลจะคล้ายลูกกระจ๊อกผู้ยืนอยู่ข้างๆ ผู้ชายคนนั้นเอ่ยเสริม “ฉันไม่มีทางจำผู้หญิงที่ทุ่มฉันลงบนฟุตบาทแล้วโยนลงน้ำผิดได้หรอก!”
“ไปกันใหญ่แล้ว ฉันจะทำอย่างนั้นได้ยังไง” ฉันชะงักกับสิ่งที่พวกนั้นปรักปรำ ผู้หญิงอย่างฉันน่ะเหรอจะจับเขาทุ่ม แค่ยกน้ำแพ็คนึงมือฉันยังสั่นเลย จะเอาแรงมหาศาลขนาดนั้นไปทำสิ่งที่เขาบอกได้ไงล่ะ
“เธอนั่นแหละที่ทำ อย่ามาไขสือหน่อยเลยน่ะ”
“แฟนฉันก็บอกแล้วไงว่าไม่ได้ทำ พูดไม่เข้าใจไงวะ” ไลท์ส่งเสียงคำรามในคอฮึ่มฮั่มและนั่นทำให้ฉันสะกิดแขนเสื้อเขาเล็กน้อย
ก็รู้นะว่าเลือดร้อน แต่ตอนนี้ฝ่ายนั้นหก พวกเราสอง จะไปสู้ไหวได้ไงล่ะ!
“โฮ่ งั้นเหรอ แย่ว่ะ วันนี้ฉันไม่ทำอะไรหรอก แค่อยากจะมาทักทายและขอไลน์สักหน่อย” หมอนั่นหัวเราะก่อนจะหยิบมือถือขึ้นมา ไลท์ทำหน้าตึงเครียดเหมือนจะพุ่งเข้าไปต่อยเขาและพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
“ก็บอกอยู่ว่าแฟนกู ขอไลน์เหี้ยไร” เขาเริ่มสบถคำหยาบ
อะ เออ มาขอไลน์อะไร ใครจะไปให้ แค่ไลท์ก็อันตรายกับชีวิตฉันมากแล้ว ละยังจะมีเจ้าพวกนี้อีกเหรอ ไม่เอาหรอก!
“ก็ไม่ได้ขอมึงซะหน่อย กูขอแฟนมึง ถ้าไม่ให้ก็คงต้องใช้กำลัง” ผู้ชายคนนั้นย่นคิ้วไม่พอใจเล็กน้อย แถมยังหน้าด้านพยายามยื่นมือถือให้ฉัน
ม่ะ แม่จ๋า ช่วยด้วย นี่ฉันอยู่ในยุคไดโนเสาร์รึไง ถึงได้เอะอะจะล่า จะฆ่ากันแบบนี้ บ้านป่าเมืองเถื่อนที่สุด ฮือ
“แล้วใครบอกจะไม่ให้?” เสียงนั่นดังขึ้นและมันไม่ใช่เสียงฉัน ไม่ใช่เสียงผู้ชายคนนั้น แต่เป็นเสียงของไลท์ เขาทำให้ฉันชะงักและงงหนักมาก ป้าฉันบอกว่าถ้าใครโดนน้ำหอมมหาเสน่ห์นั่นจะทั้งรักทั้งหลง แต่ฉันไม่เข้าใจจริงๆ ว่าความรักของหมอนี่คืออะไร...
“ถ้ามึงอยากได้ก็เอาเงินมา ไลน์แฟนกูมี 7 ตัวอักษร ตัวอักษรละ 200 บาท”
หะ หา
ฉันอึ้ง ผู้ชายคนนั้นก็อึ้ง พวกเราเผลอสบตากันอย่างไม่ได้ตั้งใจก่อนจะเลื่อนสายตาไปที่ไลท์ ฉันไม่ได้หูฝาดและคิดไปเองใช่มั้ยเนี่ย เมื่อกี้เขาขายฉันหน้าด้านๆ เลยนี่!
“เร็วๆ จะเอามั้ยไลน์อ่ะ ถ้าชักช้ากว่านี้ฉันจะคิดเพิ่มนาทีละหนึ่งบาท”
“ฮะๆๆ นายนี่แม่งตลกว่ะ ทำแบบนี้กับแฟนก็ได้เหรอวะ ตกลงไม่ใช่แฟนกันจริง?”
“แฟนสิ ทำไมจะไม่ใช่ ดูด้วยว่าเราสองคนรักกันแค่ไหน” ไม่พูดเปล่าอีตานั่นถือวิสาสะโอบไหล่แล้วตีดังแปะเพื่อแสดงให้ผู้ชายคนนั้นเห็นถึงความสนิทสนมที่ฉันไม่เคยมีกับไลท์
รักกันแค่ไหนเหรอ... พูดมาได้
“นายทำอะไร?” ฉันย่นคิ้วและกระซิบกระซาบก่อนที่คนตัวสูงจะตอบฉันกลับมาหน้าด้านๆ
“ทำอะไร ก็หาเงินค่าดูหนังและชาบูสำหรับเราสองคนไง”
“ฮะ?”
“อย่าพูดมากน่า แฟนกันก็ต้องช่วยกันทำมาหากินสิ” เขาบอกฉันอย่างนั้นก่อนจะหันไปหาผู้ชายที่จ้องฉันไม่ละและแบมือเพื่อรอเงินอย่างเอาจริงเอาจัง
โอ้ พระเจ้า เกิดมาฉันไม่เคยเจอคนแบบนี้เลยจริงๆ
“ถ้าฉันแอดแล้วไม่เจอไลน์แฟนนาย ก็คงรู้นะว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
“เงินมา ไลน์ไป” ไลท์ไหวไหล่แล้วกระดกมือเล็กน้อยด้วยแววตาชั่วช้าสามานย์มาก เขาแม่งเป็นคนที่แบบฉันไม่สามารถหาคำใดมาอธิบายได้เลยจริงๆ เขาขายฉันต่อหน้าต่อตา ไอ้บ้าเอ๊ย!
พวกเขาเจรจาเหมือนทำธุรกิจและฉันเป็นสินค้า แต่ไลท์ไม่ได้บอกไลน์ของฉันแต่มันเป็นของใครไม่รู้ ดูจากชื่อน่าจะเป็นตัวเองซะมากกว่า
“L-I-G-H-T-E-X”
“ไลท์? เป็นชื่อของเธอเหรอ แหม ฟังดูเข้ากับฉันเลยนะ ฉันชื่อลิ้งค์ ยินดีที่ได้รู้จัก” หมอนั่นยิ้มกว้างแล้วยื่นมือมาเหมือนจะให้ฉันจับ แต่ฉันไม่กล้าแม้แต่จะแตะปลายนิ้วของเขา ก็หมอนั่นหน้าดุจะตาย แถมยังมาหาว่าฉันเคยทำร้ายคนของเขาอีก! เขาไม่มีทางจะมาดีแน่!
“เสียใจด้วยว่ะ ไลท์มันชื่อกูต่างหาก เพราะแฟนกูเขารักกูมากเลยตั้งเป็นชื่อกูไงล่ะ”
...
...
...แถสุด
“อ๋อ เหรอ” เขาหัวเราะก่อนจะค่อยๆ ดึงมือกลับเมื่อเห็นว่าฉันไม่คิดจะมีปฏิสัมพันธ์ด้วย
“ลิ้ง ฉันจำชื่อยัยนี่ได้ วันนั้นตอนที่มันทุ่มฉัน ยัยนี่ก็แนะนำตัวเสร็จสรรพ” ไอ้โล้นที่ดูเหมือนลูกกระจ๊อกมันชี้หน้ายืนจังก้าเหมือนแค้นฉันตั้งแต่ชาติปางก่อน “ยัยนี่ชื่อแอล!”
แอล... แอลอะไรของหมอนี่อีกเนี่ย! ฉันชื่อเด็มอยู่ดีๆ จะมาเปลี่ยนชื่อให้ฉันหาพระแสงอะไร!
ฉันหงุดหงิดมากแต่ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากยืนนิ่งๆ และมองด้วยสีหน้าต่อต้าน แม้ฉันจะรู้ว่าทั้งไลท์และพวกนั้นอันตรายกันทุกคนแต่ตอนนี้ฉันไม่รู้ว่าตัวเองควรจะอยู่ตรงไหน เลยยืนเก้ๆ กังๆ หลบหลังไลท์
“ฉันไม่ได้ชื่อแอล”
“เธออย่ามาโกหกดีกว่า”
“ฉันไม่ได้โกหก ฉันชื่อเด็มต่างหาก พวกนายจำผิดคนแล้ว!” ฉันว่า นึกอยากจะโชว์บัตรนิสิตให้พวกนั้นดูเป็นประจักษ์พยานแต่บัตรนิสิตก็ดันไม่ได้ระบุชื่อเล่นเอาไว้
ฉันไม่รู้จักชื่อแอลและฉันก็ไม่ใช่คนที่พวกมันตามหา แต่ทำไมฉันต้องมาซวยไปด้วยเนี่ย!
“เธอพิสูจน์ได้มั้ยล่ะว่าเธอไม่ใช่”
“แล้วฉันจะพิสูจน์ยังไง” ฉันย่นคิ้ว
“วันเสาร์ที่ผ่านมา ตอนสองทุ่มเธออยู่ที่ไหน... กับใคร มีพยานรึเปล่า” ไอ้โล้นนั่นท้าทายฉัน และฉันเดาว่าวันนั้นคือวันที่เกิดเรื่อง หรือพูดอีกอย่างก็คือวันที่ไอ้โล้นนี่โดนผู้หญิงที่ชื่อแอลทำร้าย
ฉันถอนหายใจเซ็ง มันก็แค่เรื่องง่ายๆ ในการพิสูจน์ว่าฉันไม่ใช่ผู้หญิงคนนั้น ฉันเลยพยายามนึกถึงวันเสาร์ตอนสองทุ่ม...
ฉันนึก
และนึกอีก...
แต่ฉันนึกไม่ออกเลยว่าวันนั้นฉันอยู่ที่ไหน...