“อย่าปิดบังความรู้สึกของตัวเองเลยน่าอิง ปล่อยตัวตามสบาย เธอต้องซื่อสัตย์กับความรู้สึกของตัวเองสิ เธอชอบฉัน... ฉันรู้ดี”
ชายหนุ่มเอ่ยแบบเป็นต่อ เขารู้ตัวเองดีบุตรชายของคุณหญิงพวงผกาที่สาวๆ ค่อนประเทศใฝ่ฝันถึง มีหรือที่เด็กสาวไร้เดียงสาไม่เคยมีผู้ชายหนุ่มๆ เข้ามาเกาะแกะจะไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย เขาใช้ข้อได้เปรียบนั่นเดินหน้าเข้าใส่และบังคับให้น้ำอิงยอมรับ
“หากเธอจะปฏิเสธว่าเธอไม่มีความสุขหลังจากที่เรามีอะไรกันไปแล้ว...เธอกำลังโกหกฉัน แล้วก็โกหกตัวเองด้วยนะ”
ร่างอวบอุ่นสะท้านเยือก
อุ่นไอความปรารถนาที่โอบล้อมกันและกันยังคุกรุ่น ถึงจะปล่อยให้เวลาเคลื่อนผ่านไปเรื่อยๆ ก็ไม่ได้ทุเลาเบาบางลงเลยแม้แต่น้อย
แต่เมื่อเห็นกิริยาต่อต้านของน้ำอิงแล้ว ทำให้ภีรพลชักเริ่มจะหมดความอดทน
“กลับไปในที่ของคุณเถอะค่ะ คุณได้ในสิ่งที่คุณต้องการแล้วนี่คะ อย่าทำกับอิงเหมือนอิงเป็นแค่ของเล่นริมทางเลยค่ะ อิงขอเถอะนะคะคุณภี” น้ำอิงตัดพ้อภีรพลด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ พยายามพูดเตือนสติหวังเพียงให้ภีรพลสำนึกได้ สิ่งที่เขาทำกับเธอคือความอัปยศ เป็นความใคร่ ความกระหายอยากที่เธอไม่ได้เต็มใจ
“เธอเป็นสมบัติของฉันน้ำอิง เธอไม่ได้เป็นของเล่นใกล้มือฉันหรอกนะ เพราะหากเป็นเช่นนั้น เป็นใครก็ได้นี่ ทำไมต้องเป็นเธอ”
บุตรชายคุณหญิงพวงผกาย้อนเสียงแข็ง
สาวสวยส่ายหน้าช้าๆ เอ่ยอ้อนวอนเขาด้วยน้ำตานองหน้า “อย่าร้อยอิงไว้ใช้เลยค่ะ คุณยังมีอนาคตดีๆ รออยู่ข้างหน้า อย่าทำให้อิงกลายเป็นคนเนรคุณ”
“ฉันปล่อยเธอไปตอนนี้ไม่ได้หรอกนะอิง” ภีรพลตอบเสียงเข้ม เป็นความเห็นแก่ตัวของมนุษย์เพศชาย เขาหวังจะสูบความหวานบนเรือนกายอวบอุ่นนี่ซ้ำหลายๆ ครั้ง จนกว่าความหวานนั่นจะเจือจางจนไร้รสชาตินั่นเอง
เพราะถึงน้ำอิงจะปฏิเสธอย่างไร เธอก็ขึ้นชื่อว่าตกเป็นของเขาแล้วนั่นเอง
“ฉันรับปากว่าจะไม่ทอดทิ้ง ตั้งใจจะเลี้ยงดูอย่างดี อยากได้อะไรขอให้บอก...ถ้าให้ได้ฉันจะให้เธอทันที” เป็นลมปากที่ ภีรพลไม่มีวันทำได้จริง หากเขายังเป็นบุตรชายของคุณหญิงพวงผกา ผู้ใหญ่ที่อุปการะเธอมาตั้งแต่เด็กจนเติบใหญ่ ภีรพลแค่พูดพล่อยๆ เป็นลมปากของลูกผู้ชายคนหนึ่ง หลังจากที่ได้หญิงสาวที่ตนพึงใจมาครอบครองได้สำเร็จ…มีความเป็นไปได้เพียงน้อยนิดที่เขาจะทำอย่างที่ปากพูดไว้ได้
“อิงไม่อยากได้อะไรทั้งนั้นค่ะ”
เสียงสั่นเครือมาพร้อมอาการสะอึกสะอื้น นึกย้อนกลับไปตอนเริ่มต้น...หากเป็นไปได้ เธอจะไม่มีวันเปิดประตูรับภีรพลเข้ามาในห้องของเธอเลย
“อย่าทำให้เรื่องมันยากสิอิง!!” ชายหนุ่มถอนใจแรงๆ พลิกตัวนอนแผ่ “อย่างน้อยเธอก็ขึ้นชื่อว่าเป็น ‘เมีย’ ฉันนะ”
“คุณภีจะเลี้ยงอิงไว้เป็นเมียน้อยอย่างนั้นเหรอคะ?”
อนาคตของเธอไม่แคล้วกินตำแหน่งนั้น เมื่อภีรพลเป็นทายาทจันธกาจ คุณหญิงพวงผกาไม่มีวันยอมให้บุตรชายคว้าเด็กในบ้านขึ้นมากินตำแหน่งศีรสะใภ้อย่างแน่นอน
ภีรพลไม่ได้ตอบ...แต่น้ำอิงรู้ตัวดี คนต่ำต้อยด้อยค่าอย่างเธอ คนสูงศักดิ์อย่างคุณหญิงพวงผกาไม่มีทางยอมรับอย่างแน่นอน
บทที่2.
น้ำอิงวางของในมือลงบนโต๊ะเตี้ยๆ หล่อนถลาเข้าไปประคองร่างอวบท้วมของคุณหญิงพวงผกา เรือนกายอวบท้วมโอนไปโอนมา ทำท่าเหมือนจะล้มลงไปกองบนพื้น
“พี่หวายๆ ตามหมอหน่อยค่ะ คุณหญิงท่านอาการไม่ใคร่ดี”
น้ำอิงตะโกนลั่น ส่งเสียงบอกต้นห้องของคุณหญิงสูงศักดิ์ เจ้าหล่อนจัดแจงต่อสายหานายแพทย์ประจำตัวท่านอย่างว่องไว
ประมุขใหญ่แห่งจันธกาจถูกประคองไปนอนเอนๆ ที่โซฟาตัวใหญ่กลางห้องรับรอง
“จะโวยวายทำไมแม่อิง ฉันแค่หน้ามืดเอง”
เสียงบ่นพึมพำ แม้ดวงตาจะปิดสนิท
“ช่วงนี้คุณหญิงมีอาการแบบนี้บ่อยๆ อิงว่าให้คุณหมอมาตรวจสักครั้งก็น่าจะดีนะคะ”
หญิงสาวแย้งเสียงสำรวม ควานหาถ้ำยาดมที่วางไว้ไม่ไกลมาอังที่ปลายจมูกนายสาว
“ฉันไม่ได้สาวๆ เหมือนเมื่อก่อนนี้ ลุกนั่งแต่ละทีก็ต้องมีอาการกันบ้าง”
มันเป็นไปตามกลไกโลก อายุที่เพิ่มขึ้นตามกาลเวลานำพามาซึ่งอาการป่วยไข้
“แต่มันบ่อยเกินไปค่ะ”
เท่าที่นับได้ น้ำอิงคิดว่ามันผิดปกติเกินกว่าจะเป็นแค่โรคคนแก่ทั่วๆ ไป
“ตามใจ...ว่าแต่ตาภีจะกลับถึงไทยวันไหนล่ะ?”
คุณหญิงถามถึงกำหนดกลับของบุตรชายสุดรัก น้ำอิงชะงัก หากเป็นเวลาปกติ คุณหญิงพวงผกาอาจจับพิรุธของน้ำอิงได้ ดีทว่าท่านกำลังอยู่ในช่วงไม่ใคร่สบาย
“อิงไม่ทราบค่ะ”
หลังรวบรวมคำพูด หญิงสาวจึงตอบด้วยเสียงแผ่วๆ
คุณหญิงพวงผกาปรือตามองคนข้างตัว นางเห็นแค่ใบหน้าที่ก้มต่ำของน้ำอิงเท่านั้น
ประมุขบ้านจันธกาจถอนใจแรงๆ เกือบ4ปี ที่ส่งบุตรชายไปเรียนต่อ หากไม่เดินทางไปเอง ท่านคงไม่ได้เห็นหน้าบุตรชาย เขาอ้างเรื่องการเรียนทำให้เดินทางกลับบ้านนานๆ ครั้ง...ท่านไม่อยากทักท้วง เมื่อภีรพลคร้านที่จะกลับบ้าน ท่านเองเลยเป็นฝ่ายเดินทางไปหาเขาเอง...
นานวันเข้าเลยกลายเป็นความเคยชิน จากที่เคยกลับปีละครั้ง กลายเป็นว่า3ปีมานี่ บุตรชายของท่านไม่เคยกลับมาเหยียบแผ่นดินเกิดเลย เขาสนุกกับวัฒนธรรมในโลกใหม่ ถึงจะอ้างเรื่องเรียนหนัก มันก็ไม่ใช่เหตุผลทั้งหมด...
เท่าที่รู้...บุตรชายของท่านกำลังติดพันสาวสวยคนหนึ่ง พร่างฟ้า อันตราสิริ บุตรสาวคนเดียวของเจ้าของกิจการส่งออกอาหารทะเลแถบภาคตะวันออก
คุณหญิงเห็นด้วยกับความสัมพันธ์นั่น เลยไม่เคยบ่นเรื่องที่ภีรพลไม่คิดจะกลับมาหาท่าน เพราะเขากำลังพยายามอย่างหนักเพื่อจะจีบสาวให้ติด...
“ลูกคนนี้ ห่วงแต่สาว ไม่เคยห่วงแม่เลย”
เสียงบ่นพึมพำตามมา แต่ไม่ได้จริงจังอะไร เมื่อน้ำเสียงที่ใช้แฝงความเอ็นดู
น้ำอิงสะท้อนในอก ความหวังที่มีริบหรี่ลงทุกๆ วัน คำสัญญาปากเปล่านั้น กำลังจะกลายเป็นแค่เพียงลมที่เคยลอดผ่านปากมา หาใช่คำสัญญาหนักแน่นเหมือนที่เขาเคยรับปากไว้ เธอรู้อยู่เต็มอก แต่พยายามไม่สนใจความจริง มันเป็นความฝันแสนหวาน ที่ผู้หญิงต่ำต้อยคนหนึ่งปรารถนาที่จะให้มันเกิดขึ้นจริง แม้จะมีเปอร์เซ็นต์เป็นไปได้แค่1เปอร์เซ็นต์ก็ตาม...
“คุณหมอมาแล้วค่ะคุณหญิง”
หวายเดินยอบกายเข้ามาพร้อมกับนายแพทย์สูงวัยหน้าตาเอื้ออารี
“ฉันไม่ได้เป็นอะไรหรอกคุณสุขุม” ท่านกล่าวเบาๆ กับนายแพทย์ประจำตัว
“ตรวจหน่อยก็ดีครับท่าน”
เครื่องมือบางอย่างถูกนำออกมาจากกล่องสี่เหลี่ยมมีหูหิ้ว แพทย์ประจำตัวทำงานเงียบๆ ตรวจการหายใจ ตรวจเลือดเพื่อเช็กน้ำตาล ก่อนจะยิ้มอ่อนๆ มุมปาก “ไม่มีอะไรต้องกังวลครับท่าน ท่านแค่อ่อนเพลีย ควรพักผ่อนมากกว่านี้หน่อย”
“ฉันบอกแล้ว แม่พวกนี้ฟังที่ไหน” คุณหญิงพวงผกาบ่นเสียงอ่อน
“หนูอิงหวังดีน่ะครับ...อย่าโหมงานหนักนักสิครับ ท่านไม่ได้สาวเหมือนเมื่อก่อนแล้วนะครับ” สุขุมติง คุณหญิงกรำงานมากเกินไป ความจริงอายุขนาดท่าน สมควรพักผ่อนแล้วปล่อยให้ลูกหลานทำงานแทน
“ฉันก็อยากพัก...แต่” คุณหญิงพูดไม่ทันจบประโยค ท่านก็พ่นลมหายใจออกมาแรงๆ เป็นการตัดบทคำพูด แต่ทุกคนในที่นี้รู้ดีว่าเพราะอะไร
จันธกาจมีท่านเป็นหัวเรือใหญ่ ทายาทก็มีแค่คนเดียวซึ่งกำลังศึกษาต่อที่ต่างประเทศ ไม่มีใครรู้ดีเท่าตัวคุณหญิง เมื่อบุตรชายสุดรัก ไม่สนใจเรื่องการผ่อนแรงของท่าน เท่ากับการตามตื๊อสาวสวยคนหนึ่ง ความจริงภีรพลเรียนจบมาปีกว่าๆ แต่เขาเลื่อนการเดินทางกลับ เพราะสาวเจ้าที่เขาติดพันยังเรียนไม่จบ คุณหญิงพวงผกาเฝ้ารอให้บุตรชายกลับมาสานต่อ ท่านจะได้ถอนตัวออกมาพักผ่อน แต่...ยังทำไม่ได้อย่างที่ใจคิด เมื่อบุตรชายยังรั้งรอสาวคนรักนั่นเอง...
น้ำอิงนั่งพัก หลังปล่อยให้คุณหญิงพวงผกานอนพักตา เธอคว้าหนังสือเล่มโปรดมาเปิดอ่านต่อ หลังจากถูกขัดจังหวะด้วยการเรียกใช้ของคุณหญิงพวงผกา จนหาเวลาว่างอ่านหนังสือเล่มโปรดที่เพิ่งได้มาไม่จบสักที
หญิงสาวสะดุ้งสุดตัว!!