2

1848 Words
ชาเน่แทบจะกลืนข้าวไม่ลงคอเพราะเจ้านายหน้าบึ้งตึงยิ่งกว่าเดิม ตอนแรกว่าแปลกใจแล้วนะที่ตักกับข้าวให้น้องไกอา แล้วตอนนี้จ้องมองบ่อยๆเหมือนจะสวบหัวน้องแทนอาหารค่ำงั้นแหละ เขาเข้าใจนะว่าบอสอามินไบโพล่ากินบ่อยๆแต่ว่าวันนี้จะช่วยลดความประสาทหน่อยไม่ได้รึไง เด็กกินข้าวไม่ลงเพราะบอสนั่นแหละ กุ้งไม่ผิดหรอก! “คืนนี้ดื่มด้วยกันก่อนสิเอส” “คงไม่ได้ครับคุณอามิน ผมต้องไปส่งยัยหนูแล้วไปเอาของอย่างอื่นต่อ” “ยัยหนู?” “อ่อ พอดีว่าเรารู้จักกันมาหลายปีเลยสนิทกันมาก” “งั้นแกไปเอาของของพ่อฉันเถอะ ส่วนไกอาฉันจะไปส่งเอง ตกลงไหม?” “คือว่า…” “เอาตามนี้แหละ! เธอไม่มีปัญหาอะไรใช่ไหมถ้าฉันจะไปส่งด้วยตัวเอง” “ไม่มีค่ะบอสอามิน” หลังจากอาหารเย็นแล้วเขาก็คุยงานกับเอสต่อเล็กน้อยถึงของที่ต้องไปเอา ทีแรกคิดว่าเป็นงานของพ่อแต่ที่ไหนได้เป็นงานของไกอาต่างหาก เขาขับรถมาส่งเธอด้วยตัวเองแล้วเดินตามไปส่งถึงห้องพักที่ชั้นยี่สิบหก ที่นี่คอนโดหรูพอประมาณ ระบบรักษาความปลอดภัยค่อนข้างดี อยู่ใกล้กับบ้านเขาไม่มากเท่าไรแต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องใช้เวลาขับรถเกือบครึ่งชั่วโมง “รกหน่อยนะคะบอสพอดีห้องยังไม่ได้จัดเลย” “อืม แล้วอยู่คนเดียวเหรอ?” “ใช่ค่ะ” “คืนนี้เอสจะมาค้างด้วยเหรอ?” “ใช่ค่ะ อาเอสจะมาค้างด้วยจนกว่าจะกลับ” “ฉันว่าอยู่กับผู้ชายสองคนมันดูไม่ดีนะ” “แต่ว่าตอนนี้เราก็อยู่กันสองคนนะคะ” “มันไม่เหมือนกัน! ฉันไม่ได้นอนค้างที่นี่กับเธอซะหน่อย ส่วนเอสจะค้างที่นี่กับเธอจนกว่าจะกลับมันก็ประมาณหนึ่งอาทิตย์ได้เลยไม่ใช่เหรอ เกิดแฟนเธอรู้จะไม่มีปัญหารึไง ไหนจะคู่หมั้นของเอสอีกละ” “น้าจ๋าไม่มีปัญหาหรอกค่ะ ก็น้าจ๋านั่นแหละที่บอกให้อาเอสมาค้างด้วยเผื่อมีอะไรจะได้ช่วย ส่วนแฟนฉันไม่เคยมีค่ะ” “จริงเหรอ? ฉันเห็นเด็กสมัยนี้มีแฟนกันเร็วจะตายไป เธออายุตั้งสิบเก้าปีแล้วจะไม่เคยมีแฟนได้ยังไง นี่ยังไม่ได้ทำงานด้วยกันก็เริ่มจะโกหกแล้วเหรอ?” “ฉันไม่มีจริงๆนะคะ ถ้ามีแฟนจริงก็คงไม่เลือกมาทำงานไกลขนาดนี้หรอกค่ะ” “เหรอ?” “แล้วบอสละคะไม่มีเหรอ? อายุของบอสก็ไม่ใช่น้อยๆแล้วนะ ฉันว่าบอสน่าจะพร้อมมีหลานให้คุณท่านด้วยซ้ำ” “ฉันยังไม่แก่ขนาดนั้น!” “จริงเหรอคะ? งั้นบอสอายุเท่าไรเหรอฉันเดาไม่ออกเลย” “สามสิบเจ็ด” “งั้นก็แสดงว่า…มากกว่าฉันสิบแปดปี!” “อย่าทำหน้าแบบนี้ฉันไม่ชอบ! แล้วของพวกนี้เดี๋ยวฉันช่วยจัดเองเธอจะได้นอนพักเร็วๆ รู้ไหมว่าเป็นเด็กเป็นเล็กต้องนอนพักผ่อนเยอะๆ” เขาถอดเสื้อคลุมสีดำวางลงที่โซฟาแล้วมองห้องพักที่ยังไม่ได้เก็บของเลย ยัยเด็กนี่ก็อมยิ้มบางๆก่อนจะลงมือเก็บของที่วางเกะกะเต็มไปหมด “รู้ใช่ไหมว่าต่อจากนี้ฉันจะเป็นคนดูแลเธอทุกอย่าง” “ทุกอย่างเลยเหรอคะ ไหนคุณท่านบอกว่าแค่ช่วยดูแลไม่ให้มีอันตรายเฉยๆ” “พ่อคงบอกเธอไม่หมด แต่ฉันจะดูแลเธอทุกอย่างรวมถึงความปลอดภัยด้วย ดังนั้นมีอะไรก็ให้บอก แล้วเราจะเจอกันสักอาทิตย์ละครั้งเพื่อให้มั่นใจ ส่วนข้อความถ้าฉันส่งมาก็ตอบกลับด้วย จะไปเที่ยวไหนก็บอกให้ฉันรู้ หรืองานที่มีแนวโน้นว่าจะเสี่ยงเจ็บตัวก็บอก” “ก็ได้ค่ะ” เขายังไม่รู้ว่าพ่อให้เธอมำงานอะไรกันแน่เพราะถามก็ไม่บอก พ่อแค่ให้ดูแลเรื่องความปลอดภัยและช่วยเหลือเล็กๆน้อยๆแค่นั้น แต่ดูจากกองเอกสารและการหาที่อยู่ให้ดีมากขนาดนี้ก็พอจะเดาได้ว่ามีความสำคัญด้านข้อมูลมากพอสมควร หรือบางทีอาจจะเป็นตัวแปรอะไรหลายอย่างในธุรกิจก็ได้ เด็กสิบเก้าปีแต่ดูโตเกินอายุมาก อยากรู้จักให้มากขึ้นแล้วสิ หลังจากวันนั้นที่เรารู้จักกันเวลาก็ผ่านมาหนึ่งปีแล้ว ไกอาจะทำงานที่คอนโดเป็นหลักแต่ก็มีบางครั้งที่เข้าออฟฟิศเพื่อประชุมในบางเรื่องที่สำคัญและเร่งด่วนมากจริงๆ เขาส่งข้อความคุยกับเธอเรื่อยๆเพื่ออัพเดตข้อมูลข่าวสารที่ควรรู้และที่จำเป็นต้องรู้อยู่ทุกวัน ภายในเวลาหนึ่งอาทิตย์เขาจะต้องได้เจอเธอและกินข้าวด้วยกันซึ่งนี่ถือเป็นข้อตกลงระหว่างเรา เขาทำเพื่อให้เธอนั้นปลอดภัยส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนคือคิดถึง ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาสนใจเธอไปตั้งแต่ตอนไหนเพราะรู้ตัวอีกทีก็กลายเป็นหมกหมุ่นไปแล้ว เขาพยายามจะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของเธอและไม่ให้ใครใกล้ชิดเธอมากกว่าด้วย แต่ระหว่างเรามีเส้นบางๆกั้นเอาไว้อยู่ เขาสนใจแค่เธอและรู้สึกจะประสาทกินหลายครั้งเพราะการตอบข้อความที่ช้ามากเกินไป โทรหาแล้วไม่รับสายหลายครั้ง หรือออกไปไหนคนเดียวทั้งที่เขาพร้อมจะขับรถให้เสมอ พร้อมจะพาไปทุกที่ที่เธออยากไป พร้อมจะเป็นทุกสิ่งทุกอย่างเพียงแค่เราอยู่ใกล้ชิดกันแบบไม่มีใครมายุ่งเกี่ยวทั้งนั้น แต่ว่าไกอาไม่น่าจะคิดแบบนั้น เธอจะตอบข้อความกลับมาทันทีถ้าเป็นเรื่องงาน เธอไม่ค่อยพูดเรื่องส่วนตัวเท่าไร เธอคุยกับเขาแค่เรื่องงานอย่างเดียวจนรู้สึกว่าชีวิตเธอมันไม่มีอะไรนอกจากงานเลยรึไง เธอยังเด็กมากจนมองไม่เห็นความรู้สึกบางอย่าง ส่วนเขาก็พยายามชัดเจนแล้วแต่ก็ไม่เห็นว่าเธอจะรู้สึกอะไรเลยสักนิด ยัยเด็กเนิร์ดตัวแสบนี่เก่งแค่เรื่องงาน เรื่องอื่นน่ะโง่มาก “สรุปวันนี้มาหามีเรื่องอะไรอีกรึเปล่าคะ?” “ถ้าไม่มีเรื่องจะมาหาไม่ได้เลยรึไง” “ก็ได้ค่ะ แต่ว่าอยากรู้ไงว่ามาหาทำไม ฉันต้องทำงานนะไม่มีเวลาออกไปกินข้าวด้วยบ่อยๆหรอก เรื่องนี้บอสก็รู้นี่” “นอกจากทำงานแล้วไม่คิดเรื่องอื่นเลยรึไง?” “ก็เล่นเกม ดูหนัง อ่านหนังสือค่ะ” “ทำตัวเหมือนพวกเด็กติดห้องไปได้” “ก็มันไม่จำเป็นต้องออกไปไหนนี่คะ” “เหรอ?” “ฉันพูดจริงๆนะ ที่นี่ร้อนมาก แดดแรงทั้งปีจนแยกฤดูไม่ออกแล้วเนี่ย ไหนจะการจราจรที่แย่ ฝุ่นควันมลภาวะก็เยอะ ฉันอยู่ในห้องแบบนี้แหละดีแล้ว สรุปว่ามาทำไมคะ?” “วันมะรือวันเกิดฉัน” “แล้ว?” “ฉันมาเชิญให้ไปด้วยกัน ปีนี้ฉันจัดที่รีสอร์ตริมทะเล พ่อก็จะมาด้วยนะ เอสก็มา เธอน่าจะชอบที่นั่นด้วย” “แต่ฉันกลัวจะเคลียร์งานไม่ทันค่ะ ฉันให้ของขวัญย้อนหลังได้ไหมคะ?” “หนึ่งปีมีสามร้อยกว่าวัน เธอจะสละแค่วันสองวันไปฉลองกันฉันไม่ได้เลยรึยังไงไกอา หรือว่าเธอแค่ไม่อยากไปกับฉัน” “คือว่า…ก็ได้ค่ะ แต่ว่าบอสจำได้ใช่ไหมคะว่าฉันแพ้กุ้ง” “เรื่องแบบนี้ฉันไม่มีทางลืมหรอกน่า วันนั้นก็อย่ากินอะไรมั่วซั่วละ ถึงเธอจะแพ้กุ้งแต่คนอื่นไม่ได้แพ้และกินได้” “ค่ะบอสอามิน” เขายิ้มกว้างขึ้นขณะที่นั่งมองไกอาทำงาน วันนี้แวะเข้ามาหาพร้อมกับหอบขนม ผลไม้และของสดมาด้วย เขารู้ว่าช่วงนี้เธองานยุ่งพอประมาณแต่นั่นไม่ใช่งานเร่งด่วนเลยนะ ดังนั้นหยุดพักสักสองสามวันเพื่อไปเที่ยวด้วยกันน่าจะดีมาก ชาเน่จองรีสอร์ตที่พักและเรือยอร์ชนำเที่ยว เราจะค้างกลางทะเลหนึ่งคืนก่อนกลับมาทำงานต่อ ส่วนเขาก็เตรียมตัวไปเมืองนอกพร้อมพ่อประมาณหนึ่งอาทิตย์กว่าถึงจะกลับมาที่นี่และอยู่ยาว “กินอะไรไหมไกอา?” “ไม่หิวค่ะ ตอนทำงานฉันไม่ชอบกินอะไรมันเสียสมาธิ” “มิน่าละถึงผอมแห้งแบบนี้ แล้วนี่ทำงานอะไรอยู่ขอฉันดูหน่อยได้ไหม?” “ได้สิคะ” เธอกำลังจะหยิบเอกสารและโน๊ตบุ๊กให้เขาดู แต่ว่าบอสอามินกลับลุกขึ้นเดินมายืนซ้อนที่ด้านหลังแล้วก้มลงดูงานใกล้ๆแทน ใบหน้าของเขาใกล้กับเธอแค่คืบเดียวเองนะ แถมมืออีกข้างก็จับเก้าอี้ไว้ไม่ให้เลื่อนออกไปไหนได้ “ข้อมูลของบริษัทไซม่อนเหรอ?” “ใช่ค่ะ คุณท่านอยากจะรู้ลึกๆก่อนเทกโอเวอร์มาดูแลเอง บริษัทนี้เคยทำกำไรได้สูงมากเมื่อสี่ปีก่อน จากนั้นอีกสองปีก็กลับกลายเป็นขาดทุน คุณท่านให้ฉันวิเคราะห์หาสาเหตุให้เจอ ข้อดีข้อเสียและแนวโน้มการตลาดด้วยค่ะ” “ดูแลเธอมาตั้งหนึ่งปีแล้วฉันยังไม่รู้เลยว่าเธอเรียนจบอะไรมา เรื่องนี้ไม่ได้เป็นความลับใช่ไหม?” “เศรษฐศาสตร์ค่ะ แล้วอาจจะต่อโทเพิ่มหลังจากทุกอย่างลงตัวแต่ไม่มั่นใจว่าจะเป็นที่นี่หรือเมืองนอกเหมือนกัน” “ที่นี่ก็เรียนได้ ถ้าเธออยากเรียนต่อฉันช่วยเลือกมหาลัยที่เหมาะสมให้ได้แน่นอน ค่าเทอมฉันจ่ายให้เอง แล้วเดี๋ยวไปเรียนขับรถให้เป็นฉันจะได้ซื้อให้ไว้ใช้เดินทางสะดวกมากขึ้น หรือไม่อยากขับเดี๋ยวให้คนขับรถมารับมาส่งจะได้สบายขึ้น” “แต่ว่า…” “อย่าดื้อสิไกอา เธอเป็นเด็กต้องฟังผู้ใหญ่พูดบ้างนะ” “บอสอามินช่วยฟังก่อนสิคะ คือคุณท่านก็ไม่ได้ว่าอะไรเรื่องนี้เลยนะคะ มหาลัยที่เคยเรียนก็อยู่ใกล้บ้านพักแถมคุ้นเคยมากกว่าด้วย อีกอย่างฉันก็ทำงานได้ทุกที่ไม่มีอะไรต้องกังวลหรอกค่ะ ถ้ามีอะไรฉันจะรีบส่งข้อความมาให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เพราะถึงแม้ฉันไปเมืองนอกเราก็ติดต่อกันได้เป็นปรกตินะ” “อยู่ที่นี่แหละ…อยู่กับฉันเถอะนะ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD