บทที่9

1334 Words
“ห้ามพูดว่ารักใครให้พี่ได้ยินอีก! เพราะว่าถ้าพี่ไม่อนุญาตเราก็ไม่มีสิทธิ์รักใครหน้าไหนได้ทั้งนั้น! ก็แล้วจัดการเก็บข้าวของให้เรียบร้อยด้วย พรุ่งนี้เช้าเมื่อไหร่เราสองคนจะกลับไร่ด้วยกันทันที!!” ภูมินทร์ตวาดเสียงแข็งก่อนจะพาตัวเองเดินออกไปจากห้องอย่างฉุนเฉียว ทิ้งไว้แต่ราชาวดีที่ยังคงตกใจกับเหตุการณ์เมื่อสักครู่ไม่หาย เขาจูบเธอ…ภูมินทร์จูบเธอจริงๆ มันไม่ใช่แค่ปากชนกัน แต่มันคือจูบที่ล้ำลึกเกินกว่าที่จะบรรยายเป็นความรู้สึกออกมาได้ในยามนี้ และที่สำคัญไปมากกว่านั้นมันยังเป็นจูบแรกในชีวิตของเธอ จูบแรกที่เขาเพิ่งได้มันไปอีกด้วย! หญิงสาวทรุดกายลงนั่งกับพื้นด้วยความสับสน เขาทำให้เธอรู้สึกว่าเขากำลังหึงกันไม่มีผิด แต่เรื่องบ้าบอแบบนี้มันไม่น่าจะเกิดขึ้น บ้าไปแล้ว! คนบ้าคนนั้นน่ะเหรอจะมารู้สึกอะไรแบบนี้กับเธอ มันคงไม่ใช้แบบนั้นแน่ๆ ราชาวดีคิดก่อนจะยกมือขึ้นแตะริมฝีปากที่กระทั่งตอนนี้ก็ยังร้อนผ่าวอยู่อย่างลืมตัว รู้สึกได้ถึงกลิ่นขมของกาแฟที่เขาชอบดื่มยังติดอยู่ที่ปลายลิ้น ลิ้นร้ายกาจที่สอนให้เธอได้เข้าใจถึง ‘รสจูบ’ ได้อย่างแท้จริงโดยไม่ต้องพึ่งจินตนาการอีกเลย “นี่มันอะไรกัน…” หญิงสาวถามย้ำกับตัวเองเบาๆ นึกไม่ออกเลยจริงๆ ว่ามันจะมีสักกี่เหตุผลที่ทำให้ภูมินทร์ทำแบบนี้กับเธอ.. แม้จะพยายามขัดขืนแค่ไหนสุดท้ายราชาวดีก็ถูกภูมินทร์สั่งให้เก็บกระเป๋าในเช้าวันใหม่เข้าจนได้ เขามาดักรอเธอที่หน้าประตูห้องตั้งแต่เช้าตรู่ราวกับจะรู้ทันกันว่าเธอกำลังคิดจะหนีออกไปอีกก็ไม่ผิด เท่านั้นยังไม่พอยังยืนคุมเธอให้เก็บข้าวของด้วยตัวเองจนเสร็จ ทั้งสองเอ่ยลาผู้เป็นป้าเพียงสั้นๆ ก่อนกระเป๋าเดินทางของหญิงสาวจะถูกผู้เป็นพี่ยกออกมาใส่รถ นั่นเลยทำให้ราชาวดีมีโอกาสเห็นรถอีกคันที่กำลังแล่นเข้ามาจอดลงที่หน้าบ้านของคุณป้าเธออย่างเต็มตา... “พี่วี!!” “พี่เพิ่งรู้ข่าวจากคุณป้าก็เลยรีบมา นึกว่าไม่ทันมาลาพรีมซะแล้ว” กวีเอ่ยขึ้นอย่างร้อนรนและไม่ทันตั้งรับเมื่อราชาวดีไม่พูดอะไรนอกจากวิ่งโผเข้ามากอดเขาเอาไว้ทั้งน้ำตาต่อหน้าทุกๆ คนที่ยืนดูอยู่ “พรีมจะโทรมาบ่อยๆ นะคะ ห้ามลืมพรีมเด็ดขาดนะคะ!!” ภาพความแนบชิดของทั้งสองถูกจ้องมองจากใครอีกคนอย่างไม่สบอารมณ์เท่าไหร่เพราะไม่คิดว่าราชาวดีจะกล้าปล่อยให้ผู้ชายคนอื่นกอดต่อหน้าต่อตากันแบบนี้ และยิ่งไปกว่านั้นเธอคือคนที่โผเข้าไปหาไอ้บ้านั่นเป็นคนแรกอีกด้วย ยิ่งได้เห็นก็ยิ่งทำให้รู้สึกอยากจะตรงเข้าไปกระชากคนทั้งสองให้ถอยห่างออกจากกัน และเขาคงจะทำเช่นนั้นไปแล้วหากไม่มีสายตาของผู้เป็นป้าที่ลอบมองมาที่เขาอยู่เข้าซะก่อน “ไม่มีวันนั้นแน่ พี่ให้สัญญา เชื่อพี่นะครับน้องพรีม ว่าเราสองคนจะต้องได้เจอกันเร็วๆ นี้อย่างแน่นอน” ราชาวดีพยักหน้ารับก่อนจะกล่าวลากวีเพียงไม่นานก็ถูกเรียกตัวไปขึ้นรถจากพี่ชายบ้าอำนาจ “พรีมไปก่อนนะคะทุกคนๆ ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะคะ พรีมไปก่อนนะคะคุณป้า พี่วี” ราชาวดีเอ่ยลาทุกคนอีกครั้งก่อนจะยอมเดินขึ้นรถโดยมีกวีเดินมาส่งพร้อมอาสาปิดประตูให้อย่างเบามือ เมื่อทุกอย่างเสร็จสิ้นภูมินทร์ก็ออกรถด้วยความเร็วจนคนที่นั่งข้างๆ แทบจะคว้าเอาเข็มขัดนิรภัยมารัดแทบไม่ทัน ราชาวดีมองค้อนคนข้างกายโดยไม่พูดอะไรเพราะยังโกรธที่เขาบังคับเธออยู่ แต่ไม่นานรถที่วิ่งมาด้วยความเร็วสูงในตอนแรกก็ถูกเบรกอย่างรุนแรง… “เป็นผู้หญิงเที่ยวไปกอดผู้ชายอื่นก่อนได้ยังไงพรีม!!” และก็เป็นภูมินทร์เองที่ทนต่อความเงียบที่น่าอึดอัดไม่ไหว เขาตะเบ็งเสียงสิ่งที่อยากได้คำตอบทันทีที่รถจอดสนิทลงข้างทาง ภาพการร่ำลาของน้องสาวกับผู้ชายคนนั้นยังคงค้างอยู่ภายในใจอยากจะลบไปได้ง่ายๆ “ทำไมจะไม่ได้คะ ในเมื่อผู้ชายอื่นที่ว่าเขาเป็นคนระ…” คำพูดสุดท้ายจำต้องหายไปทันทีที่สายตาดุดันตวัดหันมามองกันเลยทำให้ทำราชาวดีไม่กล้าที่จะพูดมันต่อไปเพราะดันไปนึกถึงคำขู่ของคนข้างกายเข้า เธอไม่ได้กลัวมันแต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงไม่กล้าพูดออกไป “อย่าให้พี่เห็นเราทำแบบนี้อีก!” คนสั่งสั่งโดยไม่รอฟังคำตอบ เขาหันกลับมาให้ความสนใจในการขับรถอีกครั้ง ปล่อยให้ความเงียบกลับเข้ามาครอบงำทั้งรถไปตลอดการเดินทางอันยาวไกล ใช้เวลานานหลายชั่วโมงจนในที่สุดรถยนตร์ที่นั่งมาก็ถึงจุดปลายทางของมัน ภูมินทร์จอดรถลงที่หน้าบ้านก่อนจะหันมามองคนดื้อเงียบที่ผล็อยหลับไประหว่างทาง ราชาวดีคงจะเหนื่อยมากถึงได้หลับลึกขนาดที่ว่าเขาดับเครื่องยนตร์เธอก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะตื่น ชายหนุ่มจึงเลือกที่จะเดินลงจากรถอ้อมมาอีกฝั่งเพื่ออุ้มคนขี้เซาแนบอกแทนการปลุก ภาพนั้นสร้างความตกใจแก่นางชื่นทันทีที่ได้พบเห็น… “ตายแล้ว! นั่นคุณพรีมเป็นอะไรไปคะคุณภูมิ!” ภาพสีหน้าตกอกตกใจของหญิงสาวที่ดีใจกว่าใครๆ ตอนที่รู้ว่าเขาจะเดินทางไปรับแม่ตัวแสบกลับบ้าน ทำให้ภูมินทร์กลั้นรอยยิ้มเอาไว้ไม่อยู่เมื่อเห็น “ยังไม่ตายครับป้าชื่น คุณหนูของป้าแค่เหนื่อยก็เลยหลับไป” “โถแม่คุณของป้า คงจะเหนื่อยนะคะดูสิหลับปุ๋ยเชียว ไปค่ะเข้าบ้านเถอะ เดี๋ยวป้าตามไปเปิดประตูห้องให้” ภูมินทร์พยักหน้ารับก่อนจะขอร้องให้แม่บ้านวัยชราเดินตามขึ้นมาเปิดประตูห้องของตัวเองแทนที่จะไปส่งคนในอ้อมอกที่ห้องนอนของเธออยู่มาตั้งแต่เด็ก “คุณพรีมสวยขึ้นมากเลยนะคะ เห็นตอนแรกป้าล่ะนึกว่าคุณภูมิไปรับดาราที่ไหนมาเสียอีก ดูสิแม่คุณ…คุณหนูของนังชื่น” คำบอกกล่าวของหญิงชราทำให้ภูมินทร์อดไม่ได้ที่จะหันกลับมาสำรวจคนที่กำลังหลับสบายอยู่บนเตียงของเขาด้วยอีกคน และมันก็ดูเหมือนจะจริงอย่างที่ป้าชื่นว่า ราชาวดีดูสวยขึ้นกว่าครั้งสุดท้ายที่พบกันมาก เธอดูโตขึ้น ไหนจะการแต่งกายที่ดูเหมือนจะดูดีมากกว่าเมื่อก่อน แต่สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกขัดใจเห็นทีจะหนีไม่พ้นเสื้อผ้ากับการแต่งหน้าแต่งตาของเธอที่มันออกจะโชว์เนื้อโชว์ตัวมากขึ้น ปกติแล้วราชาวดีไม่เคยแต่งหน้า และเขาก็ชอบเธอในแบบนั้นมากกว่าตอนนี้ “ผมจะเข้าไร่สักชั่วโมง ฝากป้าชื่นดูพรีมให้ผมหน่อยนะครับ” “ได้ค่ะได้ ไม่ต้องห่วงนะคะ ป้าจะดูแลให้ดีเลยเชียว” ชายหนุ่มยิ้มรับคำตอบก่อนจะเดินเลี่ยงออกมาจากห้องปล่อยให้แม่นมเป็นคนดูแลคนขี้เซาต่อไป คิดไม่ออกเลยว่าเธอจะอาละวาดแค่ไหนถ้าตื่นมาพบว่าตัวเองนอนอยู่ในห้องของเขาแทนที่จะเป็นห้องตัวเอง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD