มนสิชาเป็นสาวสวยตาคม บุคลิกภาพดี มีนิสัยกล้าได้กล้าเสีย ชอบท้าทายกับอะไรแปลกใหม่ เธอเป็นคนแข็งนอกอ่อนใน ต่อให้ทำตัวเข้มแข็งเหมือนไม่รู้สึกอะไร แต่หัวใจกลับหวั่นไหวไปกับคำสัญญาที่น่านฟ้าให้ไว้ เธอเชื่อทุกถ้อยคำที่ออกมาจากปากเขา โดยไม่ระแคะระคายสงสัย
ถ้าเธอพลาดพลั้งท้องกับเขาจริง เขาต้องรับผิดชอบอย่างเต็มใจ ไม่มีทางพูดปัดว่าเด็กในท้องเธอไม่ใช่ลูกเขา
แต่เธอไม่ท้องตอนนี้หรอก วันนั้นพอพี่มนัสมาถึงห้องเห็นสภาพเธอ คุยกันอีกสักพักถึงออกไปซื้อยาคุมฉุกเฉินมาให้เธอกินป้องกันไว้ แถมด้วยยาคุมกำเนิดแบบแผง ทำเหมือนกับรู้ว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้นอีกยังไงยังงั้น
ตั้งแต่วันนั้นที่ตามไปคอนโดพี่น่านแล้วลงเอยกันบนเตียง หลายวันมานี้เธอทำได้แค่หลบหน้าหลบตาเขาเหมือนหนูติดจั่น ระแวงที่จะพบหน้าหรืออยู่กันตามลำพังแค่สองคน ใครใช้ให้เขาพูดเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะมีเซ็กซ์กับเธอทุกวัน ทั้งที่เธอขอให้ทำกันแค่สัปดาห์ละครั้ง เขาเห็นเธอเป็นตัวอะไร มีไว้เพื่อระบายอารมณ์ใคร่เหรอ
เธอถูกเขาพาทัวร์สวรรค์เก้าชั้นมาสองวันติดต่อกัน ร่างกายปวดระบมไปหมด กลีบกายแสบชาบอบช้ำ แค่ถูกน้ำปัดผ่านถึงกับสะดุ้งสูดปากแรงด้วยความเจ็บ สองขาไม่มีแรงเดิน แค่จะยืนยังแทบล้มเลย ไม่ต้องพูดถึงเจ็ดวันอะไรนั่น เขาอยากเห็นเธอเหนื่อยตายคาอกรึไง?!
น้ำค้างกับเธอเรียนกันคนละคณะ วันนี้เจ้าตัวบอกว่าจะมีคนมารับกลับบ้าน เป็นเพื่อนของพี่ชายที่ชื่อศรัณย์ เธอเคยเห็นอยู่บ่อยๆ บนหน้าปกนิตยสารรายสัปดาห์ของนักธุรกิจคนดังที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยี่สิบห้า ส่วนตัวจริงเคยเจอไม่กี่ครั้งที่บ้านของน้ำค้างเวลาพี่เขามาหาพี่น่าน รูปหล่อ รวยทรัพย์ เพอร์เฟกต์ไปหมดทุกด้าน มีธุรกิจร้อยล้านเป็นตัวการันตีว่าถ้าได้เป็นเมียจะสุขสบายไปทั้งชาติ ไม่ต้องกลัวท้องหิว
เมื่อเร็วๆ นี้เพิ่งกลับมาโสดอีกครั้ง หลังจากเลิกรากับซุปตาร์ดังชื่อทิพย์นภา เหตุผลเพราะนิสัยเข้ากันไม่ได้ เวลาไม่ค่อยตรงกัน และเธออยากทุ่มเทให้กับเรื่องงาน แต่สาเหตุของการเลิกกันจริงๆ อาจเป็นเรื่องอื่นก็ได้ใครจะรู้
“วันนี้ไปเที่ยวผับอีกไหม” ช่อม่วงถามหลังจากอาจารย์เดินออกไปแล้ว นี่เป็นวิชาสุดท้ายของวันนี้
“ฉันไปไม่ได้หรอก ครั้งก่อนโดนพี่มนัสคาดโทษไว้ ถ้าจะไปคงต้องรออีกเป็นอาทิตย์นั่นแหละ ต้องเอาของไปง้อสักก่อนถึงจะหายโกรธ”
“เฮ้ย ฉันขอโทษนะแก ถ้าวันนั้นไม่ชวนแกไปดื่มคงไม่โดนพี่ชายสุดหล่อดุเอา ฉันละอยากจะถูกดุบ้างจัง” ประกายดาวยกมือขึ้นกุมกันไว้ที่อกพลางทำหน้าเคลิบเคลิ้ม ดวงตาวิบวาวพราวแสงละเมอหาเจ้าชายในฝัน จินตนาการอะไรเพ้อเจ้ออีกแล้วสินะ
“เลิกละเมอและตื่นจากฝันได้แล้ว เธอยังไม่เคยเจอตอนพี่มนัสตวาดใส่ ดุทีขวัญกระเจิงหมด ไม่มีความโรแมนติกน้ำเน่าชวนฝันหวานแบบที่จินตนาการหรอก” มนสิชาตบมือเสียงดังเรียกสติเพื่อนสาวที่จิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว
ประกายดาวตื่นจากฝันที่เนรมิตไว้สวยงาม แต่กลับพังครืนหายไปในพริบตา ความจริงก็ยังเป็นความจริงอยู่วันยังค่ำ สเปกของพี่มนัสดูจะชอบพวกอกสะบึมสะโพกผายรับแรงดีดสะท้อนได้ดี แบบเธอไม่ใช่ผู้หญิงที่พี่เขาชอบหรอก
“ฉันรู้น่า นี่เป็นความฝันของชะนีน้อยที่ปลาบปลื้มผู้ชายหล่อ แกอย่ามาขัดขวางความสุขฉันสิยะ ถ้าไม่ไปผับแกจะตรงกลับบ้านเลยไหม”
“กลับเลยสิ พ่อกับแม่ฉันเคร่งจะตาย เพื่อให้ประสบความสำเร็จเรื่องการเรียนคงไม่ยอมให้ฉันไปเที่ยวเถลไถลได้เหมือนตอนมัธยมแล้ว พวกท่านคาดหวังเอาไว้สูงมาก ฉันไม่อยากเห็นพวกท่านผิดหวังอีก”
“ถ้าต่อไปบอกพี่มนัสไว้ก่อนว่าจะไปไหนก็คงไม่มีปัญหาหรอก หนึ่งเดือนออกไปเที่ยวสักสองสามครั้ง ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อการเรียน แค่เธอทำเกรดสวยๆ มาอวดพวกท่านเพียงเท่านี้ก็น่าจะพอใจแล้ว” ช่อม่วงแสดงความคิดเห็นของตัวเอง หลังจากเงียบฟังเพื่อนสองคนตีกันเรื่องผู้ชายขำๆ
เธอเคยเจอพี่มันสพี่ชายของมิ้นท์แล้ว หน้าตาค่อนข้างดุแบบผู้ใหญ่ที่โตแล้ว อายุใกล้จะสามสิบ เปิดผับร่วมกับเพื่อน ลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์มาเก็บไว้เพื่อขายเกร็งกำไร มีห้องชุดปล่อยเช่าด้วย แค่นี้ก็อยู่สบายไปได้ยันแก่ไม่เดือดร้อนเรื่องเงินแล้ว
“บ๊ายบาย วันจันทร์เจอกัน”
“บายยย ฉันกับไอ้ช่อไปเที่ยวก่อนละ แก้เครียด ไปส่องหนุ่มๆ ในผับด้วย ฮ่าๆ”
“ระวังตัวด้วย อย่าเมาหัวทิ่มไม่มีสติจนไม่รู้ว่าลากใครขึ้นเตียง”
“ไอ้มิ้นท์ ฉันเป็นผู้หญิงจะลากใครขึ้นเตียงซี้ซั้วได้ไง แกควรจะห่วงฉันสิ” ประกายดาวแหวใส่เพื่อนสาว
“ฉันจะดูแลให้เองไม่ต้องเป็นห่วง รับรองว่าดาวไม่มีโอกาสได้ลากใครไปกินบนห้องแน่ ผู้ชายทุกคนจะต้องปลอดภัยจากชะนีน้อยนางนี้” ช่อม่วงรับปากเสียงแข็งขันหนักแน่น แต่ประกายดาวหน้าม้านแทบไหม้ไปแล้ว
ยายสองคนนี้คิดได้ไงว่าเธอจะใจกล้าบ้าบิ่นลากผู้ชายแปลกหน้าขึ้นเตียงเลยเหรอ ต่อให้จะหน้าตาหล่อเหลาปานเทพบุตรลงมาจุติบนโลกมนุษย์ ถ้าไม่ใช่สเปกเธอก็ไม่ชายตาแล
เธอชอบผู้ชายหน้าดุมาดเข้ม นิสัยเถื่อนนิดๆ กล้ามเนื้อแน่นๆ ชวนให้น้ำลายสอ ใจเต้นตึกตักด้วยความซู่ซ่าสยิวกิ้ว แต่ไม่เอาแบบโหดสัสรัสเซียนะ กลัวทำอะไรให้ไม่พอใจแล้วถูกจับหักคอ
“มิ้นท์ไปแล้วนะ”
มนสิชาส่ายหน้ายิ้มๆ แยกตัวกับเพื่อนฝูงเดินออกจากรั้วมหาวิทยาลัย เดินทอดน่องเรื่อยเฉื่อยคิดนั่นนี่คนเดียว หลังเลิกเรียนเธอจะเดินออกมาเรียกรถแท็กซี่ตรงหน้าปากซอยเพื่อตรงกลับบ้าน พ่อกับแม่เคยบอกเธอว่าจะส่งคนขับรถมาคอยรับส่งซึ่งเธอได้ปฏิเสธไปแล้ว
ลุงปีอายุมากแล้ว ให้คอยขับรถรับส่งพ่อแม่ของเธอระหว่างบ้านกับบริษัทก็เหนื่อยพอแล้ว เธอไม่อยากให้คนเก่าคนแก่เห็นเธอมาตั้งแต่ตัวเท่าเมี่ยงต้องเหนื่อยเพิ่มอีก
เรื่องเงินไม่เป็นปัญหาสำหรับเธอเลย ค่ารถแท็กซี่ไม่ได้แพงมาก เพราะระยะทางจากบ้านมามหา’ลัยแค่ยี่สิบนาทีเอง พวกท่านถึงอนุญาตพร้อมกำชับว่าต้องดูแลตัวเองให้ดี อย่าประมาท ทีวีรายงานข่าวกันโครมๆ ว่ามีนักศึกษาสาวสวยถูกลวงไปข่มขืน
เธอให้สัญญาว่าจะระมัดระวังตัว ส่วนวันไหนพี่มนัสว่างไม่ได้นัดลูกค้าไปดูที่ดินก็จะอาสาพาเธอไปส่งที่บ้านให้
พูดถึงพี่มนัส ตั้งแต่พี่แยกตัวออกมาอยู่ข้างนอกคนเดียว น้อยครั้งมากที่จะกลับไปนอนบ้าน พี่มนัสรู้ว่าพ่อแม่ผิดหวัง และรับไม่ได้ที่ลูกชายคนโตของตระกูลเลือกเดินคนละเส้นทางกับที่พวกท่านเลือกให้ ทั้งนี้ทั้งนั้นเธอไม่ได้เข้าข้างใคร เพราะต่างก็มีเหตุผลที่ยอมรับได้ ล้วนมีความฝันที่อยากทำให้สำเร็จ ขณะที่เธอเลือกวางความฝันลงชั่วคราว หันมาเรียนคณะที่พวกท่านคาดหวังไว้
ในอนาคตเธอค่อยกลับไปทำตามความฝัน ตอนนี้เธอมุ่งมั่นตั้งใจเรียนให้จบก่อน รับสืบทอดตำแหน่งในบริษัทซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัว รอผ่านไปสักปีสองปีทุกอย่างลงตัวแล้ว ตอนนั้นเธอจะไปสมัครเรียนใหม่ เลือกวิชาที่ชอบ จบออกมาก็ทำเป็นงานอดิเรกไป
ไม่มีเหตุผลให้ต้องทำลายความหวังของพวกท่านนี่