11

972 Words
ใส่อารมณ์ด่าไม่ได้ดูก่อนเลยว่าตอนนี้ธาวินก้าวเท้าเดินเข้ามา และหยุดยืนรอฟังที่หน้าประตูห้องโถงใหญ่ ใช่ว่าจะมีแค่พิชชาภาที่เกลียดชังครอบครัวกษมา แต่คุณนวลมณีกับสามีก็รู้สึกไม่ต่าง แต่นั่นเป็นเพียงความรู้สึกในช่วงแรกเท่านั้น เวลาผ่านมาห้าปีแล้วความเกลียดชังย่อมลดลงกลายเป็นความไม่บาดหมาง ต่างคนต่างอยู่ดีกว่า ยังไงสองครอบครัวก็ไม่ได้เจอกันนานแล้ว “หนูกั้งเป็นเด็กดีนะ ตอนคบกับตาเก้าก็ช่วยทำงาน ช่วยดูแลพี่เขาอย่างดี” “เด็กดีบ้าอะไรคะ เอ่อ... ขอโทษค่ะ แพรใส่อารมณ์มากไปหน่อย” พูดต่อเสียงอ่อนเมื่อเผลอขึ้นเสียงใส่มารดา “ไม่รู้แหละ แพรเกลียดมันค่ะ เกลียดมันที่คิดว่าตัวเองสวยผู้ชายต้องสยบแทบเท้า แถมยังเกลียดที่มันชอบอ่อยพี่เก้าจนพี่เก้ายอมคบกับมัน” “กั้งเขาก็ไม่ได้ทำอย่างที่แพรว่าสักหน่อย” “คุณแม่!” “ไม่ต้องห่วงหรอกแพรพี่กินหญ้าอิ่มแล้วคงไม่กลับไปกินอีก ผู้หญิงคนนั้นพี่เลิกสนใจไปนานแล้วรู้สึกเกลียดไม่ต่างจากแพรนักหรอก” ธาวินย่างกรายเข้ามานั่งลงข้างน้องสาว ใบหน้าคมเรียบเฉยไม่แสดงความรู้สึกใดต่างจากพิชชาภาที่ตกใจ “แพรดีใจค่ะที่ได้ยินพี่เก้าพูดแบบนี้” “พูดเกินไปแล้วนะตาเก้า ยังไงก็คนเคยรักกันแล้วกั้งก็ไม่ได้แย่อะไรมากมายแค่โชคร้ายเข้ามาเกี่ยวข้องเรื่องของผู้ใหญ่เท่านั้น” คุณนวลมณีเก็บหนังสือเพราะหมดอารมณ์อ่าน ปกป้องลูกสาวของคนที่เคยทำลายครอบครัวของตนเองเมื่อหลายปีก่อน “แค่เคยรักใช่ว่าตอนนี้จะต้องรักนี่ครับคุณแม่ แล้วผมขอบอกให้รู้ไว้เลยไม่ว่าจะผ่านไปอีกกี่ปีผมก็จะตามเกลียดผู้หญิงคนนั้น ผมจะตามล้างแค้นจนกว่าหล่อนกับครอบครัวจะย่อยยับเหมือนที่พวกเขาทำกับเรา!” “ตาเก้า...” “แพรเห็นด้วยกับพี่เก้าค่ะคุณแม่” “ทำไมรอบตัวของแม่ถึงมีแต่คนหัวรุนแรงนักนะ แต่ก็ได้แค่คิดเท่านั้นแหละ ผ่านมาห้าปีแล้วที่เราไม่ได้ข่าวครอบครัวนั้นเลย” คำพูดของมารดาทำให้ธาวินกระตุกรอยยิ้ม นึกถึงผู้หญิงคนนั้นที่เขาใช้กำลังบังคับให้หล่อนทำงานตากแดดตากลมเพื่อชดใช้ความผิดที่ครอบครัวหล่อนเคยทำไม่ดีเอาไว้ กษมาอดทนมากกว่าที่เขาคิด แกล้งหนักแต่หล่อนก็ยังกัดฟันสู้ทำงานแลกเงินวันละไม่กี่ร้อย มีหนึ่งข้อเสนอที่มอบให้ หากหล่อนยอมเป็นนางบำเรอเขาจะอนุโลมให้ไม่ต้องทำงานในไร่ แต่นี่ผ่านไปเกือบหนึ่งเดือนแล้วหล่อนยังทำอวดดีหยิ่งยโสก้มหน้าก้มตาทำงานหนักไม่ปริปากบ่น อวดดี อวดเก่งไม่ต่างจากคุณชัยวัฒน์พ่อของหล่อน! “ฮึ... มันก็ไม่แน่หรอกครับ” บ้านพักคนงานค่อนข้างแออัดแต่กษมาก็ใช้ชีวิตอยู่อย่างอดทน อย่างน้อยที่นี่ก็มีที่ให้ซุกหัวนอนมีข้าวในโรงอาหารให้กินฟรีทุกมื้อ เสียแต่เจ้าของไร่ใจร้ายไปหน่อย พออดทนได้เพราะไม่ได้เจอกันบ่อยนัก กษมากินอาหารมื้อเย็นอิ่มก็กลับมาอาบน้ำทายาตามมือตามแขนตามขาที่มีรอยขีดข่วนก่อนจะเดินออกจากบ้านพักไปหาที่เงียบๆ คุยโทรศัพท์กับครอบครัวอย่างเช่นทุกวัน ได้ยินเสียงลูกบ่นคิดถึงทีไรน้ำตาก็ไหลทุกครั้ง นานร่วมเดือนที่ต้องทนอยู่ที่นี่ลำบากไปหน่อยแต่หล่อนก็ต้องอดทนสู้ต่อไป ลักษณะงานในไร่ส่วนใหญ่ค่อนข้างหนักและต้องตากแดดทุกวัน คนในไร่บางคนที่มีอายุงานเกินห้าปีมักจะแสดงความเกลียดชังหล่อนผ่านแววตา น้อยคนที่จะเข้ามาด่ากราดแต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่วายมีคนมาด่าทอสาดเสียเทเสียอยู่ดี กษมาเสียใจมากอยากหนีไปให้พ้นๆ ที่นี่แต่ก็ทำตามใจตัวเองไม่ได้เพราะอยากอยู่ทำงานชดใช้ความผิด มันคงชดใช้ได้น้อยนิดแต่ก็ยังดีกว่าปล่อยให้ความผิดนั้นกัดกินใจหล่อนให้ต่ำลงไปทุกวัน ‘คุณแม่จะกลับบ้านตอนไหนคับ น้องวินคิดถึ้งคิดถึง’ ใบหน้าจิ้มลิ้มของเด็กชายโชว์เด่นเต็มหน้าจอ “คุณแม่ก็คิดถึงน้องวินครับ อีกหนึ่งหรือสองเดือนข้างหน้าคุณแม่จะกลับไปกอดให้ชื่นใจ แล้วก็จะซื้อของเล่นไปฝากด้วย น้องวินอยากได้ไหมครับ” ไม่ใช่ขายฝันเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมาแต่คราวนี้กษมาตั้งใจจะซื้อให้ลูกจริงๆ อยากเติมเต็มทุกอย่างที่ขาดหายไปให้กับลูก ชดเชยแทนเขาคนนั้นที่ไม่มีโอกาสได้รู้การมีตัวตนของแก ‘น้องวินไม่อยากได้แล้วคับ แค่คุณแม่กลับมาหาน้องวินก็ดีใจแล้วคับ’ เด็กชายบอกเสียงสดใส “น่ารักจัง ถ้าอยู่ใกล้คุณแม่จะจุ๊บให้หายคิดถึงเลย” น้ำตาคลอต้องเช็ดออกหลายครั้ง คุยกับลูกชายไม่กี่ประโยคก็ได้คุยกับมารดา ‘ทำงานที่นั่นเป็นยังไงบ้างลูก เหนื่อยไหม’ “เหนื่อยค่ะแต่แค่นี้สบายมาก สวัสดิการที่นี่ดีมากเลยนะคะ ที่พักฟรีมีอาหารฟรีด้วย วันๆ นอกจากทำงานกั้งแทบไม่ได้ใช้เงินเลย ดีจังเลยนะคะ กั้งจะได้เก็บเงินเยอะๆ แล้วเราจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง” น้ำตารื่นขึ้นมาอีกครั้ง เช็ดแล้วเช็ดอีกก็ไม่ยอมแห้ง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD