10
“ทำไมฉันต้องปล่อยเธอด้วย” คิ้วเข้มเลิกขึ้นเล็กน้อย ไล้เลื่อนฝ่ามือบนแผ่นหลังเนียนเรื่อยขึ้นไปตวัดปลายนิ้วตามขอบเสื้อ ใบหน้าคมโน้มลงมาอย่างเชื่องช้า เหมือนจะให้โอกาสนิลลดาได้เบือนหน้าหนี แต่กลับเคลื่อนมือข้างหนึ่งไปจับรั้งปลายคางเอาไว้ ก่อนปากหนาร้อนผ่าวทาบทับบนกลีบปากนุ่มอย่างแม่นยำ
นิลลดาขนลุกซู่ ขนคอตั้งชัน ผิวกายบริเวณที่ถูกสัมผัสร้อนวาบราวกับถูกไฟเผา จะเบี่ยงส่ายหน้าหนีก็ถูกมือหนาสอดไปจับตรึงท้ายทอยเอาไว้ให้รอรับจุมพิตร้อนผ่าวอย่างถนัดถนี่ กลีบปากนุ่มถูกขบกัดอย่างแผ่วเบา ฟันคมกดย้ำกลีบปากบนสลับล่าง
“อือ...” ร้องประท้วงแผ่วเบา จากกำหมัดทุบไปบนกายแกร่งกลับทาบฝ่ามือบนอกกว้าง จิกปลายเล็บลงไปด้วยความซาบซ่าน ในท้องปั่นป่วนเหมือนมีสายน้ำไหลวนเวียนอยู่ สมองเบลอไม่สั่งการ ไม่รู้เลยว่าตัวเองเผยอปากให้อีกฝ่ายส่งปลายลิ้นล่วงล้ำเข้าไปซอกซอนหาความหวาน
พายุถึงกับร้องครางในลำคอ เมื่อปลายลิ้นเล็กๆ ของอีกฝ่ายยื่นออกมาเลาะเลี้ยวเกี่ยวพันกับลิ้นอุ่นๆ ของเขา เลือดอุ่น ๆ เริ่มไหลวนเวียนไปทั่วร่าง แม่เมียตัวเล็กเขานี่หวานชะมัดยาดเลย ท่อนแขนกำยำกระชับกอดรัดจนร่างเล็กแนบไปกับความแข็งแกร่ง ลูบไล้ฝ่ามืออุ่นระอุคลึงเคล้นไปทั่วร่างนุ่มอย่างหนักหน่วง บีบเคล้นสะโพกกลมกลึง วกกลับขึ้นไปจนครอบครองเนินเนื้ออวบอิ่มเต่งตึง แต่เพราะชุดแต่งงานทั้งหนาและรุ่มร่ามทำให้พายุทำอะไรไม่ถนัด ชายหนุ่มสบถเสียงเข้มแนบชิดกลีบปากนุ่มอุ่น เป็นเหตุให้คนตัวเล็กได้สติแม้จะไม่ทั้งหมด แต่ก็พอรู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่
“อือ ๆ ปล่อยฉันนะคนบ้า!” สองมือทุบบนอกกว้างสลับยันกายหนาใหญ่ให้ถอยห่าง เพราะอีกฝ่ายไม่ทันจะตั้งตัวเลยทำให้เธอสามารถฉกตัวเองถอยกรูดไปยืนอยู่ริมชายคา ให้ปอยฝนซึ่งยังลงเม็ดไม่ขาดสายหล่นกระทบศีรษะและลำตัว จากแค่หนาว ขนตามเรือนกายลุกชัน หนาวจนกลีบปากอิ่มสั่นระริก
แสงไฟแม้จะไม่มากสาดส่องมาทำให้เห็นคนตัวเล็กสาดสายตากราดเกรี้ยววาววับอยู่ในความมืดของราตรีกาล ลมหายใจหอบแรงเร็วจนทรวงสล้างไหวกระเพื่อม เส้นผมซึ่งถูกรวบมัดจัดทรงไว้อย่างดีหลุดลุ่ยออกมาระใบหน้าและต้นคอ แต่ยังไม่เท่าจมูกแดงและแก้มใสแดงปลั่งราวกับผลเชอรี่ ริมฝีปากบวมเจ่อยื่นออกมาเล็กน้อย ทำให้พายุอยากยื่นมือไปรั้งร่างอรชรเข้ามาแนบชิดและจูบอีกฝ่ายให้หนำใจสักหลาย ๆ รอบ
“ไอ้...ไอ้คนบ้า” ลำแขนเสลายกขึ้นชี้หน้าพายุ สลับยกมือเช็ดปากตัวเองให้ลบเอาร่องรอยจูบที่ฝากไว้บนผิวกายออกไป อึดอัดคับแค้นใจจนน้ำตาเอ่อล้นคลอเบ้า ฟันขาวขบกัดกลีบปากอิ่มนุ่มจนเจ็บ เป็นเพราะเธอใช้เวลาตัดสินใจนานไปหน่อย สุดท้ายก็หนีไม่พ้นถูกอีตาหมีตัวยักษ์นี่ดักทางตามติดมาจนได้ อยากเขกหัวตัวเองนัก ช้าจนได้เรื่อง แล้วทีนี้จะทำไงถึงจะหนีไปจากที่นี่ได้ล่ะ
พายุเลิกคิ้ว ไอ้การที่เขาจะจูบเมียนี่มันผิดตรงไหนวะ เขามีกฎข้อไหนห้ามไว้ด้วยหรือไง สองมือเท้าสะเอว กวาดมองไปทั่วกายกลมกลึง ซึ่งตอนนี้ชุดแต่งงานที่เธอใส่อยู่มันหมิ่นเหม่จะหลุดร่วงไปให้เขาเห็นกายสาวอย่างชัดเจนอยู่นะ ปลายนิ้วยาวยกขึ้นไล้ปลายคางเบา ๆ
“จะยืนยั่วให้ฉันปล้ำเธอตรงนี้ หรือว่าจะเข้าไปคุยกันในห้องล่ะมุกลดา”
สายตาที่มองมาทำให้นิลลดาต้องรีบก้มมองดูตัวเอง ก่อนจะร้อนผ่าวไปทั้งหน้า โอ๊ย! อยากจะกรีดร้องให้ลั่นบ้าน ไอ้คนบ้า ไอ้คนลามก ไอ้คนฉวยโอกาส ก่นด่าเขาไปพลางรีบจับทึ้งดึงเสื้อผ้าให้เข้าที่เข้าทาง ตวัดค้อนทั้งวงหน้าและสายตาส่งให้อีกฝ่ายที่ยืนยิ้มกริ่ม นัยน์ตาวาววับ ก่อนเดินกระแทกเท้าไปทางส่วนที่คิดว่าเป็นประตูบ้าน
“จะไปไหนล่ะหนูมุก”
“ยี้ ไอ้หมียักษ์บ้า อย่ามาเรียกฉันแบบนั้นนะ” นิลลดาขนลุกซู่กับน้ำเสียงหวานเจี๊ยบราวกับขัณฑสกรตกใส่ของอีกฝ่าย ตวัดค้อนใส่ชายหนุ่มด้วยค้อนวงโต แต่อีกฝ่ายกลับยิ้มใส่และยังจะไล่มองบนเรือนกายเธอด้วยสายตาโลมเลีย เล่นเอานิลลดาถึงกับขนลุกซู่ ขาสั่นพับ ๆ จนต้องรีบหันหลังเดินหนี
“อ้าว แล้วนั่นจะไปไหนน่ะหนูมุก” แปลกที่เขาอยากแกล้งอีกฝ่ายขึ้นมา ชอบที่ได้เห็นหน้าตาแดงปลั่งบึ้งตึง จมูกยู่ย่น ปากยื่นออกมาแล้วอยากจะยื่นมือไปโอบรัดรอบกายดึงหญิงสาวเข้าหา แล้วกระหน่ำจูบไม่ให้ได้หายใจ
“จะเข้าบ้านน่ะซิ ถามทำไม คิดว่าฉันจะให้ยืนตากฝนให้คุณแทะโลมเอาหรือไง” เถียงกลับเสียงขุ่น ไม่เคยรู้สึกเสียท่าอย่างนี้มาก่อนเลย
“เปล่า” ตอบกลับเสียงสูง เลิกไหล่ขึ้นเล็กน้อย วงหน้าเรียบเฉยทว่านัยน์ตาพร่างพราวระยับ “แค่จะบอกว่าถ้าจะเข้าบ้านน่ะทางนี้ ทางนั้นเป็นทางไปที่อื่น” เดินไปคว้าแขนเรียวยาวให้เดินถูกทิศ
“ไม่ต้องมาจับได้ม้าย” พูดเสียงสูงลิ่ว เพราะยามถูกชายหนุ่มแตะเนื้อต้องตัว เธอรู้สึกเหมือนกับไฟช็อตตลอดเวลา ในทรวงก็ไหววูบอย่างที่เธอไม่ชอบด้วย “เดินเองได้” สะบัดตัวให้หลุดจากมือแกร่งซึ่งกำรอบต้นแขนเนียน ไม่พอพายุยังจะใช้ปลายนิ้วไล้คลึงจนขนตามเรือนกายเธอสแตนด์อัพอีกหน หน้าหรือก็ร้อนผ่าวราวกับเอาไปอังไฟมา บ้าจริงเชียว ทำไมถึงได้เป็นอย่างนี้ก็ไม่รู้ อีตาหมียักษ์บ้านี่ทำอะไรใส่เธอหรือเปล่านี่
“อย่ามาทำเรื่องมากได้ไหมมุกลดา ยังไงฉันกับเธอก็แต่งงานกันแล้ว ถึงจะยังไม่ได้จดทะเบียนก็เถอะ แต่เดี๋ยวพรุ่งนี้ทนายความก็มาทำเรื่องให้เรียบร้อยแล้วนี่” เอ่ยย้ำเตือนเสียงเรียบแต่ดุหนัก
อยากจดทะเบียนเสียแต่วันนี้นะ ทว่าตอนเช้าก็ติดพิธีกรรมทางศาสนา ตกสายจนถึงตอนนี้ก็ต้องรับแขกเหรื่อซึ่งมาอวยพร ถึงแม้เขาจะไม่สุงสิงกับใครมาก ทว่าเพราะเป็นคนในพื้นที่ ครอบครัวก็ได้ให้การช่วยเหลือชาวบ้านไว้เยอะ พอรู้ว่าเขาจะแต่งงานเท่านั้น ต่างคนก็ต่างทยอยมาเสนอตัวช่วยจนเลี่ยงไม่ได้ งานเลยใหญ่อย่างที่เขาเองก็ไม่ได้ชอบนักหรอก เพราะดูจะเป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำเสียมากกว่า
นิลลดาตวัดค้อนด้วยสายตาวงโต หมดแรงจะต้านทานเพราะเหนื่อยอ่อน สงสัยว่าจะใช้สมองหนักมากไปหน่อย เลยทำให้เพลียๆ และอีกความรู้สึกหนึ่งซึ่งแฝงเข้ามาและเริ่มแผลงฤทธิ์ทำให้เธอรู้สึกหนักๆ ศีรษะ หนังตาอ่อนนุ่มกะพริบถี่ยิบ ตาก็พร่าเลือนมองทางไม่ชัด
ละอองไอฝนสาดซัดมาทำเอาเธอหนาวไล่ไปถึงกระดูก ต้องเอนตัวอิงกับร่างใหญ่ให้กระไออุ่นจากกายหนามาช่วยไล่ความเย็นในกายออกไป ตอนนี้คงต้องพักเรื่องหนีเอาไว้ก่อน หันมาคิดว่าจะทำอย่างไรให้ตัวเองรอดพ้นจากมือหมียักษ์ แต่ปวดหัวจังเลย คอก็แห้งด้วย แล้วเอ่อ...รู้สึกปวดหน่วง ๆ ในท้องด้วย
พายุรับรู้ถึงสิ่งผิดปกติ เมื่อแม่ตัวแสบฤทธิ์มากอยู่ดี ๆ ก็เงียบกริบไปซะงั้น ก้มมองก็เห็นหน้านวลผ่องแดงระเรื่อ โอบแขนแกร่งรัดรอบกายแบบบาง ซึ่งมีอาการหนาวสะท้านแต่ตัวกลับอุ่น ๆ
ฉิบหายแล้ว! เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายคงเครียดจัดแล้วก็มาเจอเข้ากับไอฝนเลยทำให้ป่วยกะทันหัน ชายหนุ่มรีบช้อนร่างเพรียวบางขึ้นในวงแขน เดินดุ่ม ๆ เข้าบ้านอย่างเร็วรี่
แม้จะรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว เข็ดเมื่อยไปหมด ปวดหน่วง ๆ บริเวณท้องน้อยหนักขึ้น ในคอก็รู้สึกขมและแห้งผาก มึนงงและปวดร้าวไปทั้งกระบอกตา จนต้องรีบหลับตาหนีแสงไฟซึ่งเจิดจ้าแทงเข้าไปในตาจนพร่ามองอะไรไม่เห็น แต่เมื่อรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างมายุ่มย่ามกับร่างกาย หรี่ตามองก็เจอกับเงาดำ ๆ มืดทะมึนของใครบางคนที่ตอนนี้เธอเกิดอาการมืดดับไปชั่วขณะหนึ่งกำลังชะโงกอยู่เหนือร่าง ก็พานให้ร่างทั้งร่างสั่นยะเยือกขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล
“อือ ปล่อยนะ อย่ามายุ่งนะ” ปัดไล่มือที่ยุ่มย่ามอยู่บนเรือนกายให้ถอยห่าง พร้อมขยับเคลื่อนกายที่ปวดร้าวและเข็ดเมื่อยหนี ทว่าก็ไปไหนไม่รอดเหมือนกับถูกยึดกักเอาไว้
“อย่าดื้อซิมุกลดา หนาวจะตายอยู่แล้วนะ”
คนที่ถูกขัดขวางการทำงานดุเสียงเข้ม รีบจับสองมือเรียวขึ้นไปไว้เหนือศีรษะ พร้อมพลิกร่างอรชรเพื่อรูดซิป ทว่าแม่ตัวเล็กก็ยังคงฤทธิ์มากไม่ยอมง่าย ๆ พยายามเหลือเกินที่จะขยับร่างหนี แล้วสองมือก็ไม่ยอมหยุดนิ่ง ป่ายปัดร่ายระบำปลายนิ้วและฝ่ามือนุ่มทุบตีบนแขนแกร่งทำให้เขาถึงกับแสบร้อน กว่าจะเปลื้องชุดแต่งงานออกเล่นเอาเหงื่อตกไปเลยทีเดียว