EP.05

1314 Words
EP.05 ประตูห้องเปิดออกโดยคุณฉัตรชัย เจ้าตัวถือกระเป๋าของไกรธวัตเข้ามาในห้อง ก่อนจะหันมาเอ่ยบอกกับชายหนุ่มที่เดินตามมาข้างหลัง “เป็นคอนโดของผมเองครับ หวังว่าคุณธวัตจะพักได้นะ” ชายหนุ่มส่งยิ้มให้กับชายกลางคนอย่างเพลียๆ ถึงอย่างไร มันก็ยังดีกว่าที่เขาจะเข้าไปพักในบ้านดารากาญจน์ ร่วมกับยายเมียน้อยของพ่อ คุณฉัตรชัยกลับออกไปอีกครั้ง บัดนี้ภายในห้องแห่งนั้นจึงเหลือแต่ไกรธวัตเพียงคนเดียว เมื่อความเงียบเข้ามาเยือน เขาจึงมีสมาธิในการคิดไปถึงเรื่องต่างๆ ได้ดีมากขึ้น ภาพวาระสุดท้ายของผู้เป็นบิดาเด่นชัด ยิ่งทำให้หัวใจของเขาสะเทือน ชีวิตคนเราก็มีแค่นี้เอง มีเกิด มีแก่ มีเจ็บ ผลสุดท้าย ก็ต้องตาย ไม่มีใครหลีกหนีสิ่งเหล่านี้ได้พ้น ไม่แม้กระทั่งตัวของเขา ภาพของนางพยาบาลในชุดสีขาวสะอาด ค่อยๆ เลื่อนผ้าสีขาวขึ้นคลุมร่างของคุณไกรวิทย์อย่างเชื่องช้า ไกรธวัตถอยออกมาจนชิดกับผนังห้อง ปล่อยให้เหล่าแพทย์และพยาบาลจัดการตามหน้าที่ของพวกเขา หยดน้ำตาไหลอาบสองแก้ม อ่อนแอ บัดนี้เขากำลังอ่อนแอจริงๆ หรือ เขากำลังจะร้องไห้ ใช่หรือไม่ “แม่ไม่อยากจะให้ลูกเกลียดพ่อไปตลอดชีวิต เกลียดจนลูกไม่สามารถที่จะให้อภัยได้ เพราะถ้าเป็นเช่นนั้น ลูกจะไม่มีวันมีความสุขอีกเลย” เสียงเตือนและพร่ำบอกของคุณธวิราเด่นชัดในสมอง ‘เกลียด’ คำนี้ที่ดังก้องอยู่ในสมองและหัวใจของเขามาตลอด แต่บัดนี้ บางส่วนมันได้ดับมอดลงแล้ว เพียงเพราะเขาได้รู้จักกับอีกคำหนึ่ง ‘ให้อภัย’ ให้อภัยกับผู้เป็นพ่อ...ในวันสุดท้าย มันอาจจะช้าเกินไปต่อคำให้อภัย แต่มันก็ดีไม่ใช่หรือที่เขากลับมาทันได้ดูใจท่าน ชายหนุ่มเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าต่าง เลื่อนเปิดกระจกบานใหญ่รับลมที่พัดมาจากด้านนอก ข้างหน้าคือกรุงเทพฯ เมืองฟ้าอมร และโลกอันกว้างไกล มือที่รวบกำผ้าม่านกำมันจนแน่น ปานว่าจะให้มันแหลกเละคามือ...ไม่น่าเชื่อ คนรอบข้างของเขา แม้กระทั่งแม่ และคนสุดท้ายที่จากไปก็คือพ่อ จะต้องจากไปเพียงเพราะการก้าวเข้ามาของบุคคลเพียงคนเดียวเท่านั้น ปาริฉัตร ผู้หญิงเลือดเย็น!! คุณธวิราแม่ของเขาต้องทุกข์ทรมาน ตรอมตรมหัวใจมากแค่ไหนกับการปรากฏตัวของผู้หญิงคนนี้ แม่ต้องเจ็บช้ำมากเพียงไร กับความหน้าด้านของหล่อน และคนสุดท้าย พ่อ...มากเท่าไรแล้วที่หล่อนปอกลอกไป และก็มากแค่ไหนแล้วที่หล่อนหลอกใช้พ่อของเขา นับจากนี้ เขาจะไม่มีวันให้เหลือบริ้นเช่นหล่อนได้พบกับความสุขอีกต่อไป ไกรธวัตตั้งปณิธาน ตราบใดที่เขายังอยู่ เขาจะไม่มีวันให้ปาริฉัตร เสพสุขกับสมบัติที่เหลืออยู่ของพ่อของเขาอีกต่อไป “ปาริฉัตร เธอกับฉัน แล้วเราจะได้เห็นดีกัน” ไกรธวัต บดกรามจนเป็นสัน ดวงตาที่แข็งกร้าวทอดมองไปข้างหน้า หากดวงตานั้นเปรียบดั่งไฟประลัยกัลป์ เชื่อได้ว่าบ้านเมืองข้างหน้าคงจะวอดวายไปด้วยฝีมือของเขาแน่ บ้านดารากาญจน์ คฤหาสน์หลังใหญ่ภายในพื้นที่เกือบสิบไร่ รายล้อมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ที่ถูกจัดแต่งอย่างลงตัว นับได้ว่าเป็นบ้านอีกหลังหนึ่งที่มีความยิ่งใหญ่ที่รายรอบอยู่ท่ามกลางตึกรามบ้านช่อง ของเมืองใหญ่แห่งนี้ หากแต่ในเวลานี้ กลับมีคนอยู่ในบ้านไม่กี่คนเท่านั้น ภายในบ้าน หญิงสาวคนหนึ่งอายุประมาณ ๒๐ ปี ร่างบางสูงระหง กรอบหน้าขาวเนียน สิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ให้ใบหน้านั้นดูแจ่มใสและน่ารักมากขึ้นนั่นก็คือสองแก้มของเธอที่บุ๋มลึกเวลายิ้ม ถึงจะอยู่ในวัยที่สดใส หากแต่บัดนี้ใบหน้าของเธอกลับถูกแต่งแต้มไปด้วยรอยเศร้า และยิ่งมาอยู่ในชุดสีดำด้วยแล้ว เหมือนดั่งว่า โลกทั้งใบจะเศร้าไปกับเธอด้วย จะไม่ให้เธอเศร้าไปได้อย่างไร ก็เมื่อบัดนี้ ร่มโพธิ์ ร่มไทร หรือผู้มีพระคุณของเธอได้จากไปอย่างไม่มีวันกลับมาอีกแล้ว คุณไกรวิทย์ เจ้าของบ้าน ช่วงแรกที่ทราบเรื่องเธอก็ร้องไห้ฟูมฟายจะไปหาท่าน หากแต่ผู้เป็นมารดากลับห้ามเอาไว้ “เอาไว้แกค่อยไปแสดงต่อหน้าทุกคนในงานศพและวันเผาจะดีกว่านะ” เสียงของ ‘แม่’ ผู้ให้กำเนิดดังเตือนขึ้น แม่คิดว่าสิ่งที่เธอเป็นเช่นนั้นเพียงเพราะ ‘แสดง’ เท่านั้น แต่ท่านไม่รู้เลยว่าสิ่งที่เธอทำนั้นมันมาจาก ‘หัวใจ’ ของเธอต่างหาก ซึ่งมันก็ได้แตกต่างจากที่แม่ปรามาสเอาไว้อย่างสิ้นเชิง ร่างบางที่เกือบจะไร้เรี่ยวแรง เพราะแรงทั้งหมดมันได้หมดไปกับคำว่า ‘เสียใจ’ ต่อคำปรามาสของแม่หมดแล้ว ตั้งแต่วินาทีแรกที่เธอทราบข่าวนี้จากมารดา มีแต่เพียงป้าอิ่มเท่านั้นที่เข้าใจจิตใจของหญิงสาว นางเป็นเพียงคนเดียวที่อยู่เคียงข้างเธอ ในขณะที่ แม่แท้ๆ ของเธอไม่เคยทำเช่นนั้น “คุณหนู พร้อมแล้วหรือยังคะ” ป้าอิ่ม หญิงแม่บ้านเก่าแก่ของบ้านเดินเข้ามาหาหญิงสาวด้วยชุดไว้ทุกข์เช่นเดียวกับเธอ ทั้งสองกำลังจะชวนกันไปที่วัด...งานศพของคุณไกรวิทย์ “จ้ะป้า” เสียงตอบราบเรียบอย่างอ่อนเพลีย “ป้าอิ่ม ภากลัวค่ะ ภากลัวทุกอย่าง กลัวคุณแม่ จนไม่อยากจะไปงานศพของคุณลุง” “อย่ากลัวไปเลยค่ะคุณหนู” หญิงชราเข้ามาให้กำลังใจ มือไม้ลูบหลังลูบไหล่หญิงสาวอย่างเอ็นดู “เราต้องกล้าเผชิญหน้ากับมัน กล้าที่จะชนทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้เราทุกข์ใจ ป้าเชื่อว่า ปัญหาทุกอย่างมันย่อมจะมีทางแก้ไขค่ะ หากคุณหนูกล้าที่จะยอมรับและเผชิญกับมัน ไปเถอะค่ะ คุณปาริฉัตร เธอเป็นแม่ของคุณหนู เธอก็คงจะไม่ทำอะไรให้คุณหนูเสียใจมากซ้ำสองหรอกค่ะ ไม่ต้องกลัวนะคะ ป้าจะอยู่เคียงข้างและดูแลคุณหนูเอง” กำลังใจที่ได้จากป้าอิ่มทำให้หญิงสาวนิ่งและคิดตาม ใช่สิเธอจะต้อง ‘กล้า’ ที่จะเผชิญ แม้จะรู้สึกกลัว แต่เธอจะต้องผ่านพ้นวิกฤตเหล่านั้นไปได้แน่ หลังจากตัดสินใจได้แล้ว หญิงสาวจึงเดินทางไปงานศพของคุณไกรวิทย์พร้อมกับคนรถและป้าอิ่ม เวลายังไม่เย็นมากเสียเท่าไร คนก็ยังไม่มาร่วมงาน ดังนั้นทั้งศาลาและอาณาบริเวณโดยรอบจึงมีเพียงไม่กี่คน ทั้งป้าอิ่มและปุรัมภาจึงเข้าไปช่วยกันจัดดอกไม้หน้าโลงศพของคุณไกรวิทย์ สองตาที่สบประสานกับบุคคลภายในภาพทำให้ดวงตาคู่สวยของ ‘ปุรัมภา’ เริ่มอาบคลอไปด้วยหยาดน้ำตาอีกครั้ง หญิงสาวสะอื้นไห้อยู่ตรงนั้น นี่ลุงของเธอจากเธอไปแล้วจริงๆ หรือ ด้วยที่เธอขาดพ่อมาตั้งแต่เด็กๆ หรืออาจจะเรียกว่าตั้งแต่เกิดมาด้วยซ้ำ เธอไม่รู้ว่าพ่อที่แท้จริงคือใคร ด้วยในอดีตที่เจ็บช้ำของแม่ที่ปิดมาตลอด ทำให้เธอไม่รู้เลยว่าสิ่งที่รวมตัวกันเกิดมาเป็นเธอนั้นมาจากสิ่งไหนกันแน่ ‘ความรัก’ หรือแค่ ‘ความเห็นแก่ตัว’ ของผู้ชายคนหนึ่งเท่านั้น
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD