ตอนที่ 11

1642 Words
  11 “อือ...ปวดท้อง” นิลลดาครางเสียงแผ่ว ขดตัวงอเป็นกุ้งถูกต้ม กดมือบนท้องน้อยสลับโอบแขนรอบกาย เพื่อคลายความเย็นสลับไขว่คว้าหาผ้ามาคลุมกาย แต่พายุกลับไม่ยอม รีบยื่นมือไปคว้าเอาผ้าขนหนูชุบน้ำบิดหมาด ๆ ซึ่งเตรียมไว้ตั้งแต่แรกมากดซับเช็ดไปตามแอ่งชีพจร ลดไอร้อนๆ ของคนไข้ขึ้น “ไม่เอา หนาว” แม่ตัวเล็กไม่วายปฏิเสธและผลักไส ด้วยความเย็นจนขนตามเรือนกายลุกชัน กายบอบบางซึ่งหลอกตาในคราแรก แต่เมื่อเปิดเปลือยเหมือนทารก ทำเอาคนซึ่งทำหน้าที่บุรุษพยาบาลจำเป็นถึงกับกลืนน้ำลายลงคอ เมื่อพบกับความงามราวกับประติมากรรมชั้นยอด ดวงหน้านวลแม้จะแดงปลั่งและมีไรเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดออกมาด้วยฤทธิ์ไข้ ทว่าผิวนวลเนียนหอมกรุ่นช่างน่ามองเป็นยิ่งนัก ริมฝีปากอิ่มจิ้มลิ้มหรือก็น่ากดปากแนบลงไปซอกซอนหาความหวานให้ชุ่มฉ่ำใจ ไล่ลงมาตามลำคอระหง ดวงตาคมกริบจะหยุดตรงเนินทรวงอวบอิ่มเต่งตึงน่าสัมผัส ผิวกายคนตรงหน้าไม่ได้ขาวจัด ออกสีคล้ำๆ นวลเนียนอย่างที่เรียกว่าผิวสีน้ำผึ้ง ทว่าทรวงอกอวบกลับออกเป็นสีจางๆ ปลายยอดทรวงกลมกลึงแต้มด้วยเม็ดเชอรี่สีชมพูจางๆ พายุรู้สึกเหมือนกับว่าเขาได้หลงไปในทะเลทราย ปากและคอแห้งผาก เกิดความกระหายอยากขึ้นมาในฉับพลัน จนต้องรีบบังคับตัวเองให้ละสายตาแต่ก็ไม่อาจทำได้ เลยเปลี่ยนเป็นไล่ลงไปหน้าท้องแบนราบเรียบไร้ไขมันส่วนเกิน เอวเล็กคอดกิ่วรับกับสะโพกกลมมน ไล่ลงไปตามปลีน่องเรียวยาวราวกับท่อนลำเทียน “โอ๊ย!! พระเจ้าช่วย ถ้าควบคุมอารมณ์ไม่ได้ ลักหลับคนป่วยนี่จะมีใครด่าเขาไหมนี่” “หนาว...” เสียงคนตัวเล็กร้องครางผะแผ่ว มือไขว่คว้าพร้อมขยับกายหาไออุ่นที่สัมผัสได้ เพียงแค่มือนิ่มแตะต้องกายปลุกไฟราคะในตัวพายุถึงกับพุ่งลิ่ว เลือดในกายร้อนฉ่าราวกับลาวาใต้พื้นพิภพซึ่งเดือดปุด ๆ คงไม่มีใครว่าถ้าเขาจะแตะต้องเมียสักหน่อย... สองมือจับแขนเล็กที่คอยกวัดแกว่งไปมาแนบพื้นเตียงและเท้าแขนคร่อมกักร่างบางเอาไว้ สองขาล่ำแกร่งทาบบนปลีน่องกลมกลึงสำทับอีกครั้ง สายตาสีนิลคมกริบไล่มองไปทั่วกายสาวอวบอิ่ม ก่อนจะเคลื่อนกลับไปบนหน้านวล ปลายนิ้วยาวตวัดเกลี่ยปอยผมซึ่งหลุดลุ่ยลงมาระแก้มใสและต้นคอระหง สาวน้อยตรงหน้า ไม่ถือว่าเป็นคนสวยจัด แต่ออกเค้าของคนน่ารัก หน้าผากโหนกนูน คิ้วโก่งโค้งเรียว แก้มอิ่มใสแดงระเรื่อ จมูกเล็กโด่งขึ้นสัน ริมฝีปากรูปกระจับจิ้มลิ้มเป็นสีชมพูระเรื่อน่าจูบ เป็นเพราะกายใหญ่อุ่น ทำให้แม่ตัวเล็กซึ่งหนาวสั่นจนขนตามเรือนกายลุกชันรีบขยับเคลื่อนมาแนบชิด กลีบปากนุ่มยื่นออกมาเล็กน้อยราวกับจะบอกใบ้ให้เขาทำอย่างใจต้องการได้ ทนไม่ไหวแล้วโว้ย!! ใบหน้าคมคร้ามแกร่งโน้มลงไปประทับจุมพิตบนเรียวปากนุ่ม แค่แตะเบาๆ เท่านั้นคนตัวเล็กก็ร้องอืออาเหมือนจะประท้วง แต่ก็ไม่ได้ขยับหนี พายุลองกดย้ำ ขบกัดกลีบปากล่างแผ่วเบา ปลายลิ้นอุ่นชื้นตวัดไล้เปิดแยกกลีบปากนุ่มให้แย้มออก สอดลิ้นสากอุ่นเข้าไปในโพรงปากนุ่มอย่างแผ่วเบาและอ่อนโยน ฝ่ามือร้อนระอุลากไล้ไปตามลำคอระหง บีบนวดไล้ลากไปตามลาดไหล่กว้าง เรื่อยไปตามแผ่นหลังนวลเนียนราวกับกำมะหยี่ ปลายนิ้วหยาบกระด้างเพราะการทำงานหนักนวดคลึงอย่างต้องการช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อนิลลดา ก่อนวกกลับไปตามสีข้าง เรื่อยมาจนถึงก้อนเนื้อเต่งตึงตั้งเต้า ลิ้นอุ่นร้อนเลาะเลี้ยวเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นเล็กๆ ฝ่ามือทาบทับบนทรวงอกกลมกลึงเคล้นคลึงจนปลายยอดทรวงเครียดครัดชูชัน “อืม...” คนตัวเล็กส่งเสียงร้องครางแผ่วเบาเหมือนจะประท้วง ทว่ามือนุ่มนิ่มกลับเคลื่อนไหว จิกปลายเล็บบนแผ่นหลังกว้าง ในท้องปั่นป่วนเหมือนกับมีลูกไฟวิ่งไหลวนอยู่ บางครั้งก็ซาบซ่านหวานซ่า แต่บางคราก็ปวดร้าวจนท้องไส้เหมือนจะบิดเป็นเกลียว “หนูมุก...” พายุร้องครางเสียงแหบพร่า ข่มกลั้นไฟราคะในเรือนกายซึ่งลุกโชนราวกับเปลวไฟไหม้กองฟางให้มอดดับ แม้ไม่สนิทด้วยควันไฟยังลอยคุกรุ่นขึ้น แต่ก็ดีกว่าจะถูกตราหน้าว่ารังแกคนป่วย ถอนจูบออกอย่างแสนจะเสียดาย ผุดลุกจากเตียงนอนราวกับลูกกระสุน ให้อยู่นานกว่านี้อีกเพียงนิดเดียว เขารู้ดีว่าคงไม่สนใจอีกฝ่ายป่วยหรือเปล่า รุกล้ำเอาแต่ใจจนถึงฝั่งปรารถนาแน่นอน “หนาว...ไม่เอา แม่จ๋า ไม่ไปนะ” น้ำตาอุ่นร้อนเอ่อล้นไหลออกจากสองเบ้า เมื่อไออุ่นจางหายไป แล้วความหนาวเหน็บก็เข้ามาแทนที่ ขดตัวหดงอขาขึ้นมาจนเข่าแทบจะแนบกับอกอวบอิ่ม ราวกับทารกที่ขดอยู่ในท้องมารดารอวันคลอดออกมาลืมตาดูโลก สองมือไขว่คว้าหาร่างซึ่งคิดว่าเป็นมารดาซึ่งมักจะไม่ค่อยได้อยู่ดูแลเธออย่างแม่ลูกครอบครัวอื่น เพราะมัวแต่ยุ่งอยู่กับกิจการงาน พายุถลากลับมาที่เตียงนอน รีบสอดแขนดันกายกลมกลึงขึ้น จับแขนเรียวสอดเข้าไปในแขนเสื้อซ้ายขวา กลัดกระดุมหมดทุกเม็ดจนสำเร็จเรียบร้อย คิดว่าจะให้มุกลดาได้พักผ่อนสักครู่ ในขณะที่เขาไปหาดูว่ามีอะไรพอให้หญิงสาวรองท้องก่อนจะกินยา แต่ไม่รู้ยังไงสายตากลับมองไปแล้วสะดุดกับอะไรบางอย่าง ก่อนดวงตาคมกริบจะเบิกกว้าง เหงื่อเม็ดโป้งผุดขึ้นตามข้างขมับ “ฉิบหายแล้ว!” ชายหนุ่มสบถเสียงเข้ม สำหรับการดูแลคนไข้น่ะไม่มีปัญหา เพราะเคยดูแลมารดาออกบ่อยไป แต่ไอ้ที่ต้องมารับผิดชอบกับ... “ทำไงดีวะนี่ เกิดมาไม่เคยต้องมาทำอย่างนี้เลย” นอกจากแม่จอมฤทธิ์มากนี่จะมีไข้แล้ว เธอดันมีแอกซิเด้นท์ตามติดมาด้วย พายุถึงกับมึนงง ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี ในบ้านก็มีเพียงแค่เขาและมุกลดาสองคน เพราะเขาชอบความสันโดษ ไม่ค่อยอยากยุ่งเกี่ยวกับใครให้ปวดหัว เลยจ้างคนมาดูแลบ้านและทำอาหารเฉพาะกลางวันเท่านั้น แต่ถ้าวันไหนเขาอยู่บ้านก็จะมีเพียงแค่ปิ่นโตเท่านั้น แล้วตอนนี้... มือหนาคว้าเอาผ้าห่มคลุมให้กับร่างเล็กซึ่งนอนครางครวญอยู่ ก่อนจะก้าวลงจากเตียงไปเดินวนไปเวียนมาอย่างไม่รู้จะทำไงดี แล้วคนบนเตียงหรือก็กระสับกระส่ายดิ้นไปมาจนผ้าห่มเคลื่อนไปอยู่อีกฝั่งหนึ่ง ถ้าเพียงแค่นั้นเขาก็ยังไม่รู้สึกอะไรนะ แต่ชายเสื้อตัวที่เขาเลือกมาให้อีกฝ่ายใส่ก็ยาวใช่ย่อยแล้วนะ ยังเลิกขึ้นไปจนเห็นขาอ่อนรำไรยั่วใจ จนเขาอยากได้น้ำเย็นสักโอ่ง จะได้ลงไปแช่ดับความร้อนในกายให้เย็นลงบ้าง “แม่จ๋า...ปวดท้อง ปวดหัวด้วย” นิลลดาบอกเสียงแผ่ว ขดตัวงอ สองมือสอดรัดรอบท้อง พลิกตัวกลับไปมา บนขมับก็มีเหงื่อเม็ดเล็กๆ ผุดออกมาไม่ขาดสาย “อือ ๆ ...รู้แล้วๆ รอเดี๋ยวละกัน” พายุตอบกลับ เอาวะ...ไงตอนนี้หญิงสาวก็เป็นเมียเขาแล้วนี่นา เจ็บไข้มันเลี่ยงกันได้เสียที่ไหนล่ะ ยังก็ดูแลกันไปละกัน ตัดสินใจได้แล้วก็เดินกลับมายังเตียงนอน คว้าผ้าห่มมาคลุมกายให้สาวเจ้าอีกครั้ง ก่อนเดินไปคว้าเอากุญแจรถ ไม่ไกลจากบ้านสักเท่าไหร่ มีร้านค้าเปิดจนดึง คงพอให้เขาหาของที่หญิงสาวจำเป็นต้องใช้จากที่นั่นได้ครบทุกอย่าง “นิลลดา!!!” แม้จะไม่ใช่ชื่อของเธอ ทว่าความคุ้นเคยกับเจ้าของชื่อนั้นดีก็ทำให้คนถูกเรียกถึงกับสะดุ้งจากน้ำเสียงเข้มดุราวกับฟ้ากำลังคำรามผ่ากลางท้องฟ้าโปร่ง ไม่มีเมฆฝนมืดครึ้มแต่อย่างใด เท้าซึ่งกำลังก้าวเดินไปหาที่นั่งเพื่อรับประทานอาหารเช้าหยุดชะงักทันควัน ใบหน้าที่มัวแต่ก้มมองพื้นเงยขึ้นทีละน้อย ในหัวใจกระหน่ำรัวเร็วอย่างตื่นตระหนก แม้จะเพียงแค่เจอกันเพียงแค่ครั้งเดียวก็คือเมื่อวาน ทว่าเธอก็ยังจำน้ำเสียงของเขาคนนั้นได้ดี คนที่ทำให้กลัวจนตัวสั่น ขนตามเรือนกายลุกชัน เพียงแค่ได้พบประสบหน้ากับภูมินทร์อีกครั้ง ก็ทำให้เธอกลัวจนหัวใจร่วงหล่นไปกองอยู่ที่ตาตุ่มแล้ว ดวงตากลมโตเบิกกว้าง แต่ไม่เท่ากลีบปากนุ่มสีชมพูระเรื่อที่อ้ากว้างเสียจนแมลงวันแทบจะบินเข้าไปวางไข่ได้ ก่อนจะรีบปิดลงดังฉับ กลืนน้ำลายลงคออย่างฝืดเคืองที่สุด เมื่อเจอเข้ากับหน้าตาบูดบึ้งขึ้งเคียด ดวงตาลุกโชนด้วยเปลวเพลิงโทสะ ที่ทำเอาเธออยากให้แผ่นดินที่ยืนอยู่แยกออก แล้วแทรกร่างของตัวเองลงไป  
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD