“รีบๆ แต่งก็ดีเหมือนกันนะ...เวลาที่ฉันวางมือจะไม่มีอะไรทำแก้เบื่อ”
ท่านเปรยพร้อมกับยิ้มมุมปาก หากเป็นอย่างที่คิด อีกไม่นานเกินรอ ทายาทจันธกาจรุ่นต่อไปก็คงจะได้มาเกิด
น้ำอิงก้มหน้าต่ำ พยายามจูนความรู้สึก ไม่ให้คิดน้อยเนื้อต่ำใจ
“อิงล่ะ มีฟงมีแฟนกับเขาบ้างหรือเปล่า?”
คุณหญิงถามน้ำอิงเสียงอ่อนๆ
หญิงสาวเงยหน้าขึ้นยิ้มแหยๆ ให้ “ไม่มีหรอกค่ะคุณท่าน”
“อิงจะมีแฟนได้ยังไงคะคุณท่าน อยู่แต่บ้าน” หวายแย้ง พร้อมกับยิ้มแป้น
“รออีกหน่อยนะแม่อิง...รอให้ทุกอย่างลงตัวฉันจะปล่อยให้หล่อนได้ออกไปใช้ชีวิตเหมือนคนอื่น”
มันจะเรียกว่าเป็นความเห็นแก่ตัวแบบหนึ่งก็ได้ คนที่รู้ใจท่านดีที่สุด ไม่มีใครแทนที่น้ำอิงได้ ไม่ว่าจะงานบ้าน งานนอก น้ำอิงช่วยเหลือท่านได้อย่างดีที่สุด หากปล่อยหล่อนไปก็คงเสียดาย
หญิงสาวไม่ได้ตอบรับหรือแสดงอาการปฏิเสธ
บุญคุณคุณหญิงพวงผกาท่วมหัว ไม่ว่าจะคำสั่งหรือหากเป็นสิ่งที่คุณหญิงต้องการ น้ำอิงยินดีและเต็มใจ
สายตาอ่อนโยนทอดมองเด็กสาวข้างตัว
ท่านค่อยๆ ผ่อนลมหายใจยาวๆ รู้อยู่แก่ใจดี ถึงความสัมพันธ์เกินเด็กในบ้านระหว่างคนตรงหน้ากับบุตรชาย
แต่จะให้ท่านอ้าแขนรับ ยกย่องน้ำอิงมายืนเทียบข้างบุตรชายมันก็สุดที่จะฝืนใจเช่นกัน ยิ่งเมื่อลูกชายพาคู่รักมาแนะนำ คุณหญิงพวงผกาจึงโล่งอก...ท่านรู้ดีว่าน้ำอิงจะไม่มีวันพูด ความลับนั่น มันจะเป็นความลับต่อไป...
เกือบ22:00 นาฬิกา
มือเรียวยกขึ้นนวดไหล่ สลับกับการบิดตัวไปมาแก้อาการปวดเมื่อย วันนี้กว่าคุณหญิงจะยอมหลับก็เล่นเอาดึกโข คงเพราะท่านดีใจกับการกลับมาของบุตรชาย เลยทำให้ท่านถ่างตาจนดึก น้ำอิงเลยต้องตามรับใช้ แม้จะเจ็บแปลบทุกครั้ง ยามเห็นทีท่าสนิทสนมของภีรพลกับแฟนสาว
“เห้อ!!” เสียงถอนใจดังๆ ผสมกับเสียงลมยามดึก
“อิง!!” เสียงเข้มๆ ดังลอดออกมาจากเงามืด
น้ำอิงชะงัก เธอเขม่นมองฝ่าความมืด เงาตะคุ่มๆ ของใครบางคนยืนอิงโคนต้นไม้ใหญ่อยู่
“คุณภี...” เสียงครางแผ่วๆ ดังผ่านปากสีระเรื่อ หญิงสาวรีบกราดตามองไปรอบๆ แบบระแวงหน่อยๆ
“ฉันหวังว่าเธอคงไม่เอาเรื่องไร้สาระไปพูดให้คนอื่นฟังหรอกนะ” เสียงของภีรพลเข้มข้น “ไม่มีใครเชื่อเธอหรอก หากเธอคิดจะปูดเรื่องระหว่างเรา!!” ชายหนุ่มกล่าวย้ำ
“ค่ะ” หญิงสาวตอบเสียงแผ่ว เธอรู้ดีว่าคนตรงหน้าต้องการอะไร
“สำหรับฉัน...เธอยังมีความหมายอยู่นะอิง แต่เธอต้องเข้าใจฉันด้วย สำหรับเธอมันไม่เหมาะที่จะให้ฉันเปิดเผย” เสียงหัวเราะดังแผ่วๆ น้ำอิงสะท้อนในอก วันนั้นกับวันนี้ คำพูดของเขาต่างกันลิบลับ
“ค่ะ” เป็นอีกครั้งที่เธอไม่คิดจะแย้ง
“เธอส่วนเธอ ฟ้าส่วนฟ้า ไม่เกี่ยวกัน”
น้ำอิงเงยหน้ามองภีรพลอย่างไม่อยากเชื่อตา ความเห็นแก่ตัวของเขามีมากเสียจนเธอคิดไม่ถึง
“ขออิงอยู่ในส่วนของอิง ไม่ยุ่งเกี่ยวกับพวกคุณดีกว่าค่ะ”
เสียงแผ่วๆ แย้งแบบเจียมตน หากภีรพลจะมีใคร นั่นมันเรื่องของเขา เธอขอไม่มีส่วนร่วม
ชายหนุ่มยิ้มเจ้าเล่ห์...ผู้หญิงตรงหน้า สวยลออมากกว่าเมื่อ4ปีก่อน วันนี้ เวลานี้น้ำอิงดูเย้ายวนจนเขาตัดใจปล่อยมือไม่ลง
“อย่าลืมสิอิง ที่เธอมีวันนี้ได้ ก็เพราะจันธกาจ!!”
ชายหนุ่มกล่าวย้ำ เขาต้องการต้อนให้หล่อนจนตรอก บีบบังคับ ร้อยจูงไว้ให้ตกเป็นเบี้ยล่าง มันคงโก้ไม่หยอกหากผู้ชายคนเดียวจะมีเมียถึงสองคน คนหนึ่งไว้เชิดหน้าชูตา อีกคนไว้บำรุงบำเรอบนเตียง เมื่อผู้หญิงสองคนนั้นแตกต่างกันสุดขั้ว!!
“ปล่อยอิงไปไม่ได้เหรอคะ?” เสียงรัญจวนปนสะอื้นเอ่ยตัดพ้อ เธอไม่เคยทะเยอทะยานอยากได้ใคร่ดี ที่มีชีวิตอยู่จนถึงบัดนี้ก็นับว่าเป็นบุญหนักหนา เรื่องป่ายปีนสร้างฐานะและความสำเร็จ น้ำอิงคิดว่าคงไม่เกินความสามารถหากตนเองมีอิสระมากพอ
ถ้าภีรพลคิดจะร้อยเธอไว้ใช้...นั่นน้ำอิงก็จนใจ
แต่จะให้เธอยอมตกเป็นรอง ทั้งๆ ที่เขามีตัวจริงยืนอยู่ข้างๆ
น้ำอิงคงไม่กล้า มันผิดทั้งศีลธรรมและความเป็นจริง เธอไม่ต้องการเบียดบังครอบครัวใคร ไม่อยากเป็นมือที่สามที่รังแต่จะสร้างความร้าวฉาน หากความลับนี่รั่วออกไป...
ภีรพลคิดผิด...เขาตอกย้ำเธอด้วยการทวงบุญคุณ แต่เธอจะทดแทนคุณในแบบอื่น ไม่ใช่ใช้ร่างกายตนเอง เหมือนอดีต...
“อิง! ...ไม่เอาน่า ฉันพูดออกไปนี่...ควรเชื่อฟังนะ” คนเห็นแก่ตัว พยายามหว่านล้อม
ภีรพลหรี่เปลือกตามองร่างอวบอิ่มที่ยืนนิ่งท่ามกลางแสงสลัวๆ ยามดึก มันน่าเสียดายไม่น้อยหากจะปล่อยมือจากสาวสวยตรงหน้า และถ้าต้องหยุดความปรารถนาลงแค่บทรักเพียงไม่กี่ครั้ง มันน่าเสียดาย... และการที่จะร้อยน้ำอิงไว้ มันก็ไม่น่าใช่เรื่องยาก เมื่อหล่อนหัวอ่อน และมีใจให้กับตนเองเป็นทุนเดิม
“คุณภีคะ!”
“อย่าพูดเลย...เธอไม่คิดถึงฉันเหรอ?” ภีรพลมองสบนัยน์ตากลมโต แววตาของเขาฉ่ำวาว เมื่อความปรารถนาปะทุขึ้นมาแบบห้ามไม่ได้ กลิ่นหอมจรุงใจ กรุ่นกลิ่นคุ้นจมูก กลิ่นที่ครั้งหนึ่งเคยได้สูดดมอย่างแนบชิด และหากได้ดอมดมซ้ำ คงหลงใหลเช่นเดิม
“ไม่ค่ะ” เสียงยืนยันแข็งห้วน
“ฉันไม่เชื่อหรอก มาพิสูจน์กันอิง เธอจะโกหกใครก็ได้ แต่ไม่ใช่ฉัน”
ภีรพลยื่นหน้าไปใกล้ๆ เขาพูดเสียงปร่า เอื้อมมือรั้งเรือนกายอวบอุ่นเข้าหาลำตัวแรงๆ จนเนินหนั่นกลมกลึงกระแทกอัดกับแผงอกหนั่นแน่น ชายหนุ่มสูดปากคราง ตะโบมจูบไซ้ซอกคอของน้ำอิง โดยที่หญิงสาวพยายามห้าม และดิ้นหนี
“ยะ อย่าค่ะ!”
“อย่าเสียงดังสิอิง หรือเธอต้องการพยาน”
เสียงเข้มกระซิบปราม ก่อนจะรั้งร่างอวบอัด พาเดินลัดเลาะไปยังห้องพักหลังบ้าน โดยที่น้ำอิงพยายามขืนตัวต้านไว้ แต่ไม่กล้าส่งเสียง เธอกลัวเรื่องน่าอดสูนี่ ล่วงรู้ถึงหูคุณหญิงพวงผกา
ประตูห้องถูกปิดงับลงด้วยมือของคนตัวใหญ่
“อย่าทำแบบนี้เลยค่ะคุณภี คุณกำลังจะแต่งงานนะคะ คู่รักของคุณนอนอยู่บนตึก”
น้ำอิงพยายามท้วงให้ผู้ชายตรงหน้าสำนึกได้
“ฉันเคยบอกเธอแล้วนี่อิง เธอส่วนเธอ ฟ้าส่วนฟ้า”
ชายหนุ่มย่างสามขุมใส่ เขาปลดกระดุมเสื้อทีละเม็ด ในขณะที่น้ำอิงพยายามหาทางเลี่ยง
“คุณจะหยามอิงยังไงก็ได้ค่ะ แต่คนของคุณคงไม่ยินดีหากรู้เรื่องของคุณกับอิงเข้า” หญิงสาวพยายามเตือนสติ
ผู้หญิงร้อยทั้งร้อย ไม่มีใครยอมรับได้ หากคนที่เธอปักใจรัก คิดจะปันความรักนั่นให้ใครอีกคน
“อย่าพูดเลยอิง เธอกับฉันมาสานต่อความสุขที่ห่างกันไกลหลายปีดีกว่า ส่วนเรื่องนั้นฉันจะเป็นคนจัดการเอง”
ภีรพลกล่าวเสียงแตกพร่า...เขากระชากน้ำอิงมาใกล้ๆ ก่อนจะตะโบมจูบเรียวปากอิ่มเต็มแรงๆ
หญิงสาวเบิกตาโต ริมฝีปากแดงเห่อสั่นระริก เธอพูดไม่ออก บอกไม่ถูก ทำได้แค่ส่ายหน้า กัดฟัน และพยายามสะบัดตัวออกจากอ้อมแขนแกร่งด้วยความละอายใจ
ความอับอายแล่นพล่านไปตามเส้นเลือด “เธอเคยชอบนี่อิง...ฉันจำได้ เสียงครางของเธอทำให้ฉันเตลิดทุกที” คำพูดของเขาเหมือนกับการตีแสกหน้าเธอตรงๆ จริงสินะ... ครั้งหนึ่งเธอเคยชื่นมื่นที่ได้เวียนว่ายอยู่ในห้วงเสน่หาของกันและกัน แต่วันนี้...มันไม่เหมือนเดิม เมื่อภีรพลกลับมาพร้อมกับใครอีกคน เธอจึงกลายเป็นส่วนเกิน และหากเธอยังยินยอมพลีกายให้เขาเหมือนในอดีต เธอคงเป็นคนที่ไร้ศีลธรรม ไร้จิตสำนึก
ครั้งหนึ่งเธอตั้งความหวังไว้...แต่วันนี้น้ำอิงเพิ่งรู้...ความหวังของเธอมันสูงเกินไป!
เมื่อภีรพลถอนเรียวปากออก เพื่อมองหน้าน้ำอิง หญิงสาวช้อนสายตาอ่อนเศร้ามองผู้ชายตรงหน้า ดวงตาเหมือนหน้าต่างของหัวใจ ดังนั้นภีรพลจึงมองเห็นร่องรอยตัดพ้อจากดวงตาคู่คมตรงหน้าอย่างชัดเจน
“ฉันเคยบอกเธอแล้วนะอิง หากฉันไม่ชอบเธอ ฉันคงไม่มายุ่งด้วย”
ชายหนุ่มหวังใช้คำหวานเพื่อสยบการต่อต้าน