อามินเดินออกมาหาอะไรดื่มต่ออีกนิดหน่อยเพื่อให้ใจเย็นมากขึ้น จากนั้นก็เดินไปเคาะประตูห้องพักเด็กเนิร์ดที่กำลังทำให้เขาประสาทกินจนแทบบ้าอยู่แล้ว ผ่านไปเกือบห้านาทีเธอถึงมาเปิดประตูด้วยสีหน้ามึนงงเพราะน่าจะเมาอยู่ ดวงตากลมโตสีน้ำทะเลช้อนตามองกันแบบนี้ทำให้เขาทนไม่ไหวอีกต่อไป
เขาดึงเธอเข้ามากอดแน่นแล้วก้าวเท้าดันตัวเข้าไปในห้องด้วยความรวดเร็ว จากนั้นก็กดล็อกประตูไม่ให้ใครมารบกวนได้ ไกอาตัวแข็งทื่อแล้วพยายามจะดิ้นให้หลุด แต่ว่านั่นยิ่งทำให้กลัวมากว่าจะไม่ได้กอดเธออีกครั้ง
“ฉันไม่ยอมให้เธอไปไหนทั้งนั้นนะไกอา!”
“บอสอามินรู้เรื่องแล้วเหรอคะ?”
“ทำไมเธอไม่บอกฉันสักคำเลยละ ฉันไปหาเธอแทบทุกวัน เราคุยกันทุกวัน ทำไมถึงเลือกจะบอกพ่อแล้วเลือกจะทิ้งฉันไปละไกอา ฉันไม่ดีตรงไหนเหรอ!?”
“เอ่อ…บอสอามินไปดื่มมาเพิ่มเหรอคะ?” เธอผละออกจากอ้อมกอดคนตัวใหญ่ได้สำเร็จ ก่อนจะนั่งลงบนเตียงด้วยความเหนื่อยใจ มึนเบลอและง่วงนอนมาก คืนนี้เธอดื่มไปเยอะเลยกลัวว่าจะไม่มีสติมากพอจะคุยกับเขา
“ตอบฉันมาสิ!?” เขานั่งลงบนเตียงข้างเธอแล้วคว้าข้อมือเล็กเอาไว้แน่นด้วยความหวั่นใจนำตอบ
“ไม่ได้ทิ้งค่ะ คุณท่านแค่อยากให้ไปอยู่ในที่ปลอดภัยก็เท่านั้นเอง ฉันไม่ได้เก่งเหมือนบอสอามินหรือคนอื่น ถ้าเกิดอะไรขึ้นฉันจะเป็นภาระเปล่าๆ แต่มันจะดีกว่าถ้าให้ฉันจัดการหาข้อมูลเพื่อมาช่วยก่อนจะเกิดเหตุร้ายแรงขึ้น” เธอไม่มีฝีมือในด้านการต่อสู้เลย ไม่ว่าจะดวลกับใครก็แพ้หมดเลย ดังนั้นการซ่อนตัวเองนับเป็นวิธีการที่ดีเพราะจะได้ไม่เป็นจุดอ่อนของทุกคน
“ฉันดูแลเธอได้น่าไกอา”
“ทุกคนมีวันพลาดกันทั้งนั้นนะคะบอส”
“อย่าดื้อกับฉันนักสิ!”
“บอสอามินต่างหากที่ดื้อไม่ยอมรับฟังอะไรเลย”
“แล้วมีใครบ้างอยากจะอยู่ห่างจากคนที่รักละ!”
“รัก?”
“ใช่! ฉันรักเธอไกอา ฉันรักเธอมาก ฉันไม่อยากจะห่างเลยสักนิด เมื่อไรเธอจะเข้าใจเรื่องง่ายๆแบบนี้สักทีห่ะ สิ่งที่ฉันทำมาตลอดเวลาไม่เคยส่งถึงใจบ้างรึไงถึงได้มองข้ามขนาดนี้ ฉันแสดงออกชัดขนาดนี้แล้วเธอยังพยายามจะทิ้งฉันอีกเหรอ!?”
“บอสคะ…”
“พูดมาสิว่าเธอจะอยู่กับฉันคนเดียว พูดออกมา!”
“ฉันว่าบอสเมาแล้วแหละ”
“เมานี่นะ!”
“กลิ่นเหล้าขนาดนี้เรียกว่าเมาแล้วค่ะ ฉันก็เมาเหมือนกัน เรื่องนี้ไว้ค่อยคุยตอนสติเต็มร้อยก่อนไม่ได้รึไง!?”
“ก็เธอจะทิ้งฉัน!”
“กลับห้องได้แล้วค่ะ ดึกมากแล้ว”
“นี่เธอจะทิ้งฉันให้ได้เลยใช่ไหม?”
“ถึงยังไงฉันก็จะไปค่ะ เรื่องทุกอย่างจบลงเมื่อไรแล้วเราค่อยเจอกันก็ได้ ฉัน…”
“ฉันไม่ให้ไปไหนทั้งนั้นแหละ!!”
“บอส…”
“มันยังเหลืออีกวิธีที่จะรั้งเธอให้อยู่กับฉันคนเดียวได้” เขาประคองใบหน้าสวยเข้ามาจูบอย่างอ่อนโยนและเร่าร้อน จูบที่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่อัดอั้นอยู่ภายในใจตลอดหนึ่งปีที่เราได้รู้จักกันแต่ไม่สามารถจะแตะต้องได้เลย
เด็กไร้เดียงสาจูบไม่เป็นดีแต่ยกมือมาดันหน้าอกออกห่างด้วยความตกใจมาก เขารวบมือเล็กเอาไว้แล้วจูบซ้ำๆให้รู้ว่ารักมากขนาดไหน แล้วหลอกล่อให้เธอโต้ตอบกลับมาอย่างใจเย็นที่สุดเท่าที่จะทำได้ คืนนี้เขาจะใช้ประสบการณ์ที่ผ่านมามากมายผสมกับความเมาของเด็กที่หาเรื่องจะทิ้งกันให้ได้ เขาจะทำให้เธอเป็นเมียของเขาคนเดียวเท่านั้นและเหตุผลข้อนี้มันก็มากพอจะใช้สิทธิ์รั้งเอาไว้ให้อยู่ด้วยกันต่อไป
เขารู้ว่าเห็นแก่ตัวมาก
แต่เขาตั้งใจทำ เขาเลยไม่รู้สึกผิด
เธอเมามากพอสมควรแม้จะได้นอนพักแต่นั่นก็ไม่ได้ช่วยอะไรมาก สติที่ไม่เต็มร้อยทำให้อารมณ์พลิ้วไหวมากยิ่งขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า ความรู้สึกวาบหวามที่ปะทุขึ้นจะทำให้คนไร้เดียงสาทนไม่ไหว แล้วปล่อยตัวปล่อยใจไปกับสิ่งที่เขาปรนเปรนให้มีความสุขครั้งแล้วครั้งเล่าจนในที่สุดก็ไม่มีสติพอจะยั้งคิด
เขาจะทำให้เธอเป็นเมียทั้งที่ยังไร้สติ
แล้วจะเอาจนจำทุกอย่างได้
เขาประคองตัวเธอเอาไว้แนบแน่นในขณะที่จูบซ้ำๆด้วยความรู้สึกคล้ายกำลังจะอกแตกตาย เขาต้องการเด็กคนนี้มาเป็นเมียที่สุดในชีวิต ต้องการคบหาอย่างเปิดเผยด้วยความภาคภูมิใจในตัวเธอ ต้องการเป็นคนเดียวในชีวิตเธอ ต้องการให้เธอรักเหมือนที่เขารักเธอบ้าง ต้องการครอบครองทุกอย่างที่เป็นเธอ เขากลายเป็นคนละโมบโลภมากในเวลาเพียงไม่กี่นาทีที่ได้สัมผัส แล้วตอนนี้ก็กำลังตะกละตะกลามอย่างน่ารังเกียจแต่ก็ไม่สามารถหยุดตัวเองได้เลย
ถ้าไกอาเป็นเมียเขาแล้ว
อย่าหวังว่าใครจะพรากเธอไปได้
“ให้ความร่วมมือหน่อยสิ”
“คะ?”
“เด็กน้อย…เธอจะทำให้ฉันหลงนะรู้ไหม?”
“ทำยังไงคะ?”
“ก็แบบนี้ไงละ”
เขาจูบซ้ำอีกครั้งขณะที่จับมือเล็กนำทางให้เธอได้ลองสัมผัสเรือนร่างของเขาบ้าง สอนให้เธอลูบไล้ผิวกายอย่างเชื่องช้าและใจเย็น ในขณะเดียวกันก็รีบปลดกระดุมเสื้อออกจนหมดทั้งแถบแล้วถอดทิ้งลงไปอย่างร้อนรนราวกับว่านั่นคือของร้อน มือเล็กแสนนุ่มลูบผิวที่เริ่มร้อนขึ้นมาด้วยไฟรักที่แล่นพล่านจนคุมแทบไม่ไหว ปลายนิ้วเล็กสะกิดหัวนมเหมือนว่าเป็นของเล่นจนมันแข็งสู้ แล้วเกลี่ยปลายนิ้วลงที่หน้าอกไล่ระดับขึ้นมาช้าๆจนในที่สุดก็โอบกอดลำคอ เขาผละจูบออกมาสบแววตาที่วูบไหวไปด้วยความรู้สึกดิบของมนุษย์ที่พรั่งพรูออกมา
“รักฉันบ้างไหม?”
“เอ่อ…”
“ฉันรู้ว่าเธอไม่ได้รัก แต่ฉันรักเธอมากที่สุดนะ”
“บอสคะ คือว่า…ร้อนจังเลยนะคะ หัวใจของบอสเต้นแรงมากเลยด้วย แบบนี้หัวใจจะวายไหมคะ”
“แล้วของเธอละ?”
“แรงจนน่ากลัวว่าหัวใจจะช็อกเลย”
“เด็กดีต่อจากนี้เธอจะเป็นของฉันคนเดียว”
“ของบอส…”
“เป็นเมียของฉันคนเดียวเท่านั้น!”
ปลายนิ้วเล็กก็แตะที่ริมฝีปากเบาๆคล้ายว่ากำลังทดสอบความอดทนที่มีอยู่อย่างน้อยนิด เราสบตากันด้วยความหวั่นไหวอย่างหนัก เขากลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ในขณะที่จับชายเสื้อตัวใหญ่ของเธอถลกขึ้นถอดออกให้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย ไกอาหลบตากันด้วยความเขินอายเสียจนแก้มแดงแต่ก็น่ารักมาก
ผิวกายของเธอขาวจัดสะท้อนแสงไฟ หน้าอกอวบใหญ่เกินกว่าตัวมากจนรู้สึกว่าคงล้นมือแน่นอน เอวก็บางนิดเดียวเอง เขาประคองหน้าเธออีกครั้งพร้อมกับรอยยิ้มและแววตาอบอุ่นให้เบาใจว่าคืนนี้เราทั้งคู่จะมีความสุขกันแน่นอน นัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลเปร่งประกายเจิดจรัสกำลังสะกดให้เขามอมเมาและหลงใหลจนไม่อาจจะหลุดพ้นจากความรักที่ทำให้คลั่งไคล้มากเกินไป
ได้เป็นเมียแล้วคงหวงมากกว่าเดิมแน่
“ฉันจะเบามือที่สุดเท่าที่จะทำได้”
“เอ่อ…เจ็บมากไหมคะ?”
“มาก แต่ว่าเธอจะมีความสุขแน่นอนฉันรับประกัน”
“ฉันกลัว”
“ฉันอยู่ตรงนี้มีอะไรให้กลัวอีก”
เขาจูบเธออีกครั้งเพื่อตอกย้ำทุกคำที่พูดออกไปให้จำขึ้นใจ แล้วจูบซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อละลายสติไม่ให้ฉุกคิดอะไรได้ทั้งนั้น เขาจะหลอมละลายน้ำแข็งในใจเธอให้เดือดพล่านจนกลายเป็นลาวารักเอ่อล้นออกมาแบบที่ควบคุมไม่ได้
ลิ้นอุ่นชื้นตวัดปัดป่ายกันไปมาด้วยความเร่าร้อนที่เพิ่มมากขึ้นทุกนาที ก่อนจะเคลื่อนไปซุกไซ้ลำคอเล็กที่ขาวผ่องแสนหอมหวาน ในขณะเดียวกันก็ประคองเธอให้ล้มตัวลงนอนเตรียมพร้อมรับการบำเรอปรนเปรออย่างที่ไม่เคยสัมผัส แล้วล่องลอยสู่ความสุขแสนหฤหรรษ์ที่ไม่มีทางหนีออกไปไหนได้
คืนนี้เขาได้ตัวเธอมานอนกอด
อีกไม่นานทั้งตัวทั้งใจต้องเป็นของเขา
“อื้ม…บอสคะ…”
“นุ่มนิ่มจังเลย”
“อื้อ…บอสอามิน…”
“ครางชื่อฉันดังๆเลยสิ ฉันชอบ”