ตอนที่ 12

1782 Words
12 “ฉันบอกให้รอทำไมถึงไม่รอ แล้วทำไมถึงยังอยู่ที่นี่ ไม่ยอมกลับบ้านกลับช่องฮ้า...” คนบันดาลโทสะถามเสียงเข้มไปอีกระลอก เดินฉับ ๆ มาคว้าแขนเรียวยาวของคนซึ่งยังคงตกใจจนตัวแข็งทื่อราวกับขาถูกตรึงเอาไว้ บีบแรง ๆ และลากด้วยแรงอันมากกว่าพาสาวเจ้าย้อนกลับเข้าไปในลิฟต์อีกครั้ง “เฮ้ย! คุณจะพาฉันไปไหน” มุกลดาตั้งสติได้ ถามเสียงสั่น รีบปลดมือหนาออกจากแขนแทบไม่ทัน แต่นอกจากจะไม่ได้รับการปล่อยแล้วยังถูกรัดแน่นขึ้นเสียจนเธอคิดว่าได้ยินเสียงกระดูกหักดังกร๊อบด้วย “ปล่อยนะคนบ้า ฉันเจ็บ” ข่มกัดฟันบอกเสียงเขียว ชักสีหน้าเคืองขุ่นเกรี้ยวโกรธใส่คนขี้ตู่เอาแต่สั่ง แล้วเธอไม่ได้รับปากว่าจะทำตามเสียหน่อย จะมาโกรธได้ยังไงกัน “หุบปากนะยายดำ ถ้าไม่อยากถูกฉันบีบคอในลิฟต์นี่ แล้วบอกมาว่าพักอยู่ชั้นไหน ห้องไหน” ขู่เสียงเขียวเข้ม ตาดุกร้าวแข็ง เธอทำเอาเขาถึงกับหูชาตอนที่โทรไปเลื่อนเวลานัดแฟนสาว ต้องเสียเงินซื้อข้าวของแพง ๆ ให้ชุดใหญ่เป็นการง้องอน ในขณะที่ยายตัวแสบนี่กลับจรลีหนีหายไป รอเท่าไหร่ก็ไม่เห็นหัว ทางเดียวที่คิดได้ก็คือนำเรื่องของเขาไปฟ้องมารดา เพราะไม่เช่นนั้น เช้านี้มารดาไม่ดักรอเขาอยู่ พร้อมเรียกเข้าไปอบรมแล้วก็สั่งให้เลิกกับจันทร์วลัยหรอก มุกลดาสะบัดค้อนใส่ชายหนุ่มวงโต ปากอวบอิ่มห่ออู้ จมูกเล็กโด่งขึ้นสันยู่ย่น ยื่นมือไปกดชั้นซึ่งพักอยู่อย่างเสียไม่ได้ มาจุ้นเรื่องของเธอทำไมนี่ เธอจะทำอะไรมันก็เรื่องของเธอซิ อยากกล้าหาญสักเศษเสี้ยวหนึ่งของนิลลดาเสียจริง ๆ จะได้ตอกกลับภูมินทร์ให้หน้าหงายไปเลย แต่เมื่อทำไม่ได้ก็เลยอึดอัดคับแค้นใจ ข่มกัดริมฝีปากจนเจ็บ พอๆ กับมือนุ่มที่ถูกปลายเล็บจิกลงไปเต็มๆ แรง ภูมินทร์จ้องมุกลดาด้วยสายตาแปลก ๆ กึ่งงงงัน นิลลดาที่เขารู้จักจะต้องโต้ตอบออกมา ไม่ใช่เงียบฉี่แบบนี้ สองแขนยกขึ้นสอดไขว้ระหว่างอก กวาดไล่มองกายอรชร นี่ก็อีกอย่างที่แปลกไป ปกตินิลลดาที่เขาเห็นไม่เค้ยไม่เคยเลยที่จะใส่กระโปรง จนบางครั้งแทบจะต้องขู่ว่าจะใส่ให้หญิงสาวถึงได้ยอมแพ้ แต่คราวนี้เมื่อวานเขาก็เห็นเธอในชุดเสื้อและกระโปรงติดกันออกเค้าไปทางหวานเรียบร้อยและน่ารัก ตอนนี้ก็เช่นกัน... ร่างแบบบางอยู่ในชุดสีโอโรส ตัวเสื้อคอรูดผูกโบด้านหน้า ปลายแขนยาวลงไปถึงข้อมือมีสายเล็กรูดผูกเอาไว้ ยาวลงไปชายเสื้ออยู่ในขอบกระโปรงสีเดียวกับเสื้อยาวเหนือเข่าเล็กน้อย เท้าที่เคยมีแต่รองเท้าผ้าใบกลับเป็นรองเท้าสานเปิดหัวปิดท้ายอวดเท้าเรียวเล็ก “มีอะไรหรือเปล่าคุณ” เอ่ยถามเสียงหวาด ๆ ขนกายลุกชันกับสายตาที่มองมาอย่างพินิจพิจารณา มุกลดามองไล่ตามสายตาอีกฝ่ายแล้วก็ไม่เห็นว่าตัวเองจะมีอะไรผิดปกติไปเลยนี่นา ก็ชุดเดิม ๆ หน้าตาซีดเซียวไร้สีสันคนเดิม บ้าหรือเปล่า? ถึงได้มองเธออย่างกับเห็นผีกลางวันแสกๆ อย่างนั้นแหละ “เปล่า” ตอบกลับพร้อมจับลากแขนของคนซึ่งพยายามจะวิ่งหนีเมื่อประตูลิฟต์เปิดออก “ห้องไหน” “ปล่อยฉันนะ ปล่อย!” คราวนี้มุกลดาไม่ยอมแพ้ เสียงเล็กพลิ้วใสแผดร้องดังลั่น สั่งให้ชายหนุ่มปล่อยตัวและฝืนร่างเอาไว้ไม่ยอมเดินตามแรงลากจูงไปง่าย ๆ มิหนำซ้ำยังยื่นมือเรียวไปจับขอบประตูลิฟต์เอาไว้ ราวกับคิดว่าจะช่วยได้ แต่ก็ถูกปลดออกในเร็วพลัน “ชะ...อุ๊บ!” คำร้องขอความช่วยเหลือ จากเห็นพนักงานซึ่งกำลังจะเริ่มทำความสะอาดห้องพักหายไปในปากอิ่มนุ่ม ด้วยถูกปิดด้วยปากหนาร้อนผ่าว เหมือนสายฟ้าที่แลบบนท้องฟ้าฟาดลงมากึ่งกลางกระหม่อม ช็อตจนเธอเข่าอ่อนยวบแต่ร้อนผ่าวราวกับถูกเพลิงไฟเผาให้มอดไหม้ ขนตามเรือนกายลุกชัน ดวงตาเบิกกว้างยิ่งกว่าไข่ห่าน ในทรวงไหววูบด้วยอัตราการกระหน่ำเต้นของหัวใจ สองมือซึ่งยกขึ้นจะผลักร่างหนาราวกับแท่งหินแกรนิตให้ถอยห่าง แต่กลับไม่ขยับเคลื่อนเลยแม้แต่น้อย และยังดันกายเธอไปแนบชิดผนังห้องตรึงไว้ด้วยกายแข็งแกร่ง ภูมินทร์เองก็แปลกใจตัวเอง ไม่รู้ด้วยเหตุผลกลใดที่สั่งให้เขาปิดปากยายตัวเล็กแสบด้วยปากตัวเอง หรือเขาเองอยากจะทำอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อวาน อยากสัมผัสกลีบปากสีชมพูระเรื่อที่ขยับต่อล้อต่อเถียงด้วยอย่างเอาเป็นเอาตายไม่มียอมแพ้สักครั้ง สู้ด้วยปากไม่ได้ก็สู้ด้วยอย่างอื่น กลีบปากอิ่มเต็มหวานนุ่มจนต้องกดรั้งลงไปอย่างหนัก ๆ ไรฟันขบกัดเม้มดูดกลีบปากอิ่มนุ่มสลับทั้งบนและล่าง เปิดแยกกลีบปากบางสอดแทรกปลายลิ้นไปซอกซอน กวาดไล้ไปทั่วโพรงปากนุ่ม เกาะเกี่ยวเลี้ยวเลาะหยอกล้อกับเรียวลิ้นเล็กชื้นอย่างไม่ผิดหวังกับความหวานนุ่มหอมละมุนลิ้น บดเบียดกายแกร่งกับความนุ่มนิ่มหอมกรุ่นราวกับดอกมะลิป่าอย่างลืมตัว “อือๆ” มุกลดาเรียกสติที่กำลังจะหลุดลอยคืนกลับมาอย่างยากเย็น สองมือระดมทุบไปบนอกกว้าง แต่ก็เหมือนเอาไม้ไปทุบกำแพงหนา แต่อีกฝ่ายไม่มีท่าทีสะดุ้งสะเทือนหรือถอยหนี แล้วยังจับสองแขนกลมกลึงบิดไพล่ไปด้านหลัง บดเบียดร่างกายหนาและอุ่นร้อนแนบชิดกายเธอไปเสียทุกสัดส่วน ชวนให้มึนงงในศีรษะ ด้วยความกระสันปั่นป่วนที่แล่นพล่านไปตามกระแสเลือด ขาเรียวสั่นเทาและเข่าอ่อนยวบเกือบจะทรุดกองกับพื้น “ถ้าปล่อย แล้วมีเสียงหลุดออกมาจากปากสักแอะนะยายดำตับเป็ด ฉันจะจูบเธออีก” ขู่เสียงเข้มแนบชิดกลีบปากนุ่ม “จะไม่จูบอย่างเดียว แต่จะทำอย่างอื่นด้วย” ขบกัดบดเบียดบนกลีบปากนุ่ม ซอกซอนหาความหวานจากโพรงปากนุ่ม วาดฝ่ามือไล้ไปตามบ่ากว้าง ลูบไล้ลงไปตามลำแขนกลมกลึง ไล่ไปตามสีข้างเรื่อยไปจนครอบครองทรวงอกนุ่มหยุ่น มุกลดาร้อนผ่าวเหมือนกับถูกไฟเผาร่างจนแทบจะหลอมละลายเป็นไอน้ำ จะผลักไสอีกฝ่ายออกไปก็ทำไม่ได้ ครั้นจะปล่อยให้เหตุการณ์เกิดแบบนี้ก็ไม่ได้อีก แต่เธอไม่รู้ว่าจะทำไงถึงจะหลุดออกจากเงื้อมมือไอ้บ้าที่ทำให้สั่นสะท้านไหวราวกับกำลังจับไข้ เดี๋ยวหนาวเดี๋ยวร้อน หายใจหายคอไม่ออกเหมือนคนจมลงไปในน้ำ อึดอัดในทรวงระคนวาบหวาม เกลียวสายน้ำร้อนแรงไหลวนอยู่ในท้องน้อย ก่อนจะแผ่กระจายออกไปจนทั่วร่าง ขาเรียวยาวสั่นเทาจนแทบจะยืนทรงตัวไม่อยู่ จำต้องเอนอิงร่างหนาใหญ่เพื่อไม่ให้ทรุดกองลงกับพื้น หน้านวลแดงปลั่งแหงนขึ้นมองคนจูบ ดวงตาแวววาวเป็นประกายเกรี้ยวกราดระคนหวานเชื่อมโดยไม่รู้ตัว “คุณทำอย่างนี้ทำไม” ถามเสียงนุ่มหวานแหบพร่า ยกมือซึ่งไม่รู้ว่าถูกอีกฝ่ายปล่อยตั้งแต่เมื่อไหร่ขึ้นลูบกลีบปากนุ่มเห่อแดงอย่างเผลอไผล “อยู่ห้องไหน” ภูมินทร์ไม่ตอบ แต่ถามอย่างต้องการคำตอบ เพราะเขาเองก็ไม่รู้เหมือนว่าทำอย่างนี้ทำไม รู้แต่ว่าอยากสัมผัสกลีบปากสีชมพูสดนี่ให้ฉ่ำใจ แขนใหญ่สอดไประหว่างเอวเล็กคอด ทาบมือข้างสะเอวดันให้กายกลมกลึงแนบชิดร่างแกร่ง โน้มใบหน้าลงไปจนลมหายใจเป่ารดแก้มนุ่มใสจนเห็นเส้นเลือดฝาด “บอกมาว่าอยู่ห้องไหน หรือว่าอยากจะถูกจูบตรงนี้อีกครั้ง หืม...ยายดำ” ทอดเสียงถามนุ่มแหบพร่า ตวัดปลายนิ้วลากไล้คลึงเคล้นกลีบปากนุ่มแผ่วเบา ซุกไซ้คลอเคลียริมฝีปากหนาบนลำคอระหง ขบกัดจนอีกฝ่ายสะดุ้งเฮือก ประพรมขึ้นไปขบกัดติ่งหูเล็ก ห่อปลายลิ้นกระเซ้าเย้าแหย่ไปในช่องหูนุ่ม ฝ่ามือร้อนระอุเฟ้นคลึงอกอวบเต่งตึง “อ๊ะ อือ...ปล่อย!” กระแสเสียงที่สั่งออกไปสั่นพร่าแหบเครือ ผลักดันปลดมือหนาออกจากกาย แต่เหมือนเธอเอาไม้ซีกไปงัดไม้ซุง ยิ่งขัดขืนมากเท่าไหร่ ปากหนาขยับเคลื่อนคลอเคลียขบเม้มสร้างความวาบหวามก็เม้มดูดหนักหน่วงมากขึ้น ยังจะสอดแขนกระชับรัดร่างนุ่มนิ่มแนบไปกับกายหนาแกร่ง ที่ทำเอาให้เธอแทบจะไม่กล้าแม้กระทั่งหายใจเพราะกลัวการเสียดสีทำให้เสียวซ่านรัญจวนจนเข่าอ่อนยวบ “อยากไปก็ตามมา แต่กรุณาให้เกียรติฉันด้วยคุณภูมินทร์ ปล่อย!” คราวนี้เธอไม่ได้ขอร้องแต่สั่งเลยทีเดียว “นำไปดี ๆ ฉันอยากจะปล่อยเมื่อไหร่ ก็ปล่อยเองแหละ” ภูมินทร์ตอบกลับอย่างไม่สนใจน้ำเสียงเข้มๆ ของอีกฝ่าย เผอิญว่าวันนี้นิลลดาทำให้เขาถูกแม่สั่งให้เลิกคบกับแฟน เธอเลยต้องรับผิดชอบไปส่วนหนึ่ง แล้วเขาก็ดันชอบที่จะอยู่ใกล้ชิดกับกายนุ่มๆ กลิ่นหอมกรุ่นและบริสุทธิ์ราวกับมะลิป่านี่ด้วย ไอ้บ้า...! มุกลดากัดฟันกรอด ประกายในดวงตาลุกโชนด้วยเปลวเพลิงไฟ ที่ถูกเอาเปรียบโดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเรื่องอะไร แล้วเมื่อข่มกลั้นอารมณ์เอาไว้ไม่ได้ ปลายเล็บมนๆ เลยจิกลงไปบนหนังหนาและลากแรงๆ ภูมินทร์หลุบตาลงมองแม่แก้มใสหน้าแดง ไล่ลงไปถึงลำคอเพราะอายระคนโกรธเขา เห็นแล้วอยากไล้ลากปลายนิ้วเล่นสลับจูบซับคลอเคลีย อืม...เดี๋ยวเอาคืนที่หญิงสาวทำร้ายเขาดีกว่า มุมปากหนายกขึ้นเล็กน้อย นัยน์ตาคมกริบพราวระยับ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD