ตอนที่ 5 เหตุการณ์ในอดีต 1.3

1438 Words
“ข้าต้องการจะพูดอะไรบางอย่างกับพี่ใหญ่อีกเป็นครั้งสุดท้าย”นางบอกในสิ่งที่ต้องการและคิดว่าอีกฝ่ายจะมีคำตอบที่นางคาดการณ์เอาไว้มาผิดอย่างแน่นอน มู่หรงฉีหรี่ตามองร่างเล็กบอบบางของสตรีสาววัยเพียงสิบหกปี ซึ่งเป็นน้องสาวของอดีตสหายรักและเป็นห่วงนางมากอย่างที่สุด ด้วยเพราะตระกูลตงฟางเหลือทายาทผู้สืบทอดอยู่เพียงสองพี่น้องนี้เท่านั้น และอีกไม่ช้าก็จะต้องสูญสิ้นตระกูลไปจนหมดทันทีที่ตงฟางลี่หยางจบชีวิตและวันใดที่นางหมดประโยชน์ก็จะต้องถูกจบชีวิตตามพี่ชายไปด้วยเช่นกัน ทว่าในเวลานี้องค์ชายจากเฉิงฮั่นไม่อาจวางใจได้หากอนุญาตให้นางได้พูดอะไรกับตงฟางลี่หยาง เพราะเท่ากับว่าได้เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายมีช่องทางหลบหนีไปได้ ถ้าหากปล่อยนางได้พบปะเป็นครั้งสุดท้าย “ข้าไม่อนุญาต! อยากจะพูดอะไรกับพี่ชายของเจ้าก็พูดสั่งเสียกันบนกำแพงเมืองไม่ต้องลงไป อย่านึกว่าข้าไม่ล่วงรู้นะเหมยฮัวว่าคิดจะทำอะไรหากแม้นมีโอกาสเข้าถึงตัวพี่ชายเจ้า”มู่หรงฉีพูดพลางเหลือบมองไปที่ทหารหลวงที่ยืนคุมตัวตงฟางเหมยฮัวอยู่ในเวลานั้นพร้อมเอ่ยขึ้น “ปล่อยนางไปที่ป้อมกำแพงเมืองให้ได้พูดสั่งเสียเป็นครั้งสุดท้าย”องค์ชายจากเฉิงฮั่นมีคำสั่งออกไป “พ่ะย่ะค่ะ!”ทหารหลวงต่างรับคำอย่างรวดเร็วพร้อมปลดโซ่ออกจากข้อเท้าเพื่อให้สตรีร่างเล็กเดินไปที่ป้อมกำแพงเมืองตรงหน้าเหลือเพียงเชือกที่มัดมือไพล่เอาไว้ทางด้านหลังเท่านั้น หึหึหึหึหึ!!! เสียงหัวเราะดังขึ้นอยู่ในลำคอบางเบา พร้อมรอยแสยะยิ้มเหยียดพลันปรากฏขึ้นที่มุมปากตงฟางเหมยฮัวเมื่อสิ่งที่นางคาดการณ์เอาไว้ไม่ผิดไปจากที่คิดเอาไว้ ร่างเล็กบอบบางก้าวเดินผ่านหน้ามู่หรงฉี โดยยอมไม่หันกลับมามองแม้แต่น้อย ดวงตายังคงเฝ้าจับจ้องอยู่แต่บริเวณแนวกำแพงตรงหน้าซึ่งจะเป็นหนทางนำนางไปพบหน้าพี่ชายครั้งสุดท้าย “รีบสั่งเสียเร็วๆ หน่อยนะเพราะหลังจากนี้ร่างของพี่ชายเจ้าก็จะถูกจับแยกออกจากกันอย่างไม่มีชิ้นดี!”องค์ชายจากแคว้นเฉิงฮั่นพูดกำชับไล่หลังตามมาติดๆ จากที่ไม่ต้องการเสียสายตาแม้แต่จะเหลือบมองใบหน้าของอดีตชายที่นางเคยหลงรัก กลับทำให้ตงฟางเหมยฮัวพลันหันกลับมามองมู่หรงฉีด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้นเป็นอย่างยิ่ง “ขอบใจ!”ตงฟางเหมยฮัวกระแทกเสียงใส่เย็นยะเยียบท่ามกลางสียงหัวเราะขบขันของอีกฝ่ายเมื่อได้ยินเช่นนั้น “ขึ้นชื่อว่าสตรีล้วนโง่งมทั้งสิ้น!”องค์ชายเฉิงฮั่นพูดไล่หลังขึ้นมาลอยๆ ในขณะที่ร่างเล็กบอบบางของตงฟางเหมยฮัวก้าวเดินมาหยุดยืนอยู่ตรงป้อมกำแพงเมืองพร้อมขึ้นไปเหยียบบนแผ่นหินที่ยกสูงขึ้นจากพื้นขึ้นมาอีก ซึ่งจุดดังกล่าวสามารถเข้าไปใกล้พี่ชายของนางมากยิ่งขึ้นไปอีก และแน่นอนว่านางไม่หยุดอยู่เพียงแค่นั้น ท่ามกลางสายตาของตงฟางลี่หยางกำลังแหงนหน้ามองน้องสาวของเขาอยู่ในขณะนั้น “เจ้านั้นแหละที่หน้าโง่มู่หรงฉี!!!”สิ้นเสียงพึมพำ ตงฟางเหมยฮัวตัดสินใจทำในสิ่งที่ไม่มีผู้ใดคาดคิดมาก่อนเลยว่านางจะกล้าทำเช่นนั้นกับตัวเอง ทันทีที่เหยียบขึ้นไปบนแผ่นหินที่ยกสูงขึ้นมาได้ นางกระโดดลงจากกำแพงเมืองเพื่อต้องการมาหาพี่ชาย และจบชีวิตตัวเองไม่ให้องค์ชายจากเฉิงฮั่นใช้นางเพื่อทำประโยชน์ เพราะถึงอย่างไรก็ดีนางก็จะต้องพบกับจุดจบไม่ต่างกันอยู่แล้ว ฟิ้ววววว!!!! ร่างของตงฟางเหมยฮัวร่วงหล่นตกจากกำแพงเมืองลงไปพื้นดินเบื้องล่างต่อหน้าต่อตามู่หรงฉีอย่างไม่คาดคิด ท่ามกลางเสียงร้องตะโกนก้องของผู้เป็นพี่ชาย “ฮัวเอ๋อ!!!!”เสียงร้องเรียกน้องสาวดังก้องจนสุดเสียง เปรี้ยะ!!! ตงฟางลี่หยางรวบรวมกำลังภายในที่เหลือเพียงอยู่น้อยนิดทำลายโซ่ที่ตรึงแขนทั้งสองข้างและลำคอของเขาให้ขาดออกจากกันทันที แกร๊ง!!! โซ่ทั้งสามเส้นดังกล่าวถูกทำลายจนกระเด็นหลุดออกจากร่างของแม่ทัพเทียนหยวนอย่างรวดเร็วจนเป็นอิสระ ลี่หยางรีบวิ่งไปรับร่างของน้องสาวที่ร่วงหล่นตกจากกำแพงเมืองลงมาอย่างรวดเร็ว ในขณะเดียวกันแม่ทัพหนุ่มแทบไม่เหลือสิ้นพลังวรยุทธ์หลงเหลือจึงไม่สามารถใช้วิชาตัวเบากระโดดไปรับร่างของน้องสาวเอาไว้ได้ ตงฟางลี่หยางสับขาก้าวยาวๆ วิ่งตรงไปยังกำแพงเมืองอย่างไม่คิดชีวิตเพื่อช่วยน้องสาว ทว่าก็สายเกินไปเสียแล้วเมื่อร่างของเหมยฮัวลอยละลิ่วร่วงหล่นกระแทกตกลงกับพื้นต่อหน้าต่อตา ตุบ!!!! ร่างเล็กๆ ที่บอบบางเป็นทุนเดิมอยู่แล้วครั้นเมื่อตกจากกำแพงเมืองซึ่งอยู่บนที่สูงจึงมีแรงส่งมหาศาล ทำให้ร่างดังกล่าวกระแทกลงกับพื้นอย่างแรง กะโหลกศีรษะแตกเลือดไหลนองออกมาอย่างไม่ขาดสาย “ฮัวเอ๋อ!!!!”ตงฟางลี่หยางร้องเรียกน้องสาวจนสุดเสียง แม่ทัพหนุ่มกระโดดคว้าร่างของน้องสาวยกขึ้นมากอดเอาไว้แนบอกของเขาอย่างรวดเร็ว ในขณะร่างที่อยู่ในอ้อมกอดยังมีลมหายใจรวยรินหลงเหลืออยู่และกำลังตั้งใจบอกอะไรบางอย่างกับพี่ชายของนาง “ขะ..ข้า..ขอโทษพี่ใหญ่”เสียงขอโทษแผ่วเบาท่ามกลางลมหายใจรวยริน “เจ้าทำเช่นนี้ทำไมฮัวเอ๋อ!!!!”เสียงพี่ชายตัดพ้อด้วยความเสียใจเป็นที่สุด “ขะ..ข้าจำเป็นต้องทำพี่ใหญ่ จะไม่มีผู้ใดใช้ข้าเพื่อทำร้ายท่านได้อีก ไม่ตายตอนนี้เมื่อข้าหมดประโยชน์คนชั่วผู้นั้นก็ต้องสังหารข้าอยู่ดี ..ฟะ..ฟังข้า..พะ..พี่ใหญ่..ขะ..ข้ามีบางอย่างจะ..จะบอก”กล่าวพร้อมตรงเข้ารั้งลำคอให้พี่ชายก้มลงฟังนางบอกสิ่งที่เป็นความลับสุดยอด “เก็บแผ่นหยกนี้เอาไว้”เสียงกระซิบแผ่วแทบจะไม่ได้ยินพร้อมดึงเชือกที่คล้องคอนางเอาไว้ตลอดเวลา ซึ่งเป็นป้ายหยกสีขาวยัดใส่เข้าไปในอกเสื้อของผู้เป็นพี่ชาย “ตะ..ตามหาคนที่มีหยกบุบผาอีกครึ่งหะ..ให้พบ...หยกบุบผาเป็นอัญมณีจากสวรรค์และที่สำคัญมีความลับของสวรรค์ซุกซ่อนอยู่..คะ...คน...ผะ..ผู้...นั้น..มะ...มาจาก..ตระ..กูล..หลิง”กล่าวพร้อมสูดลมหายใจเข้าปอดเพื่อพยายามบอกข้อความสำคัญสุดท้ายให้กับพี่ชายของนาง “ปะ..ปิ่นที่อยู่บนผมของข้าบะ...บนยอดปิ่นมะ...มีไข่มุกและมันคือมุกและยาวิเศษ.....ระ..รีบกินขะ..เข้าไป...ยะ...ยา..จะ..ทะ..ทำให้..พะ..พี่ใหญ่...ระ...รอด..จาก...ทะ...ที่นี่!!!” “ไม่ต้องพูดอะไรอีกแล้วฮัวเอ๋อ พี่จะพาเจ้าออกไปจากเมืองนี้ให้จงได้ ถึงอย่างไรเสียพี่จะต้องพาเจ้ากลับคืนสู่แผ่นดินเทียนหยวนให้ได้ จะไม่ยอมให้เจ้าตายจากไปเช่นนี้เป็นอันขาด”ตงฟางลี่หยางบอกน้องสาว ใบหน้าเรียวเล็กส่ายไปมาติดต่อกันครั้นได้ยินเช่นนั้น “มะ..ไม่มีประ..โยชน์...ขะ...ข้า..ไม่รอดหรอก...ทะ..ทิ้งข้าไว้ที่นี่พะ..พี่...ยะ..ใหญ่...อย่าให้..ข้า...เป็นตัวถ่วง...หาไม่แล้ว...ทะ...ท่านจะ...ไม่รอด...จากคนโฉด..ชะ...ชั่วผู้นั้นได้...ยะ...อย่า..ลืมที่ข้าสั่ง...รีบกิน..ยะ....ยา”ตงฟางเหมยฮัวพูดเสียงขาดห้วงพลันเงียบงันลงไปทันที ท่ามกลางดวงตาที่เหลือเพียงข้างเดียวของคนเป็นพี่ชายเบิกกว้างด้วยความตกใจเป็นที่สุด เมื่อมือน้อยของนางร่วงหล่นตกลงข้างกายไร้สิ้นการตอบสนองอย่างสิ้นเชิง “ฮัวเอ๋อ! ฮัวเอ๋อ! ฮัวเอ๋อ!!!!”เสียงร้องเรียกชื่อของน้องสาวแผดเสียงกึกก้องดังไปทั่วบริเวณหน้าประตูเมือง “ไม่!!!!” เสียงตะโกนก้องด้วยไม่อาจยอมรับในการจากไปของน้องสาวเพียงคนเดียวนั้นได้ เสียงดังกล่าวบ่งบอกให้ล่วงรู้ว่าเต็มไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจอย่างแสนสาหัสและเต็มไปด้วยแรงแค้นอย่างยิ่งยวด
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD