ลิ้นร้อนโบกตวัดเคล้าคลึงกับลิ้นเล็ก ดูดดึงจนญารินผวาวาบ ร่างกายหลอมละลายไปกับสัมผัสของเขาจนรู้สึกคล้ายกับว่าร่างกายกำลังจมหายไปกับเกลียวคลื่น
หญิงสาวหลับตาพริ้ม จูบตอบเขากลับไปอย่างไม่ประสีประสา วูบหนึ่งของความคิดผุดเข้ามาในหัวว่าอยากจะลองสักครั้งเพราะยังไงเธอก็รู้สึกดีกับเขาอยู่แล้ว แต่อีกใจเธอกลับคิดว่าหากเขาจะมีอะไรกับเธอขึ้นมา มันก็ควรจะเกิดขึ้นจากความรู้สึกรัก ไม่ใช่ต้องการเธอเพราะอารมณ์ชั่ววูบแบบนี้
“อื้อ...” คนตัวเล็กตัดสินใจร้องประท้วงขึ้นพร้อมกับตบลงบนไหล่กว้างเบา ๆ เพื่อให้ปุณณภัทรละจากริมฝีปาก
“มีอะไรเหรอ” เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแหบพร่า สายตายังเต็มเปี่ยมไปด้วยความปรารถนา
“หนูคิดว่าถ้าเราสองคนจะมีอะไรกัน มันต้องเกิดจากความรักไม่ใช่เหรอคะ” เธอให้เหตุผลพร้อมกับก้มหน้างุดเพื่อหลบซ่อนใบหน้าที่เห่อแดง “เมื่อกี้คุณเพิ่งบอกแม่ไปว่าเรื่องของเรามันไม่ได้เกิดเพราะความรักนี่คะ”
“มันไม่ได้เกิดเพราะความรักก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะไม่เกิดขึ้นนี่ขิม” คนเห็นแก่ตัวตอบอย่างนึกขัดใจ เวลานี้มันไม่ใช่เวลาจะมาตกลงอะไรเพราะเขาเริ่มจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว
“หมายความว่า ต่อไปในอนาคตคุณอาจจะรักหนูเหรอคะ”
“คงงั้นมั้ง” ปุณณภัทรตอบแบบผ่าน ๆ ก่อนจะโน้มใบหน้าลงจูบเฟ้นซอกคอขาวระหง สูดดมกลิ่นกายสาวเข้าปอดอย่างหื่นกระหาย
“ถ้าหนูยอม...คุณจะรักหนูจริง ๆ เหรอคะ” ญารินพยายามทักท้วงจนคนบนร่างต้องหยุดชะงักอีกครั้ง
“รักสิ ทำไมจะไม่รักล่ะ”
“แต่หนูยังไม่เคย คุณปุณอย่าทำรุนแรงมากนะคะ หนูกลัว...อื้อ...” พูดยังไม่ทันจบ ริมฝีปากของเธอก็ถูกเขาตักตวงความหอมหวานอีกครั้งเพราะเขาถือว่าประโยคนั้นการตกลงแล้ว
ปุณณภัทรพยายามหลอกล่อให้คนใต้ร่างคล้อยตามไปกับเขาด้วยการหยอกเย้าดูดดึงลิ้นเล็กที่เหมือนจะต่อต้านในตอนแรกจนมันเริ่มคุ้นชิน มือหนาจึงเริ่มสำรวจไปทั่วเรือนร่างงามก่อนจะหยุดอยู่ตรงเนินเนื้อที่ใหญ่ทะลักล้นขอบบราออกมา ถึงตอนนั้นเขาจึงถอนจูบอย่างอ้อยอิ่งเพื่อจะไล้ลงมาชื่นชมเต้างาม
ริมฝีปากบางหยักยิ้มมุมปาก ใครจะคิดว่าเด็กน้อยที่มารดาหามาให้จะงดงามซ่อนรูปถึงขนาดนี้
“เธอสวยมากเลยนะขิม สวยกว่าที่ฉันคิดเสียอีก”
ถ้อยคำชื่นชมของเขาทำให้ใบหน้าหวานร้อนผ่าว หลงคิดว่ามันเป็นสิ่งที่เขารู้สึกอย่างแท้จริงโดยไม่ทันล่วงรู้เลยว่าเขาเพียงเอ่ยออกมาเพื่อต้องการจะชื่นชมเรือนร่างของเธอเท่านั้น
“อ๊ะ!” ดวงตากลมโตเบิกกว้างเมื่อฝ่ามือใหญ่กระชากบราตัวน้อยจนหลุดติดมือเผยให้เห็นเต้างามก่อนที่ริมฝีปากร้อนจะงามงับลงบนนั้นพร้อมกับดูดกลืนมันเข้าปากอย่างหื่นกระหาย
“อ๊าย...” ญารินพยายามข่มใจกัดริมฝีปากตัวเองแทบจะห้อเลือดเพื่อห้ามไม่ให้ตัวเองเผลอร้องครางออกมาอย่างยากลำบาก
วินาทีที่กำลังเผลอไผลไปกับสัมผัสแปลกใหม่ที่เขามอบให้อยู่นั้น อยู่ ๆ มือหนาก็กระชากชุดนอนตัวบางลอยละลิ่วติดมือไปพร้อมกับกางเกงชั้นในตัวน้อยจนตอนนี้เรือนร่างงามไม่มีเสื้อผ้าปิดกายหลงเหลืออยู่เลยสักชิ้น
ปุณณภัทรชะงักงันไปชั่วครู่เมื่อเห็นเรือนร่างที่เขาไม่แม้แต่จะเคยเห็นมันจากที่ไหนมาก่อน แม้จะเคยผ่านผู้หญิงมามากมายแต่ทำไมเขากลับรู้สึกว่าญารินต่างออกไป
“เอ่อ...” เจ้าของใบหน้าหวานเลิ่กลั่กเพราะเธอไม่รู้ว่าต้องทำยังไงต่อเมื่อเห็นเขานิ่งเงียบไปเธอจึงประคองกายลุกนั่งแต่ก็ยังถูกรั้งเอาไว้แล้วก่อนที่อีกฝ่ายจะกระชากเรียวขาของเธอให้ขยับเข้าไปใกล้จนส่วนนั้นอยู่ห่างจากใบหน้าเขาไม่ถึงคืบ “จะทำอะไรคะ”
หญิงสาวลนลานด้วยความตกใจ เกิดมาทั้งชีวิตยังไม่เคยแก้ผ้าต่อหน้าบุรุษเลยสักครั้ง แต่นี่เขากลับจับขาเรียวของเธอให้อ้าออกแล้วยังจับจ้องอยู่ตรงส่วนนั้นอีก
มันน่าอายเกินไปแล้ว
“ปละ...ปล่อยหนูเถอะค่ะ”
“ฉันปล่อยแน่ แต่คงไม่ใช่ตอนนี้” เขาตอบในขณะที่สายตายังจดจ่ออยู่ตรงจุดสงวนกลางกาย มือที่จับเรียวขาไว้เลื่อนไปจับกลีบดอกไม้งามจนญารินสะดุ้งเฮือก หายใจติดขัดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
“คุณปุณ...พะ...พอเถอะค่ะ” หญิงสาวผงกศีรษะขึ้นเพื่อร้องห้าม วินาทีนั้นเองที่เธอเห็นว่าเขากำลังโน้มใบหน้าฝากฝังริมฝีปากลงไปบนกลีบดอกไม้ที่ยังปิดสนิทจนเธอเผลอร้องครางออกมา “อ๊ะ...อ๊าย...”
หน้าท้องแบนราบกระเพื่อมขึ้นลงตามจังหวะหายใจหอบถี่ สองขาเรียวหุบเข้าหากันโดยอัตโนมัติแต่ก็ยังถูกมือหนารั้งเอาไว้ เขาใช้มือหนึ่งข้างจับมันวางพาดไว้บนไหล่แล้วใช้นิ้วเรียวบดคลึงตรงเกสรเม็ดเล็ก หยอกเย้าจนมันผลิตน้ำหวานออกมาเปียกชุ่มไปทั้งมือก่อนจะใช้ลิ้นโบกตวัดดูดกลืนอย่างพอใจ
“อื้อ...ซี๊ด” ญารินไม่อาจควบคุมตัวเองได้อีกต่อไปจึงเผลอร้องครางออกมา หญิงสาวหลับตาพริ้ม มือเรียวจิกผ้าห่มเอาไว้แน่นรู้สึกราวกับว่าผีเสื้อนับพันตัวกำลังกระพือปีกบินพร้อมกันจนท้องไส้บิดมวนไปหมด
คนเจ้าเล่ห์ได้ยินเสียงนั้นก็ยิ่งได้ใจเพราะตอนนี้เขาสามารถทำให้คนไร้ประสบการณ์คล้อยตามมาได้จนสำเร็จ ถึงตอนนั้นนิ้วเรียวที่เคล้าคลึงแค่ภายนอกจึงค่อย ๆ รุกล้ำเข้าไปสำรวจภายในโพรงคับแคบจนกายสาวบิดเร่าขึ้นมาอีกครั้ง
“ทะ...ทำอะไรคะ อื้อ...”
“อย่าร้องดังสิ เดี๋ยวคุณย่าก็สงสัยหรอก” เขาแกล้งร้องขู่เพื่ออาศัยจังหวะที่ญารินกำลังตกใจขยับนิ้วร้ายเข้าออกจนมันชุ่มฉ่ำไปหมด
“อื้อ...” คนที่กำลังหลงกลกำลังคิดหนักว่าณฤดีจะได้ยินเสียงอันน่าเกลียดของตัวเอง จึงพยายามกัดริมฝีปากไว้เมื่อมือหนาเริ่มขยับส่งนิ้วเข้าออกเร็วขึ้น เสียงกรีดร้องก็ดังขึ้นมาอีกครั้งจนปุณณภัทรต้องโน้มลงจูบปิดปากเล็กไว้ทั้งที่นิ้วยังฝังตรึงอยู่ในร่องคับแคบ
ไม่ใช่เขากลัวว่าเธอจะร้องเสียงดัง แต่เขาต้องการปลุกปั่นให้หญิงสาวต้องการเขามากกว่านี้ต่างหาก
“อ๊ะ...พะ...พอเถอะค่ะ หนูไม่ไหวแล้ว อ๊าย...” ญารินร้องครางไม่เป็นภาษาเพราะรู้สึกถึงมวลคลื่นที่กำลังก่อตัวบริเวณท้องน้อย เมื่อเขาเร่งจังหวะนิ้วร้ายให้เร็วขึ้นเธอก็รู้สึกได้ทันทีว่าเกลียวคลื่นมันกำลังพุ่งตัวซัดเข้าหาฝั่งจนแตกเป็นระลอก
“เป็นยังไงบ้าง ชอบหรือเปล่า” ปุณณภัทรก้มลงกระซิบถามใกล้กับซอกหูของคนที่เพิ่งจะหมดแรง หญิงสาวได้แต่ส่ายหน้าเป็นคำตอบพอเขาถอดถอนนิ้วออกมาเธอจึงรีบพลิกตัวหันไปอีกทางด้วยความเขินอายทำให้เขารีบจับไหล่เล็กไว้เพื่อรั้งให้เธอหันหน้ามาหาอีกครั้ง “เดี๋ยวก่อนสิ เธอจะหนีฉันไปแบบนี้ไม่ได้นะ”
“พะ...พอเถอะค่ะ หนูไม่ไหวแล้ว” ญารินก้มหน้าในอกกว้างปฏิเสธออกไปด้วยความเขินอาย
“จะพอได้ยังไงก็เมื่อกี้เธอเสร็จไปแล้ว แต่ฉันยังไม่ได้เริ่มเลย”
“เสร็จ...เหรอคะ” หญิงสาวเงยหน้าถามด้วยความไม่เข้าใจ “อะไรคือเสร็จคะ หนูยังไม่เสร็จเสียหน่อย”
“ถ้าไม่เสร็จงั้นเรามาทำใหม่อีกครั้งสิ จะได้เสร็จพร้อมกัน”
“ไม่แล้วค่ะ อื้อ...” เป็นอีกครั้งที่คำพูดของเธอหายไปเพราะเขาปิดปากเล็กนั้นไว้ด้วยความรำคาญ แค่ลิ้นร้อนเลาะเล็มเข้าไปควานหาความหอมหวานภายในโพรงปากเล็ก ร่างงามก็อ่อนระทวยราวกับขี้ผึ้งลนไฟในอ้อมกอดของเขาได้อย่างง่ายดาย
ปุณณภัทรเคล้าคลึงเต้างามครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างไม่รู้เบื่อ ครั้นสัมผัสได้ว่าญารินกำลังเคลิบเคลิ้มไปตามแรงปรารถนาอีกครั้งเขาจึงผละจากร่างนั้นแล้วรีบจัดการกับเสื้อผ้าของตัวเองในทันที
“จะทำอะไรคะ”
“ก็ทำให้มันเสร็จไง” เขาตอบในขณะที่จัดการกับกางเกงขายาวออกไปจนพ้นทาง ถึงตอนนั้นเองที่หญิงสาวได้เห็นเครื่องหมายของบุรุษเพศเป็นครั้งแรกตั้งแต่เกิดมา
“คุณปุณ...” ความหวาดกลัวทำให้ญารินรีบหันหลังขยับถอยหนี แต่ก็ถูกเขาตวัดข้อเท้าเรียวไว้ทำให้เธอล้มคะมำหน้าลงบนเตียงกว้างก่อนจะทามทับลงไปจนหญิงสาวรู้สึกว่าความใหญ่โตที่เธอเห็นก่อนหน้ากำลังถูไถไปมาบนสะโพก “อย่าค่ะ เราพอแค่นี้เถอะนะคะ”
“ไม่ได้หรอกขิม ฉันมาไกลเกินกว่าจะหยุดแล้ว” ปุณณภัทรกระซิบตอบพลางลากริมฝีปากไปตามแผ่นหลังกว้าง
“แต่หนูกลัว...”
“กลัวอะไร ก็เราแต่งงานกันแล้วนี่” เขาพยายามโน้มน้าว
“หนูไม่ได้กลัวแบบนั้น แต่หนูกลัว...กลัวไอ้นั่นของคุณต่างหาก”
คำตอบที่แสนจะไร้เดียงสาทำให้ปุณณภัทรถึงกับอมยิ้ม
“โธ่ เด็กน้อย...ถ้าเธอให้ความร่วมมือ มันไม่เจ็บหรอกนะ”
“ยังไงเหรอคะ” ญารินยังคงไม่เข้าใจกับสิ่งที่เขาบอก จนกระทั่งชายหนุ่มจับพลิกร่างของเธอในนอนหงายแล้วจับมือเรียวนั้นแตะลงบนแกนกายที่กำลังแข็งขืน พอสัมผัสได้ถึงความอ่อนนุ่ม อาการตื่นกลัวก็เหมือนจะหายไปเปลาะหนึ่ง
“เห็นไหม มันไม่ได้น่ากลัวเลยขิม”
“แต่...”
“ไม่ต้องแต่แล้ว” เขารวบรัดตัดบทเพราะไม่อาจจะทนความอึดอัดนี้ได้ไหวอีกต่อไป “เธอนอนเฉย ๆ นะ เดี๋ยวฉันทำเอง”
“อ๊ะ!” ญารินผวาวาบเมื่อเขาจับเรียวขาของเธอให้แยกออกจากกันแล้วจัดท่าทางจนความใหญ่โตนั้นจดจ่ออยู่ทางเข้า “มัน...อ๊ะ...อ๊าย...”
คำถามของเธอถูกกลืนหายไปเมื่อความเจ็บปวดค่อย ๆ แทรกซึมเข้ามาแทนที่พร้อมกับสิ่งแปลกปลอมที่ปุณณภัทรกำลังนำมันเข้ามา
“อา...ขิม” ชายหนุ่มกัดฟันแน่น รับรู้ได้ถึงความคับแน่นที่กำลังบีบรัดลำกายแกร่งเช่นเดียวกับคนใต้ร่างที่เบิกตากว้างด้วยความเจ็บปวด ราวกับว่าร่างกายจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ
“เจ็บ...มันเจ็บมากเลยค่ะ ไม่ไหว หนูต้องตายแน่ ๆ ” ญารินร้องเสียงหลง กระบอกตาคู่งามมีน้ำหยดใสไหลเล็ดออกมา นิ้วเรียวจิกลงบนไหล่กว้างจนเลือดซึม “พะ...พอเถอะค่ะ หนูไม่ไหวแล้วจริง ๆ อื้อ...”
คำขอร้องเงียบหายไปอีกครั้งเมื่อเขาปิดปากของเธอไว้ด้วยจูบที่หวานฉ่ำเพื่อปลอบประโลมและจูบเพื่อซับน้ำตา พอเสียงสะอื้นหายไปเขาจึงถอนจูบแล้วสำรวจไปทั่วทุกอณูบนร่างงามด้วยริมฝีปาก ไล้เลียตั้งแต่แก้มเนียนใส ลำคอขาวระหงจนมาหยุดอยู่ที่เนินเนื้อคู่งาม
ลิ้นร้อนโบกตวัดหยอกเย้ากับเม็ดบัวที่กำลังแข็งชูชันจนญารินร้องครางออกมาด้วยความเผลอไผล
“อ๊าย...คุณปุณ”
“ยังเจ็บอยู่ไหม หืม...” เขาเงยหน้าถามด้วยเสียงกระเส่า พลางเอื้อมมือไปบดบี้เกสรดอกไม้จนใบหน้าหวานเหยเก
“เจ็บ...แต่...อื้อ...” วินาทีที่เธอเงยหน้าจนสายตาสอดประสานกัน เขาจึงใช้จังหวะนั้นสอดสวนลำกายแกร่งที่ยังค้างอยู่จนมันเข้าไปสุดทาง
“ยังเจ็บอีกไหม” ปุณณภัทรเอ่ยถามอีกครั้ง
“เจ็บ...ค่ะ...”
“งั้นฉันเอาออกก็ได้” พูดจบเขาก็แกล้งถอดถอนมันออกทำให้คนใต้ร่างตกใจจนเผลอยกสะโพกตามขึ้นไปพร้อมกับมือเล็กที่กอดรั้งเอวสอบเอาไว้ เพียงเท่านี้ปุณณภัทรก็รู้ได้ทันทีว่าเธอกำลังต้องการเขา
“อย่าเพิ่งค่ะ”
“ทำไมล่ะ เธอเจ็บไม่ใช่เหรอ”
“เอ่อ...” ญารินแนบใบหน้าลงบนอกกว้าง ร้องขออย่างกระดากอาย “มันเจ็บ แต่มันก็รู้สึกดีนี่คะ...”
“แล้ว...” เขาเว้นช่องว่างพร้อมกับเชยคางเรียวให้ใบหน้าหวานเงยขึ้นสบตา “ให้ฉันทำต่อไหม”
“ค่ะ” หญิงสาวหลับตาตอบออกไปตามความรู้สึก ถึงตอนนั้นลำกายแกร่งที่จดจ่ออยู่ตรงทางเข้าก็สอดสวนเข้าไปอีกครั้งและอีกครั้งจนกระทั่งน้ำในบ่อน้อย ๆ มันเอ่อนอง “อื้อ...คุณปุณ...อ๊าย...”
ญารินดิ้นพล่านเพราะถูกความปรารถนาเข้าครอบงำ ความเสียวกระสันแล่นปราดไปกองอยู่ตรงส่วนนั้น ทุกครั้งที่เขาขยับเข้าออกความเจ็บปวดก็เหมือนจะยิ่งจางหายไป กลับกลายเป็นความรู้สึกดีที่ยากจะอธิบายเข้ามาแทนที่