น้ำมนต์ถือใบยื่นฝึกงานติดมือมาด้วย ตอนนี้เธอต้องตัดสินใจว่าจะฝึกงานที่ไหน พี่รหัสของเธอชวนไปฝึกงานที่ W Channel เขาเป็นผู้ช่วยผู้จัดของทางช่อง ถ้าเธอจะไปฝึกงานด้วยเขาจะฝากให้ซึ่งมันน่าสนใจมาก เธออยากเป็นผู้กำกับในอนาคตแต่ว่าคงยาก คนที่ไม่มีเส้นสายเงินทองอย่างเธอคงเดินเส้นทางนี้ลำบาก
“น้ำมนต์ตกลงฝึกงานไหน”
“ไม่รู้อ่ะตกลงยังไม่ได้ ขอไปปรึกษาแม่ก่อน”
น้ำมนต์ตอบเพื่อนสนิทอย่างคลุมเครือ เธอกำลังสองจิตสองใจหลายที่แม่อาจจะช่วยตัดสินใจได้ เธอเลือกไว้สองถึงสามที่ซึ่งไม่มี NBC Channel อยู่ในลิสต์เพราะเฮียนนท์คงไม่อยากเห็นหน้าเธอเท่าไหร่
“นึกว่าจะไปช่องเฮียนนท์ แกอยู่บ้านเค้าไม่ใช่เหรอไงขอให้เขาฝากเข้าไปสิ ที่นั่นมีแต่คนอยากไปฝึกแต่ว่ารับนักศึกษาฝึกประสบการณ์ยาก”
“ไม่อ่ะ ทุกวันนี้เขาเกลียดขี้หน้าฉันจะตาย ถ้าไปฝึกงานด้วยอีกคงอกแตกนายวันละหลายรอบ”
หญิงสาวเอ่ยออกมาก่อนจะส่ายหน้าอย่างปลงๆ เธอเป็นห่วงเขาเสมอขนาดเมื่อเช้าแนะนำสารพัดให้โชคอยู่กับตัวเขายังทำย้อนเธอทุกอย่าง
“เกลียดกันแบบนี้จะได้กันเองป่ะเนี่ย”
“ลูกเจ้านายกับลูกแม่บ้านจ้ะ เอาอะไรคิด…”
น้ำมนต์เงยหน้าถามเพื่อนอย่างเหนื่อยใจ ความคิดแบบนี้มันไม่ควรเกิดขึ้นไม่ว่ากับใครทั้งนั้น คนอย่างเฮียนนท์ไม่มีทางหันมาสนใจเธอเด็ดขาด เลิกคิดเลิกฝันไปเลย
“แหม่ ในละครมีเยอะแยะไป”
“ก็ละครไงนี่ชีวิตจริง พอๆฉันจะกลับแล้วนะ วันนี้จะไปไลฟ์สดขายของออนไลน์ นัดลูกค้าไว้ด้วย”
“โอ๊ย! อะไรจะขยันขนาดนั้นยะ จะเรียนจบอยู่แล้วไหนจะต้องฝึกงานอีก งานเยอะแยะยังมีเวลาไปขายของอีก”
แน็ตตี้ยอมใจในความขยันของเพื่อนมาก เรียน ทำงานบ้านช่วยแม่ ยังขายของออนไลน์อีก ผู้หญิงแบบนี้จะไปหาจากไหนได้อีก ทั้งสวยทั้งขยันแถมเรียนเก่งมากเลยด้วย
“ก็ต้องขายสิแบ่งเบาภาระแม่ไง อีกอย่างต้องหาเงินให้มากที่สุดเอาไว้ซื้อบ้านให้แม่ด้วย”
“แล้วเก็บได้เท่าไหร่แล้ว”
“เกือบล้านแล้ว”
แน็ตตี้ตาโตอย่างตกใจ ทำไมเพื่อนถึงมีเงินเยอะมากขนาดนี้ ไม่น่าเชื่อว่าจะเก็บเงินได้มากจนน่าตกใจ
“เยอะมาก! แกหามาจากไหนเนี่ย”
“ก็ทำงานพิเศษตั้งแต่เด็กแล้ว คุณหญิงป้าก็จ่ายเงินให้ในเทศกาลเวลาช่วยงานแม่ท่านก็ให้พิเศษ รับจ้างทำรายงาน ออกอีเว้นท์ แล้วก็ขายของออนไลน์”
“หู้ย! เก่งอ่ะ”
“ถ้าเรียนจบมีงานทำก็จะเอาเงินนี้ไปดาวน์บ้านซักหลัง ส่วนรถยนต์แม่บอกว่าจะซื้อให้แค่นี้ก็มีครบทุกอย่างแล้ว อยู่กันสองแม่ลูกมีความสุขซักที”
น้ำมนต์ยิ้มออกมาอย่างฝันหวาน เธออยากให้แม่ได้พักอยากให้ท่านสบาย ไม่ต้องไปทำความสะอาดบ้านล้างจานทำอาหารทุกวันอีกต่อไป อยู่บ้านปลูกต้นไม้รอเธอทำงานกลับมาคงมีความสุขมากจริงๆ
“ดีใจกับแกด้วยนะเว้ย”
“อื้ม ขอบคุณนะ งั้นกลับก่อนนะ”
“จ้ะ กลับเถอะ”
น้ำมนต์โบกมือลาเพื่อนก่อนจะรีบออกไปทันที เธอไปแวะห้างสรรพสินค้าใกล้บ้านเพื่อซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้คุณแม่ เธอเห็นท่านใส่แต่ชุดเดิมๆแล้วมันอดอยากเอาไปทิ้งไม่ได้ แม่ให้เงินเธอมากมายแต่ไม่เคยสนใจซื้อความสุขให้ตัวเองเลย เพราะฉะนั้นถึงเวลาที่เธอจะตอบแทนท่านบ้างแล้ว
“เอาสามชุดนี้ค่ะ”
“ได้ค่ะ เชิญเคาน์เตอร์แคชเชียร์ได้เลยค่ะ”
น้ำมนต์เดินไปชำระเงินก่อนจะถือของเดินไปยังป้ายรถเมล์ที่เดิม จากนั้นก็นั่งไปจนถึงหน้าปากซอยแล้วเดินเข้าไปในบ้านที่คุ้นเคย
“อ๊ะ!”
เธอหันไปมองตามเสียงแตรรถที่บีบไล่หลังเธอเสียงดังลั่นซอย รถหรูที่คุ้นเคยไม่ต้องเห็นคนขับก็รู้แล้วว่าเป็นรถของเฮียนนท์ เธอหยุดเดินหันไปมองเขาที่ลดกระจกรถลงมาคุยกับเธอ
“ยับน้ำเน่าทำไมเพิ่งกลับ”
“ไปแวะซื้อชุดให้แม่มาค่ะ”
“เหรอ… ขึ้นรถมาสิเข้าบ้านด้วยกัน”
น้ำมนต์ส่ายหน้าทันที เดินอีกนิดก็ถึงประตูหน้าบ้านแล้วจะนั่งรถเข้าไปทำไมให้เสียเวลา
“เชิญเฮียนนท์เลยค่ะ เดินอีกนิดน้ำมนต์ก็ถึงหน้าบ้านแล้วไม่รบกวนดีกว่า”
“ฉันให้เธอนั่งไปด้วยเพราะจะให้ไปช่วยถือของหรอก แล้วก็มีอะไรจะคุยด้วยนิดหน่อย”
“ค่ะ”
น้ำมนต์เปิดประตูเข้าไปนั่งลงข้างในรถกับชายหนุ่ม เขาล็อคเรียบร้อยก่อนจะขับไปต่อ น้ำมนต์หันไปจ้องหน้าชายหนุ่มตาแป๋วใบหน้ามีคำถามว่าเขาต้องการจะคุยอะไรกับเธอ
“มองไรอ่ะ”
เขาเหลือบสายตามองหญิงสาวก่อนจะเอ่ยถามอย่างสงสัย หน้าเขามีอะไรติดเหรอถึงได้มองขนาดนั้น
“มีอะไรจะคุยกับน้ำมนต์เหรอคะ ว่าแต่ทำไมเฮียนนท์กลับมาบ้านไวจัง ปกติเซ็นสัญญาเสร็จต้องปาร์ตี้ต่อไม่ใช่เหรอคะ”
เหมือนคำถามจะจี้ใจดำเขามาก เพราะวันซวยของเขาก็คือพังหมดทุกอย่าง แต่เขาจะบอกเธอไม่ได้ว่ายังไม่ได้เซ็นสัญญาไม่อย่างนั้นจะต้องถูกทับถมแน่นอน
“อ่อ สัญญาเหรอเซ็นไปแล้วไง ส่วนงานปาร์ตี้วันนี้เค้าไม่ว่างนะเลยไปจัดวันอื่นแทน”
เขารีบแถไปเรื่อยอย่างร้อนตัว กลัวว่าความลับจะแตกขึ้นมาเดี๋ยวยัยเด็กน้ำเน่าจะสมน้ำหน้าเขาอีก ของแบบนี้เสียหน้าไม่ได้เด็ดขาด
“อ่อ งั้นเหรอคะ”
“ใช่นะสิไม่เชื่อเหรอไง”
“น้ำมนต์ยังไม่ได้พูดอะไรเลยค่ะ”
เธอเอียงคอมองชายหนุ่มอย่างจับผิด เขาหลบสายตาของเธอก่อนจะเข้าเรื่องที่จะคุย
“จะถามว่าฝึกงานที่ไหน เมื่อกลางวันแม่โทรศัพท์มาบอกว่าเธอกำลังจะฝึกงานใช่มั้ย แล้วเลือกได้หรือยังว่าจะฝึกที่ไหน”
ที่ถามเพราะแม่สั่งมาขอให้เอาน้ำมนต์ไปฝึกงานด้วย ถึงแม้ว่าจะเบื่อขี้หน้าก็เถอะแต่ถ้าแม่สั่งมาก็คงทำอะไรไม่ได้
“ว่าจะไปยื่นที่ W Channel ค่ะ”
“ทำไมต้องไป W Channel ทำไมไม่ไปที่ NBC Channel ช่องนั้นดีกว่าช่องฉันตรงไหน”
เขาเอ่ยถามอย่างไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ ช่องของเขาต้องเป็นที่แรกที่ใครก็อยากมาฝึกงานสิ ทำไมถึงเลือกที่อื่นก่อนรู้สึกเสียหน้าอย่างประหลาด
“ไม่ใช่ว่าดีกว่าค่ะ พอดีว่าพี่รหัสชวนน้ำมนต์ไปฝึกงานทีนั่นเขาเป็นผู้ช่วยผู้จัดละคร อีกอย่างไม่อยากไปช่องของเฮียนนท์แค่นี้ก็บ่นเหม็นขี้หน้าหนูทุกวันอยู่แล้ว ถ้าไปฝึกงานด้วยอีกเฮียคงหงุดหงิดกว่าเดิม”
น้ำมนต์พูดออกไปตามที่คิด เขาไม่ค่อยชอบขี้หน้าเธอเท่าไหร่ขนาดชื่อยังเรียกให้น่าเกลียดเลย ถ้าเรียนจบเธอคงพาแม่ออกไปจากที่นี่แล้วถึงเวลานั้นเขาคงมีความสุขที่ไม่ต้องเห็นเธอวนเวียนให้รำคาญใจอีก
“ฉันไม่ได้เหม็นขี้หน้าเธอซักหน่อยเอาอะไรมาพูดกัน ไปฝึกงานที่ช่องของฉันว่างก็ไปยื่นเอกสารฝึกงานทิ้งไว้ ฉันจะสั่งฝ่ายบุคคลไว้ให้”
“แต่ว่า…”
“นี่เป็นคำสั่ง แม่ฉันขอร้องไว้ว่าให้รับเธอฝึกงาน อย่าทำให้ฉันลำบากใจได้ป่ะ”
เขาเอ่ยออกมาเสียงเซ็งๆ น้ำมนต์ก้มหน้าลงเล็กน้อยก่อนจะถอนหายใจออกมา เพราะคุณหญิงป้าขอไว้สินะถึงยอมให้ไปฝึกงานด้วย ถ้าไม่อย่างนั้นมีหรือที่คนอย่างเขาจะมาพูดแบบนี้
“ขอโทษค่ะ เดี๋ยวน้ำมนต์จะไปบอกคุณหญิงป้าว่าจะไปฝึกงานที่อื่น เฮียนนท์จะได้ไม่ต้องลำบากใจไง”
“พูดมากจังวะ ให้ทำไรก็ทำสิ”
เขาสบถออกมาอย่างหัวเสีย ที่น้ำมนต์กำลังยั่วโมโหเขาอยู่ เธอเงยหน้ามองเขาก่อนจะหน้าบอกบุญไม่รับสุดๆ
“ก็เฮียนนท์ลำบากใจที่จะให้น้ำมนต์ฝึกงานด้วยไง ไปฝึกงานที่อื่นดีกว่าอีก”
“ฉันหมายถึงลำบากใจที่ต้องทะเลาะกับแม่เรื่องนี้มั้น เธอนี่มันน่ารำคาญจริงๆให้ตายสิ”
“ใช่สิน้ำมนต์ทำอะไรก็ผิดไปหมดเลยนี่”
ทั้งสองคนสะบัดหน้าใส่กันอย่างอารมณ์ไม่ค่อยดี สองคนไม่เคยคุยกันได้นานหรอกแป๊บเดียวก็ทะเลาะกันแล้ว
‘คอยดูเถอะเรียนจบเมื่อไหร่เธอจะไม่อยู่ให้ชายหนุ่มรำคาญใจอีก ถึงเวลานั้นเขาคงยิ้มมีความสุขมากสินะ’