1
“นั่นน่ะเหรอเด็กฝากของพ่อฉัน?”
“ครับบอส คุณท่านสั่งว่าให้ดูแลเป็นอย่างดีที่สุด”
“เมียน้อยหรือลูกเมียน้อยละ?”
“ไม่ใช่ทั้งสองครับ ผมไปสืบมาแล้วไม่มีอะไรที่น่ากังวล ดูเหมือนคุณท่านอยากจะให้ลองทำงานเพื่อเพิ่มประสบการณ์มากกว่า รู้สึกว่าตอนนี้น่าจะอายุสิบเก้าปีแล้ว เห็นว่าเคยทำงานเล็กๆน้อยๆมาบ้างครับ”
“เด็กขนาดนี้ทำไมไม่เรียนต่อ?”
“จบแล้วครับ เรียนจบปริญญาตอนอายุสิบแปดปี”
“งั้นเหรอ?”
อามินมองเด็กผู้หญิงผมทองอร่ามที่กำลังพูดคุยกับคนสนิทของพ่อผ่านหน้าต่างกระจกที่ห้องทำงานด้วยความสนใจมากขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย เรื่องนี้พ่อบอกมาเมื่อเดือนก่อนให้ช่วยดูแลเด็กที่กำลังจะส่งตัวมาอยู่ที่นี่สักระยะ แล้วเดี๋ยวจะเรียกตัวกลับไปเมื่อถึงเวลาที่สมควร ในทีแรกเขาคิดว่าอาจจะเป็นเมียน้อย เมียเก็บ หรือไม่ก็บรรดาเด็กเลี้ยงทั้งหลาย แต่ก็ต้องคิดใหม่เพราะพ่อดูจะสนใจนักฆ่าสาวสวยคนใหม่มากกว่าจะหาเด็กเลี้ยงเพิ่ม เขาเลยคิดว่าอาจจะเป็นลูกอีกคนที่เก็บซ่อนเป็นความลับเลยให้ลูกน้องไปสืบมาเพิ่ม
พ่อประสบอุบัติเหตุหลังเขาเกิด
นั่นทำให้เป็นหมัน
เขาหยิบประวัติคร่าวๆที่ควรรู้ที่พ่อส่งมาให้แต่ก็ไม่มีอะไรพอจะบอกเลยว่าเป็นใครกันแน่ จะบอกว่ากำลังปั้นเด็กใหม่ก็ไม่น่าใช่เท่าไรเพราะว่าพ่อไม่ชอบทำงานกับผู้หญิง พ่อไม่ค่อยชอบความจุกจิกเล็กๆน้อยๆหรือความงี่เง่า พ่อเป็นคนขี้รำคาญมาก ลูกน้องคนสนิทของพ่อมีแต่ผู้ชายและเท่าที่รู้คือยังไม่มีใครแต่งงานใหม่ พ่อของเขาก็ยังไม่แต่งงานใหม่หลังจากเลิกกับแม่
แต่ในจังหวะนั้นเธอกลับเงยหน้ามอง
นัยน์ตาสีฟ้าก็สะกดเขา
เพียงไม่กี่วินาทีเธอก็หันไปมองทางอื่นโดยที่ไม่รู้เลยว่าเผลอสบตากับเขาด้วยความบังเอิญ อีกประมาณครึ่งชั่วโมงจะมีการกินข้าวด้วยกันเพื่อทำความรู้จัก แล้วคืนนี้เธอจะกลับไปพักที่คอนโดที่ไม่ได้ห่างไกลจากที่นี่มาก แต่ว่าอันที่จริงถ้าจะค้างที่นี่ก็ไม่เห็นจะเป็นอะไรเลย จะค้างแค่หนึ่งคืน สองคืน หรือจนกว่าจะกลับไปก็ยังได้ เขาไม่ติดถ้าบ้านจะมีผู้หญิงมาอยู่ด้วยสักคน
อันที่จริงห้องติดกับเขาก็ยังว่างนะ
อันที่จริงห้องนอนเขาก็กว้างนะ
อันที่จริงเตียงนอนสองคนได้นะ
คิดบ้าอะไรเนี่ย!
“มองขนาดนี้ไม่ออกไปคุยด้วยละครับ?”
“ยุ่งน่า!”
“โธ่บอส!”
“อย่าชงได้ไหม? นั่นคนของพ่อฉันไม่อยากจะยุ่งเดี๋ยวจะมีปัญหา อีกอย่างเด็กแค่นี้ไม่ใช่สเป็คฉันเลยด้วยซ้ำ”
“จริงเหรอครับ?”
“ก็เออดิวะ! กูอายุสามสิบกว่าแล้วจะให้ทำตัวเป็นเ*******ูรึไง!”
“แค่นี้ต้องโกรธด้วย”
อามินหันมาก้มหน้าสนใจประวัติตรงหน้าด้วยความแนบเนียนว่าลูกน้องจะจับไม่ได้ เขากดดูรูปภาพชัดๆที่มีแค่สี่รูปเท่านั้นเอง ผมสีทองตาสีฟ้าแถมปากยังอวบอิ่มเป็นสีแดงก่ำได้อย่างน่ารักเชียว ใบหน้าขาวมีกระจางๆประปรายตามประสาคนผิวขาวจัด ที่ใต้ตาขวามีไฝเม็ดเล็ก ปลายจมูกมีจุดขี้แมลงวันเล็กๆน่าเอ็นดูจัง ดูจากรูปร่างแล้วเธอน่าจะสูงประมาณหน้าอกของเขา ตัวค่อนข้างเล็กมากพอสมควร แล้วสัดส่วนอื่นๆก็ยังไม่ได้เห็นชัดเพราะเสื้อผ้าที่ใส่ในวันนี้ค่อนข้างลุ่มล่ามมาก แต่เดาดูแล้วน่าจะเป็นคนซ่อนรูปมากพอสมควรเลย
ความจริงเราชื่อของเราก็เข้ากันอยู่นะ
ไกอา และ อามิน
ชาเน่แอบมองเจ้านายที่กำลังนั่งอมยิ้มคนเดียวแล้วด้วยความสงสัยเล็กน้อย บอสยังไม่ได้ออกไปทำความรู้จักกับน้องไกอาเลย การเดินทางไปรับจากสนามบินก็เป็นลูกน้องที่จัดการแทนหมด บอสรู้กำหนดการณ์ทุกอย่างเพียงแต่ว่าไม่ได้สนใจและไปตีกอล์ฟกับเพื่อนแทน
เขาโทรคุยกับพี่เอสถึงรู้ว่าจะแวะมาหาในตอนบ่ายกว่าๆและจะกินอาหารเย็นด้วย ทุกอย่างเป็นคำสั่งของคุณท่านเหมือนรู้ว่าบอสจะต่อต้านและเพิกเฉยในเรื่องนี้แน่นอนแล้วมันก็เป็นเรื่องจริงด้วย บ้านพักหลังนี้ไม่มีผู้หญิงอยู่เลย คนรับใช้ทุกคนเป็นผู้ชายทั้งหมดเพื่อความสะดวกหลายอย่าง อีกอย่างถัดจากบ้านหลังนี้ไปไม่ไกลก็เป็นบ้านพักของบอดี้การ์ดที่จะออกกำลังกาย ฝึกปรือฝีมือ ซ้อมต่างๆ ประชุมงานและลงโทษ
การไม่มีผู้หญิงอยู่ที่นี่นับว่าดีแล้ว
“ว่าแต่คืนนี้บอสจะไปบาร์รึเปล่าครับ?”
“ไม่รู้สิ บางทีฉันอาจจะดื่มกับเอสแล้วคุยเรื่องงาน”
“แต่ว่าพี่เอสไม่น่าจะอยู่คุยงานนะครับบอส ผมจำได้ว่าพี่เอสจะไปพักกับน้องไกอาและน่าจะรีบกลับเพราะช่วยจัดห้องพักให้เรียบร้อยด้วย”
“เหรอ?”
“ครับบอส”
“หรือว่าเด็กนั่นเป็นเมียเอส?”
“พี่เอสมีคู่หมั้นอยู่นะครับจะมีเมียได้ไง จะว่าเป็นเด็กเลี้ยงก็ไม่น่าจะดูแลดีขนาดนี้แถมท่านยังสั่งให้บอสช่วยดูแลด้วย”
“เหรอวะ?”
“บอสสนใจเหรอครับ?”
“อะไรของมึงอีก!?”
“น้องไกอาไง บอสสนใจเหรอครับ?”
“ปัญญาอ่อน! มึงจำไว้เลยว่าสมภารไม่มีทางกินไก่วัด!”
อาหารเย็นวันนี้เป็นอะไรที่เรียบง่ายแต่พิเศษตรงที่กินกันหลายคน ไกอายิ้มกว้างให้กับลูกชายของคุณท่านที่ทำหน้าบึ้งตึงเหมือนกำลังมีเรื่องเครียด หลายครั้งที่เขามองเธอเหมือนจับผิดกันอยู่ อันที่จริงเธอก็ไม่ได้อยากจะมาหรอกแต่เพราะคุณท่านสั่งเลยต้องทำตาม คุณท่านบอกว่าให้ทำความรู้จักกันเอาไว้เพราะงานของเธอหลายอย่างจะสอดคล้องกับงานของเขาด้วย เรื่องงานเธอไม่ได้คิดมากหรอกเพราะเคยทำมาก่อนตั้งแต่เรียนยังไม่จบด้วยซ้ำ แต่ที่กังวลคือความเข้ากันได้มากกว่า
“ไม่อร่อยเหรอ?” อามินถามด้วยความสงสัยแล้วมองจานข้าวที่แทบไม่ลดลงไปเลย
“เปล่าค่ะ รสชาติดีค่ะ ฉันแค่ไม่ค่อยชินเท่าไร” สีหน้าของเขาทำให้อึดอัดต่างหากเล่า
“อ่อ…งั้นครั้งหน้าก็โทรบอกพ่อครัวก่อนนะว่าจะกินอะไรจะได้ทำให้ถูก” เขากินได้หมดทุกอย่างไม่เคยแพ้อะไรด้วย แต่ว่าเธออาจจะไม่ค่อยชินกับรสชาติอาหารที่นี่ก็ได้
“ถ้ามีโอกาสได้มาอีกครั้งจะโทรบอกล่วงหน้านะคะ” แต่เธอไม่คิดว่าจะกลับมากินข้าวที่นี่กับคนหน้าบึ้งตึงอย่างเขาหรอก อาเอสก็เหมือนจะรู้ว่าเธออึดอัดมากขนาดไหนถึงได้ตักกับข้าวมาให้พร้อมกับรอยยิ้มอบอุ่นปลอบใจกัน
“เดี๋ยวก็กลับแล้ว”
“ค่ะ”
อามินจ้องมองด้วยความไม่ชอบใจนิดหน่อยที่ไกอาคุยกับเอสเสียงแผ่วเบาจนไม่ได้ยิน แถมเธอยังยิ้มให้จนแววตาเปร่งประกายสวยเลยเชียว ก่อนจะหันมาหาเขาด้วยสีหน้าปกติจนน่าโมโห เขาตักกับข้าวให้เผื่อว่าจะชอบบ้างแต่ว่าเธอไม่กินเลย เธอหยิบแก้วน้ำมาดื่มแล้ววางช้อนบอกให้รู้ว่าอิ่ม
กุ้งสามรสที่ตักให้มันไม่ดียังไง
ทำไมถึงไม่กิน!