บทที่8

1122 Words
“พะ…พี่ภูมิ! นี่พี่ภูมิเข้ามาในห้องพรีมได้ยังไงคะ!!” ราชาวดีร้องลั่นด้วยความตกใจเมื่อเดินออกมาจากห้องน้ำแล้วเจอเข้ากับใครบางคนที่เธอไม่อยากเจอหน้าของเขาในเวลานี้เข้า หญิงสาวถามพร้อมกำปมผ้าขนหนูเอาไว้แน่น เธอจำได้ว่าก่อนจะเข้าไปอาบน้ำล็อคประตูห้องเอาไว้แล้วนี่ทำไมเขาถึงเข้ามานั่งหน้าบึ้งอยู่ในนี้ได้เล่า “เดินเข้ามา!” ภูมินทร์ตอบเสียงแข็งก่อนจะลุกขึ้นไปหยุดตรงหน้าเด็กดื้อด้านที่ดูเหมือนจะโตขึ้นมากกว่าครั้งสุดท้ายที่เจอกัน “ทำไมถึงกลับบ้านดึกแบบนี้ ไม่รู้รึไงว่าพี่มารอเราตั้งแต่เช้า!” “พรีมก็ไม่ได้ขอให้รอนี่คะ แค่นี้ใช่ไหมคะที่อยากพูด พรีมเหนื่อยอยากพักผ่อน” ท่าทีห่างเหินของคนดื้อดึงทำให้ภูมินทร์รู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงบางอย่าง สายตาที่เคยอ่อนหวานจ้องมองกันด้วยความรักบัดนี้มันกลับเต็มไปด้วยความเย็นชาไร้ซึ่งความรักเหมือนอย่างที่เคยเป็นมา น้องสาวคนเดิมของเขาคงไม่มีอีกแล้วสินะ “ยังนอนไม่ได้จนกว่าจะพูดกันให้รู้เรื่อง! พี่คิดว่าเวลาที่ผ่านมามันจะทำให้เราโตขึ้น แต่มันไม่ใช่เลย…สุดท้ายพรีมก็ยังทำตัวเป็นเด็ก เวลาไม่พอใจอะไรก็เอาแต่หลบเลี่ยง ทำตัวแบบนี้ไม่น่ารักเลย!” คนถูกจี้จุดถึงข้อเสียของตนเองสะอึกพูดไม่ออกไปนาน เขายังต้องการอะไรจากเธอ หรือที่มาที่นี่ก็เพราะแค่อยากจะรู้เรื่องบ้าๆ นี่!! “ค่ะ! ใครมันจะไปน่ารักแสนประเสริฐสู้แม่คนดีริสาของพี่ภูมิได้ล่ะคะ อีกอย่างพรีมโตแล้ว กะอีแค่กลับบ้านดึกเพราะแวะทานข้าวกับพ่อแฟนคงไม่น่าเป็นเรื่องผิดแปลกอะไรตรงไหนหรอกมั้งคะ” คนที่หมดสิ้นความอดทนตอบกลับไปอย่างไม่คิดจะเกรงกลัว แต่เธอเลือกที่จะเอ่ยโกหกเขา เรื่องที่แวะไปทานข้าวกับพ่อของแฟนออกมา “แฟน! ไอ้หมอนั่นเนี่ยนะแฟนเรา รู้จักมันดีแค่ไหนเชียว!” ภูมินทร์เลือดขึ้นหน้าเมื่อได้ยินบางคำที่ไม่อยากได้ยินเข้า เขาถามพร้อมจ้องมองอีกคนเพื่อรอฟังคำอธิบาย ที่เธอจำต้องตอบให้เข้าใจ “ก็ดีกว่าที่พี่ภูมิรู้จักแฟนของพี่นั่นแหละค่ะ พี่วีเขาเป็นคนดี ไม่เคยทำให้พรีมเสียใจเลยสักครั้งตั้งแต่รู้จักกันมา” อย่างน้อยๆ กวีก็รักเธอคอยดูแลเธอทุกอย่าง ความรักที่ดีงามของเขาทำให้เธอนึกถึงตัวเธอเองที่ใช้เวลาครึ่งคร่อนชีวิตหมดไปกับการวิ่งไล่ตามความรักที่ไม่มีวันสมหวัง เธอต้องเสียเวลาไปกับคนที่ไม่มีวันหันมารักกับเธอได้ ในทุกๆ วันต้องทนอยู่กับความหวังที่แทบไม่มีหวัง แต่เธอก็ยังอยากที่จะหวัง หวังว่าความรักของเธอมันจะมีค่ากับเขาเข้าสักวัน “งั้นพี่ก็คงต้องขอโทษด้วยที่พรีมจะต้องเลิกกับหมอนั่นซะ เพราะว่าพรุ่งนี้พี่จะพาเรากลับไร่ปานสิงค์ด้วยกัน!!” คำสั่งสายฟ้าฟาดนั้น สร้างความตกใจแก่ราชาวดีไม่น้อยเมื่อได้ยินในนาทีต่อมา “ไม่! พรีมไม่กลับ! พี่ภูมิไม่มีสิทธิ์มาบังคับพรีมแบบนี้นะคะ” “ทำไมจะไม่มี ในเมื่อพี่เป็นพี่ชายของพรีม! อีกอย่างที่นี่มันใช่บ้านเราที่ไหน พี่ยอมเรามามากพอแล้ว ต่อจากนี้พรีมจะต้องเชื่อฟังและทำตามที่พี่สั่งทุกอย่างห้ามขัด! เริ่มจากการกลับไร่ไปกับพี่!!” “จะที่ไหนมันก็ไม่ใช่บ้านของพรีมทั้งนั้น…หรือพี่ภูมิลืมไปแล้วค่ะว่าพรีมเป็นแค่เด็กกำพร้าที่แม่ของพี่รีบมาเลี้ยง อย่ามาสนใจพรีมเลยค่ะ เอาเวลากลับไปดูแลคนรักของพี่ภูมิจะดีกว่า พรีมไม่อยากกลับไปที่นั่น เพราะทุกสิ่งทุกอย่างมันเปลี่ยนไปหมดแล้ว ไม่เว้นแม้แต่ใจของพรีม!” ใจคนฟังกระตุกไปชั่วครู่เมื่อได้ยิน ภูมินทร์ได้แต่ข่มความไม่พอใจเอาไว้ในร่องอก เขาไม่เชื่อว่านั่นมันจะเป็นสาเหตุที่แท้จริงของน้องสาวที่ไม่ยอมกลับไปด้วยกัน หากเป็นเพราะใครบางคนเสียมากกว่าที่ทำให้เธออยากจะอยู่ที่นี่ไม่ยอมทำตามที่สั่ง “ที่ไม่อยากกลับเป็นเพราะแค่นั้นจริงๆ หรือเพราะไม่อยากจากไอ้กวีอะไรนั่นไปกันแน่!” ราชาวดีหน้าชาราวกับถูกตบ เธอจ้องมองเจ้าของคำถามด้วยสายตาตัดพ้อ ไม่นึกเลยว่าเขาจะดูถูกเธอได้ถึงขนาดนี้ คิดว่าเธอเป็นคนบ้าผู้ชายขนาดนั้นเลยเชียวเหรอคนบ้า!! “ก็ทั้งสองอย่างนั่นแหละค่ะ” “พรีม!!” “พี่ภูมิโกรธอะไรนักหนาคะ ไม่ดีใจรึไงที่น้องสาวที่พี่พยายามผลักไสมาตลอดกำลังมีความสุข พี่ภูมิเองก็น่าจะใช้โอกาสนี้อยู่กับคนรักของพี่ ไม่น่าจะต้องมาเสียเวลากับพรีมเลยสักนิด!”ราชาวดีย้อนถามถึงสิ่งที่เธอสู้เสียสละให้เขาไป หากแต่อีกคนกลับไม่ได้สนใจคำพูดเหล่านั้นของเธอเลยแม้แต่น้อย เขาขยับเข้ามาใกล้พร้อมรั้งต้นแขนของเธอเข้าหาตัวอย่างรุนแรงพร้อมๆ กับตวาดถามกันเสียงแข็ง “เรารักมันรึไง!” ไฟในกายลุกโหมไปทั่วยามเมื่ออีกคนไม่เพียงแต่จะไม่ปฏิเสธต่อคำถามของเขาเธอยังเชิดหน้าใส่กันเป็นว่าเล่นก่อนจะเอ่ยตอบบางสิ่งที่มันทลายทุกความอดทนลงในชั่วพริบตา “ค่ะรัก! พรีมรักพี่วีอ๊ะ…อื้อ!!” ยังไม่ทันที่คำว่ารักจะหลุดออกมาจากได้เต็มเสียงราชาวดีก็กรีดร้องเสียงหลงเมื่อถูกคนบ้าอำนาจคว้าใบหน้าของเธอเข้าหาก่อนที่เขาจะปิดคำตอบนั้นด้วยริมฝีปากของของตัวเอง จูบที่รุนแรงเร้าร้อนของชายในฝันสร้างความตกใจแก่หญิงสาวเป็นอย่างมาก แม้ว่าร่างกายจะพยายามต่อต้านดิ้นรนขัดขืนเขาสุดกำลังแค่ไหน แต่ใจเจ้ากรรมกลับรู้สึกดีจนแทบไม่อยากให้เวลาเดินต่อไป ทั้งสองสิ่งตบตีกันอยู่นานอย่างไม่มีทีท่าว่าจะลงตัวว่าเธอสมควรจะต่อต้านหรือยินยอมกับจูบอันตรายของเขาดี สุดท้ายก็เป็นภูมินทร์เองที่ค่อยๆ ถอนริมฝีปากออกห่างอย่างเสียดาย
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD